1965-1975 ภาพถ่ายสงครามเวียตนามจากผู้ชนะ

1972

สหายนักรบนัดพบกันในป่า Nam Can
โดยทุกคนต่างใส่หน้ากาก
เพื่อปกปิดตนเองจากผู้อื่น
ในกรณีที่ถูกจับกุมและถูกซักถาม
จะได้ไม่รู้ว่ามีใครบ้างมาร่วมงาน
ไม่ไกลจากที่นี่เป็นพื้นที่ป่าโกงกางของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง

" การแอบส่งภาพถ่ายไปยังเวียตนามเหนือ
เป็นเรื่องยากมาก บางครั้งก็สูญหายไป
หรือถูกริบ/ถูกยึดไประหว่างทาง ”
ช่างภาพนิรนาม




IMAGE: VO ANH KHANH/ANOTHER VIETNAM/NATIONAL GEOGRAPHIC BOOKS



ภาพถ่ายในสงครามเวียตนามที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก
ถูกถ่ายโดยช่างภาพและสำนักข่าวตะวันตก
ที่ทำงานร่วมกับกองทัพอเมริกันหรือเวียดนามใต้

แต่เวียดนามเหนือกับเวียดกงก็มีช่างภาพหลายร้อยคน
ที่ได้บันทึกเหตุการณ์ทุกแง่ทุกมุมของสงคราม
ทั้งทำงานอยู่ภายใต้สภาวะเสี่ยงอันตรายที่สุด

ช่างภาพเกือบทั้งหมดเรียนรู้การถ่ายภาพด้วยตนเอง
และทำงานให้กับสำนักข่าวเวียดนามเหนือ
หรือแนวร่วมปลดแอกประชาชนเวียตนามเหนือ
หรือหนังสือพิมพ์เวียตกงหลายฉบับ
ช่างภาพหลายคนส่งภาพถ่ายของตนโดยไม่ระบุตัวตน
หรือใช้ชื่อจัดตั้ง/ชื่อปลอมในช่วงทำสงครามกองโจร
ทำให้ดูเสมือนว่าพวกเขาค่อนข้างถ่อมตนในสถานการณ์สู้รบ




เราต้องระมัดระวัง
การใช้ฟิล์มเป็นอย่างมาก
เพราะเรามีฟิล์มจำนวนจำกัด
พอ ๆ กับกระดาษอัดภาพของเรา
สำหรับพวกเราแล้ว
ภาพหนึ่งภาพ มีค่าพอ ๆ กับกระสุนหนึ่งนัด

NGUYEN DINH UU



กรกฏาคม 1967

การตรวจรับเลือกอาสาสมัครเป็นทหาร
กองทัพปลดแอกประชาชนเวียตนามเหนือ
ชายหนุ่มได้รับการตรวจร่างกายใน Haiphong
ระบบทหารอาสาสมัครของเวียตนามเหนือ
ได้เปลี่ยนมาเป็นระบบเกณฑ์ทหารในปี 1973
และเมื่อชายร่างฉกรรจ์ถูกเกณฑ์ทหาร
จำนวนทหารประมาณ 35,000 คนในปี 1950
เริ่มมีจำนวนกว่า 500,000 คน
ภายในช่วงกลางทศวรรษ 1970
เพียงระยะเวลาแค่ 20 ปีเอง
เพิ่มขึ้นถึง 14 เท่าจากของเดิม

กองทัพสหรัฐยอมรับเองว่า
กองทัพปลดแอกประชาชนเวียตนามเหนือ
เป็นหนึ่งในกองทัพที่ดีที่สุดในโลก




IMAGE: BAO HANH/ANOTHER VIETNAM/NATIONAL GEOGRAPHIC BOOKS



อุปกรณ์/วัสดุสิ้นเปลืองในการถ่ายภาพเป็นของล้ำค่า
สารเคมีในการประมวลผลภาพ(ล้างฟิล์ม/อัดภาพ)
จะถูกผสมลงในจานรองชากับธารน้ำไหล
และฟิล์มที่ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง
ผ่านการสัมผัสภายใต้ดวงดาว
ช่างภาพ Tram Am มีกลักม้วนฟิล์ม
เพียงแค่ 70 ภาพเองในช่วงสงคราม

การเผชิญหน้ากับภัยคุกคามและความตายอย่างต่อเนื่อง
จากการทิ้งระเบิด ลูกกระสุนปืน สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ
ช่างภาพเหล่านี้ได้บันทึกเหตุการณ์การสู้รบ
ชีวิตพลเรือน นักรบกองโจรบนเส้นทางโฮจิมินห์
การรบเพื่อเอกราชในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง
และหยาดเลือดของผู้บริสุทธิ์และนักรบกองโจร
ที่ได้รับผลกระทบจากภัยที่น่าสะพรึงกลัวของสงคราม

ช่างภาพบางคนถ่ายรูปเพื่อบันทึกประวัติศาสตร์
ขณะที่ช่างภาพบางคนพยายามใช้กล้องเป็นอาวุธ
ในการทำสงครามโฆษณาชวนเชื่อ

การลักลอบถ่ายภาพในเวียตนามใต้โดย Vo Anh Khanh
เขาไม่สามารถส่งภาพถ่ายของเขาไปยัง
กรุงฮานอย (เวียตนามเหนือ)ได้
เขาจึงได้แต่จัดแสดงภาพถ่ายเหล่านี้
ในพื้นที่ปิดลับในป่าโกงกาง
บริเวณของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง
เพื่อปลุกระดมมวลชนให้มีแรงพลัง
ในการต่อสู้ปลดแอกเพื่อเอกราช

ภาพถ่ายเหล่านี้จำนวนมาก
ไม่ค่อยมีใครเห็นกันในเวียดนาม
พวกมันถูกทิ้งไว้อย่างโดดเดี่ยวไร้คนสนใจใยดี
ในช่วงต้นทศวรรษ 1990
ช่างภาพ Tim Page กับ Doug Niven
เริ่มติดตามค้นหาช่างภาพที่ยังหลงเหลืออยู่
ช่างภาพคนหนึ่งมีถุงที่เต็มไปด้วยฝุ่น
กับฟิล์มขาวดำที่ยังไม่ได้ล้าง

ช่างภาพอีกคนที่ซ่อนฟิล์มขาวดำ
ไว้ใต้อ่างอาบน้ำของห้องน้ำ

Vo Anh Khanh ยังคงเก็บหลักฐานเก่าแก่เหล่านี้
ไว้ในกล่องใส่กระสุนปืนของสหรัฐ
โดยมีกองข้าวสารเป็นสารดูดความชื้น

ภาพถ่ายจำนวน 108 ภาพที่ยังไม่เคยมีใครเห็น
ได้บอกเล่าเรื่องราวของผู้กล้าหาญในการสู้รบ
ถูกรวบรวมไว้ในหนังสือเวียดนามอีกเล่มหนึ่ง
Another Vietnam: Pictures of the War from the Other Side  https://goo.gl/JqM7YL
ภาพถ่ายสงครามจากอีกฝ่ายหนึ่ง



1973

นักรบกองโจรเวียตกงกำลังยืนเฝ้าอยู่ในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง

“ ในช่วงสงคราม
คุณสามารถเจอผู้หญิงแบบเธอได้เกือบทุกหนทุกแห่ง
เธออายุเพียง 24 ปีเอง แต่เป็นม่ายมาแล้ว 2 ครั้ง
สามีของเธอทั้งสองคนต่างเป็นทหารปลดแอก
ผมเห็นว่าเธอ คือ ศูนย์รวมจิตใจนักรบกองโจรหญิง
เธอเหมาะสมอย่างยิ่งกับการเสียสละครั้งยิ่งใหญ่เพื่อประเทศของเธอ "




IMAGE: LE MINH TRUONG/ANOTHER VIETNAM/NATIONAL GEOGRAPHIC BOOKS



1970

ภัยจากสงครามกองโจรในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง
การพายเรือผ่านป่าชายเลนที่ได้รับผลกระทบจากสารสีส้ม

(สารสีส้ม=ฝนเหลือง ยังมีมลพิษตกค้างอยู่จนถึงทุกวันนี้
ทำให้เด็กบางคนต้องพิกลพิการทั้งทางร่างกายและจิตใจ
รวมทั้งสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่สูญเสียไปรอการฟื้นตัว
ข้อมูลเพิ่มเติมฝนเหลือง  https://goo.gl/El2KUR

กองทัพสหรัฐอเมริกาได้ทำลายล้าง
ภูมิประเทศแห่งนี้ด้วยสารเคมี
เพื่อจะได้เห็นที่หลบซ่อนของนักรบเวียตกง
ช่างภาพรู้สึกไม่สบายใจกับภาพที่เห็นในครั้งนี้
เพราะป่าไม้โกงกาง/ป่าชายเลนในเวียดนาม
เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์สำหรับการเกษตร/การประมง




