EP 8.1: Trip to Nagasaki (Nagasaki)


สวัสดีอีกครั้งครับ ครั้งนี้ผมขอนำเสนอหนึ่งในเมืองที่ผมชอบมากที่สุดในญี่ปุ่น และทำให้ผมอยากไปอีกคือเมืองNagasaki ครับ เมืองนี้ทั้งสวยและวิธีการไปก็ไม่ยุ่งยากด้วย อาหารการกินก็ดีมีหลากหลายมากครับ จะไปเที่ยวสวนดอกไม้ใกล้ชายฝั่งพร้อมกับบรรยากาศแบบยุโรปผสมผสาน ไปหาระเบิดปรมาณูลูกที่2 หรือจะไปเกาะผีสิงก็ไปเที่ยวได้ที่เมืองนี้เลยครับ


ก่อนอื่นขอเริ่มที่เรื่องการเดินทางกันก่อนเลย เมืองนี้ท่านสามารถไปได้ทั้ง JR และรถเมล์ประจำทาง ซึ่งทั้งคู่ใช้เวลาเฉลี่ยจากFukuoka 2ชม.ครับ
ของ JR Kyushu เราจะนั่งรถด่วนชื่อว่า Kamome ที่มีปลายทางเป็นสถานที่ที่เราจะพูดถึงกันครับ และเป็นรถไฟขบวนเดียวที่สะดวกที่สุดในการไปศาลเจ้า Yutoku ที่ซีรีส์ไทยเราเคยถ่ายทำเรื่อง ซางะ อีกด้วยครับ

สามารถใช้JR Kyushu Pass ได้เลยนะ ถ้านั่งตู้ที่ 4 ถึง 6 หรือ 7 เป็นบางขบวน

ส่วนรถเมล์ ผมแนะนำให้ซื้อ SunQ Bus Pass บัตรนี้บัตรเดียวสมารถใช้รถเมล์ได้เกือบทุกสายในคิวชูเช่นกันครับ (ขึ้นอยู่กับเขตที่ท่านซื้อนะ)

สำหรับเรื่องการเดินทางในเมืองNagasaki ผมแนะนำรถรางครับ รงรางมีหลายสายและจะวิ่งครอบคลุมเกือบทั้งเมือง รถรางมีกติกาอยู่ว่า ไม่ว่าท่านจะนั่งไกลเท่าไหร่ก็ยังจ่ายราคาเดิมประมาณ 200 เยนต่อเที่ยวครับ อีกข้อนึงก็คือ ถ้าท่านจะเปลี่ยนรถรางไปสายอื่นเช่นเปลี่ยนจากไชน่าทาวน์ไปสถานีNagasaki ท่านสามารถบอกคนขับได้ว่าจะเปลี่ยนรถไปสถานี  เค้าจะให้กระดาษสลิฟสีเหลืองและสามารถนั่งต่อได้โดยไม่เสียตั้งเพิ่มครับ ท่านจ่ายเฉพาะสถานีที่ท่านเปลี่ยนรถก็พอ ประหยัดตัง ประหยัดเหรียญไปได้อีกทาง 5555

ส่วนอันนี้แผนที่รถรางครับ http://visit-nagasaki.com/GettingAround/pdf/pamphlet3.pdf

เอาละเรามาถึงกันแล้วครับ ได้บรรยากาศทะเลตอนใต้ + กลิ่นขนมCastella กับ บะหมี่Chanpon แต่ไกลเลย 5555 ส่วนตัวคิดว่าเมืองนี้ดูไม่เป็นญี่ปุ่นเลย ตึกแบบฮอลแลนด์กับโปรตุเกสและจีนเยอะมากครับ จะให้ดูเป็นญี่ปุ่นก็ต้องDejima ไม่ก็ออกไปนอกเมืองหน่อย หืมก็ดูดีเหมือนกันนะว่ามั้ย เหมือนได้เที่ยวยุโรปไปในตัวเลย 5555เยี่ยม


ที่แรกที่ผมแนะนำให้ไปก่อนเลยเมื่อมาถึงคือ Dejima เกาะโบราณและสำคัญมากในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นกับชาติตะวันตกครับ เกาะนี้มีตั้งแต่สมัยเอโดะ ใช้ทำการค้าขายและให้ที่พักกับชาวตะวันตกอย่าง เนเธอร์แลนด์และโปรตุเกสครับ แต่ในสมัยเอโดะมีการปิดประเทศและแบนของต่างชาติเข้ามาในญี่ปุ่น เกาะ Dejima กลายเป็นเพียงสถานที่เดียวที่ใช้ในการค้ากับชาวตะวันตกในสมัยนั้นครับ

ตอนนี้เป็นแค่พิพิธภัณฑ์ไปแล้ว แต่ก็ยังมีชาวต่างชาติเป็นไกด์ให้เราสร้างบรรยากาศไปด้วยยิ้ม


วิธีการไปก็ไม่ยุ่งยากครับ หลังจากที่ท่านออกจากสถานีNagasaki แล้ว ให้ขึ้นรถรางไปลงDejima ได้เลยครับ ตัวDejimaจะอยู่ซ้ายมือของสถานีครับ


ที่ต่อไปผมแนะนำให้ไปช่วงเช้าครับ ที่นั้นคือสวนดอกไม้Glover Garden และบ้านสไตล์ตะวันตกที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นตั้งอยู่นอกเขตของระเบิดFatman ในอดีตครับ สวนนี้มีบ้านแบบยุโรปสวยมาก แถมดอกไม้ซึ่งเค้าจะเปลี่ยนในทุกเดือนทุกฤดู ช่วงที่ผมไปเป็นเดือนพฤกษาคม ก็จะมีดอก Hydrangea เป็นไฮไลท์ครับ  สวยมากจริงๆ อยากไปเดินเที่ยวอีกจังประหลาดใจประหลาดใจประหลาดใจดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้


ถ้าเดินขึ้นเนินไปสวนน้ำตก จะมีบ้านอีก 3หลัง ซึ่งบ้านหลังที่ใหญ่ที่สุดท่านสามารถใช้ชมวิวเมืองได้

และมีบ้านอีกหลังที่สามารถเปลี่ยนเสื้อไปถ่ายรูปให้กลืนกับบรรยากาศของสวนได้อีกด้วยครับ

ส่วนค่าเข้าแพงสักนึด ประมาณ600 เยน ต่อท่าน และมีราคาที่ต่อกว่าสำหรับเด็ก และไปเป็นคณะใหญ่หรือทัวร์ครับ
แผนที่ในสวน http://www.glover-garden.jp/gardenmap

วิธีการไป: จากสถานีNagasaki นั่งรถรางลงสถานีไชน่าทาวน์ แล้วเปลี่ยนรถอีกสายที่มุ่งหน้าไปสวนGlover ครับ

ระหว่างทางก็จะเจอโบสถ์ของศาสนาคริสต์ Ouraอีกด้วย ดูแล้วเข้ากับบรรยากาศเมืองที่เป็นเมืองท่าสไตล์ยุโรปครับ

และแน่นอนว่าแถวนั้นมีของฝากดีๆเพียบครับ ของที่ผมแนะนำแบบสุดๆเลยมี 2อย่างครับ
1.    เค้กไข่แบบNagasaki หรือ Castella (Kasutera): เค้กญี่ปุ่นที่ได้รับอิทธิพลจากพ่อค้าชาวโปรตุเกสในยุคสมัยMomoyama จนถึงสมัย Meiji เป็นเค้กที่มีความหวานและชุ่มช่ำมากครับ (ส่วนตัวว่าหวานไปหน่อยนะ) เจ้าที่ผมแนะนำให้ซื้อชื่อ Fukusaya ครับ เป็นเจ้าที่เป็นต้นตำรับที่สุดในเมืองแล้ว

2.    Vidro: แตรที่ทำจากแก้ว มีน้ำหนักเบาที่ได้รับอิทธิพลจากโปรตุเกสเช่นกัน เวลาเป่าจะใช้วิธีอัดอากาศแล้วปล่อย มีเสียงแหลมๆแบบเดียวครับ

ที่Nagasaki เองก็มีตำนานเรื่องเกาะผีสิงครับ ใครอยากไปยกมือ
เกาที่ว่านี้คือเกาะHashima หรือ Gunkanjima เหมืองถ่านหินเก่าของเมืองNagasaki ที่ตัดขาดจากโลกภายนอก เกาะนี้เป็นเกาะที่เปรียบเสมือนเมืองเมืองหนึ่งที่มีทุกอย่างครบวงจรเหมือนเมืองเมืองหนึ่งเช่น โรงเรียน โรงพยาบาล โรงหนัง โรงนวด ห้างสรรพสินค้า หอพักพนักงาน เป็นต้นครับ

แต่อีกด้านนึง เกาะนี้มีประวัติเสียเยอะอยู่ครับ เพราะในใต้ดินของเกาะเป็นเหมืองถ่านหินขนาดใหญ่ที่กักขังคนงานในอดีตและไม่สามารถออกไปจากเกาะถ้าไม่มีเรือ เปรียบเสมือนคุกกลางน้ำ อีกทั้งในฤดูมรสุมก็มีพายุพร้อมคลื่นสูงพักกระหน่ำเกาะอีกด้วย เสริมความโหดร้ายของเกาะได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเคยประวัติที่เคยมีผีเข้านักเเสดงที่เคยไปถ่ายทำที่นั่นอีกด้วยครับอมยิ้ม11

วิธีไปเกาะ อันนี้ยากอยู่ครับ เพราะถ้าไม่จองก่อนจะไม่ได้ไปครับ จองที่จอง ต้องเลือกวันที่ไป รอบเวลา และภาษาครับ (โดยปกติคนต่างชาติจะได้คนอธิบายเป็นภาษาอังกฤษอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงครับ)
ส่วนเว็บที่ใช้จองก็ตามนี้เลยครับ http://www.gunkanjima-cruise.jp/?lang=en


ถ้าหิวกันแล้ว งั้นไปต่อที่ไชน่าทาวน์กันดีกว่า ที่นี่มีอาหารจีนอร่อยๆรอเราอยู่เพียบเลยครับ ต่อให้มันแพงนิดนึงก็เหอะ

ร้านที่ผมชอบไปกินจำไม่ได้แล้ว จากนี้ถึงตอนนั้นก็ประมาณ 2ปีกว่าแล้วก็ขออภัยด้วยครับ แต่ผมยังจำได้ว่าถ้ามาNagasaki แล้ว ต้องไปทานบะหมี่สไตล์Nagasaki ที่มีชื่อว่า Champon ครับ เป็นบะหมี่แบบจีนที่ใส่ซุปกระดูกสีขาวขุ่น มีผัดผักกองเป็นภูเขา และเนื้อหมู ปลา หมึก และหอยผสมกัน เป็นอาหารจานนึงที่ผมชอบมากที่สุดในบรรดาอาหารญี่ปุ่นครับ อมยิ้ม05อมยิ้ม05อมยิ้ม05
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่