สวัสดีค๊า "พี่หยอดวัดยาง" มา(อีก)แล้ว คราวนี้ไม่ได้มาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวนะ
แต่ๆๆๆ อยากแนะนำ "ของสะสม" หรือ "ของที่ระลึก" จากประเทศญี่ปุ่นกันบ้างค่ะ

เวลาไปเที่ยวแต่ละที่ เรามักจะหาของที่ระลึกติดไม้ติดมือกลับมาเสมอๆ
หรือบางคนอาจจะเก็บไปเก็บมากลายเป็นของสะสม เช่น โปสการ์ด หรือ แม่เหล็กติดตู้เย็น

แต่สำหรับ "พี่หยอด" แล้วครั้งนี้ที่ได้ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น มีอย่างหนึ่งที่เป็นของที่ระลึกที่เป็นเอกลักษณ์ สามารถหาได้ตามศาลเจ้าและวัดต่างๆ นั่นคือ

"Goshuin" หรือ ตราประทับโกะชุอิน

มาทำความรู้จักกันนิดนึงดีกว่าว่า Goshuin คืออะไร...
Goshuin เป็นสัญลักษณ์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนญี่ปุ่นนับถือค่ะ มีมานานตั้งแต่สมัยโบราณ
เชื่อว่า Goahuin จะนำมาซึ่งสิ่งดีๆในชีวิต ลักษณะที่เห็นก็คือจะเป็นตัวอักษรเขียนด้วยหมึกสีดำและตราประทับสีแดง
ซึ่งเราสามารถไปรับตราประทับนี้ได้ที่วัดหรือศาลเจ้าทั่วประเทศญี่ปุ่น
และด้วยความสวยงามของตัวอักษรที่บรรจงเขียนด้วยภู่กัน และเอกลักษณ์ของตราประทับสีแดงที่ไม่เหมือนกันนี่เอง
ทำให้ Goshuin บางครั้งก็ถูกจัดเป็นงานศิลปะได้เช่นกัน...

การรับตราประทับ Goshuin นี้ก็เป็นเหมือนสิ่งที่บ่งบอกว่าเราได้มาเยือน มาสักการะศาลเจ้านั้นๆแล้ว
ซึ่งตอนนี้เท่าที่เห็นทุกๆศาลเจ้าที่ไปมานั้น Goshuin เป็นที่นิยมมากๆค่ะ
คนญี่ปุ่นนิยมเก็บสะสมกันอย่างแพร่หลาย จะเห็นทุกคนพกสมุดเล่มเล็กๆติดตัวไว้
โดยสิ่งที่เขียนอยู่ในนั้นก็จะประกอบด้วยหลายๆอย่างค่ะ เช่น ชื่อของพระประธานของวัด ชื่อวัด ตราประทับวัด วันที่มาสักการะ เป็นต้น  

การไปรับตราประทับ Goshuin ก็ไม่ยากค่ะ เพียงเราจะต้องมีสมุดสะสมตราประทับ Goshuincho ซะก่อน
ซึ่งสามารถหาซื้อได้ที่ศาลเจ้าได้เลยค่ะ แต่ละที่ก็จะมีลวดลายหน้าปกที่สวยงามแตกต่างกันไป บ้างก็ทำเป็นลายของวัด/ศาลเจ้านั้นๆ
หรือถ้าชอบลายน่ารักๆหน่อยก็หาซื้อได้ตามร้านขายเครืองเขียนก็มีขายเช่นกันนะคะ
สมุด Goshuincho จะไม่เหมือนสมุดทั่วไปค่ะ เพราะแต่ละหน้านั้นจะติดกันยาวๆไปเลย เวลาเปิดก็จะต่อเนื่องกันเป็นชิ้นเดียว เกร๋ไปอีก !!
ราคาสมุด Goshuincho ก็อยู่ที่ราวๆ 1,500-2,000 JPY แล้วแต่ลวดลาย โดยส่วนมากจะมีขนาดเท่าๆกันครึ่ง A4 ได้ค่ะ