IMAGE: LE MINH TRUONG/ANOTHER VIETNAM/NATIONAL GEOGRAPHIC BOOKS



" ป่ามืดมิดที่กว้างใหญ่ คือ
ห้องมืดขนาดยักษ์ของผม
ในตอนเช้า ผมจะล้างภาพในลำธาร
แล้วแขวนไว้บนต้นไม้รอให้พวกมันแห้ง
ในช่วงบ่าย ผมจะตัดภาพให้ได้ขนาด
แล้วเขียนคำอธิบายภาพเหล่านี้

ผมห่อภาพถ่ายและฟิล์มขาวดำไว้กับกระดาษ
แล้วใส่ไว้ในถุงพลาสติกติดตัวผม
วิธีการแบบนี้จะทำให้ภาพถ่ายไม่เปียกน้ำ
และสามารถพบในตัวผมได้อย่างง่ายดาย
ถ้าผมถูกฆ่าตาย "  
LAM TAN TAI



1974

ผู้หญิงลากเรือประมงขนาดใหญ่ที่ด้านบนของแม่น้ำโขง
ที่แต่เดิมเป็นหน้าที่ของผู้ชายในการต้องทำงานนี้




IMAGE: LE MINH TRUONG/ANOTHER VIETNAM/NATIONAL GEOGRAPHIC BOOKS



10 กันยายน 1972

นักรบกองโจรกำลังติดอาวุธกำลังเดินผ่าน
ซากปรักหักพังของเครื่องบินกองทัพเรือสหรัฐ
ที่ถูกยิงตกลงที่ทางตอนใต้ ชานกรุงฮานอย
มันเป็นซากเครื่องบิน A-7C Corsair II
ที่ขับโดย Stephen Owen Musselman
ถูกโจมตีโดยจรวดขีปนาวุธ SAMs (ของรัสเซีย)
ขณะบินคุ้มกันภารกิจเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52
นักบิน Musselman ได้สละเครื่องบินก่อนตก
แต่รายงานว่าเป็นภารกิจล้มเหลว
ในวันที่ 1 มีนาคมปี 1978

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 1981
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพเรือ
จึงได้ยืนยันข้อสันนิษฐานว่าเขาเสียชีวิตแล้ว
เศษกระดูกศพที่ยังหลงเหลืออยู่ยืนยันว่า ใช่
รัฐบาลเวียดนามจึงส่งกลับไปยังสหรัฐอเมริกา




IMAGE: DOAN CONG TINH/ANOTHER VIETNAM/NATIONAL GEOGRAPHIC BOOKS



ข้อมูลเพิ่มเติม   https://goo.gl/g4w8Jj



ข้อมูลเพิ่มเติม   https://goo.gl/SbRTuj



" ระหว่างการทิ้งระเบิดของอเมริกา
ผมได้ถ่ายรูปที่น่าจดจำที่สุดของผม
ผมได้ถ่ายภาพเครื่องบิน John McCain
ที่ถูกยิงตกในบริเวณกรุงฮานอย

ผมรู้สึกภูมิใจกับภาพถ่ายดังกล่าว
และต้องการให้ภาพถ่ายนี้ได้ถ่ายทอด
ข้อความถึงความรักชาติกับการยืนหยัด
ต่อสู้กับศัตรูต่างชาติผู้รุกราน "
VU BA




John McCain ถูกจับเป็นเชลยศึกนานถึง 6 ปี
ถูกทรมานและถูกซ้อมหลายครั้งในคุกเวียตกง
หลังจากเป็นอิสระก็ได้ลาออกจากราชการทหาร
มาเล่นการเมืองจนได้เป็นวุฒิสมาชิกสหรัฐ
และกลายเป็นพวกคลั่งสงคราม-สายเหยี่ยว

ข้อมูลเพิ่มเติม https://goo.gl/yv5aEv





เรื่องเล่าไร้สาระ


หลังจากเหตุการณ์เครื่องบินตกไม่นานนัก
สหรัฐได้แอบส่งทูตมาเจรจาขอสงบศึก
เพราะชาวบ้านสหรัฐต่างลงคะแนนเสียง/ใช้สิทธิ์
ไม่ยอมเรื่องสหรัฐก่อศึกนอกบ้านแล้ว
และไม่ยอมให้มีระบบการเกณฑ์ทหารอีก
เพราะลูกหลานพวกตนต้องไปเสี่ยงชีวิต/ตาย

แบบใครอยากเป็นทหารให้สมัครใจไปสู้รบเอง
ไม่ต้องมาเกณฑ์ลูกหลานชาวบ้านไปรบอีก
จนรัฐสภาสหรัฐต้องออกกฎหมายยืนยันสิทธิ์นี้
เพราะนักการเมืองกลัวเสียงชาวบ้าน
จะไม่เลือกพวกตนกลับมาเล่นการเมืองอีก

