เคาะๆๆ ไม่ได้เขียนรีวิวนานมว๊ากกกก
ถ้าผิดพลาดประการ ขอโทษ มา ณ. ที่นี้ด้วยนะคะ
มุมไบ/บังกอลอร์/เดลี
ค่าวีซ่า( ตค 2016) 2XXX แต่ล่าสุด 4XXX ( มีนา 2017)
เริ่มต้นการเดินทางด้วยสายการบิน Jet Airway
Bangkok-Mumbai
ส่วนมาก เป็นคนอินเดียร้อยละ 95 เปอร์เซ็นของเครื่องบินลำนี้
และพนักงานต้อนรับก็เป็นอินเดีย
ไฟต์เราเป็นไฟต์ดึก เดินทางถึงอินเดียเป็นเวลาประมาณ 23.50(เวลาอินเดีย) โดยประมาณ
ในระหว่างการเดินทางมาอินเดียไม่สามารถนอนได้เลย
แอร์บริการดีมาก กินดื่มตลอดการเดินทาง
กินน้ำอะไรก็ได้ กี่แก้วก็ได้ กินข้าวอะไรก็ได้ กี่กล่องก็ได้
สามารถรับเพิ่มได้ตลอด
รสชาติอาหารอินเดียมื้อแรก ถือว่าผ่าน
ปล.ไม่แน่ใจว่าเป็นทุกสายการบินรึเปล่า
พอมาถึงสนามบินรีบหาไวไฟเลยจ้า มีไวไฟนะแต่ไม่ฟรี
สนามบินใหญ่เหมือนกัน แต่อาจจะเล็กกว่าสุวรรณภูมิ
คืนแรกที่นอน VIP มากจ้า
ถามว่าปลอดภัยไหม ก็ไม่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็น แต่ทหารเต็มสนามบิน
แต่ที่สำคัญ ห้องน้ำสะอาด
ตื่นมาก็มีสตารบัคให้กิน
ราคาพอๆๆกันไทย แต่รสชาติไม่ค่อยถูกปาก
ลงมาชั้นล่างสุดเพื่อไปขึ้นแท็กซี่
จะมีเคาน์เตอร์ เราก็ไปบอกโลเคชั่นตรงนั้น แต่ๆๆๆๆๆเขาอาจจะไม่รู้จักทุกที่
ความรู้สึกโคตรน่ากลัว มีแต่ชายฉกรรณ์
ราคาตามมิเตอร์ !!! แต่เสียค่าชารจตรงเคาน์เตอร์
แต่ราคาไม่ชัวร์ ถ้าจำไม่ผิด น่าจะ 50-100 บาทไทย
อันนี้เป็นภายนอกสนามบิน
นั่งรถออกจากสนามบินไม่นานก็ถึงที่พัก
ที่พักเราชื่อ citizen hotel (Juhu Beach)
รูปโรงแรม Ref.booking.com
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ราคาคืนละ 2XXX รวมอาหารเช้า
พนักงานต้อนรับดีมาก แนะนำเราทุกอย่าง น่ารักมาก ประทับใจมาก
วันแรกเราไปถึงที่พักเราก็ไม่รอช้า เริ่มต้นด้วยการไปแก้บน
เรามาอินเดียครั้งนี้เพื่อไปแก้บน กับ พระแม่มหาลักษมี ที่มุมไบ
เราเลือกการเดินทางด้วยแท็กซี่
ถ้าแท็กซี่ถามว่า ซึรึง ???
ตอบว่า No ไปเลยนะคะ เพราะว่าเป็นการขึ้นทางด่วน และซึ่งไม่คุ้ม ไปทางปกติค่าแท็กซี่จะถูกกว่าและไม่ต้องเสียค่าด่วนด้วย
ค่าทางด่วนประมาณ 25-50 บาท แต่ถ้าอยากขึ้นไปดูวิว ก็ไปคะ ระหว่างทาง วิวสวยมาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แต่ก็คล้ายเมืองไทย
ระหว่างทางก็เจอคนอินเดียมากมาย การจราจร วุ่นวาย บีบแตร
และที่สำคัญรถแท็กซี่จะไม่เปิดแอร์ แต่ถ้าใจดีบางคันอาจจะเปิดให้
แต่งงมาก ไม่มีอุบัติเหตุเลย ระหว่างทางจะเจอผู้หญิงใส่ชุดประจำชาติหมดเลย
เราว่ามันดูเป็นเสน่ห์ของอินเดียเหมือนกันนะ
นั่งมาเกือบ 1 ชั่วโมงก็ถึงวัดมหาลักษมี ค่ารถแท็กซี่ตามมิเตอร์!!!
