[CR] ทริปฉลองคานทองตอนที่ 2 ใส่กิโมโน ทัวร์โตเกียว ฉลองคานทองข้ามปี (Count down in Tokyo)

หลังจากที่พาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้มาแล้ว https://ppantip.com/topic/36115478 #ทริปฉลองคานทองครั้งสุดท้ายนี้ยังไม่จบนะคะ (ชื่อทริปเป็นเยี่ยงนี้มิใช่เพราะจะมีสามีหรอกนะเคอะ เพียงแต่ไม่มีตังค์จะเที่ยวแล้วค่ะ หุหุ) เรามาต่อกันที่จุดหมายปลายทางต่อไปนั่นคือ โตคโยยยยยยยย (จริตแนะนำตัวแบบนางงาม) หรือโตเกียวนั่นแหละค่ะ คิดว่าเพื่อน ๆ คงเคยได้อ่านรีวิวเที่ยวโตเกียวมาเยอะแล้วพอสมควร เพราะเดี๋ยวนี้ประเทศญี่ปุ่นฟรีวีซ่าให้เรา 15 วัน จึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางอันฮอตฮิตของนักท่องเที่ยวไทยอย่างเรา ถ้าอยากอ่านกระทู้เพื่อความบันเทิง เรียนเชิญกระทู้นี้เลยค่ะ



คำนำ:
- กระทู้รีวิวจากประสบการณ์และความคิดเห็นของเจ้าของกระทู้นะคะ อาจไม่ถูกต้องไปทุกอย่าง ถ้ามีอะไรแก้ไข ยินดีน้อมรับค่ะ

- ภาษาที่ใช้ในการรีวิวอาจเป็นภาษาชะนีจริตกระเทย เพราะการรีวิวของดิฉันเปรียบเสมือนการเล่าให้เพื่อนสาวฟัง อย่างไรก็ตาม ณ ช่วงนี้ไม่เหมาะที่จะแสดงความรื่นเริงมากนะ จะพยายามลด ๆ นะคะ

- น้ำยาวมาก แต่เนื้อนิดเดียว ถ้าจะหาสาระก็เหนื่อยหน่อยนะคะ

- เป็นคนถ่ายรูปไม่สวยค่ะ หน้าตาสวยอย่างเดียว (มั่นหน้ามากกกกก) ใช้กล้อง iPhone7 ที่ผ่อน 0% 10 เดือนอีกแล้ว กับกล้อง Nikon 1 J5 ของเพื่อนสาว ถ้ารูปไหนถ่ายกลางคืนและจัดองค์ประกอบดีส่วนใหญ่จะมาจากกล้องเพื่อนสาวค่ะ

จากการที่เพื่อนสาวเช็กค่าตั๋วเครื่องบินเล่น ๆ ใน expedia จึงได้ตั๋วราคาถูกของ China Eastern ในราคา 14,413 บาท (แต่ไปจองใน cheapoair นะคะ เพราะถูกกว่าเยอะ) รวมประกันการเดินทางแล้ว เส้นทางบินคือ กรุงเทพฯ-เซี่ยงไฮ้-โตเกียว-กรุงเทพฯ ได้ตั๋วราคานี้แถมได้เที่ยวสองประเทศ มีหรือคะพวกเราจะเท จัดไปค่ะ

ก่อนออกเดินทางอ่านหนังสือเล่มนี้ค่ะ



วันที่หนึ่ง
28 ธันวาคม 2559


ออกเดินทางจาก Pudong International Airport หรือที่พวกเราชาวห้องบลูแพล็นเน็ตเรียกกันเล่น ๆ ว่า สนามปินปูดอง เที่ยวบินเวลา 12.00 ถึงสนามบินนาริตะ เวลาประมาณ 15.55 เวลาเร็วกว่าที่เซี่ยงไฮ้ 1 ชั่วโมง หรือถ้าเทียบกับเวลาที่เมืองไทยก็เร็วกว่า 2 ชั่วโมง

ระหว่างอยู่บนเครื่องก็กรอกเอกสารสองอย่างคือ Immigration Form และใบของศุลกากร แต่ยังไม่ทันกรอกเสร็จ คุณแอร์คนสวยก็บอกว่าเครื่องจะลงแล้วจ้ะ กรุณาเก็บสัมภาระให้เรียงร้อย ดิฉันก็มัวแต่เวิ่นเว้อเปลี่ยนที่นั่ง เพราะที่นั่งที่ได้รับตอนแรกมันไม่สามารถใช้ flight entertainmentได้ (flight นี้ เครื่องบินลำใหญ่กว่าขามาจากกทม.-เซี่ยงไฮ้)คุณแอร์ก็เลยให้เปลี่ยนไปนั่งใกล้ทางออกฉุกเฉิน เลยกรอกใบนี้ไม่เสร็จ