อนึ่ง หลายประเทศในยุโรปได้เรียนรู้ภัยสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 สงครามกลางเมือง
เพราะผลการปลุกระดมและการโฆษณาชวนเชื่อ
ของนักการเมือง/นักการทหาร
ด้วยวาทกรรมสวยหรู/คลั่งชาติของคนเหล่านี้
จนมีการเกณฑ์ทหารลูกหลานของชาวบ้าน
ทำให้บางครอบครัวลูกชายตายหมดทั้งตระกูล
สูญสิ้นเชื้อสายเผ่าพันธุ์ของตระกูลเลย

หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง
ชาวบ้านต่างไม่ยอมให้รัฐบาลมีการเกณฑ์ทหาร
เพื่อให้ลูกหลานตนเองไปรบกันได้ง่าย ๆ แล้ว

ใครอยากไปรบให้พวกมันไปรบกันเอง
ใครอยากเป็นทหารให้พวกมันไปสมัครกันเอง

ชาวยุโรปส่วนใหญ่มักจะสั่งสอนลูกหลานว่า
อย่าหลงคำเคลือบยาพิษ
คำหวานสมานจิตกลพิชิตศัตรูมี

วัฒนธรรมคนยุโรปจึงมักจะไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ
เพราะถูกหลอกถูกปั่นหัวจนฆ่ากันตายมาหลายร้อยปีแล้ว




1972

แนวรั้วป้องด้านหน้าของ
สงครามกองโจรเวียดนาม - กัมพูชา
ต่างวางขวากไม้ไผ่อาบยาพิษ
ที่เหลาให้แหลมและรนไฟให้แข็งขึ้น
Punji stakes ขวากไม้ไผ่จะถูกวางซ่อนไว้ดักศัตรู
บ่อยครั้งที่ฝ่ายข้าศึกก้าวหล่นลงไปในขวากนี้

พวกมันทำงานแบบเหมือนกับดักหลุมพราง
ผลลัพธ์คือ อาการบาดเจ็บแต่ไม่ถึงตาย
เพราะฝ่ายข้าศึกที่ได้รับบาดเจ็บ
การรุกคืบหน้าหรือถอยจะชะลอตัวลง
เพราะต้องคอยดูแลรักษาผู้บาดเจ็บ
ทำให้กำลังพลลดลงไปจำนวนหนึ่ง



IMAGE: LE MINH TRUONG/ANOTHER VIETNAM/NATIONAL GEOGRAPHIC BOOKS





วันที่ไม่ปรากฎ

เวียดกงรบกับศัตรูแบบประชิดตัวหันหน้าเข้าสู้กัน
ในที่ราบลุ่มแถวสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง
ภาพถ่ายที่หาดูได้ยากภาพนี้
หน่วยรบพิเศษเวียตนามใต้อยู่ด้านบน
เวียตกงอยู่ด้านหน้าและขนาบศัตรูทั้งด้านซ้ายและขวา
นั้นหมายความว่า หน่วยรบพิเศษเวียตนามใต้กำลังจะถูกกวาดล้าง




IMAGE: HOANG MAI/ANOTHER VIETNAM/NATIONAL GEOGRAPHIC BOOKS



กันยายน 1965

การใช้เป้าหมายเหนือศีรษะ
เพื่อฝึกยิงเครื่องบินของนักรบกองโจร
ขณะยิงเครื่องบินที่กำลังเร่งเครื่องใน Thanh Tri
แม้ว่าหน่วยรบนี้จะใช้ปืนไรเฟิลสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
แต่นักรบกองโจรชาวเวียตนามพวกนี้
สามารถยิงเครื่องบินสหรัฐจนเสียหาย
หรือตกลงมาได้เป็นจำนวนหลายลำแล้ว

นักรบกองโจรหน่วยรบ  6 ของคอมมูน Yen My
ได้รับชื่อว่า สุดยอดนักรบกองโจร
Excellent Militia ถึง 3 ปีติดต่อกัน

หมายเหตุ

นักรบกองโจรพรรคคอมมิวนิสต์ไทย
บอกว่าใช้นิ้วโป้งหัวแม่มือเหยียดให้สุดแขน
แล้วให้เล็งตรงไปยังเฮลิคอปเตอร์/เครื่องบิน
ถ้ายังบังไม่มิดแสดงว่ายังพอยิงได้
แต่ถ้าบังมิดแล้วแสดงว่า
เครื่องมันไปไกล/อยู่ไกลมากแล้ว




IMAGE: MINH DAO/ANOTHER VIETNAM/NATIONAL GEOGRAPHIC BOOKS
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่