ไม่มีการชารจใดๆๆ
พอมาถึงหน้าวัด ก็มีร้านของไหว้เต็มไปหมด
ของไหว้ทุกร้าน ราคาเท่ากัน แต่ต้องเอาถาดมาคืน
และห้ามใส่รองเท้าเข้าไปในบริเวณวัด
เราสามารถฝากรองเท้าไว้กับร้านที่เราซื้อของไหว้ได้ ไม่หาย
ราคาของไหว้ ประมาณ 50-100 บาท
จะมี ดอกบัว/ของหวาน/ของคาว /ดอกไม้อะไรสักอย่าง/ผ้าสีแดง/มะพร้าว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ก่อนจะเข้าวัด ทหารเต็มไปหมด ตรวจเยอะแยะไปหมด อย่าเอาอะไรไปเยอะ ตรวจยับ ตรวจทุกอย่าง ทุกซอก ทุกมุม
และห้ามถ่ายรูป แต่แยกชายหญิงในการตรวจ เท่าเทียมกันทุกคน ตรวจทุกคน
และพอไหว้เสร็จก็ต้องเอาถาดมาคืนป้า และมาเอารองเท้า
และเดินมาเรื่อยๆๆจะเจอของขายเกี่ยวกับของขลัง และธูป ธูปหอมมาก 25-50 บาทไทย
บริเวณหน้าวัดนี้จะมีแท็กซี่มาเทียบท่า ขึ้นได้หมด เพราะไม่มีการชารจใดๆๆ แต่ไม่เปิดแอร์
และเกิดหิวขึ้นมา แต่ทานอะไรไม่ได้เลย ก็เลยถามแท็กซี่ว่า แถวไหนมีเคเอฟซีมั่ง ให้พาไปส่งหน่อย
แท็กซี่ก็พามาย่าน ชอปปิ้งด้วยและได้กินด้วย
KFC มีความเข้มข้นของเครื่องเทศมว๊ากกกกกกกกกกกกกกก ก.ไก่ ล้านตัว
ภาชนะที่นี้ไม่มีพลาสติกเลย จะเป็นภาชนะที่สามารถย่อยสลายได้ และราคาถูกกว่าที่ไทย
พอกินเสร็จ เยื่องๆๆกันมีห้างชื่อนี้
แต่ไม่มีอะไรถูกใจเลย เลยออกมาเดินตลาดข้างล่างตามตรอกซอย
คนที่นี้ดูหน้าเขาดูน่ากลัว แต่เขาใจดีมาก และเขาจะขยับคอตลอด
ทุกร้านต่อได้ต่อเลย เขาใจดี เขาชอบลดราคา ถ้าต่อดีๆๆ
ชุดแขกร้านนี้ผ้าดีมาก ตกชุดละ 350 บาท
และเราก็ถามจากเจ้าของร้านว่ามีตรงไหนน่าชอปปิ้งมั่ง
เจ้าของร้านก็เรียกตุ๊กๆๆและบอกตุ๊กๆๆให้ ซึ่งเราก็ไม่รู้เหมือนกัน
ขึ้นตุ๊กๆๆต้องเตรียมเงินไว้พอดีนะจ๊ะ นี้เป็นคำเตือนเพราะตุ๊กๆๆจะไม่ทอนเงินคุณ แต่ไม่ทุกคัน บางคันก็ทอน แต่ส่วนมากไม่ทอน
พอมาถึงแหล่งชอปปิ้ง ก็มีเสื้อผ้าผู้หญฺิงเยอะแยะมาก มีราคา 25 บาท ไปจนถึง หลายพันบาท
ชุดส่าหรีอินเดีย ประมาณ 700 บาท ละแวกนี้นะ
juhu beach คนเยอะมาก แต่ตื่นตาตื่นใจสำหรับเรามาก คือทุกคนมาทะเล แต่ใส่ชุดสาลี่
