จากเรื่อง พรบ ความปลอดภัย ห้ามนั่งกระบะหลังและแค๊ป ที่ร้อนแรงมาสามสี่วันนี้ ในที่สุด รัฐบาลก็ยอมถอยให้ประชาชนส่วนใหญ่
คืออนุโลมให้นั่งกระบะและแค๊ปได้ ไม่เกิน 6 คน แต่ในความเป็นจริง บางเคสก็อาจบรรทุกมากกว่า 6 คน ซึ่ง อาจเป็นความจำเป็น
หรืออะไรก็แล้วแต่ ตามช่วงเทศกาล อันนี้ก็คงอยู่ในดุลยพินิจของตำรวจ นะคะ
และเราปฎิเสธไม่ได้ว่า เสียงต่อต้านมีมากมายหลายกระแสมาก ทั้งจากวงการตำรวจ ดารา นักร้อง นักวิเคาะห์ นักวิชาการ พิธีกร
เรียกว่า รัฐบาลเรียกแขก อย่างมิได้นัดหมาย เพราะขาดความเข้าใจว่าช่วงเทศกาลมีคนเดินทางมากแค่ไหนรัฐมองแต่เรื่องความปลอดภัย
โดยไม่มองความจริงและ ลืมมองถึงวิถีชีวิตที่เป็นวัฒนธรรมไปแล้ว
เห็นมีหลายคลิปที่ออกมาทำล้อเลียน หลายคลิปที่บ่นพ้อ แต่ละคลิปสะท้อนแนวคิดได้เป็นอย่างดีว่า อึดอัด
และกดดันกับกฎหมายนี้แค่ไหน
ยิ่งใช้ ม 44 มากำกับด้วยแล้ว ยิ่งทำให้กระแสมันบานปลายหนัก เพราะเหมือนจะใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
แต่สรุปทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ( แม้จะแค่ระยะสั้นๆ ไม่กี่วัน )
ก็ต้องขอขอบคุณรัฐบาลด้วยค่ะ ที่ยังมองเห็นเสียงของประชาชน
และอีกวัตถุประสงค์ที่ตั้งกระทู้นี้คือ ยากให้กำลังใจท่านสารวัตร เอก หรือท่าน พ.ต.ท. เอกราช หุ่นงาม สภ.สลุย จ.ชุมพร ค่ะ
เพราะเมื่อตอนรัฐบาลจะเอากฎหมายล้าหลังนี้ออกมาใช้ ทางท่านสารวัตรเอก เองก็เป็นกลุ่มคนแรกๆ ที่ออกมาเสนอแนวคิด
ที่เป็นอีกมุม ของประชาชน ทั้งๆที่ท่านเป็นตำรวจ แต่ท่านก็มิได้นิ่งดูดาย และเข้าใจว่า ความเดือดร้อนของประชาชนเป็นอย่างไร
หลายครั้งที่ตามอ่าน จขกท จะเห็นแนวความคิดที่เป็นธรรม และกล้าแสดงออก จนนำมาเขียน มาถ่ายทอดให้ ประชาชนที่สนใจ
ได้อ่าน ได้รู้ และเข้าใจว่า เจ้าหน้าที่รัฐเองก็มิได้เห็นคล้อยตาม พรบ ความปลอดภัยที่เข็นขึ้นมาประกาศใช้เช่นกัน
การแสดงความคิดเห็นของท่านสารวัตรเอก ท่านก็บอกแล้วว่าเขียนในนามส่วนตัว มีคนเข้าไปอ่านเยอะ จนทำให้ยอดไลค์
ขึ้นถึงสองแสนกว่า สื่อของช่อง 3 ก็นำมาเสนอข่าว จนทำให้กระแส เรื่องนี้รู้ถึงรัฐบาลและยอมถอยแต่โดยดี
แต่เมื่อวาน เห็นมีข่าวว่าท่านโดนตั้งกรรมการสอบสวน ทำเอาประชาชนส่วนมากถึงกับอึ้ง ที่หากเจ้าหน้าที่รัฐออกมาวิพากษ์ วิจารณ์รัฐ
ในฐานะ ปชช กลับถูกตั้งกรรมการสอบสวนซะงั้น ทำแบบนี้ หลายคนเลย เห็นว่า ความยุติธรรมมันอยู่ไหน? กฎระเบียบถูกบังคับใช้กับ
ข้าราชการที่ไม่เห็นด้วยกับแนวนโยบายน่ะหรือ?
