สวัสดีค่ะ พอดีช่วงนี้เราเห็นหลายๆ คนหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องฉีดไขมันที่หน้า หรือ Fat Grafting ก็เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงให้อ่าน เป็นข้อๆ เผื่อจะได้เป็นอีก 1 ตัวเลือกนะคะ ว่าจะทำหรือไม่ทำ และจะทำที่ไหนดี
แรกเริ่มเดิมที เราเป็นคนไม่ชอบศัลยกรรมอยู่แล้ว แต่ว่าได้มาทำงานเกี่ยวข้องกับเรื่องการแพทย์และศัลยกรรม ก็เลยมีลองๆ บ้าง โดยอย่างแรกเลยที่เราทำ คือ ฉีดฟิลเลอร์คางมา 2 cc ค่ะ แต่ฉีดได้เกือบสองปีแล้ว จากนั้นก็ร้อยไหมจมูก เอาจริงๆ เราเป็นคนกลัวการทำศัลยกรรมากๆ ระดับ 10/10 เลย เห็นได้ แต่ถ้าให้ทำไม่เอาดีกว่า ตื่นเต้น
เรื่องมีอยู่ว่า เดือนกันยายน 2559 เราจะแต่งงาน ก็เลยแบบ นิดนึงนะ ไหนๆ ก็จะเป็นวันสำคัญแล้ว ก็เลยตัดสินใจแก้ไขปัญหารูปหน้าของเรา ในส่วนที่เราคิดว่ามีปัญหาดังนี้
1. แก้มตอบ เวลาถ่ายรูปถ้าไม่ยิ้ม จะเห็นชัดเลย
2. ใต้ตาลึกมาก
3. หน้าผากแบน มีรอยบุ๋ม แต่มีบริเวณกว้างนะคะ
4. ขมับตอบ ร่องแก้มลึก
5. คาง ที่เคยฉีดฟิลเลอร์ ใกล้จะหมด
6. ใบหน้าเริ่มหย่อนคล้อย ไม่เปล่งปลั่ง ผิวหน้ากร้านๆ คิดว่ามาจากเรื่องของอายุที่เข้าเลข3
ลองดูจากรูปด้านล่างนะคะ
เหตุผลหลักๆ ที่เลือกที่นี่ของเราคือ
1. แพทย์
สำคัญมากกกกกกกกกกกก ว่าเป็น "ศัลยแพทย์ตกแต่ง" เพราะมันมีจุดอันตรายหลายจุด เช่น ขมับ ใต้ตา กันพลาดค่ะ ถ้าสวยแล้วตาบอดเราไม่เอา ใครจะมาใส่ดวงตาคืนให้เรา ต้องแยกแยะนะคะ ศัลยแพทย์ตกแต่ง หรือ ศัลยแพทย์ทั่วไปแล้วมาเรียนตกแต่ง หรือ แพทย์ทั่วไป แพทย์หู คอ จมูก แล้วมาเรียนศัลยกรรมเพิ่มสั้นๆ
ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ลองนึกตามนะคะ ว่า ถ้าเรามีรถพ่วงอยู่ 1 คัน ในนั้นเป็นของสำคัญของเรา ต้องการการเคลื่อนย้าย เราต้องการคนขับรถมาขับรถพ่วงคันนี้เราจะเลือกให้คนไหนมาขับ
ประเภท 1 ส่วนบุคคล
ประเภท 2 ขับรถสิบล้อ(ไม่มีพ่วง ไม่ลากจูง)
ประเภท 3 ขับรถสิบล้อ ลากจูง
แน่นอนว่าเราจะเลือกคนขับรถที่มีใบขับขี่ประเภทที่ 3 เพราะเขาได้รับอนุญาตถูกต้อง ผ่านการทดสอบจนได้ใบขบขี่ประเภท3 เขาเข้าใจในการขับรถลากจูง(รถพ่วง)
ดังนั้น การเปรียบเทียบของเราคือ
