Okazaki เมืองเล็กๆน่ารัก ไม่ไกลนักจาก Nagoya แหล่งชมซากุระแห่งใหม่ ที่คนไทยน้อยคนนักจะรู้จัก
Okazaki เมืองเล็กๆน่ารัก ไม่ไกลจาก Nagoya นั่งรถไฟต่อเดียวถึงเลย โดยเพื่อนๆ สามารถนั่งรถไฟสาย Tokaido Line จากที่สถานี Nagoya มายังสถานี Higashi Okazaki ใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น และรถไฟจะมาทุก ๆ 15 นาที ราคาเที่ยวละ 620 เยนเท่านั้นเป็นตู้แบบ Non reserved นะคะ คือถ้าไม่มีที่นั่งว่างก็ยืนค่ะ หากเพื่อนๆ มีสัมภาระ อยากนั่งตู้แบบ Reserved สามารถจ่ายเพิ่มได้ประมาณ 300 เยน
Okazaki เป็นเมืองที่เพื่อนๆ สามารถเที่ยวครบภายในวันเดียวนะคะ โดยแต่ละที่สามารถเดินไปได้เพียง 5-15 นาทีเท่านั้น อากาศเย็นสบาย เดินได้ไม่มีเหงื่อแน่นอน หรือแนะนำนอนค้างสักหนึ่งคืนจะได้บรรยากาศช่วงกลางคืน สวยไปอีกแบบค่ะ เริ่มที่แรกกันเลย
Matsui Japanese style candle Atelier
Workshop เพ้นท์เทียน: 2,500 เยน (ได้เทียนผลงานของเรากลับบ้าน 1 อัน)
ที่นี่จะได้ดูขั้นตอนการทำเทียนไขสูตรโบราณของเมืองโอกาซากิ ที่สืบทอดกันมายาวนานกว่า 100 ปีนะคะ คนที่นี่เขาปราณีตมากๆ สมกับราคาแน่นอนค่ะ
ผลงานของทางร้าน ต่อไปก็มาเริ่มกิจกรรมเพ้นท์เทียนกัน
ทางร้านจะเตรียมอุปกรณ์ พู่กัน สีอะคริลิค ให้เป็นชุดๆ พร้อมเทียนคนละ 1 เล่ม เราก็เริ่มเพ้นท์สีลงบนเทียนได้เลย ดีไซน์ตามความชอบได้เลย
ช่วงที่ไปกำลังอินเพิ่งเคยเห็นซากุระเป็นครั้งแรกเลยเพ้นท์เป็นซากุระมันซะเลย เวลาน้อยไปหน่อยทำเท่าที่ได้นะคะ เสร็จเรียบร้อยได้ผลงานของเรากลับบ้านพร้อมกล่องสวยงามค่ะ
http://www.aichi-brand.jp/corporate/type/chemical/matsui-candle-e.html
Okazaki Castle
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 200 เยน เด็ก 100 เยน
ปราสาทโอกาซากิเป็นจุดชมซากุระที่สวยมากๆจุดหนึ่งของเมือง ภายในจะมี 5 ชั้นซึ่งจะมีการแสดงประวัติความเป็นมาของปราสาท ขึ้นไปชั้นบนสุดก็จะเห็นวิวรอบๆเมืองจากมุมสูง ที่นี่มีการแสดงซามุไรด้วยนะคะ ควรเช็คตารางการแสดงล่วงหน้าค่ะ เพราะวันที่เราไปเหล่าซามุไรหยุดเลยอดดูการแสดงค่ะ
วิวปราสาทจากมุมสูงค่ะ สังเกตว่าซากุระยังไม่บาน ก็คงต้องเช็คตารางช่วงเวลาให้ดีก่อนไปนะคะ
ปริเวณปราสาทมีแม่น้ำตัดผ่าน บรรยากาศดีมากๆ มีร้านค้ากำลังเตรียมตั้งร้านเพื่อรองานซากุระบาน (Okazaki Sakura Matsuri)
https://okazaki-kanko.jp/okazaki-park/