แล้ววันนี้ก็เห็นข่าวในกระปุก ที่ท่านออกมาบ่น ทำนองน้อยใจ ว่า" เกิดเป็นคน ก็แค่นี้ ชีวิตไม่ใช่เทวดาที่เลิศเลอ "
และขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้ เลยทำให้จขกท เกิดแรงบันดาลใจที่จะเขียนกระทู้นี้ขึ้นมา ค่ะ
จขกท เองก็ตามเรื่องพรบ นี้มานาน เห็นครั้งนี้ที่มีนายตำรวจกล้าแสดงออก และกล้าแสดงสิทธิในฐานะพลเมืองท่านหนึ่ง
ก็รู้สึกดีที่เจ้าหน้าที่เข้าใจประชาชนเข้าใจถึงความลำบาก และเข้าใจถึงสภาพของคนจนที่มีรถใช้แค่คันเดียว
และถ้าหากการแสดงออกของท่านสารวัตรเอก จะทำให้กิดความขัดแย้ง หรือ ถูกเพ่งเล็งจากผู้บัคับบัญชา จริง
จขกท ก็ขอเป็นอีกหนึ่งเสียง หนึ่งกำลังใจมอบให้ท่านสารวัตรเอกนะคะ และคงมีอีกหลายหมื่นหลายแสนคน
ที่เป็นกำลังใจให้ท่านค่ะ สู้ๆค่ะ อย่าเพิ่งท้อ
" สังคมจะดี ต้อมีคนกล้า ประเทศจะพัฒนา ต้องทิ้งคำว่า อยุติธรรมค่ะ "
ขออนุญาตแปะข้อความของท่านนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก kapook.com/ ค่ะ
Cr :
https://hilight.kapook.com/view/151574
ราชดำเนินวันนี้ : ขอเป็นกำลังใจให้ พ.ต.ท. เอกราช หุ่นงาม สภ.สลุย จ.ชุมพร ค่ะ
คืออนุโลมให้นั่งกระบะและแค๊ปได้ ไม่เกิน 6 คน แต่ในความเป็นจริง บางเคสก็อาจบรรทุกมากกว่า 6 คน ซึ่ง อาจเป็นความจำเป็น
หรืออะไรก็แล้วแต่ ตามช่วงเทศกาล อันนี้ก็คงอยู่ในดุลยพินิจของตำรวจ นะคะ
และเราปฎิเสธไม่ได้ว่า เสียงต่อต้านมีมากมายหลายกระแสมาก ทั้งจากวงการตำรวจ ดารา นักร้อง นักวิเคาะห์ นักวิชาการ พิธีกร
เรียกว่า รัฐบาลเรียกแขก อย่างมิได้นัดหมาย เพราะขาดความเข้าใจว่าช่วงเทศกาลมีคนเดินทางมากแค่ไหนรัฐมองแต่เรื่องความปลอดภัย
โดยไม่มองความจริงและ ลืมมองถึงวิถีชีวิตที่เป็นวัฒนธรรมไปแล้ว
เห็นมีหลายคลิปที่ออกมาทำล้อเลียน หลายคลิปที่บ่นพ้อ แต่ละคลิปสะท้อนแนวคิดได้เป็นอย่างดีว่า อึดอัด
และกดดันกับกฎหมายนี้แค่ไหน
ยิ่งใช้ ม 44 มากำกับด้วยแล้ว ยิ่งทำให้กระแสมันบานปลายหนัก เพราะเหมือนจะใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
แต่สรุปทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ( แม้จะแค่ระยะสั้นๆ ไม่กี่วัน )
ก็ต้องขอขอบคุณรัฐบาลด้วยค่ะ ที่ยังมองเห็นเสียงของประชาชน