ประเภท 1 ส่วนบุคคล >> เปรียบเสมือนแพทย์ทั่วไป, แพทย์หู คอ จมูก, แพทย์ผิวหนัง, แพทย์อื่นๆ แต่มาลงคอร์สศัลยกรรมเพิ่ม
ประเภท 2 ขับรถสิบล้อ(ไม่มีพ่วง ไม่ลากจูง) >> เปรียบเสมือน แพทย์ศัลยกรรมทั่วไป
ประเภท 3 ขับรถสิบล้อ ลากจูง >> เปรียบเสมือน แพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง
2. เรื่องของเทคนิคและอุปกรณ์
จากที่เราเกริ่นมาจากขั้นต้นว่า เราได้มาทำงานเกี่ยวข้องกับเรื่องการแพทย์และศัลยกรรม เราก็เลยได้ศึกษาเรื่องนี้ค่อนข้างเยอะ ซึ่งข้อมูลใน Website ที่เขากล่าวไว้ตอบโจทย์เราทั้งหมด (เครดิตจาก website ของคลินิกนะคะ)
เหตุผลที่ควรเลือก VR Clinic
1. นวัตกรรมใหม่ล่าสุดปราศจากผลข้างเคียง
ฉีดไขมันเทคนิคดับเบิ้ลสเต็มเซลล์ เป็นเทคนิคใหม่ล่าสุดที่จะเพิ่มสเต็มเซลล์เข้าไปพร้อมกับไขมัน เมื่อเอาสเต็มเซลล์มาบวกกับเซลล์ไขมันจะทำให้เซลล์ไขมันนั้นอยู่รอดได้มากกว่า เพราะตัวสเต็มเซลล์จะช่วยให้รอด สเต็มเซลล์อยู่ใกล้ตรงไหนก็จะช่วยทำให้เซลล์ไขมันมีชีวิตอยู่ในอัตราที่ดีขึ้น ทำให้มีการสร้างเส้นเลือดเพิ่มขึ้นและตัวสเต็มเซลล์เองก็ยังมีประโยชน์ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเซลล์ไขมัน ทดแทนเซลล์ไขมันที่ตายไปขณะปลูกถ่ายได้ ทั้งนี้ สเต็มเซลล์ที่นำมาใช้คือ สเต็มเซลล์เต็มวัยของคนไข้ โดยเซลล์จะต้องผ่านกรรมวิธีและเทคนิคขั้นสูง ด้วยเครื่องมือที่ส่งตรงมาจากประเทศเกาหลีใต้
2. ทางเลือกใหม่ที่ดีกว่า ประสิทธิภาพสูงกว่า
ผลของการฉีดไขมันเทคนิคดับเบิ้ลสเต็มเซลล์ที่ได้ผลดี คือ มีการติดเยอะ ดังนั้น อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ เป็นปัจจัยสำคัญ ทำให้เซลล์ไขมันนั้นอยู่รอดมากแค่ไหน เทคนิคพิเศษเพื่อลดการกระทบกระเทือนแก่อวัยวะข้างเคียงในการฉีดไขมันเทคนิคดับเบิ้ลสเต็มเซลล์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเลือกใช้ Blunt Cannular นำเข้าจากยุโรปซึ่งได้รับการยอมรับมานาน
3. ผู้นำด้านศัลยกรรมตกแต่งโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การฉีดไขมันเทคนิคดับเบิ้ลสเต็มเซลล์ที่วีอาร์คลินิก จะดำเนินการโดยอาจารย์ศัลยกรรมตกแต่ง ราชวิทยาลัย ซึ่งมีรายชื่ออยู่ในสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย โดยอาจารย์ศัลย์ฯ จะทำการช่วยดีไซน์รูปหน้าให้เหมาะสมที่สุดและแนะนำให้คนไข้เข้าใจในเรื่องฉีดไขมันเทคนิคดับเบิ้ลสเต็มเซลล์ การเลือกเติมในชั้นของผิวหนังของคนไข้แต่ละท่าน เป็นหัวใจของการแก้ปัญหาความไม่เรียบลง ซึ่งต้องใช้ทักษะและประสบการณ์ที่สะสมมาจากคนไข้มากกว่าพันราย
3. เรื่องของราคา
ทางคลินิกแจ้งว่า เหมาทั่วหน้า 60,000 รวมทุกอย่างแล้ว มาขยายความกันค่ะ เขารวมค่าดูดไขมันออกจากต้นขา ค่าฉีดไขมันที่หน้าทั้งหน้าในบริเวณที่เราตกลงกับแพทย์ ค่ายา ค่าติดตามผล ค่าตัดไหม บลาๆๆๆ แล้วนี่เห็นว่ามีโปรโมชั่นใหม่ เติมฟรี 1 ครั้งใน 6 เดือนด้วย (ราคา 2 ครั้งทั่วหน้า 89,999 บาท) จริงๆ ของเราเข้าเดือนที่ 7 แล้ว ถ้าเติมอีกคงจะปิ๊งมาก แต่ว่า....... เรากำลังตั้งครรภ์ได้ 4 เดือน เลยหยุดการทำศัลยกรรมทุกสิ่งอย่างค่ะ
สรุปว่าได้คิวทำ ที่ VR Clinic สาขาสุขุมวิท วันที่ 6 กรกฎาคม 2559 คิวแรก ช่วงประมาณ 11 โมงค่ะ
อาจารย์แพทย์ที่ทำให้ใจดีมาก ให้ข้อมูลอย่างละเอียด ทำไมเอาไขมันที่ขา จะฉีดตรงไหน ยังไงเท่าไหร่ เจ็บให้บอกนะ
เริ่มต้น เขาจะทำความสะอาด บริเวณที่จะดูดไขมันก่อนค่ะ แล้วก็ฉีดยาชา เจ็บจี๊ดๆ แล้วอาจารย์แพทย์ก็ค่อยๆ ดูดไขมันออกจากต้นขาเรา มันจะเจ็บแปล๊บๆ ในระดับที่ทนได้แหละ แต่เราก้อมีร้องโอ๊ะ โอ๊ะ เป็นระยะ ถ้าเราร้อง อาจารย์แพทย์ก็จะย้ายตำแหน่งค่ะ น่ารักจริงๆ
อันนี้เราอาจจะเล่าไม่ละเอียดนะคะ ส่วนใหญ่เราหลับตา รับสัมผัส กับฟังเสียงเอา เพราะเรากลัว
พอได้ไขมันแล้ว พยาบาลก็มาดูดเลือดจากข้อพับเราไป เห็นว่าเอาไปกลั่นให้ได้แต่สเต็มเซลส์ เพื่อมาผสมกับไขมันแล้วฉีดเติมที่ใบหน้า
ตอนจะเติมที่ใบหน้า เขาก็จะทำความสะอาดใบหน้าก่อนค่ะ แล้วอาจารย์แพทย์จะฉีดยาชา ของเราเริ่มที่หน้าผากก่อนเลย พอยาชาเริ่มออกฤทธิ์ ก็ไม่รู้สึกอะไรแล้วค่ะ แต่อาจารย์จะบอกว่ากำลังเติมส่วนใหญ่ จะได้ยินแต่เสียงกึกๆ กืดๆ แต่ไม่เจ็บนะคะ
ระหว่างที่อาจารย์แพทย์กำลังเติมไขมันให้เรา จะได้ยินเขานับอะไรกันไม่รู้ ประมาณว่าเท่าไหร่แล้ว เติมปริมาณเท่าไหร่แล้ว ไม่กล้าถามค่ะ กลัวรบกวนสมาธิ
อาจารย์แพทย์ก็ไล่จาก หน้าผาก ขมับ ใต้ตา ร่องแก้ม แก้มตอบ แล้วใจดีเติมคางให้อีกนิดนึง กว่าจะเสร็จก็ราว 2 ชั่วโมงค่ะ จากนั้นก็เย็บแผลที่ขา และหน้าให้เรา แผลเล็กมากกกกกกกกก
เสร็จสรรพเรียบร้อย ก็ออกมาเปลี่ยนชุด แล้วฟังเจ้าหน้าที่อธิบายเรื่องของการดูแลแผล การทานยาต่างๆ จำได้ว่า แผลที่หน้าโดนน้ำได้ 3 วันตัดไหม ส่วนแผลที่ขาโดนน้ำไม่ได้ 7 วันตัดไหม ต้องพันผ้าที่ขาด้วย กันขาไม่เรียบเนียน เพราะมีการดึงไขมันออกไป ให้ทานยาแก้อักเสบ ยาอะไรอีกจำไม่ได้ค่ะ งดแอลกอฮอล์ งดทานของหมักดอง อาหารทะเล อะไรพวกนี้พื้นฐานค่ะ
หลังจากทำประมาณ 2-3 ชั่วโมง ปวดหัวมากกกกกกกกกตุ่บๆเลย แต่พอทานยาก็บรรเทาค่ะ
อันนี้จะเป็นภาพหลังทำทันที ยังสำราญอยู่ค่ะ
ส่วนรูปนี้เป็นการเก็บภาพของเราเองนะคะ วันที่ 1-7 ค่ะ จำได้เลยว่าวันที่ 3-4 จะบวมช้ำมากค่ะ แต่เราก้อเดินทางขึ้นเครื่องบินในประเทศปกติไม่มีปัญหานะคะ
รูปต่อไปด้านล่างนี้จะเป็นครบ 2 สัปดาห์ กำลังดีเลยค่ะ
รูปต่อไปด้านล่างนี้จะเป็นครบ 1 เดือนค่ะ เป็นแบบหน้าสดๆ เลยนะคะ
มาดูช่วง 2-3 เดือน ในวันสำคัญที่เราตั้งใจฉีดไขมันเพื่อสิ่งนี้นะคะ
รูปต่อไปด้านล่างนี้จะเป็นครบ 4-5 เดือน ช่วงที่เราไปฮันนีมูนแล้วค่ะ
รูปต่อไปด้านล่างนี้จะเป็นครบ 6 เดือนค่ะ
และสุดท้ายจะเป็นรูปปัจจุบันนะคะ หน้าสดๆ เราฉีดไขมันมาได้ 7 เดือนกว่าแล้วค่ะ อวบๆ หน่อยนะคะ ข่าวดีค่ะ
เราถือว่า ที่ไปทำมา อยู่ในระดับพอใจมาก ปลอดภัย ไม่เยอะ ไม่น้อยเกินไป แต่ถ้าเติมอีกรอบคงจะเจ๋งเป้งเลยค่ะ
ตั้งแต่ทำมา มีแต่คนทักว่า หน้าเด็กลงเยอะเลย ผิวหน้าดีขึ้น เรื่องการของแต่งหน้า ใช้ครีมบำรุง ซึมง่ายขึ้นเยอะค่ะ
ใต้ตาเราอาจจะติดไม่เยอะ เราตื่นเต้น ทำเสร็จแล้วดูแลตัวเองไม่ค่อยดี ยิ้มเยอะ พูดเยอะ ไขมันก็ไปไวค่ะ
ถ้าใครกำลังศึกษาข้อมูล เราก็อยากจะเตือนเรื่องของ แพทย์ นะคะ สำคัญมาก สำคัญกว่าคลินิกอีกค่ะ เช็คให้ดี ให้ชัวร์ เราเคยเจอคลินิกนึง เขาว่าเจ้าของคลินิกเป็นศัลยแพทย์ตกแต่ง แต่หมอที่ทำไม่ใช่ค่ะ อ่านดีๆ อ่านเยอะๆ แล้วอย่าลืมดูแลตัวเองหลังทำดีๆนะคะ ไขมันจะได้ติดนานๆค่ะ
สุดท้ายนี้ รูปใช้แอพบ้าง ไม่ใช้บ้าง อย่าดราม่านะคะ เพราะไม่ได้เตรียมไว้รีวิว แต่ดีเลยบอกต่อ ให้โฟกัสที่ความโหนกนูน ความเต็มของใบหน้าและดูเด็กลง ไม่ใช่สีผิวและความเนียน
