ย้อนรอยกระแสการขับไล่นักเตะทีมชาติไทยคนหนึ่ง เมื่อ 28 ปีก่อน หลังเกมการแข่งขันฟุตบอลไทยกับมาเลเซียในรอบรองชนะเลิศกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 15 ซึ่งไทยแพ้ไป 0-1 ซึ่งแฟนบอลไทยในยุคนั้นได้กล่าวหาปิยะพงษ์ ผิวอ่อนว่าล้มบอล (โดยไม่มีหลักฐาน) ให้ทีมชาติมาเลเซีย ทำให้แฟนบอลไทยในยุคนั้นโกรธแค้นเดอะตุ๊กเป็นจำนวนมาก โดยพากันขับไล่ให้พ้นทีมชาติไทย บางคนโทรไปขู่วางระเบิดที่บ้าน บางคนโทรศัพท์ไปด่าที่บ้าน จนถึงขั้นต้องยกหูโทรศัพท์ออก หนังสือพิมพ์ชื่อดังในยุคนั้นต่างประโคมข่าวโจมตีเดอะตุ๊กในหน้า 1 อย่างหนักเกือบ 1 อาทิตย์ เป็นเพราะแฟนบอลชาวไทยในยุคนั้นส่วนใหญ่ต่างฝากความหวังไว้ที่ตัวปิยะพงษ์สูงมาก หลายคนฝังใจว่าตราบใดที่ปิยะพงษ์ลงสนามให้ทีมชาติไทย ทีมชาติไทยจะต้องชนะ โดยไม่ได้มองว่าคู่แข่งอย่างมาเลเซียก็มีนักเตะเก่งๆอย่าง ไซนัล อบีดีน ฮัสซันและ ดอลล่า ซาเล่ย์ ลิมเตียงคิม, สิงคโปร์ก็มีฟานดี้ อาหมัด มาเล็ก อาวับ ซุนดรัม มอร์ธี อินโดนิเซียก็มีริกกี้ ยาค๊อป
และที่สำคัญคือปิยะพงษ์มีความฟิตพอที่จะวิ่งได้ตลอดเกมหรือเปล่า แต่ปิยะพงษ์ก็เลือกที่จะเก็บตัวเงียบอยู่นิ่งไม่ตอบโต้หรือทะเลาะกับแฟนบอลชาวไทยทั่วประเทศและนักข่าวในยุคนั้น จนกระทั่งวันหนึ่งนัดผู้สื่อข่าวมาแถลงข่าวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ที่สมาคมฟุตบอล และเดินทางไปสาบานกับพระแก้วมรกตที่วัดพระแก้ว โดยมีนักข่าวแห่กันไปเป็นสักขีพยานเป็นจำนวนมาก
โดยสาบานว่าหากตัวปิยะพงษ์เล่นบอลโดยสมยอมหรือล้มบอลขอให้มีอันเป็นไปภายใน 5 วัน 7 วัน แต่หากเล่นเต็มที่แล้วขอให้ตัวเองและครอบครัวมีความสุขความเจริญ (ซึ่งแฟนบอลในยุคนี้ก็คงเห็นแล้วว่าชีวิตเดอะตุ๊กมีความสุขดีหรือไม่) หลังจากนั้นปิยะพงษ์ก็ประกาศหันหลังให้ทีมชาติไทย โดยไม่มีการสัมภาษณ์โต้ตอบนักข่าวหรือแฟนบอลในเรื่องนี้อีกเลย ตั้งหน้าตั้าตาเล่นฟุตบอลให้สโมสรปาหังและกลับมาเล่นฟุตบอลให้ทหารอากาศอย่างเดียวในเวลาต่อมา โดยในแต่ละนัดทีปิยะพงษ์ลงแข่งให้สโมสรทหารอากาศมีแฟนบอลของปิยะพงษ์เข้ามาดูเป็นจำนวนมาก เพราะแฟนบอลเหล่านี้คิดว่าเขาคงไม่มีโอกาสเห็นปิยะพงษ์เล่นในทีมชาติไทยอีกแล้ว ซึ่งปิยะพงษ์ก็ยิงประตูพาทีมทหารอากาศในยุคนั้นชนะได้อย่างมากมาย วันเวลาผ่านไปเกือบ 3 ปีหลังปิยะพงษ์หันหลังให้ทีมชาติไทย ทีมชาติไทยกลับคว้าอันดับ 4 ในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 11 ที่จีนในปี 2533 แต่หลังจากนั้นผลงานทีมชาติไทยก็เริ่มตกต่ำลงอีก เกมรุกเริ่มมีปัญหาในการยิงประตูคู่แข่ง ทำให้แฟนบอลชาวไทยเริ่มหันมานึกถึงปิยะพงษ์อีกครั้งหนึ่ง พยายามที่จะเรียกร้องให้ปิยะพงษ์กลับมาเล่นให้ทีมชาติไทยอีกครั้งหนึ่ง จนกระทั่งเจ้าตัวยอมใจอ่อนกลับมาเล่นให้ทีมชาติไทยอีกครั้งหนึ่งในต้นปี 2535 พร้อมกับนำทีมชาติไทยคว้าแชมป์คิงคัพส์ในต้นปี 2535 ทันทีที่หวนคืนทีมชาติไทย พร้อมกับพาทีมชาติไทยดับเกาหลีใต้ชุดใหญ่ 2-1 ในเดือนมิถุนายนปีเดียวกันด้วยการโชว์การจ่ายลูกไขว้จากริมเส้นไปหน้าประตูให้ประเสริฐ ช้างมูลยิงเกาหลีใต้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลเอเชี่ยนคัพส์ในปีนั้น หลังจากนั้นปิ 2536 หลังจากพาทีมชาคิไทยคว้าแชมป์ซีเกมส์ที่สิงคโปรค์เรียบร้อย เดอะตุ๊กก็ประกาศอำลาทีมชาติไทยอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่ตัวเองกู้ชื่อเสียงของตัวเองกลับคืนมาได้อีกครั้งหนึ่ง
https://www.youtube.com/watch?v=hMPNQDizUYg
สิ่งที่ผมชื่นชมปิยะพงษ์จากเหตุการณ์ครั้งนั้นคือ การนิ่งเงียบไม่โต้ตอบแฟนบอลและนักข่าวที่รักและคาดหวังกับตัวเขาเป็นจำนวนมาก และให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์คุณค่าของตัวเขาเอง จนวันเวลาผ่านไป แฟนบอลชาวไทยก็ยังรักและต้องการเขาในทีมชาติไทยเหมือนเดิมจนวันที่เขาประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการ
ย้อนรอยกระแสการขับไล่นักเตะทีมชาติไทยคนหนึ่ง เมื่อ 28 ปีก่อน
https://www.youtube.com/watch?v=hMPNQDizUYg
สิ่งที่ผมชื่นชมปิยะพงษ์จากเหตุการณ์ครั้งนั้นคือ การนิ่งเงียบไม่โต้ตอบแฟนบอลและนักข่าวที่รักและคาดหวังกับตัวเขาเป็นจำนวนมาก และให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์คุณค่าของตัวเขาเอง จนวันเวลาผ่านไป แฟนบอลชาวไทยก็ยังรักและต้องการเขาในทีมชาติไทยเหมือนเดิมจนวันที่เขาประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการ