ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องเพลงและเพื่อนสมาชิกทุกท่าน
เคยเห็นพี่โอ้ตั้งกระทู้เรื่องสามก๊กไป ก็เลยจะนำตอนหนึ่งในเรื่องนั้นมาเสนอ
เป็นตอนที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี นั่นคือตอนที่ขงเบ้งกำลังพลาดพลั้ง โดนทัพสุมาอี้มาล้อมเมือง
ขงเบ้งจำต้องใช้
กลเปิดเมือง หรือกลเมืองร้าง ซึ่งถือเป็น 1 ใน 36 กลยุทธ์ ตำราพิชัยสงคราม
ที่จริงแล้ว กลเปิดเมืองนี้ ไม่ใช่ขงเบ้งใช้เป็นคนแรก เพียงแต่เหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่างหนึ่งที่เราคุ้นเคยกัน
และมีคนวิเคราะห์ไว้ว่าตอนขงเบ้งดีดพิณนี้ไม่มีจริงในประวัติศาสตร์ แต่ล่อกวนตงแต่งขึ้นมา
โดยมี "บันทึกจ่อจ้วน แคว้นฉู่กลืนแคว้นเล็ก" มาเป็นพื้นฐานแห่งแรงบันดาลใจ
เจตนาก็เพื่อชู ขงเบ้ง ให้สูงเด่นเหนือกว่า สุมาอี้
ไม่ว่าจะมีจริงหรือไม่ เราก็ถือว่าศึกษาในมุมมองของกลยุทธ์แล้วกันค่ะ
ขงเบ้งดีดพิณ ตัวอย่างของกลเปิดเมือง หรือกลเมืองร้าง
หลังจากขงเบ้งพลาดใช้ม้าเจ๊ก จนเสียทีสุมาอี้ เหลือทหารไม่กี่พัน ต้องรีบถอยทัพโดยด่วน
แต่สุมาอี้ก็ขนทหารเป็นกองทัพมาประชิดเมืองเสียแล้ว จะหนีก็ไม่ทันการ
ขงเบ้งจึงวางแผนเปิดประตูเมือง ให้ชาวเมืองออกมากวาดใบไม้ ทำเป็นปกติมากที่สุด แล้วตัวเองมานั่งดีดพิณบนหอ
ในหนังสือกล่าวว่า "แล้วขงเบ้งสวมเสื้อครุยขนนกโพกศีรษะ ให้เด็กน้อย 2 คนยกพิณขึ้นไปนั่งบนกำแพง
แลตั้งกระถางธูปบูชาไว้เบื้องหน้า พลางนั่งดีดพิณเล่นอยู่อย่างเพลิดเพลิน"
สุมาอี้จึงระแวงว่าขงเบ้งต้องมีทหารหรือกับดักซุ่มในเมืองแน่ๆ
ขงเบ้งยังรู้อีกว่าสุมาอี้เชี่ยวชาญดนตรี เลยดีดพิณที่ทำนองสุขุมลุ่มลึก แต่แฝงแววฆ่าฟัน
จนสุมาอี้ถึงกลับอกสั่นขวัญแขวน สั่งถอยทัพแบบไม่เป็นขบวน พลาดโอกาสได้ชัยต่อขงเบ้งอย่างน่าเสียดาย
ความลับ
สุมาอี้หารู้ไม่ ขงเบ้งเอง ดีดพิณไป ก็เหงื่อตกไป 555
พอสุมาอี้ถอยทัพแล้ว ขงเบ้งถึงกับถอนใจว่า "เสี่ยงเหลือเกิน" ไม่จำเป็นก็ไม่ใช้วิธีนี้แน่ๆ
สุดท้าย กว่าสุมาอี้จะรู้ตัวว่าเสียรู้ให้ขงเบ้ง ขงเบ้งก็พ้นวิกฤติในครานั้นไปเสียแล้ว
"ประตูเมืองเปิดกว้างทั้งสี่ด้าน
มีชาวบ้านกวาดกันขยันอยู่
เสียงพิณลอยเรื่อยไหลใครฟังดู
เพลงรื่นหูผ่อนคลายสบายใจ
หน้าขงเบ้งแช่มชื่นครึกครื้นนัก
เสียงสายพิณแน่นหนักมากพลิ้วไหว
สองข้างกายมีเด็กเล็กอ่อนวัย
ถือกระบี่แส้ไว้ไร้ตื่นกลัว
เชิงกำแพงธงรบเก็บหลบเร้น
ภาพขงเบ้งจึงเด่นใครเห็นทั่ว
ส่วนนอกเมืองมองไปใจเต้นรัว
ต่างสุดขั้วทัพใหญ่ได้ประชิด
กำลังพลคับคั่งทั้งเนืองแน่น
เต็มผืนแผ่นพสุธาข้าศึกปิด
ควันฝุ่นฟุ้งธงไสวไปทั่วทิศ
คือทัพติดรุกกร้าวเข้าตีเมือง
แม่ทัพใหญ่โฉมหน้าสุมาอี้
พ่ายกลศึกหลายทีที่ต่อเนื่อง
ชักม้าศึกออกหน้าตาชำเลือง
เพ่งสู่เบื้องกำแพงแหล่งเสียงพิณ
พิเคราะห์ดูตกใจในกลศึก
เกรงขงเบ้งจนนึกลึกเกินสิ้น
เร่งสั่งทัพรีบถอยถ้อยได้ยิน
ทั้งแผ่นดินสะท้านพิณต้านทัพ?"