ขอบพระคุณค่า
[SR] ประสบการณ์ตรง ฉีดไขมันดับเบิ้ลสเต็มเซลล์ทั่วหน้า ที่ VR Clinic (วีอาร์ คลีนิค) ครบ 7 เดือน แบบไม่เติมอะไรเพิ่มเลย
แรกเริ่มเดิมที เราเป็นคนไม่ชอบศัลยกรรมอยู่แล้ว แต่ว่าได้มาทำงานเกี่ยวข้องกับเรื่องการแพทย์และศัลยกรรม ก็เลยมีลองๆ บ้าง โดยอย่างแรกเลยที่เราทำ คือ ฉีดฟิลเลอร์คางมา 2 cc ค่ะ แต่ฉีดได้เกือบสองปีแล้ว จากนั้นก็ร้อยไหมจมูก เอาจริงๆ เราเป็นคนกลัวการทำศัลยกรรมากๆ ระดับ 10/10 เลย เห็นได้ แต่ถ้าให้ทำไม่เอาดีกว่า ตื่นเต้น
เรื่องมีอยู่ว่า เดือนกันยายน 2559 เราจะแต่งงาน ก็เลยแบบ นิดนึงนะ ไหนๆ ก็จะเป็นวันสำคัญแล้ว ก็เลยตัดสินใจแก้ไขปัญหารูปหน้าของเรา ในส่วนที่เราคิดว่ามีปัญหาดังนี้
1. แก้มตอบ เวลาถ่ายรูปถ้าไม่ยิ้ม จะเห็นชัดเลย
2. ใต้ตาลึกมาก
3. หน้าผากแบน มีรอยบุ๋ม แต่มีบริเวณกว้างนะคะ
4. ขมับตอบ ร่องแก้มลึก
5. คาง ที่เคยฉีดฟิลเลอร์ ใกล้จะหมด
6. ใบหน้าเริ่มหย่อนคล้อย ไม่เปล่งปลั่ง ผิวหน้ากร้านๆ คิดว่ามาจากเรื่องของอายุที่เข้าเลข3
ลองดูจากรูปด้านล่างนะคะ
เหตุผลหลักๆ ที่เลือกที่นี่ของเราคือ
1. แพทย์
สำคัญมากกกกกกกกกกกก ว่าเป็น "ศัลยแพทย์ตกแต่ง" เพราะมันมีจุดอันตรายหลายจุด เช่น ขมับ ใต้ตา กันพลาดค่ะ ถ้าสวยแล้วตาบอดเราไม่เอา ใครจะมาใส่ดวงตาคืนให้เรา ต้องแยกแยะนะคะ ศัลยแพทย์ตกแต่ง หรือ ศัลยแพทย์ทั่วไปแล้วมาเรียนตกแต่ง หรือ แพทย์ทั่วไป แพทย์หู คอ จมูก แล้วมาเรียนศัลยกรรมเพิ่มสั้นๆ
ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ลองนึกตามนะคะ ว่า ถ้าเรามีรถพ่วงอยู่ 1 คัน ในนั้นเป็นของสำคัญของเรา ต้องการการเคลื่อนย้าย เราต้องการคนขับรถมาขับรถพ่วงคันนี้เราจะเลือกให้คนไหนมาขับ
ประเภท 1 ส่วนบุคคล
ประเภท 2 ขับรถสิบล้อ(ไม่มีพ่วง ไม่ลากจูง)
ประเภท 3 ขับรถสิบล้อ ลากจูง
แน่นอนว่าเราจะเลือกคนขับรถที่มีใบขับขี่ประเภทที่ 3 เพราะเขาได้รับอนุญาตถูกต้อง ผ่านการทดสอบจนได้ใบขบขี่ประเภท3 เขาเข้าใจในการขับรถลากจูง(รถพ่วง)
ดังนั้น การเปรียบเทียบของเราคือ
ประเภท 1 ส่วนบุคคล >> เปรียบเสมือนแพทย์ทั่วไป, แพทย์หู คอ จมูก, แพทย์ผิวหนัง, แพทย์อื่นๆ แต่มาลงคอร์สศัลยกรรมเพิ่ม
