ผมคิดว่า กาลามสูตร เป็นบทคำสอนในศาสนาพุทธที่ คนในศาสนาพุทธหลายคนชอบยกขึ้นมากล่าวอ้าง เวลาที่ไม่ชอบใจหรือไม่ยอมรับในคำสอนบางเรื่องของศาสนาพุทธเองหรือในความเชื่ออื่น โดยอ้างทำนองว่า พระพุทธเจ้าบอกเองว่าไม่ต้องเชื่อก็ได้
------------------------------------------------------
ในกาลามสูตร เอง บางทีก็ย้อนแย้ง
ในกาลามสูตร ทั้ง 10 ข้อ โดยทั่วไปเป็นเรื่องที่คนส่วนมากมักจะเชื่อ หรือควรจะเชื่อ ทั้งนั้น
เช่น
อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำรา หรือคัมภีร์ (มา ปิฏกสมฺปทาเนน)
อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก (มา ตกฺกเหตุ)
อย่าปลงใจเชื่อ เพราะอนุมาน (มา นยเหตุ)
อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล (มา อาการปริวิตกฺเกน)
อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้าได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว (มา ทิฏฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา)
อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ (มา ภพฺพรูปตาย)
อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา (มา สมโณ โน ครูติ)
ดูราวกับว่า ในกาลามสูตร น่าจะบอกในทำนองกลับกันว่าตาม 10 ข้อ นี้ให้เชื่อได้ (ควรจะเชื่อ ) แต่อย่าเพิ่งเชื่อทันที
ไม่ใช่ว่า ถ้าเป็นอย่าง 10 ข้อนี้แล้ว อย่าไปเชื่อ
ถ้าไม่ให้เชื่อ ใน 10 ข้อ นี้แล้ว ควรเชื่ออะไร
ควรเชื่อฟังคำพูดของโจร คนชั่ว คนพาล หรือ อย่างไร ?
เพราะ คำพูดของโจรพูดออกมาสดๆ ไม่ได้เล่าลือบอกต่อๆกันมา , ไม่ได้ฟังต่อๆกันมา , ไม่ได้ถือต่อๆกันมา , ไม่ได้อ้างตำรา , ไม่ได้เป็นไปตามหลักตรรกะ , ไม่ได้เป็นการคาดคะเน , ไม่ได้สมเหตุผล , ไม่ได้สอดคล้องกับทฤษฎี , ไม่ได้เชื่อเพราะคิดว่าน่าจะเป็นไปได้ และ โจรนั้นไม่ได้เป็นครูของเรา
----------------------------------------------------------------------------
นอกจาก หมวดศาสนาแล้ว ผมได้ใส่ไว้ในหมวดวิทยาศาสตร์ด้วย เพราะ เห็นว่า หลายคนมักกล่าวว่า ศาสนาพุทธสอดคล้องกับวิทยาศาสตร์ ที่ว่าจะเชื่ออะไรต้องไตร่ตรอง ด้วยเหตุผลอย่าเชื่ออย่างงมงาย ในสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ แต่ในกาลามสูตรกล่าวอย่างนั้นหรือไม่ใช่อย่างนั้น ?
ขัดข้องใจ เรื่องกาลามสูตร ( คำสอนในศาสนาพุทธ เรื่อง เชื่อ - ไม่เชื่อ )
------------------------------------------------------
ในกาลามสูตร เอง บางทีก็ย้อนแย้ง
ในกาลามสูตร ทั้ง 10 ข้อ โดยทั่วไปเป็นเรื่องที่คนส่วนมากมักจะเชื่อ หรือควรจะเชื่อ ทั้งนั้น
เช่น
อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำรา หรือคัมภีร์ (มา ปิฏกสมฺปทาเนน)
อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก (มา ตกฺกเหตุ)
อย่าปลงใจเชื่อ เพราะอนุมาน (มา นยเหตุ)
อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล (มา อาการปริวิตกฺเกน)
อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้าได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว (มา ทิฏฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา)
อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ (มา ภพฺพรูปตาย)
อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา (มา สมโณ โน ครูติ)
ดูราวกับว่า ในกาลามสูตร น่าจะบอกในทำนองกลับกันว่าตาม 10 ข้อ นี้ให้เชื่อได้ (ควรจะเชื่อ ) แต่อย่าเพิ่งเชื่อทันที
ไม่ใช่ว่า ถ้าเป็นอย่าง 10 ข้อนี้แล้ว อย่าไปเชื่อ
ถ้าไม่ให้เชื่อ ใน 10 ข้อ นี้แล้ว ควรเชื่ออะไร
ควรเชื่อฟังคำพูดของโจร คนชั่ว คนพาล หรือ อย่างไร ?
เพราะ คำพูดของโจรพูดออกมาสดๆ ไม่ได้เล่าลือบอกต่อๆกันมา , ไม่ได้ฟังต่อๆกันมา , ไม่ได้ถือต่อๆกันมา , ไม่ได้อ้างตำรา , ไม่ได้เป็นไปตามหลักตรรกะ , ไม่ได้เป็นการคาดคะเน , ไม่ได้สมเหตุผล , ไม่ได้สอดคล้องกับทฤษฎี , ไม่ได้เชื่อเพราะคิดว่าน่าจะเป็นไปได้ และ โจรนั้นไม่ได้เป็นครูของเรา
----------------------------------------------------------------------------
นอกจาก หมวดศาสนาแล้ว ผมได้ใส่ไว้ในหมวดวิทยาศาสตร์ด้วย เพราะ เห็นว่า หลายคนมักกล่าวว่า ศาสนาพุทธสอดคล้องกับวิทยาศาสตร์ ที่ว่าจะเชื่ออะไรต้องไตร่ตรอง ด้วยเหตุผลอย่าเชื่ออย่างงมงาย ในสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ แต่ในกาลามสูตรกล่าวอย่างนั้นหรือไม่ใช่อย่างนั้น ?