ขอบคุณที่มาข้อมูล กลอน และภาพ
http://oknation.nationtv.tv/blog/Aloneinthedark/2008/09/29/entry-1
http://topicstock.ppantip.com/sinthorn/topicstock/I3583499/I3583499.html
https://ppantip.com/topic/31329773
http://daily.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hOekV3TURFMU5nPT0
............................................
กลนี้ไม่ใช่ใครๆ ก็ใช้ได้ แต่คนใช้ต้องมีเครดิตพอที่ศัตรูจะประเมินว่าเขาวางกับดัก มีขุมกำลัง หรือมีแผนอะไรหรือไม่
อีกทั้งต้องรู้เขา รู้เรา เป็นคนมีสติ หนักแน่น วัดใจกันอย่างหมดหน้าตัก
ขงเบ้งตีขิม - สุเทพ วงศ์กำแหง
https://www.youtube.com/watch?v=r3dAw6VM4N4
ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม...มีแต่เสียง 3/4/2017 (ขงเบ้งดีดพิณ: กลเปิดเมือง)
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องเพลงและเพื่อนสมาชิกทุกท่าน
เคยเห็นพี่โอ้ตั้งกระทู้เรื่องสามก๊กไป ก็เลยจะนำตอนหนึ่งในเรื่องนั้นมาเสนอ
เป็นตอนที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี นั่นคือตอนที่ขงเบ้งกำลังพลาดพลั้ง โดนทัพสุมาอี้มาล้อมเมือง
ขงเบ้งจำต้องใช้กลเปิดเมือง หรือกลเมืองร้าง ซึ่งถือเป็น 1 ใน 36 กลยุทธ์ ตำราพิชัยสงคราม
ที่จริงแล้ว กลเปิดเมืองนี้ ไม่ใช่ขงเบ้งใช้เป็นคนแรก เพียงแต่เหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่างหนึ่งที่เราคุ้นเคยกัน
และมีคนวิเคราะห์ไว้ว่าตอนขงเบ้งดีดพิณนี้ไม่มีจริงในประวัติศาสตร์ แต่ล่อกวนตงแต่งขึ้นมา
โดยมี "บันทึกจ่อจ้วน แคว้นฉู่กลืนแคว้นเล็ก" มาเป็นพื้นฐานแห่งแรงบันดาลใจ
เจตนาก็เพื่อชู ขงเบ้ง ให้สูงเด่นเหนือกว่า สุมาอี้
ไม่ว่าจะมีจริงหรือไม่ เราก็ถือว่าศึกษาในมุมมองของกลยุทธ์แล้วกันค่ะ
ขงเบ้งดีดพิณ ตัวอย่างของกลเปิดเมือง หรือกลเมืองร้าง
หลังจากขงเบ้งพลาดใช้ม้าเจ๊ก จนเสียทีสุมาอี้ เหลือทหารไม่กี่พัน ต้องรีบถอยทัพโดยด่วน
แต่สุมาอี้ก็ขนทหารเป็นกองทัพมาประชิดเมืองเสียแล้ว จะหนีก็ไม่ทันการ
ขงเบ้งจึงวางแผนเปิดประตูเมือง ให้ชาวเมืองออกมากวาดใบไม้ ทำเป็นปกติมากที่สุด แล้วตัวเองมานั่งดีดพิณบนหอ