ทุกคนเหมือนมาพักผ่อน ชมนกอีกา ชมพระอาทิตย์ตก คนเยอะมาก ทุกวัย
และช่างภาพ มารอถ่ายรูปเยอะมว๊ากเหมือนกัน
อย่าไปถามถึงรสชาติอาหารแถวนี้ ทานไม่ได้เลย กลับไปกินม่าม่าที่เอามาจากไทย
โรงแรมอยู่ใกล้กับบริเวณหาด juhu
ถ้าใครไม่ชอบความวุ่นวายคนเยอะ แนะนำให้พักแถวนี้เหมือนเรา
ใกล้สนามบิน คนไม่เยอะ ไม่วุ่นวาย แค่สี่ห้าโมงก็เงียบมาก ขนาดที่ชายหาดคนเยอะแยะ ยังไม่เสียงดังเลย
และกลางคืนก็น่ากลัว
และน้ำที่อินเดีย ไม่แพง 15 บาท ได้ขวดลิตร ไม่ต้องกลัวขาดน้ำตาย
ที่โรงแรมจะให้เราไว้วันละ 2 ขวดใหญ่และ 2 ขวดเล็ก แต่ไม่รู้เป็นทุกโรงแรมไหมนะ
วันที่สองที่มุมไบ
ด้วยความกลัวและนอนไม่หลับ เปิดหนังอินเดียดูกันทั้งคืน และตอนเช้าตื่นกันด้วยเสียงหนังอินเดีย และหนังสือพิมพ์อินเดีย
ลงมาดูอาหารเช้ากันหน่อยดีกว่า ว่าจะต้องกลับขึ้นไปกินโจ๊กที่เราแบกมาไหม
ดูน่ากินนนน
แต่สรุปคือ ขนาดไส้กรอก เครื่องเทศยังแรงมว๊ากก สรุปเรากินได้แต่ผลไม้
วันที่สองแพลนเราคือเข้าเมืองไปชมเมืองกันหน่อย
เริ่มด้วยแท็กซี่เหมือนเดิม และด้วยความที่ยังไม่เข้าใจ "ซึรึง" ของแท็กซี่ ก็ยังคงตอบเยส
และก็ไปถึงในเมือง เริ่มเห็นคนชาติอื่นที่ไม่ใช้อินเดีย เริ่มใจชื่น
และเราก็มาดู ถ้ำช้าง (elephant cave) มันมีประมาณ สองหรือสามรอบนี้แหละ ค่าไปคนละ 350-400 บาท แต่ใช้เวลาค่อนข้างนาน แต่เราอยากไปดูหลายที่เลยตัดสินใจไม่ไป แต่ไปซื้อวันเดย์ทริปแทนเราโดนไป 600 (รวมแอร์แล้ว)
จริงๆอาจจะมีเศษนิดหน่อย แต่คำนวณเงินรูปีแล้ว คร่าวๆๆน่าจะได้ประมาณ 600
NO AIR อีกราคานะจะ แต่ถ้ามีแอร์น่าจะเพิ่มประมาณ50-75 บาท (150 รูปีโดยประมาณ ถ้าจำไม่ผิดนะ)
ก็จะไปตามนี้ ต่อราคา คุยราคากับเอเจนซี่ดีๆๆ
รถแท็กซี่เกือบทุกคนในมุมไบจะคล้ายๆๆกัน เป็นรถคันเล็กๆๆ
ที่แรกเขาพาเรามาที่ ชุมชนซักผ้า ถามว่าตื่นตาตื่นใจไหม ก็นิดหนึ่ง
ด้วยมุมที่เราเห็นด้วยมั่ง เลยดูไม่ตื่นตาตื่นใจเท่าไหร่ เหมือนคนอื่นที่เขาไปกัน
อันนี้เหมือนจะไม่มีในรายการ เหมือนเขาจะแถมให้เพราะเราอยู่แต่ละที่แปบเดียว
