"เมล่อน" หวนเข้ามาในความคิดอีกครั้ง เมื่อตั้งใจแน่วแน่ว่าต้องหนีความวุ่นวายของชีวิตคนเมืองมาทำเกษตรให้ได้
ด้วยความฝันที่ต้องการจะทำเกษตรผสมผสาน เพื่อต่อยอดเป็นแหล่งการเรียนรู้ และเปิดให้คนเข้ามาเยี่ยมชม ซึ่งเป็นการคิดการใหญ่ไม่น้อย
แต่คงตอบโจทย์ความต้องการของชีวิตมากทีเดียว สำหรับลูกชาวสวนที่เกิดและโตในกรุง ทำงานในหน่วยราชการด้านส่งเสริมเศรษฐกิจ ทว่าแพ้เมืองกรุงเข้าไปทุกวัน
การต้องเจอผู้คนมากมายหลากหลายวัฒนธรรมภาษา ถ้าวันนึงออกจากชีวิตตรงนี้ไป ก็ยังอยากพบปะผู้คนทำประโยชน์อะไรได้ต่อไป
แล้วจะทำอย่างไร ให้การทำเกษตรผสานไปกับธุรกิจสมัยใหม่ ด้วยต้นทุนมีน้อยถึงไม่มีเลย
จึงเชื่อว่า "เมล่อน" จะสร้างกำไรให้ได้ในระยะสั้น ที่สามารถหมุนเวียนเงินลงทุนได้สำหรับสนับสนุนแผนระยะกลางและยาวต่อไป
กระนั้น การจะเข้ามาในธุรกิจนี้ทีหลังคนอื่นนั้นก็ไม่ง่าย ถ้าไม่ทำตลาดให้ตรงจุดหรือมีความโดดเด่นกว่าใคร
เส้นทางจากนี้จึงขออาศัย "เมล่อน" เป็นจุดเริ่มต้นในการต่อยอด สร้างความหลากหลายในการทำเกษตรผสมผสานให้แตกต่าง
รวมกับพื้นฐานอาชีพเกษตรกรรมจากพ่อ ที่อยู่ในสายเลือดตลอดมา แม้จะร้างราไปนานสู่ชีวิตมนุษย์เงินเดือน
เริ่มเรื่องราวสั้นๆ ในการหาพื้นที่ที่ต้องลงทุนลงแรง กระนั้นก็ได้ทำเลที่ถูกต้องพอใจ ท่ามกลางขุนเขาและมีน้ำพอเพียง ที่ปราจีนบุรี
แม้ต้องอดทนยาวนานกับระบบเอกสาร การจัดหาสาธารณูปโภคเอง และเรื่องราวระหว่างทางอีกมากมาย
ทั้งปัญหาการสร้างที่พักที่งบบานปลาย ปัญหากับคนอีกหลากเรื่อง ยังต้องมาปรับพื้นที่เองด้วยการเป็นเกษตรกรนอกเวลาราชการ (ไม่ง่ายเลย)
แถมชาวบ้านในพื้นที่ยังแปลกใจไม่น้อย กับการที่อยู่ๆ มีคนกรุงมาลุยบุกเบิกที่กลางทุ่งนาป่าเขา ตรงที่ชาวบ้านคุ้ยเคยแค่ทำนาเลี้ยงวัว
สุดท้ายเรื่องโรงเรือนปลูก ซึ่งตัดสินใจลงทุนซื้อความรู้ให้มืออาชีพมาดำเนินการให้
กับเรื่องที่ไม่ชำนาญ ก็ได้แค่เทียบราคา คุณภาพ และความเหมาะสมกันไป
หลังตระเวนไปหลายย่านน้ำที่จะสะดวกไป เพื่อเปิดโลกทัศน์ ก็พบว่า "คิโมจิ" เธอกลายเป็นพันธุ์ที่ประทับใจที่สุด หอม หวาน ชวนมอง
พร้อมๆ กับการทำความเข้าใจ หาข้อมูลว่าต้องดูแลอย่างไร และพบว่า เธอเอาใจยากเหลือเกิน โดยเฉพาะถ้าจะ "ปลูกแบบปลอดสารพิษ" อย่างตั้งใจ
แต่จะกลัวอะไร ก็ลูกชาวสวน ถ้าไม่ลงมือทำ ก็ไม่ได้บทเรียน
(...ยังมีต่อ...)