พอเราเข้าไปที่วัด/ศาลเจ้า ลองหาจุดที่ขายของที่ระลึก เครื่องลางของวัดดูค่ะ
ส่วนมากเราจะสามารถไปขอตราประทับ Goshuin ได้ที่บริเวณใกล้ๆกัน
อาจจะต้องเดินหานิดนึงแต่ไม่ยากแน่นอน เพราะจะเห็นคนยืนต่อคิว
โดยในการรับตราประทับ Goshuin เราจะต้องบริจาคเงินประมาณ 300-500 JPY ด้วยค่ะ
หากบางที่คิวยาว เจ้าหน้าที่จะให้บัตรคิวมาให้มารับสมุดกลับอีกที ซึ่งก็ไม่ได้ใช้เวลามากมายอะไรค่ะ 5-10 นาทีก็เสร็จแล้ว

ข้อแนะนำสำหรับคนที่อยากสะสมตราประทับ Goshuin คือ ด้วยความที่ Goshuin คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เพราะฉะนั้นเราจึงไม่ควรเอากระดาษหรือสมุดโน็ตธรรมดามาลงตราประทับ ควรใช้สมุด Goshuincho เท่านั้น
ในระหว่างรอเจ้าหน้าที่วัดประทับตรา เราควรอยู่ในอาการสำรวม ไม่โหวกเหวก รอเงียบๆ
และเมื่อเสร็จแล้วควรกล่าวแสดงการขอบคุณพร้อมบริจาคเงินให้ทางวัด/ศาลเจ้าค่ะ อันนี้เท่าที่เห็นคนญี่ปุ่นทุกคนจะทำแบบนี้จริงๆค่ะ

ทริปนี้ที่ไปมาได้มีโอกาสไปสักการะวัด/ศาลเจ้า หลายที่เหมือนกันค่ะ เลยได้เก็บสะสมตราประทับ Goshuin เป็นที่ระลึกกลับมา ส่วนตัวแล้วชอบมากๆเลยค่ะ เป็นของสะสมที่ดูมีคุณค่า มีความหมาย และศักดิ์สิทธิ์

หากใครอยากลองหันมาสะสมตราประทับ Goshuin กันบ้าง แนะนำให้จัดไปเลยค่ะ...
ครั้งต่อไปหากได้กลับไปญี่ปุ่นอีก จะพบสมุด Goshuincho ติดตัวไปด้วยตลอดแน่นอนค่ะ

ปล.ใครได้สะสมตราประทับ Goshuin แล้ว มาโพสใสคอมเม้นให้เพื่อนๆดูกันบ้างนะคะ ^_^


นี่คือหน้าตาของสมุด Goshuincho ค่ะ หน้าปกก็จะแตกต่างกันไปนะ เล่มนี้เราซื้อที่วัด Narita-san เพราะว่าเป็นวัดแรกที่ได้แวะไปสำหรับทริปนี้ค่ะ
ราคาเล่มละ 2,000 JPY

บางวัดจะมีคนมาขอรับตราประทับ Goshuin เยอะก็จะยืนต่อคิวกันแบบนี้ล่ะคะ ยาวๆ แต่ว่าใช้เวลาไม่นาน


เจ้าหน้าที่จะให้บัตรคิวกับเราค่ะ หากมีคนมาขอรับตราประทับเยอะ ใช้เวลาเขียนประมาณ 5-10 นาที

นี่แหละค่ะ ผู้ลงตราประทับ Goshuin

ทันนี้มีดู Goshuin ที่ได้มาสำหรับทริปนี้กันบ้าง มีอยู่ทั้งหมด 7 วัดค่ะ

วัด Narita-san เมือง Narita จังหวัด Chiba

วัด Nihon-ji เมือง Satte จังหวัด Chiba

วัด Kotoku-in วัดพระใหญ่ไดบุทสึ เมือง Kamakura

ศาลเจ้า Tsurugaoka Hachimangu เมือง Kamakura

อีกหนึ่งศาลเจ้าเล็กๆในเขต ศาลเจ้า Tsurugaoka Hachimangu เมือง Kamakura

ศาลเจ้า Enoshima Shrine เมือง Kamakura

ศาลเจ้า Arakura Sengen Shrine เจดีย์แดงห้าชั้น จังหวัด Yamanashi

วัด Senso-ji เมือง Tokyo


นี่แหละค่ะคืออีกหนึ่งของที่ระลึกที่น่าเก็บสะสม เมื่อได้ไปเยือนประเทศญี่ปุ่น...

สุดท้ายนี้ ขอฝาก Facebook Fanpage “เที่ยวรัวรัว” ด้วยนะคะ
เข้าไปดูรีวิวอื่นๆกันได้แบบรัวรัวได้ที่ www.facebook.com/travelruarua หรือที่ www.travelruarua.com