ตามหัวข้อกระทู้เลย
-  ผรม.คนหนึ่ง รับงานก่อสร้าง
จากลูกค้าคนหนึ่ง  นามสกุลค่อนข้างมีชื่อเสียง
ก่อนทำงานต้องมีการดูพื้นที่ รับความต้องการของลูกค้า
จากนั้นเสนอราคา ซึ่งใช้เวลาในการเสนอราคา มากกว่า  3 ครั้ง
เนื่องจากลูกค้าคนนี้อ้างว่าเงินไม่ทัน ให้ตัดบางรายการออกก่อน
-  สุดท้าย ได้ราคาที่เค้าพอใจ และให้ทาง ผรม.ทำรายละเอียดว่าใช้วัสดุอะไรบ้าง ขนาดเท่าไหร่ ส่งรายการผ่านไลน์ให้ จนเค้าพอใจ
*จึงนัดทำสัญญา  รับเงินมัดจำ

-  เริ่มบุกเบิกทำงาน จากที่ยากมาก เพราะทุกอย่างไม่เอื้ออำนวยต่อการทำงาน
ทั้งไฟฟ้า ประปา
-  ใช้คนงานของ ผรม.ทำงานที่นอกเหนือจากงานบ่อยมากแต่ไม่เคยช่วย จ่ายค่าแรง/ค่ารถ
-  งานใกล้จะจบ ตามสัญญา เค้าหาเรื่องจ่ายเงินน้อยลงจากงวดงานเบิก 2 แสน จ่าย 50,000 อีกอาทิตย์จ่าย 30,000 จนทบไปเรื่อยๆ
พอขอเบิกเพิ่มก็ไม่พอใจ หาว่า ฝั่ง ผรม.เบิกเงินถี่เกินไป  (แน่นอนสิเมื่อคุณจ่ายไม่ครบ ก็ต้องเบิกอีกให้ครบ ผิดตรงไหน)
-  บอกให้ ผรม.ชะลองาน เพราะเงินเค้าไม่ทัน แต่ ผรม.ไม่ชะลอ เพราะถ้าช้า มันหมายถึง ค่าแรงที่เพิ่มขึ้น เพราะช่างต้องกินต้องใช้ทุกวัน
-  ถึงวันส่งงานที่ทำตามรายการในสัญญา  เค้าขอเลื่อนจ่าย และขอแบ่งจ่ายทีละยอด แต่สุดท้ายพอถึงเวลาจ่ายตามนัด กลับหาเรื่อง ผรม.โดยหาว่าคิดราคางานแพง (ทั้งที่ก่อนทำงานคุยกันและเสนอราคาก่อนทำสัญญา  ตอนนั้นทำไมไม่ท้วง)
-  ไม่ยอมจ่าย  หาว่าให้ช่างคนอื่นมาตีราคา ใครๆ ก็บอกว่า ของ ผรม.คนนี้ราคาแพง
"กุไม่จ่าย ถ้าอยากได้ก็ไปฟ้องเอาเอง"

#นี่คือเรื่องราวจากฝ่าย ผรม. ฝ่ายเดียว
แต่ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง คุณเป็น ผรม.  คุณจะทำยังไง
ระหว่าง
ข้อ 1 ฟ้องเลย
ข้อ 2 ช่างเหอะให้เวรกรรมตามมันทัน
หรือข้อ 3 ........
ปล. เท่าที่ทราบ ผรม.เจ้านี้ กู้เงินมาสำรองจ่ายค่าวัสดุและค่าแรงลูกน้อง  พอไม่ได้เงินงวดสุดท้าย
ก็ต้องเดือดร้อน แต่ฝ่ายคนจ้าง กลับสบายใจ แถมยังเอาช่างชุดอื่นเข้าไปทำงานที่นั่นได้หน้าตาเฉย...