ระหว่างทางแวะพักเหนื่อยไปซื้อโมจิสตรอเบอรี่ร้านเจ้าดังของเมือง Okazaki กัน
ชื่อร้านไม่สามารถบอกได้เพราะเป็นภาษาญี่ปุ่น ยังไงเพื่อนๆ ลองหาพิกัดกันดูอีกทีนะคะ คนต่อคิวกันค่อยข้างเยอะเลย ตกชิ้นละ 200 เยนค่ะ
Kakukyu (โรงงานมิโสะสูตรดั้งเดิม)
ค่าเข้าชม: ฟรี
ไปชมแหล่งผลิตฮัทโจ มิโสะ (Hatcho Miso) ประจำเมืองกัน เข้าไปถึงจะมีเจ้าหน้าที่มาคอยดูแล และให้เดินเข้าไปชมเป็นกรุ๊ปเล็กๆ
เดินเข้าไปจะมีการบรรยายขั้นตอนการผลิตมิโสะ พร้อมภาพประกอบเพื่อให้เข้าใจง่าย
มิโสะจะถูกหมักในถังไม้ขนาดใหญ่นี้ ทับไว้ด้วยหินทิ้งไว้ประมาณ 2 ปี เราถึงจะได้ทานกัน
สาธิตขั้นตอนการทำมิโสะ และประวัติความเป็นมา การก่อตั้งของโรงงาน
ชมโรงงานเสร็จ ถึงจุดพักมีร้านอาหารเล็กๆของโรงงาน มีเมนูอาหารให้เลือกเยอะมาก โอเด้ง เต้าหู้ราดมิโสะ ไอศครีม ทุกเมนูจะมีส่วนผสมของมิโสะ
ตอนนั้นคือยังไม่หิวมากเลยจัดไอศครีมมิโสะไป จะบอกว่าอร่อยมากกกกก รสชาติเข้มข้น ไม่ได้มีกลิ่นมิโสะแรงอย่างที่คิดเลย แต่ซอสที่ราดมิโสะมีกลิ่นเบาๆแต่ไม่เป็นอุปสรรค บอกเลยว่ารสชาติเหมือนไอศครีม salt caramel อะไรทำนองนั้น
ทานขนมเสร็จ เดินออกไปต่อจะมีร้านค้าของฝากของโรงงาน เค้าไม่ได้บังคับซื้อนะคะ มีให้ชิมเต็มที่ชอบอะไรก็ซื้อกลับไปได้เลย ส่วนมากจะเป็นมิโสะ และมีขนมที่ทำจากมิโสะต่างๆ
http://www.kakukyu.jp/global/english.asp
ถึงเวลา check in คืนนี้เราพักกันที่โรงแรม
Okazaki New Grand ซึ่งอยู่ใกล้กับ Okazaki Castle มากๆ
วิวจากห้องพักยามค่ำคืน มองเห็นปราสาทสวยมาก ปริเวณปราสาทเริ่มมีการจัดไฟสวยงาม
ได้เวลาอาหารเย็นกันแล้ว มื้อนี้ทานที่โรงแรมเป็นแบบ Dinner buffet ราคาหัวละประมาณ 3,600 เยน ซึ่งถือว่าไม่แพงเลยกับคุณภาพอาหาร และการทานที่ญี่ปุ่น
ห้องอาหารเป็นแบบกระจกใส มองเห็นวิวได้รอบจากชั้น 9 บนสุดของตึก
พนักงานจะให้เลือก main dish คนละ 1 อย่างนะคะ มี 4 อย่างให้เลือกค่ะ เช่นเสต๊กปลา เป็ด เนื้อ หรือกุ้ง
เลือกเสร็จก็เข้าห้องอาหารระหว่างรอ main dish สามารถทานอาหารอื่นๆและเครื่องดื่มได้ไม่อั้น มีบุฟเฟ่ต์เบียร์ด้วยนะคะ
มาแล้วค่ะ main dish ที่เลือกไว้เป็นเสต๊กปลากับซอสขาว
เฉพาะเมนูเสต๊กเนื้อจ่ายเพิ่ม 620 เยนค่ะ
ทานเสร็จก็ต่อด้วยไอศครีม ขนม และผลไม้กันเลย เรียบร้อยก็พักผ่อนตามอัธยาศัยหรือใครอยากไปแช่ออนเซ็นที่โรงแรมนี้ก็มีนะคะ อยู่บนชั้น 9 ชั้นเดียวกับห้องอาหาร เช่นกันกระจกใสรอบเห็นวิวปราสาทอีกเช่นกัน เปิดบริการถึง 21.00 น.(ค่าบริการฟรีสำหรับผู้เข้าพักค่ะ)
วันนี้เตรียม check out ออกโรงแรม เตรียมตัวไปตามหาซากุระกันต่อ เนื่องจากไปกับคนท้องถิ่นเลยรู้แหล่งที่ซากุระกำลังบานพอดี^^
ไปต่อด้วยช้อปปิ้งของฝากที่ห้าง Aeon ของเมือง Okazaki กัน
ช่วงนี้มีโปรโมชั่นพอดีสำหรับนักท่องเที่ยว สามารถดาวน์โหลดคูปองส่วนลด ได้เพิ่ม 5% สามารถใช้ได้จนถึง 31 ธ.ค. 60
มีถุงผ้า Kumamon แจกพร้อมขนม สินค้าตัวอย่างให้กับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ คุ้มค่ามากๆ แถมยังทำ tax refund 8% คืนได้ อีกไปที่เดียวจบเลย
รายละเอียดคูปองส่วนลด:
http://www.welcome-aeon.com/coupon/index.html
ช้อปกันเพลินก็เริ่มหิว เลยทานกันในห้างไปเลย ซูชิสายพาน ร้าน Totomaru ซูชิสด คำโตๆ
https://www.facebook.com/pages/Totomaru/533362426676307
จบแล้วนะคะสำหรับทริป Okazaki เมืองเล็กที่ไปแล้วทุกคนจะประทับใจแบบเรา เมืองที่เที่ยวด้วยตัวเองได้ง่าย ค่าใช้จ่ายไม่มากแต่ละที่สามารถเดินไปได้หมด ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ก็ไม่แพงเลยนะคะถ้าเทียบกับเมืองใหญ่ๆ เผื่อเพื่อนๆอยากมาเที่ยวกันลองหาข้อมูลเพิ่มเติมได้นะคะ อีกหน่อยคงมีคนไทยไปเมืองนี้กันเยอะแน่นอน^^
Okazaki เมืองเล็กๆน่ารัก ไม่ไกลนักจาก Nagoya ตอนไปตามหาซากุระกัน
Okazaki เมืองเล็กๆน่ารัก ไม่ไกลจาก Nagoya นั่งรถไฟต่อเดียวถึงเลย โดยเพื่อนๆ สามารถนั่งรถไฟสาย Tokaido Line จากที่สถานี Nagoya มายังสถานี Higashi Okazaki ใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น และรถไฟจะมาทุก ๆ 15 นาที ราคาเที่ยวละ 620 เยนเท่านั้นเป็นตู้แบบ Non reserved นะคะ คือถ้าไม่มีที่นั่งว่างก็ยืนค่ะ หากเพื่อนๆ มีสัมภาระ อยากนั่งตู้แบบ Reserved สามารถจ่ายเพิ่มได้ประมาณ 300 เยน
Okazaki เป็นเมืองที่เพื่อนๆ สามารถเที่ยวครบภายในวันเดียวนะคะ โดยแต่ละที่สามารถเดินไปได้เพียง 5-15 นาทีเท่านั้น อากาศเย็นสบาย เดินได้ไม่มีเหงื่อแน่นอน หรือแนะนำนอนค้างสักหนึ่งคืนจะได้บรรยากาศช่วงกลางคืน สวยไปอีกแบบค่ะ เริ่มที่แรกกันเลย
Matsui Japanese style candle Atelier
Workshop เพ้นท์เทียน: 2,500 เยน (ได้เทียนผลงานของเรากลับบ้าน 1 อัน)
ที่นี่จะได้ดูขั้นตอนการทำเทียนไขสูตรโบราณของเมืองโอกาซากิ ที่สืบทอดกันมายาวนานกว่า 100 ปีนะคะ คนที่นี่เขาปราณีตมากๆ สมกับราคาแน่นอนค่ะ
ผลงานของทางร้าน ต่อไปก็มาเริ่มกิจกรรมเพ้นท์เทียนกัน
