เรื่องทั้งหมดที่ผมจะเล่านี้เป็นความจริงที่เกิดขึ้นกับภรรยาและผม ทำให้หมดเงินทองไปประมาณ 600,000 บาท
เข้าเรื่องเลยครับ
เมื่อเดือน สิงหาคม 2559 ภรรยาผมต้องการย้ายกลับไปอยู่ ต่างจังหวัดเล็กๆ โดยเห็นว่า ใต้ถุนที่บ้านคุณพ่ออยู่อาศัยมีที่ว่างเปล่าอยู่
บ้านและที่ดินแปลงนี้ เป็นของคุณย่าของภรรยา พอคุณย่าเสียชีวิต คุณปู่ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการมรดก และโอนชื่อใส่ชื่อตัวเองไว้
ที่ดินมีหลายแปลงของคุณย่า ได้มีการประชุมพี่ๆน้องๆ ว่าใครจะได้ที่ดินแปลงไหน สรุปว่า คุณพ่อของภรรยาได้ที่ดินและบ้านเก่าๆของคุณย่า แต่ยังไม่ได้มีการโอนชื่อมาเป็นชื่อ ของคุณพ่อ
คุณแม่ของภรรยา ได้มาขออนุญาติคุณปู่ในการ ยกบ้านและต่อเติมบ้าน คุณปู่บอกเอาเลยๆ เพราะที่ดินแปลงนี้จะยกให้ภรรยาของผมอยู่แล้ว มีพยานหลายคน รวมทั้งพ่อของภรรยา ป้าๆของภรรยา
คุณปู่ บอกว่าทำบ้านเสร็จแล้ว จะไปโอนที่ดินให้ภรรยาผม
มาถึงปัจจุบัน 2560 ผมถามเรื่องนี้กับคุณปู่ คุณปู่บอกเออๆ แต่ก็ไม่เห็นดำเนินการใดๆสักที
และมาเมื่อวานนี้ ภรรยาผมได้มีปากเสียงกับ หลานเมียใหม่ของคุณปู่ และมาด่าว่า แม่ของภรรยาว่ามีชู้ และเรื่องอื่นๆอีกหลายเรื่อง เช่นหาว่าแม่ของภรรยาขโมยเงินจำนวนมากจากคุณปู่ ซึ่งไม่เป็นความจริง
ปัญหาที่ผมต้องการถาม คือ
1. ถ้าคุณปู่ไม่โอนที่ดินให้ภรรยาของผม ผมจะสามารถทำอะไรได้บ้างกับ เงินที่ผมลงไปประมาณ 600,000 บาท
ช่างยกบ้านให้สูงขึ้น คุณปู่ก็จัดการหามาให้ผม และผมเป็นคนจ่ายเงิน โดยโอนเงินจากบัญชีผมเข้าบัญชีของช่างยกบ้าน
รายการของที่สั่งซื้อจากร้านวัสดุก่อสร้าง คุณปู่เป็นคนเซ็นรับของ สั่งของ ผมโอนตังจ่ายค่าของ
รายการซื้อของจาก โกลล์บอลผมเก็บไว้หมด รายการรูดบัตรเครดิต ผมเก็บไว้หมด และสามารถพิมพ์จาก เสตทเมนท์ออน์ไลน์ ย้อนหลังได้
ผมสามารถเรียกร้อง เงินผมที่ลงไปได้ไหม ในกรณีที่คุณปู่ไม่ยอมโอนที่ดิน
2.เรื่องที่คุณแม่ภรรยา โดนกล่าวหาว่า มีชู้ เอาชู้มานอนที่บ้านหลังนี้ มีการแค๊ปข้อความเก็บไว้เป็นหลักฐาน สามารถเอาผิด คดีอาญาได้หรือไม่ เพราะที่นี่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ใครก็รู้จักกันหมด ทำให้คุณแม่ของภรรยาอับอาย เพราะถ้าเข้ากล้ากล่าวคำนี้ บนโลกโซเชี่ยลกับแฟนผม เขาคงคุยกันไปทั่วหมู่บ้าน

ผมขอขอบพระคุณผู้รู้ทั้งหลาย ที่เข้ามาตอบด้วย ผมคิดว่าอุตส่าห์หนีจากเมืองใหญ่ๆอย่างกรุงเทพฯมาแล้ว ไม่น่าจะมาเจออะไรแบบนี้เลย
คงต้องขอพึ่งกฎหมายบ้านเมือง ถ้าสามารถใช้สิทธิ์ได้ ขอความกระจ่างด้วยครับ