ประเภท 2 ขับรถสิบล้อ(ไม่มีพ่วง ไม่ลากจูง) >> เปรียบเสมือน แพทย์ศัลยกรรมทั่วไป
ประเภท 3 ขับรถสิบล้อ ลากจูง >> เปรียบเสมือน แพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง
2. เรื่องของเทคนิคและอุปกรณ์
จากที่เราเกริ่นมาจากขั้นต้นว่า เราได้มาทำงานเกี่ยวข้องกับเรื่องการแพทย์และศัลยกรรม เราก็เลยได้ศึกษาเรื่องนี้ค่อนข้างเยอะ ซึ่งข้อมูลใน Website ที่เขากล่าวไว้ตอบโจทย์เราทั้งหมด (เครดิตจาก website ของคลินิกนะคะ)
เหตุผลที่ควรเลือก VR Clinic
1. นวัตกรรมใหม่ล่าสุดปราศจากผลข้างเคียง
ฉีดไขมันเทคนิคดับเบิ้ลสเต็มเซลล์ เป็นเทคนิคใหม่ล่าสุดที่จะเพิ่มสเต็มเซลล์เข้าไปพร้อมกับไขมัน เมื่อเอาสเต็มเซลล์มาบวกกับเซลล์ไขมันจะทำให้เซลล์ไขมันนั้นอยู่รอดได้มากกว่า เพราะตัวสเต็มเซลล์จะช่วยให้รอด สเต็มเซลล์อยู่ใกล้ตรงไหนก็จะช่วยทำให้เซลล์ไขมันมีชีวิตอยู่ในอัตราที่ดีขึ้น ทำให้มีการสร้างเส้นเลือดเพิ่มขึ้นและตัวสเต็มเซลล์เองก็ยังมีประโยชน์ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเซลล์ไขมัน ทดแทนเซลล์ไขมันที่ตายไปขณะปลูกถ่ายได้ ทั้งนี้ สเต็มเซลล์ที่นำมาใช้คือ สเต็มเซลล์เต็มวัยของคนไข้ โดยเซลล์จะต้องผ่านกรรมวิธีและเทคนิคขั้นสูง ด้วยเครื่องมือที่ส่งตรงมาจากประเทศเกาหลีใต้
2. ทางเลือกใหม่ที่ดีกว่า ประสิทธิภาพสูงกว่า
ผลของการฉีดไขมันเทคนิคดับเบิ้ลสเต็มเซลล์ที่ได้ผลดี คือ มีการติดเยอะ ดังนั้น อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ เป็นปัจจัยสำคัญ ทำให้เซลล์ไขมันนั้นอยู่รอดมากแค่ไหน เทคนิคพิเศษเพื่อลดการกระทบกระเทือนแก่อวัยวะข้างเคียงในการฉีดไขมันเทคนิคดับเบิ้ลสเต็มเซลล์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเลือกใช้ Blunt Cannular นำเข้าจากยุโรปซึ่งได้รับการยอมรับมานาน
3. ผู้นำด้านศัลยกรรมตกแต่งโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การฉีดไขมันเทคนิคดับเบิ้ลสเต็มเซลล์ที่วีอาร์คลินิก จะดำเนินการโดยอาจารย์ศัลยกรรมตกแต่ง ราชวิทยาลัย ซึ่งมีรายชื่ออยู่ในสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย โดยอาจารย์ศัลย์ฯ จะทำการช่วยดีไซน์รูปหน้าให้เหมาะสมที่สุดและแนะนำให้คนไข้เข้าใจในเรื่องฉีดไขมันเทคนิคดับเบิ้ลสเต็มเซลล์ การเลือกเติมในชั้นของผิวหนังของคนไข้แต่ละท่าน เป็นหัวใจของการแก้ปัญหาความไม่เรียบลง ซึ่งต้องใช้ทักษะและประสบการณ์ที่สะสมมาจากคนไข้มากกว่าพันราย