ทางร้านจะเตรียมอุปกรณ์ พู่กัน สีอะคริลิค ให้เป็นชุดๆ พร้อมเทียนคนละ 1 เล่ม เราก็เริ่มเพ้นท์สีลงบนเทียนได้เลย ดีไซน์ตามความชอบได้เลย
ช่วงที่ไปกำลังอินเพิ่งเคยเห็นซากุระเป็นครั้งแรกเลยเพ้นท์เป็นซากุระมันซะเลย เวลาน้อยไปหน่อยทำเท่าที่ได้นะคะ เสร็จเรียบร้อยได้ผลงานของเรากลับบ้านพร้อมกล่องสวยงามค่ะ
http://www.aichi-brand.jp/corporate/type/chemical/matsui-candle-e.html
Okazaki Castle
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 200 เยน เด็ก 100 เยน
ปราสาทโอกาซากิเป็นจุดชมซากุระที่สวยมากๆจุดหนึ่งของเมือง ภายในจะมี 5 ชั้นซึ่งจะมีการแสดงประวัติความเป็นมาของปราสาท ขึ้นไปชั้นบนสุดก็จะเห็นวิวรอบๆเมืองจากมุมสูง ที่นี่มีการแสดงซามุไรด้วยนะคะ ควรเช็คตารางการแสดงล่วงหน้าค่ะ เพราะวันที่เราไปเหล่าซามุไรหยุดเลยอดดูการแสดงค่ะ
วิวปราสาทจากมุมสูงค่ะ สังเกตว่าซากุระยังไม่บาน ก็คงต้องเช็คตารางช่วงเวลาให้ดีก่อนไปนะคะ
ปริเวณปราสาทมีแม่น้ำตัดผ่าน บรรยากาศดีมากๆ มีร้านค้ากำลังเตรียมตั้งร้านเพื่อรองานซากุระบาน (Okazaki Sakura Matsuri)
https://okazaki-kanko.jp/okazaki-park/
ระหว่างทางแวะพักเหนื่อยไปซื้อโมจิสตรอเบอรี่ร้านเจ้าดังของเมือง Okazaki กัน
ชื่อร้านไม่สามารถบอกได้เพราะเป็นภาษาญี่ปุ่น ยังไงเพื่อนๆ ลองหาพิกัดกันดูอีกทีนะคะ คนต่อคิวกันค่อยข้างเยอะเลย ตกชิ้นละ 200 เยนค่ะ
Kakukyu (โรงงานมิโสะสูตรดั้งเดิม)
ค่าเข้าชม: ฟรี
ไปชมแหล่งผลิตฮัทโจ มิโสะ (Hatcho Miso) ประจำเมืองกัน เข้าไปถึงจะมีเจ้าหน้าที่มาคอยดูแล และให้เดินเข้าไปชมเป็นกรุ๊ปเล็กๆ
เดินเข้าไปจะมีการบรรยายขั้นตอนการผลิตมิโสะ พร้อมภาพประกอบเพื่อให้เข้าใจง่าย
มิโสะจะถูกหมักในถังไม้ขนาดใหญ่นี้ ทับไว้ด้วยหินทิ้งไว้ประมาณ 2 ปี เราถึงจะได้ทานกัน
สาธิตขั้นตอนการทำมิโสะ และประวัติความเป็นมา การก่อตั้งของโรงงาน
ชมโรงงานเสร็จ ถึงจุดพักมีร้านอาหารเล็กๆของโรงงาน มีเมนูอาหารให้เลือกเยอะมาก โอเด้ง เต้าหู้ราดมิโสะ ไอศครีม ทุกเมนูจะมีส่วนผสมของมิโสะ
ตอนนั้นคือยังไม่หิวมากเลยจัดไอศครีมมิโสะไป จะบอกว่าอร่อยมากกกกก รสชาติเข้มข้น ไม่ได้มีกลิ่นมิโสะแรงอย่างที่คิดเลย แต่ซอสที่ราดมิโสะมีกลิ่นเบาๆแต่ไม่เป็นอุปสรรค บอกเลยว่ารสชาติเหมือนไอศครีม salt caramel อะไรทำนองนั้น
ทานขนมเสร็จ เดินออกไปต่อจะมีร้านค้าของฝากของโรงงาน เค้าไม่ได้บังคับซื้อนะคะ มีให้ชิมเต็มที่ชอบอะไรก็ซื้อกลับไปได้เลย ส่วนมากจะเป็นมิโสะ และมีขนมที่ทำจากมิโสะต่างๆ
