คิดอย่างไรกับฝรั่ง backpacker ที่มานั่งขอทานเเละมานั่งแบกะดินขายของในไทยมากขึ้นๆครับ?

เมื่อเดินไปเเถวถนนข้าวสารคุณจะเห็นคนนั่งขอทานอยู่ตามริมถนน เเต่คนเหล่านั้นกลับไม่ใช่คนไทยที่กำลังตกระกำหาเศษเงินเพื่อไปประทั่งชีพ-หาเลี้ยงครอบครัว เเต่มันกลับกลายเป็นว่าคนกลุ่มดังกล่าวนั้นคือ“Gap yah backpackers”ชนชาวผิวขาวจากกลุ่มประเทศตะวันที่สูญเงินไปกับการดื่มแบบไม่ยั้งตามโฮสเทลต่างๆซะเอง

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกแบบ “begpackers” เพิ่มมากขึ้นๆ โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะทำการท่องเที่ยวไปในกลุ่มประเทศที่ยากจนติดอันดับต้นๆของโลก (the poorest countries in the world) และพยายามหาค่าใช้จ่ายระหว่างการท่องเที่ยวด้วยเงินของคนในพื้นที่ผ่านวิธีการต่างๆ เช่น การขอทานมันดื้อๆ, การเล่นคนตรีเปิดหมวก (busking) หรือ จากการขายของกระจุกจิกต่างๆ เช่น รูปที่พวกเขาถ่ายและเคยโพสต์ลงโซเชียลมีเดียต่างๆในคคราบไคลของนักท่องเที่ยวที่มีความ”ตระหนัก” ที่ดีต่อสังคม กับ คนท้องถิ่นที่น่ารังเกียจ (ไร้ซึ่งตระหนักที่ดีต่อสังคม)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้




เหล่านักท่องเที่ยวในรูปแบบขอทานที่พร้อมจะนอนกลางดินกินกลางทรายนี้พบเห็นได้มากตามประเทศไทย-กัมพูชา-ลาว เรื่อยไปจนถึงประเทศมาเลเซีย   “Ms. Maisarah Abu Samah” ประจักษ์พยานสาวนักท่องเที่ยวชาวสิงค์โปร์รายนึงที่ได้มาเที่ยวประเทศไทยถึงกับช็อคเมื่อได้มาเห็นผัว-เมียฝรั่ง 2 คู่มานั่งขายโปสการ์ดเเละเล่นดนตรีเปิดหมวกเพื่อเเลกกับเงิน และได้กล่าวว่า

“มันช่างแปลกประหลาดแบบสุดๆที่ได้มาเห็นคนที่มานั่งขอ(ทาน)เงินจากชาวบ้านเพื่อนำไปเป้นค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว”

และกล่าวต่อว่า

“การมานั่งขายของหรือการมานั่งขอทานเรี่ยไรเงินนั่นเป็นสิ่งที่ไม่น่าเคารพนับถือเอาเสียเลย คนที่มาขอทานน่าจะเป็นคนที่กำลังตกยากจริงๆเเละนำเงินที่ได้เพื่อไปซื้อาหารประทังชีวิตหรือจ่ายค่าเรียนให้ลูกมากกว่าจะนำเงินที่ได้จากการขอทานไปใช้จ่ายในทางหรูหรา (ใช้ชีวิตกิน-เที่ยว-จ่ายค่าที่พักรหว่างการท่องเที่ยวต่างประเทศ/รอบโลก)”




สำหรับกรณีการเลือกที่พักแบบโฮสเทลราคาถูกด้วยงบ £5 (216 บาท) ต่อคืน สำหรับการท่องเที่ยวรอบโลกนั้นมันเป็นความหรูหราในแบบที่คนนับล้านไม่เคยจะได้รับ และมันไม่ใช่สิ่งที่พระเจ้าจะพึงประทานให้
   
จริงอยูที่พวก backpackers เหล่านั้นจะชักแม่น้ำทั้ง 5 มาหักล้างสิ่งที่พวกเขาทำด้วยเหตุผลต่างๆนาๆ เช่น
“เงินที่ได้มามันไม่ใช่การบังคับนะมันเป็นการเต็มใจให้ต่างหาก พวกเขาขอทานเงินมาเพื่อจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินจริงๆนะ”
หรือ  “เงินนั้นได้มาการเล่นดนตรีเปิดหมวกแลกมาต่างหาก มันไม่ใช่การขอทานเเน่นอน”  
แต่ลึกๆในความเป็นจริงแล้วตัวพวกเขาเองนั้นรู้ดีที่สุดว่ากำลังทำสิ่งที่ผิดอยู่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่