ผ่านตม.มาได้อย่างไม่มีปัญหา แค่คุณตม.สุดหล่อเพ่งหน้าแล้วเพ่งหน้าอีก เป็นเพราะดิฉันสวยใช่ไหมคะ อิอิ แต่ปล่อยดิฉันเข้าไปเทียวประเทศคุณเถอะค่ะ คุณตม.สุดหล่อแค่ถามว่ามากี่วัน มากับใคร แค่นี้ นายก็ปั๊มให้ดิฉันสวยๆ เลยค่ะ แหม…..จ้องหน้าหนูอยู่ต่างนาน แอบชอบหนูก็ไม่บอก (มโนตั้งแต่เหยียบแผ่นดินญี่ปุ่นเลยนะ) ส่วนศุลกากรก็ผ่านอย่างสวยๆ ดิฉันกับเพื่อนสาวกรอกแยกใบกัน และผ่านด่านศุลกากรกันที่ละคน

ออกมาจากตม.และศุลกากรได้แล้วก็มองหาเคาน์เตอร์ Tourist Information Center เลยค่ะ พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส แถมมีโบรชัวร์ภาษาไทยแจกให้ด้วย


เดินลงไปชั้นล่างก็เห็นป้ายบอกทางไปสถานีรถไฟ


จุดหมายปลายทางของเราคือ สถานี Asakusabashi จึงต้องนั่ง Keisei Main Line ตั๋วราคา 1100 เยน ไปชานชาลาที่ 3 เลยค่ะ


แผนที่รถไฟ Tokyo Subway Route Map นี้ได้มาจากเจ้าหน้าที่Tourist Information Center นางก็อุตส่าห์อธิบายซะดิบดีว่าให้เปลี่ยนขบวนที่สถานี Aoto นะ แต่ด้วยความฉลาดของดิฉัน (ประชดค่ะ) เห็นพนักงานไฮไลท์ชื่อสถานี Takasago ทั้งๆ ที่เพื่อนสาวก็บอกว่านะจะ Aoto นะ ดิฉันก็ยังมั่นหน้ามั่นโหนกพาเพื่อนเปลี่ยนที่ Takasago ผลคือไปโผล่ที่สถานี Ueno ความจริงจะหาทางเปลี่ยนสายกลับมาที่ Asakusabashiได้ แต่ด้วยความกลัวหลงทางและลากกระเป๋าหนักเกือบ 20 กิโล ก็เลยนั่งย้อนกลับไปที่Aoto เพื่อเปลี่ยนขบวนไปยัง Asakusabashi



เคยเสิร์ชมาก่อนใน hyperdia แล้วว่าต้องเปลี่ยนที่ Aoto 5555 ง่าวใบ้ง่าวง่าว>>ด่าตัวเอง

ความมั่นหน้ามั่นโหนกของดิฉันยังไม่หมดแค่นี้ค่ะ พอถึงสถานี Asakusabashi ดิฉันก็บอกเพื่อนสาวว่า เชื่อฉันเราต้องข้ามถนน ฉันเดินเล่นใน google street มา มันต้องข้ามถนนแน่ๆ พอข้ามไปปุ๊ปเดินแล้วก็ไม่เห็นโรงแรมสักที เห็นแต่บ้านเรือนที่อยู่อาศัย คิดว่าหลงทางอีกแล้วคร่าาาา  อ่ออ๋อย สุมาเตอะเพื่อนสาว เห็นผู้ชายชาวญี่ปุ่นกำลังลากถังขยะอยู่ (ดิฉันไม่ได้อ่อยอะไรนางนะคะ คือหลงทางอยู่ งดคันค่ะ) ก็เลยถามทางและยื่นที่อยู่โรงแรมซึ่งเพื่อนสาวปริ้นท์ออกมาเป็นภาษาญี่ปุ่น (นางรอบคอบมาก) เค้าเขียนแผนที่ให้ดิฉันดู ก็แอร๊ยยยยยย ทำไมเค้าให้ดิฉันกลับไปถนนหลัก (เค้าเขียนว่า Main street) ก็เลยเดินย้อนกลับเห็นกลุ่มพ่อบ้านชาวญ่ปุ่น ตะโกนเหมือนเตือนว่า ระวังฟืนไฟ ที่เราเคยเห็นในการ์ตูนญี่ปุ่นเลยค่ะ คุณลุงคนหนึ่งก็อาสาเดินมาส่งเราที่ปากซอย Main street ตามที่ผู้ชายคนแรกเขียนเลยค่ะ ปรากฏคือ ความจริงเราไม่ต้องข้ามถนนเลย แค่ออกจากสถานี เดินย้อนหลังไปแค่ 2 บล็อกก็จะถึงโรงแรมแล้วคร่าาาาาาาา
ชื่อสินค้า:   โตเกียว Tokyo
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่