http://www.kakukyu.jp/global/english.asp
ถึงเวลา check in คืนนี้เราพักกันที่โรงแรม Okazaki New Grand ซึ่งอยู่ใกล้กับ Okazaki Castle มากๆ
วิวจากห้องพักยามค่ำคืน มองเห็นปราสาทสวยมาก ปริเวณปราสาทเริ่มมีการจัดไฟสวยงาม
ได้เวลาอาหารเย็นกันแล้ว มื้อนี้ทานที่โรงแรมเป็นแบบ Dinner buffet ราคาหัวละประมาณ 3,600 เยน ซึ่งถือว่าไม่แพงเลยกับคุณภาพอาหาร และการทานที่ญี่ปุ่น
ห้องอาหารเป็นแบบกระจกใส มองเห็นวิวได้รอบจากชั้น 9 บนสุดของตึก
พนักงานจะให้เลือก main dish คนละ 1 อย่างนะคะ มี 4 อย่างให้เลือกค่ะ เช่นเสต๊กปลา เป็ด เนื้อ หรือกุ้ง
เลือกเสร็จก็เข้าห้องอาหารระหว่างรอ main dish สามารถทานอาหารอื่นๆและเครื่องดื่มได้ไม่อั้น มีบุฟเฟ่ต์เบียร์ด้วยนะคะ
มาแล้วค่ะ main dish ที่เลือกไว้เป็นเสต๊กปลากับซอสขาว
เฉพาะเมนูเสต๊กเนื้อจ่ายเพิ่ม 620 เยนค่ะ
ทานเสร็จก็ต่อด้วยไอศครีม ขนม และผลไม้กันเลย เรียบร้อยก็พักผ่อนตามอัธยาศัยหรือใครอยากไปแช่ออนเซ็นที่โรงแรมนี้ก็มีนะคะ อยู่บนชั้น 9 ชั้นเดียวกับห้องอาหาร เช่นกันกระจกใสรอบเห็นวิวปราสาทอีกเช่นกัน เปิดบริการถึง 21.00 น.(ค่าบริการฟรีสำหรับผู้เข้าพักค่ะ)
วันนี้เตรียม check out ออกโรงแรม เตรียมตัวไปตามหาซากุระกันต่อ เนื่องจากไปกับคนท้องถิ่นเลยรู้แหล่งที่ซากุระกำลังบานพอดี^^
ไปต่อด้วยช้อปปิ้งของฝากที่ห้าง Aeon ของเมือง Okazaki กัน
ช่วงนี้มีโปรโมชั่นพอดีสำหรับนักท่องเที่ยว สามารถดาวน์โหลดคูปองส่วนลด ได้เพิ่ม 5% สามารถใช้ได้จนถึง 31 ธ.ค. 60
มีถุงผ้า Kumamon แจกพร้อมขนม สินค้าตัวอย่างให้กับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ คุ้มค่ามากๆ แถมยังทำ tax refund 8% คืนได้ อีกไปที่เดียวจบเลย
รายละเอียดคูปองส่วนลด: http://www.welcome-aeon.com/coupon/index.html
ช้อปกันเพลินก็เริ่มหิว เลยทานกันในห้างไปเลย ซูชิสายพาน ร้าน Totomaru ซูชิสด คำโตๆ
https://www.facebook.com/pages/Totomaru/533362426676307
จบแล้วนะคะสำหรับทริป Okazaki เมืองเล็กที่ไปแล้วทุกคนจะประทับใจแบบเรา เมืองที่เที่ยวด้วยตัวเองได้ง่าย ค่าใช้จ่ายไม่มากแต่ละที่สามารถเดินไปได้หมด ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ก็ไม่แพงเลยนะคะถ้าเทียบกับเมืองใหญ่ๆ เผื่อเพื่อนๆอยากมาเที่ยวกันลองหาข้อมูลเพิ่มเติมได้นะคะ อีกหน่อยคงมีคนไทยไปเมืองนี้กันเยอะแน่นอน^^