และอีกวัตถุประสงค์ที่ตั้งกระทู้นี้คือ ยากให้กำลังใจท่านสารวัตร เอก หรือท่าน พ.ต.ท. เอกราช หุ่นงาม สภ.สลุย จ.ชุมพร ค่ะ
เพราะเมื่อตอนรัฐบาลจะเอากฎหมายล้าหลังนี้ออกมาใช้ ทางท่านสารวัตรเอก เองก็เป็นกลุ่มคนแรกๆ ที่ออกมาเสนอแนวคิด
ที่เป็นอีกมุม ของประชาชน ทั้งๆที่ท่านเป็นตำรวจ แต่ท่านก็มิได้นิ่งดูดาย และเข้าใจว่า ความเดือดร้อนของประชาชนเป็นอย่างไร
หลายครั้งที่ตามอ่าน จขกท จะเห็นแนวความคิดที่เป็นธรรม และกล้าแสดงออก จนนำมาเขียน มาถ่ายทอดให้ ประชาชนที่สนใจ
ได้อ่าน ได้รู้ และเข้าใจว่า เจ้าหน้าที่รัฐเองก็มิได้เห็นคล้อยตาม พรบ ความปลอดภัยที่เข็นขึ้นมาประกาศใช้เช่นกัน
การแสดงความคิดเห็นของท่านสารวัตรเอก ท่านก็บอกแล้วว่าเขียนในนามส่วนตัว มีคนเข้าไปอ่านเยอะ จนทำให้ยอดไลค์
ขึ้นถึงสองแสนกว่า สื่อของช่อง 3 ก็นำมาเสนอข่าว จนทำให้กระแส เรื่องนี้รู้ถึงรัฐบาลและยอมถอยแต่โดยดี
แต่เมื่อวาน เห็นมีข่าวว่าท่านโดนตั้งกรรมการสอบสวน ทำเอาประชาชนส่วนมากถึงกับอึ้ง ที่หากเจ้าหน้าที่รัฐออกมาวิพากษ์ วิจารณ์รัฐ
ในฐานะ ปชช กลับถูกตั้งกรรมการสอบสวนซะงั้น ทำแบบนี้ หลายคนเลย เห็นว่า ความยุติธรรมมันอยู่ไหน? กฎระเบียบถูกบังคับใช้กับ
ข้าราชการที่ไม่เห็นด้วยกับแนวนโยบายน่ะหรือ?
แล้ววันนี้ก็เห็นข่าวในกระปุก ที่ท่านออกมาบ่น ทำนองน้อยใจ ว่า" เกิดเป็นคน ก็แค่นี้ ชีวิตไม่ใช่เทวดาที่เลิศเลอ "
และขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้ เลยทำให้จขกท เกิดแรงบันดาลใจที่จะเขียนกระทู้นี้ขึ้นมา ค่ะ
จขกท เองก็ตามเรื่องพรบ นี้มานาน เห็นครั้งนี้ที่มีนายตำรวจกล้าแสดงออก และกล้าแสดงสิทธิในฐานะพลเมืองท่านหนึ่ง
ก็รู้สึกดีที่เจ้าหน้าที่เข้าใจประชาชนเข้าใจถึงความลำบาก และเข้าใจถึงสภาพของคนจนที่มีรถใช้แค่คันเดียว
และถ้าหากการแสดงออกของท่านสารวัตรเอก จะทำให้กิดความขัดแย้ง หรือ ถูกเพ่งเล็งจากผู้บัคับบัญชา จริง
จขกท ก็ขอเป็นอีกหนึ่งเสียง หนึ่งกำลังใจมอบให้ท่านสารวัตรเอกนะคะ และคงมีอีกหลายหมื่นหลายแสนคน
ที่เป็นกำลังใจให้ท่านค่ะ สู้ๆค่ะ อย่าเพิ่งท้อ
" สังคมจะดี ต้อมีคนกล้า ประเทศจะพัฒนา ต้องทิ้งคำว่า อยุติธรรมค่ะ "
ขออนุญาตแปะข้อความของท่านนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก kapook.com/ ค่ะ
Cr : https://hilight.kapook.com/view/151574