3. เรื่องของราคา
ทางคลินิกแจ้งว่า เหมาทั่วหน้า 60,000 รวมทุกอย่างแล้ว มาขยายความกันค่ะ เขารวมค่าดูดไขมันออกจากต้นขา ค่าฉีดไขมันที่หน้าทั้งหน้าในบริเวณที่เราตกลงกับแพทย์ ค่ายา ค่าติดตามผล ค่าตัดไหม บลาๆๆๆ แล้วนี่เห็นว่ามีโปรโมชั่นใหม่ เติมฟรี 1 ครั้งใน 6 เดือนด้วย (ราคา 2 ครั้งทั่วหน้า 89,999 บาท) จริงๆ ของเราเข้าเดือนที่ 7 แล้ว ถ้าเติมอีกคงจะปิ๊งมาก แต่ว่า....... เรากำลังตั้งครรภ์ได้ 4 เดือน เลยหยุดการทำศัลยกรรมทุกสิ่งอย่างค่ะ
สรุปว่าได้คิวทำ ที่ VR Clinic สาขาสุขุมวิท วันที่ 6 กรกฎาคม 2559 คิวแรก ช่วงประมาณ 11 โมงค่ะ
อาจารย์แพทย์ที่ทำให้ใจดีมาก ให้ข้อมูลอย่างละเอียด ทำไมเอาไขมันที่ขา จะฉีดตรงไหน ยังไงเท่าไหร่ เจ็บให้บอกนะ
เริ่มต้น เขาจะทำความสะอาด บริเวณที่จะดูดไขมันก่อนค่ะ แล้วก็ฉีดยาชา เจ็บจี๊ดๆ แล้วอาจารย์แพทย์ก็ค่อยๆ ดูดไขมันออกจากต้นขาเรา มันจะเจ็บแปล๊บๆ ในระดับที่ทนได้แหละ แต่เราก้อมีร้องโอ๊ะ โอ๊ะ เป็นระยะ ถ้าเราร้อง อาจารย์แพทย์ก็จะย้ายตำแหน่งค่ะ น่ารักจริงๆ
อันนี้เราอาจจะเล่าไม่ละเอียดนะคะ ส่วนใหญ่เราหลับตา รับสัมผัส กับฟังเสียงเอา เพราะเรากลัว
พอได้ไขมันแล้ว พยาบาลก็มาดูดเลือดจากข้อพับเราไป เห็นว่าเอาไปกลั่นให้ได้แต่สเต็มเซลส์ เพื่อมาผสมกับไขมันแล้วฉีดเติมที่ใบหน้า
ตอนจะเติมที่ใบหน้า เขาก็จะทำความสะอาดใบหน้าก่อนค่ะ แล้วอาจารย์แพทย์จะฉีดยาชา ของเราเริ่มที่หน้าผากก่อนเลย พอยาชาเริ่มออกฤทธิ์ ก็ไม่รู้สึกอะไรแล้วค่ะ แต่อาจารย์จะบอกว่ากำลังเติมส่วนใหญ่ จะได้ยินแต่เสียงกึกๆ กืดๆ แต่ไม่เจ็บนะคะ
ระหว่างที่อาจารย์แพทย์กำลังเติมไขมันให้เรา จะได้ยินเขานับอะไรกันไม่รู้ ประมาณว่าเท่าไหร่แล้ว เติมปริมาณเท่าไหร่แล้ว ไม่กล้าถามค่ะ กลัวรบกวนสมาธิ
อาจารย์แพทย์ก็ไล่จาก หน้าผาก ขมับ ใต้ตา ร่องแก้ม แก้มตอบ แล้วใจดีเติมคางให้อีกนิดนึง กว่าจะเสร็จก็ราว 2 ชั่วโมงค่ะ จากนั้นก็เย็บแผลที่ขา และหน้าให้เรา แผลเล็กมากกกกกกกกก