ในหนังสือกล่าวว่า "แล้วขงเบ้งสวมเสื้อครุยขนนกโพกศีรษะ ให้เด็กน้อย 2 คนยกพิณขึ้นไปนั่งบนกำแพง
แลตั้งกระถางธูปบูชาไว้เบื้องหน้า พลางนั่งดีดพิณเล่นอยู่อย่างเพลิดเพลิน"
สุมาอี้จึงระแวงว่าขงเบ้งต้องมีทหารหรือกับดักซุ่มในเมืองแน่ๆ
ขงเบ้งยังรู้อีกว่าสุมาอี้เชี่ยวชาญดนตรี เลยดีดพิณที่ทำนองสุขุมลุ่มลึก แต่แฝงแววฆ่าฟัน
จนสุมาอี้ถึงกลับอกสั่นขวัญแขวน สั่งถอยทัพแบบไม่เป็นขบวน พลาดโอกาสได้ชัยต่อขงเบ้งอย่างน่าเสียดาย
ความลับ
สุมาอี้หารู้ไม่ ขงเบ้งเอง ดีดพิณไป ก็เหงื่อตกไป 555
พอสุมาอี้ถอยทัพแล้ว ขงเบ้งถึงกับถอนใจว่า "เสี่ยงเหลือเกิน" ไม่จำเป็นก็ไม่ใช้วิธีนี้แน่ๆ
สุดท้าย กว่าสุมาอี้จะรู้ตัวว่าเสียรู้ให้ขงเบ้ง ขงเบ้งก็พ้นวิกฤติในครานั้นไปเสียแล้ว
มีชาวบ้านกวาดกันขยันอยู่
เสียงพิณลอยเรื่อยไหลใครฟังดู
เพลงรื่นหูผ่อนคลายสบายใจ
หน้าขงเบ้งแช่มชื่นครึกครื้นนัก
เสียงสายพิณแน่นหนักมากพลิ้วไหว
สองข้างกายมีเด็กเล็กอ่อนวัย
ถือกระบี่แส้ไว้ไร้ตื่นกลัว
เชิงกำแพงธงรบเก็บหลบเร้น
ภาพขงเบ้งจึงเด่นใครเห็นทั่ว
ส่วนนอกเมืองมองไปใจเต้นรัว
ต่างสุดขั้วทัพใหญ่ได้ประชิด
กำลังพลคับคั่งทั้งเนืองแน่น
เต็มผืนแผ่นพสุธาข้าศึกปิด
ควันฝุ่นฟุ้งธงไสวไปทั่วทิศ
คือทัพติดรุกกร้าวเข้าตีเมือง
แม่ทัพใหญ่โฉมหน้าสุมาอี้
พ่ายกลศึกหลายทีที่ต่อเนื่อง
ชักม้าศึกออกหน้าตาชำเลือง
เพ่งสู่เบื้องกำแพงแหล่งเสียงพิณ
พิเคราะห์ดูตกใจในกลศึก
เกรงขงเบ้งจนนึกลึกเกินสิ้น
เร่งสั่งทัพรีบถอยถ้อยได้ยิน
ทั้งแผ่นดินสะท้านพิณต้านทัพ?"
ขอบคุณที่มาข้อมูล กลอน และภาพ
http://oknation.nationtv.tv/blog/Aloneinthedark/2008/09/29/entry-1
http://topicstock.ppantip.com/sinthorn/topicstock/I3583499/I3583499.html
https://ppantip.com/topic/31329773
http://daily.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hOekV3TURFMU5nPT0
............................................
กลนี้ไม่ใช่ใครๆ ก็ใช้ได้ แต่คนใช้ต้องมีเครดิตพอที่ศัตรูจะประเมินว่าเขาวางกับดัก มีขุมกำลัง หรือมีแผนอะไรหรือไม่
อีกทั้งต้องรู้เขา รู้เรา เป็นคนมีสติ หนักแน่น วัดใจกันอย่างหมดหน้าตัก
ขงเบ้งตีขิม - สุเทพ วงศ์กำแหง
https://www.youtube.com/watch?v=r3dAw6VM4N4