ที่ต่อไปเป็น
Marine Drive
Jain Temple
MalaBar Hill
Hanging Garden
[CR] อินเดียกับชะนีสองคน
ถ้าผิดพลาดประการ ขอโทษ มา ณ. ที่นี้ด้วยนะคะ
มุมไบ/บังกอลอร์/เดลี
ค่าวีซ่า( ตค 2016) 2XXX แต่ล่าสุด 4XXX ( มีนา 2017)
เริ่มต้นการเดินทางด้วยสายการบิน Jet Airway
Bangkok-Mumbai
ส่วนมาก เป็นคนอินเดียร้อยละ 95 เปอร์เซ็นของเครื่องบินลำนี้
และพนักงานต้อนรับก็เป็นอินเดีย
ไฟต์เราเป็นไฟต์ดึก เดินทางถึงอินเดียเป็นเวลาประมาณ 23.50(เวลาอินเดีย) โดยประมาณ
ในระหว่างการเดินทางมาอินเดียไม่สามารถนอนได้เลย
แอร์บริการดีมาก กินดื่มตลอดการเดินทาง
กินน้ำอะไรก็ได้ กี่แก้วก็ได้ กินข้าวอะไรก็ได้ กี่กล่องก็ได้
สามารถรับเพิ่มได้ตลอด
รสชาติอาหารอินเดียมื้อแรก ถือว่าผ่าน
ปล.ไม่แน่ใจว่าเป็นทุกสายการบินรึเปล่า
พอมาถึงสนามบินรีบหาไวไฟเลยจ้า มีไวไฟนะแต่ไม่ฟรี
สนามบินใหญ่เหมือนกัน แต่อาจจะเล็กกว่าสุวรรณภูมิ
คืนแรกที่นอน VIP มากจ้า
ถามว่าปลอดภัยไหม ก็ไม่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็น แต่ทหารเต็มสนามบิน
แต่ที่สำคัญ ห้องน้ำสะอาด
ตื่นมาก็มีสตารบัคให้กิน
ราคาพอๆๆกันไทย แต่รสชาติไม่ค่อยถูกปาก
ลงมาชั้นล่างสุดเพื่อไปขึ้นแท็กซี่
จะมีเคาน์เตอร์ เราก็ไปบอกโลเคชั่นตรงนั้น แต่ๆๆๆๆๆเขาอาจจะไม่รู้จักทุกที่
ความรู้สึกโคตรน่ากลัว มีแต่ชายฉกรรณ์
ราคาตามมิเตอร์ !!! แต่เสียค่าชารจตรงเคาน์เตอร์
แต่ราคาไม่ชัวร์ ถ้าจำไม่ผิด น่าจะ 50-100 บาทไทย
อันนี้เป็นภายนอกสนามบิน
นั่งรถออกจากสนามบินไม่นานก็ถึงที่พัก
ที่พักเราชื่อ citizen hotel (Juhu Beach)
รูปโรงแรม Ref.booking.com
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พนักงานต้อนรับดีมาก แนะนำเราทุกอย่าง น่ารักมาก ประทับใจมาก
วันแรกเราไปถึงที่พักเราก็ไม่รอช้า เริ่มต้นด้วยการไปแก้บน
เรามาอินเดียครั้งนี้เพื่อไปแก้บน กับ พระแม่มหาลักษมี ที่มุมไบ
เราเลือกการเดินทางด้วยแท็กซี่
ถ้าแท็กซี่ถามว่า ซึรึง ???