เสร็จสรรพเรียบร้อย ก็ออกมาเปลี่ยนชุด แล้วฟังเจ้าหน้าที่อธิบายเรื่องของการดูแลแผล การทานยาต่างๆ จำได้ว่า แผลที่หน้าโดนน้ำได้ 3 วันตัดไหม ส่วนแผลที่ขาโดนน้ำไม่ได้ 7 วันตัดไหม ต้องพันผ้าที่ขาด้วย กันขาไม่เรียบเนียน เพราะมีการดึงไขมันออกไป ให้ทานยาแก้อักเสบ ยาอะไรอีกจำไม่ได้ค่ะ งดแอลกอฮอล์ งดทานของหมักดอง อาหารทะเล อะไรพวกนี้พื้นฐานค่ะ
หลังจากทำประมาณ 2-3 ชั่วโมง ปวดหัวมากกกกกกกกกตุ่บๆเลย แต่พอทานยาก็บรรเทาค่ะ
อันนี้จะเป็นภาพหลังทำทันที ยังสำราญอยู่ค่ะ
ส่วนรูปนี้เป็นการเก็บภาพของเราเองนะคะ วันที่ 1-7 ค่ะ จำได้เลยว่าวันที่ 3-4 จะบวมช้ำมากค่ะ แต่เราก้อเดินทางขึ้นเครื่องบินในประเทศปกติไม่มีปัญหานะคะ
รูปต่อไปด้านล่างนี้จะเป็นครบ 2 สัปดาห์ กำลังดีเลยค่ะ
รูปต่อไปด้านล่างนี้จะเป็นครบ 1 เดือนค่ะ เป็นแบบหน้าสดๆ เลยนะคะ
มาดูช่วง 2-3 เดือน ในวันสำคัญที่เราตั้งใจฉีดไขมันเพื่อสิ่งนี้นะคะ
รูปต่อไปด้านล่างนี้จะเป็นครบ 4-5 เดือน ช่วงที่เราไปฮันนีมูนแล้วค่ะ
รูปต่อไปด้านล่างนี้จะเป็นครบ 6 เดือนค่ะ
และสุดท้ายจะเป็นรูปปัจจุบันนะคะ หน้าสดๆ เราฉีดไขมันมาได้ 7 เดือนกว่าแล้วค่ะ อวบๆ หน่อยนะคะ ข่าวดีค่ะ
เราถือว่า ที่ไปทำมา อยู่ในระดับพอใจมาก ปลอดภัย ไม่เยอะ ไม่น้อยเกินไป แต่ถ้าเติมอีกรอบคงจะเจ๋งเป้งเลยค่ะ
ตั้งแต่ทำมา มีแต่คนทักว่า หน้าเด็กลงเยอะเลย ผิวหน้าดีขึ้น เรื่องการของแต่งหน้า ใช้ครีมบำรุง ซึมง่ายขึ้นเยอะค่ะ
ใต้ตาเราอาจจะติดไม่เยอะ เราตื่นเต้น ทำเสร็จแล้วดูแลตัวเองไม่ค่อยดี ยิ้มเยอะ พูดเยอะ ไขมันก็ไปไวค่ะ
ถ้าใครกำลังศึกษาข้อมูล เราก็อยากจะเตือนเรื่องของ แพทย์ นะคะ สำคัญมาก สำคัญกว่าคลินิกอีกค่ะ เช็คให้ดี ให้ชัวร์ เราเคยเจอคลินิกนึง เขาว่าเจ้าของคลินิกเป็นศัลยแพทย์ตกแต่ง แต่หมอที่ทำไม่ใช่ค่ะ อ่านดีๆ อ่านเยอะๆ แล้วอย่าลืมดูแลตัวเองหลังทำดีๆนะคะ ไขมันจะได้ติดนานๆค่ะ
สุดท้ายนี้ รูปใช้แอพบ้าง ไม่ใช้บ้าง อย่าดราม่านะคะ เพราะไม่ได้เตรียมไว้รีวิว แต่ดีเลยบอกต่อ ให้โฟกัสที่ความโหนกนูน ความเต็มของใบหน้าและดูเด็กลง ไม่ใช่สีผิวและความเนียน
ขอบพระคุณค่า