แต่ละภาค ก็เรียกต่างกันนะ เช่น มะปิน(เหนือ) มะตูมบ้าน, กะทันตาเถร, ตูม(ใต้), บักตูม(อีสาน), ตุ่มตัง
อ่านทางเน้!
ใครที่มาอาการแปรปรวนในเรื่องของลำไส้ แล้วเคยถูกหมอ ส่องกล้องบ้าง สอดแป้งบ้างกันมาแล้ว? (นอกจากจะป่วย แบบ 3วันดี 4วันไข้แล้วก็ยังมีเรื่องนี้อีก)
ผมขอมาแชร์ เกร็ดความรู้ดีดีให้นะครับ ซึ่งผมเองมีประสบการณ์ตรงกับเรื่องนี้
ก่อนหน้านี้ เรามีอาการปวดท้องบ่อยๆ เพราะมีอาการกระเพาะอักเสบบ่อยมากๆ (ทานข้าวไม่ค่อยตรงเวลา) จนทำให้ผมเองต้องไปหาหมอทุกเดือน จนสุดท้าย ลำไส้อักเสบ ส่องกล้อง สอดแป้ง ทานยา วนไปยาวไป ตัวเริ่มอ้วน กลม และแบบมีความลงพุงเลยล่ะ....ทำไมถึงอ้วนอะหรอ? ก็เพราะว่าต้องทานข้าวทานยาให้ตรงเวลาไงละจ๊ะ ตัวก็อืด บวม ไม่เคยปล่อยให้ท้องว่างเลย เพราะกลัวกรดในกระเพาะจะทำงานหนักมาก พอทานอาหารดี ก็ดี รอดตัวไป แต่ ทานไม่เลือก/เลือกได้ไม่ดี ก็ มีอาการถ่ายท้อง
เป็นแบบนี้ อยู่ 1 ปีเต็ม เริ่มไม่ไหวล่ะ หาหมอตลอด เจอหน้าหมอมากกว่ากลับบ้านไปเจอหน้าแม่ อีก ทานยาเป็นขนม หลังอาหารของทุกมื้อ เบือมาก (เอาล่ะ บ่นให้ฟังพอล่ะ ขอบคุณนะที่อ่านต่อ)

ต่อไปนี้เป็นเรื่องของการแก้ไข ที่ไม่ใช่ การแพทย์แผนปัจจุบัน ที่ผมอยากนำเสนอ
ผมหันมาเพิ่งยาจากธรรมชาติในเรื่องของสมุนไพร มากขึ้น เพราะ จับเลี้ยงที่อาแปะของผมเคยต้มให้กินมันช่วยให้อาการป่วยไข้ของผมดีขึ้นๆ

ผมเลือกใช้สมุนไพรตามสรรพคุณทางยา เช่น ท้องผูกก็...จัดมะขามแขกไป แต่ พอเราท้องเสีย เราไม่รู้จะทานอะไร เลยหาความรู้เพิ่มเติม จากอาแปะ สุดหล่อของผม นี่แหละ
และผมก็ได้คำตอบจากอาแปะมาว่า “มะตูม” ช่วยได้ ซึ่งเราเคยเจอแต่ มะตูม สำเร็จรูป โห่ หวานโครต เลยคิดอยู่พักนึงจะเอาไงดี
สุดท้าย เอาวะ! ไม่ลองไม่รู้ เราจึงตัดสินใจไปตลาด ซื้อมะตูมแห้ง ที่เป็นแว่นๆตากแห้ง มาต้ม ใส่น้ำตาล นิดนึง แล้วดื่ม ตอนเช้า หลังจากดื่นนอน แทน ชา กาแฟ


เห้ย!!! ผลที่ได้คือดีมากอะ จากนั้น เราก็ปรับ โดย ไม่ใส่น้ำตาล ทานแบบอุ่นๆ พูดเลยว่า ฟินสุดๆ เพราะมันมีกลิ่นหอมนวลๆของกลิ่นมะตูม จากนั้น ผมใช้เวลาไป ได้ เพียงแค่ 1 เดือน ระบบขับถ่าย เราเริ่มมีการปรับตัวที่ดีขึ้น เราไม่ต้องไปหาหมอ หรือ ซื้อยาตามร้านขายยาอีกเลย จากวันนั้น จนวันนี้ ผมก็ยังทำแบบเดิมอยู่ เราดื่มเช้าทุกวันนะ แต่ไม่ได้ตลอดเวลา  
ผมอยากให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีขึ้น เลยนำเอาเรื่องราวนี้มาแชร์ เพราะการไม่โรคเป็นลาภอันประเสริฐ...นะครับ