ตอบว่า No ไปเลยนะคะ เพราะว่าเป็นการขึ้นทางด่วน และซึ่งไม่คุ้ม ไปทางปกติค่าแท็กซี่จะถูกกว่าและไม่ต้องเสียค่าด่วนด้วย
ค่าทางด่วนประมาณ 25-50 บาท แต่ถ้าอยากขึ้นไปดูวิว ก็ไปคะ ระหว่างทาง วิวสวยมาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ระหว่างทางก็เจอคนอินเดียมากมาย การจราจร วุ่นวาย บีบแตร
และที่สำคัญรถแท็กซี่จะไม่เปิดแอร์ แต่ถ้าใจดีบางคันอาจจะเปิดให้
แต่งงมาก ไม่มีอุบัติเหตุเลย ระหว่างทางจะเจอผู้หญิงใส่ชุดประจำชาติหมดเลย
เราว่ามันดูเป็นเสน่ห์ของอินเดียเหมือนกันนะ
นั่งมาเกือบ 1 ชั่วโมงก็ถึงวัดมหาลักษมี ค่ารถแท็กซี่ตามมิเตอร์!!! ไม่มีการชารจใดๆๆ
พอมาถึงหน้าวัด ก็มีร้านของไหว้เต็มไปหมด
ของไหว้ทุกร้าน ราคาเท่ากัน แต่ต้องเอาถาดมาคืน
และห้ามใส่รองเท้าเข้าไปในบริเวณวัด
เราสามารถฝากรองเท้าไว้กับร้านที่เราซื้อของไหว้ได้ ไม่หาย
ราคาของไหว้ ประมาณ 50-100 บาท
จะมี ดอกบัว/ของหวาน/ของคาว /ดอกไม้อะไรสักอย่าง/ผ้าสีแดง/มะพร้าว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และพอไหว้เสร็จก็ต้องเอาถาดมาคืนป้า และมาเอารองเท้า
และเดินมาเรื่อยๆๆจะเจอของขายเกี่ยวกับของขลัง และธูป ธูปหอมมาก 25-50 บาทไทย
บริเวณหน้าวัดนี้จะมีแท็กซี่มาเทียบท่า ขึ้นได้หมด เพราะไม่มีการชารจใดๆๆ แต่ไม่เปิดแอร์
และเกิดหิวขึ้นมา แต่ทานอะไรไม่ได้เลย ก็เลยถามแท็กซี่ว่า แถวไหนมีเคเอฟซีมั่ง ให้พาไปส่งหน่อย
แท็กซี่ก็พามาย่าน ชอปปิ้งด้วยและได้กินด้วย
KFC มีความเข้มข้นของเครื่องเทศมว๊ากกกกกกกกกกกกกกก ก.ไก่ ล้านตัว
ภาชนะที่นี้ไม่มีพลาสติกเลย จะเป็นภาชนะที่สามารถย่อยสลายได้ และราคาถูกกว่าที่ไทย
พอกินเสร็จ เยื่องๆๆกันมีห้างชื่อนี้
แต่ไม่มีอะไรถูกใจเลย เลยออกมาเดินตลาดข้างล่างตามตรอกซอย
คนที่นี้ดูหน้าเขาดูน่ากลัว แต่เขาใจดีมาก และเขาจะขยับคอตลอด
ทุกร้านต่อได้ต่อเลย เขาใจดี เขาชอบลดราคา ถ้าต่อดีๆๆ
ชุดแขกร้านนี้ผ้าดีมาก ตกชุดละ 350 บาท
และเราก็ถามจากเจ้าของร้านว่ามีตรงไหนน่าชอปปิ้งมั่ง
เจ้าของร้านก็เรียกตุ๊กๆๆและบอกตุ๊กๆๆให้ ซึ่งเราก็ไม่รู้เหมือนกัน
ขึ้นตุ๊กๆๆต้องเตรียมเงินไว้พอดีนะจ๊ะ นี้เป็นคำเตือนเพราะตุ๊กๆๆจะไม่ทอนเงินคุณ แต่ไม่ทุกคัน บางคันก็ทอน แต่ส่วนมากไม่ทอน
พอมาถึงแหล่งชอปปิ้ง ก็มีเสื้อผ้าผู้หญฺิงเยอะแยะมาก มีราคา 25 บาท ไปจนถึง หลายพันบาท
ชุดส่าหรีอินเดีย ประมาณ 700 บาท ละแวกนี้นะ
juhu beach คนเยอะมาก แต่ตื่นตาตื่นใจสำหรับเรามาก คือทุกคนมาทะเล แต่ใส่ชุดสาลี่
ทุกคนเหมือนมาพักผ่อน ชมนกอีกา ชมพระอาทิตย์ตก คนเยอะมาก ทุกวัย
และช่างภาพ มารอถ่ายรูปเยอะมว๊ากเหมือนกัน
อย่าไปถามถึงรสชาติอาหารแถวนี้ ทานไม่ได้เลย กลับไปกินม่าม่าที่เอามาจากไทย
โรงแรมอยู่ใกล้กับบริเวณหาด juhu
ถ้าใครไม่ชอบความวุ่นวายคนเยอะ แนะนำให้พักแถวนี้เหมือนเรา
ใกล้สนามบิน คนไม่เยอะ ไม่วุ่นวาย แค่สี่ห้าโมงก็เงียบมาก ขนาดที่ชายหาดคนเยอะแยะ ยังไม่เสียงดังเลย
และกลางคืนก็น่ากลัว
และน้ำที่อินเดีย ไม่แพง 15 บาท ได้ขวดลิตร ไม่ต้องกลัวขาดน้ำตาย
ที่โรงแรมจะให้เราไว้วันละ 2 ขวดใหญ่และ 2 ขวดเล็ก แต่ไม่รู้เป็นทุกโรงแรมไหมนะ
วันที่สองที่มุมไบ
ด้วยความกลัวและนอนไม่หลับ เปิดหนังอินเดียดูกันทั้งคืน และตอนเช้าตื่นกันด้วยเสียงหนังอินเดีย และหนังสือพิมพ์อินเดีย
ลงมาดูอาหารเช้ากันหน่อยดีกว่า ว่าจะต้องกลับขึ้นไปกินโจ๊กที่เราแบกมาไหม
ดูน่ากินนนน
แต่สรุปคือ ขนาดไส้กรอก เครื่องเทศยังแรงมว๊ากก สรุปเรากินได้แต่ผลไม้
วันที่สองแพลนเราคือเข้าเมืองไปชมเมืองกันหน่อย
เริ่มด้วยแท็กซี่เหมือนเดิม และด้วยความที่ยังไม่เข้าใจ "ซึรึง" ของแท็กซี่ ก็ยังคงตอบเยส
และก็ไปถึงในเมือง เริ่มเห็นคนชาติอื่นที่ไม่ใช้อินเดีย เริ่มใจชื่น
และเราก็มาดู ถ้ำช้าง (elephant cave) มันมีประมาณ สองหรือสามรอบนี้แหละ ค่าไปคนละ 350-400 บาท แต่ใช้เวลาค่อนข้างนาน แต่เราอยากไปดูหลายที่เลยตัดสินใจไม่ไป แต่ไปซื้อวันเดย์ทริปแทนเราโดนไป 600 (รวมแอร์แล้ว)
จริงๆอาจจะมีเศษนิดหน่อย แต่คำนวณเงินรูปีแล้ว คร่าวๆๆน่าจะได้ประมาณ 600
NO AIR อีกราคานะจะ แต่ถ้ามีแอร์น่าจะเพิ่มประมาณ50-75 บาท (150 รูปีโดยประมาณ ถ้าจำไม่ผิดนะ)
ก็จะไปตามนี้ ต่อราคา คุยราคากับเอเจนซี่ดีๆๆ
รถแท็กซี่เกือบทุกคนในมุมไบจะคล้ายๆๆกัน เป็นรถคันเล็กๆๆ
ที่แรกเขาพาเรามาที่ ชุมชนซักผ้า ถามว่าตื่นตาตื่นใจไหม ก็นิดหนึ่ง
ด้วยมุมที่เราเห็นด้วยมั่ง เลยดูไม่ตื่นตาตื่นใจเท่าไหร่ เหมือนคนอื่นที่เขาไปกัน
อันนี้เหมือนจะไม่มีในรายการ เหมือนเขาจะแถมให้เพราะเราอยู่แต่ละที่แปบเดียว
ที่ต่อไปเป็น Marine Drive
Jain Temple
MalaBar Hill
Hanging Garden