แวะเยี่ยมชมที่:
https://www.facebook.com/Torry.Farm.Prachinburi/
แวะคุย Line ที่: Torry.Farm
เมล่อนคิโมจิ บทเริ่มต้นของความหอมหวานที่ต้องพิสูจน์
ด้วยความฝันที่ต้องการจะทำเกษตรผสมผสาน เพื่อต่อยอดเป็นแหล่งการเรียนรู้ และเปิดให้คนเข้ามาเยี่ยมชม ซึ่งเป็นการคิดการใหญ่ไม่น้อย
แต่คงตอบโจทย์ความต้องการของชีวิตมากทีเดียว สำหรับลูกชาวสวนที่เกิดและโตในกรุง ทำงานในหน่วยราชการด้านส่งเสริมเศรษฐกิจ ทว่าแพ้เมืองกรุงเข้าไปทุกวัน
การต้องเจอผู้คนมากมายหลากหลายวัฒนธรรมภาษา ถ้าวันนึงออกจากชีวิตตรงนี้ไป ก็ยังอยากพบปะผู้คนทำประโยชน์อะไรได้ต่อไป
แล้วจะทำอย่างไร ให้การทำเกษตรผสานไปกับธุรกิจสมัยใหม่ ด้วยต้นทุนมีน้อยถึงไม่มีเลย
จึงเชื่อว่า "เมล่อน" จะสร้างกำไรให้ได้ในระยะสั้น ที่สามารถหมุนเวียนเงินลงทุนได้สำหรับสนับสนุนแผนระยะกลางและยาวต่อไป
กระนั้น การจะเข้ามาในธุรกิจนี้ทีหลังคนอื่นนั้นก็ไม่ง่าย ถ้าไม่ทำตลาดให้ตรงจุดหรือมีความโดดเด่นกว่าใคร
เส้นทางจากนี้จึงขออาศัย "เมล่อน" เป็นจุดเริ่มต้นในการต่อยอด สร้างความหลากหลายในการทำเกษตรผสมผสานให้แตกต่าง
รวมกับพื้นฐานอาชีพเกษตรกรรมจากพ่อ ที่อยู่ในสายเลือดตลอดมา แม้จะร้างราไปนานสู่ชีวิตมนุษย์เงินเดือน
เริ่มเรื่องราวสั้นๆ ในการหาพื้นที่ที่ต้องลงทุนลงแรง กระนั้นก็ได้ทำเลที่ถูกต้องพอใจ ท่ามกลางขุนเขาและมีน้ำพอเพียง ที่ปราจีนบุรี
แม้ต้องอดทนยาวนานกับระบบเอกสาร การจัดหาสาธารณูปโภคเอง และเรื่องราวระหว่างทางอีกมากมาย
ทั้งปัญหาการสร้างที่พักที่งบบานปลาย ปัญหากับคนอีกหลากเรื่อง ยังต้องมาปรับพื้นที่เองด้วยการเป็นเกษตรกรนอกเวลาราชการ (ไม่ง่ายเลย)
แถมชาวบ้านในพื้นที่ยังแปลกใจไม่น้อย กับการที่อยู่ๆ มีคนกรุงมาลุยบุกเบิกที่กลางทุ่งนาป่าเขา ตรงที่ชาวบ้านคุ้ยเคยแค่ทำนาเลี้ยงวัว
สุดท้ายเรื่องโรงเรือนปลูก ซึ่งตัดสินใจลงทุนซื้อความรู้ให้มืออาชีพมาดำเนินการให้
กับเรื่องที่ไม่ชำนาญ ก็ได้แค่เทียบราคา คุณภาพ และความเหมาะสมกันไป
หลังตระเวนไปหลายย่านน้ำที่จะสะดวกไป เพื่อเปิดโลกทัศน์ ก็พบว่า "คิโมจิ" เธอกลายเป็นพันธุ์ที่ประทับใจที่สุด หอม หวาน ชวนมอง
พร้อมๆ กับการทำความเข้าใจ หาข้อมูลว่าต้องดูแลอย่างไร และพบว่า เธอเอาใจยากเหลือเกิน โดยเฉพาะถ้าจะ "ปลูกแบบปลอดสารพิษ" อย่างตั้งใจ
แต่จะกลัวอะไร ก็ลูกชาวสวน ถ้าไม่ลงมือทำ ก็ไม่ได้บทเรียน
(...ยังมีต่อ...)
แวะเยี่ยมชมที่: https://www.facebook.com/Torry.Farm.Prachinburi/
แวะคุย Line ที่: Torry.Farm