[CR] [ Mid-Review ] รีวิวเที่ยวญี่ปุ่น ตะลุยโตเกียว เที่ยวเมืองออนเซ็น เดินเล่นเมืองมรดกโลก (Nikko & Gunma & Tokyo & Hakone)

รีวิวเที่ยวญี่ปุ่น ตะลุยโตเกียว • เที่ยวเมืองออนเซ็น • เดินเล่นเมืองมรดกโลก

Nikko & Kusatsu Onsen ( Gunma ) & Tokyo & Hakone



สวัสดีครับชาวพันทิปทุกคน วันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์ทริปมือลั่น ตะลุยโตเกียว เที่ยวเมืองออนเซ็น เดินเล่นเมืองมรดกโลก ซึ่งทริปนี้มือลั่นจริงๆครับ เพราะจองตั๋วก่อนออกเดินทางแค่ 7 วัน ส่องตั๋วของการบินไทยปุ๊บ กดจองตั๋วทันที จ่ายตังค์เสร็จสรรพ แล้วก็ได้แต่นั่งถอนหายใจยาวววว "นี่เราทำอะไรลงไป" แต่ก็ถือว่าเป็นทริปที่น่าประทับใจมากครับ วิวสวย บรรยากาศดี แถมได้แช่ออนเซ็นธรรมชาติท่ามกลางหิมะ บอกได้คำเดียวว่า "ซุปเปอร์ฟินนนนน" อย่างที่บอก ทริปนี้เป็นทริปกระทันหัน ผมเลยไม่มีเวลาวางแผนเตรียมตัวก่อนการเดินทางมากเท่าที่ควร ดังนั้นขอออกตัวก่อนเลยว่ารีวิวนี้ ผมอาจจะไม่ได้ลงรายละเอียดเรื่องการเดินทาง หรือการเตรียมตัวก่อนเที่ยวมากนะครับ จะขอเน้นรีวิวภาพบรรยากาศของเมืองต่างๆที่ไปเที่ยวมา เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจท่องเที่ยวให้กับเพื่อนๆ



ข้อมูลทั่วไปสำหรับทั่วไปสำหรับทริปนี้

การเดินทาง / สายการบิน

• การบินไทย TG 676 ( ขาไป )
• การบินไทย TG 677 ( ขากลับ )


โรงแรม / ที่พัก

• โรงแรม HOTEL MYSTAYS Ueno East พัก 4 คืน ( ใกล้สถานี Ueno )
• โรงแรม Ichinoyu Honkan พัก 1 คืน (เมือง Hakone )


แผนการท่องเที่ยวสำหรับทริปนี้

Day 1 สนามบินนาริตะ - โรงแรม
Day 2 เมือง Nikko
Day 3 Kusatu Onsen ( เมือง Gunma )
Day 4 เมือง Tokyo
Day 5 เมือง Hakone ( ค้าง 1 คืน )
Day 6 เมือง Hakone - สนามบิน



Pass / Ticket สำหรับเดินทางของทริปนี้

• JR Tokyo wide pass สำหรับใช้ Day 1, Day 2 และ Day 3 --> ซื้อที่ JR Ticket office สนามบินนาริตะ
• Hakone free pass ( 2 day ) สำหรับเที่ยวเมือง Hakone 2 วัน --> ซื้อที่ HIS-BKK สยาม


การติดต่อสื่อสาร / อินเตอร์เน็ต

• SIM2Fly 4G ของ AIS


ประกันการเดินทาง ( ของอะไรก็ได้ )

• AXA Smart Traveller Plus




Day 1 สนามบินนาริตะ -  HOTEL MYSTAYS Ueno East

วันแรกไฟท์แลนดิ้งที่สนามบินนาริตะประมาณ 15.45 น. กว่าจะผ่านด่านศุลกากรออกข้างนอก ก็เวลา 16.30 น. แล้วครับ จากนั้นผมก็ตรงดิ่งไปที่ JR Ticket office ภายในสนามบิน เพื่อซื้อ JR Tokyo wide pass (ใช้ได้ 3 วันต่อเนื่อง ) ผมเริ่มเปิดใช้ JR Tokyo wide pass ตั้งแต่วันนี้เลยครับ เพราะจะใช้เดินจากสนามบินนาริตะ ไปยังโรงแรมย่านสถานี Ueno โดยที่ pass นี้สามารถใช้ขึ้น N'EX ( Narita Express ) ได้ฟรีนะครับ แจ้งพนักงานจองที่นั่งให้ได้เลยตอนออกตั๋ว 
| Credited - Picture from www.jreast.co.jp |


ขณะต่อคิวรอซื้อ JR pass ก็ถ่ายรูปเล่นใน JR Ticket office ไปพลางๆ แต่ดูจากสภาพหน้าแล้ว ไม่ไหวจริงๆครับ 555


พอได้ JR Tokyo wide pass แล้ว ผมก็ใช้นั่ง N'EX จากสนามบินนาริตะมาลงที่สถานี Tokyo (~53 นาที) ต่อจากสถานี Tokyo ไปยังสถานี Ueno (~5 นาที) จากนั้นก็เดินไปโรงแรม HOTEL MYSTAYS Ueno East เพื่อเช๊คอิน แล้วก็เก็บสัมภาระ ต่อด้วยหาข้าวเย็นกินแถวโรงแรม และปิดท้ายวันนี้ด้วยการนอนพักผ่อนเก็บแรงไว้เที่ยวเมืองมรดกโลก Nikko ในวันพรุ่งนี้



Day 2 เมืองมรดกโลก Nikko


Nikko เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังของญี่ปุ่น ด้วยความงดงามของวัดวาอารามและศาลเจ้าเก่าแก่ จนทำให้ Nikko ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก และยังได้รับการขนานนามว่า "Nikko is Nippon" แปลประมาณว่า เมือง Nikko เปรียบเสมือนตัวแทนของประเทศญี่ปุ่น


08.30 ออกเดินทางจากสถานี JR Ueno ไปยังสถานี JR Nikko โดยใช้ JR Tokyo wide pass (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที ) ยอมรับเลยครับว่า ผมหลับตั้งแต่สถานีต้นทาง ยันสถานีปลายทาง 555


เมื่อมาถึงสถานี JR Nikko ทุกคนก็ลงจากรถไฟ ด้วยจุดหมายปลายทางเดียวกัน คือเมืองมรดกโลก Nikko นั่นเอง ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวเลือกที่จะขึ้น JR bus ไปยังสถานที่เที่ยวต่างๆ แต่ผมเลือกที่จะเดินจากสถานี JR Nikko ไปยังโซนมรดกโลก เพราะระยะทางไม่ไกลมากและอยากเดินชมบรรยากาศของเมือง Nikko ไปด้วยครับ 


บรรยากาศเมือง Nikko ก็ตามภาพที่เห็นครับ เมืองไม่ใหญ่มาก แต่สะอาดและเป็นระเบียบร้อย  สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าขายอาหาร ขายขนมพื้นเมืองและร้านขายของที่ระลึก ยิ่งมองออกไปสุดลูกหูลูกตา จะเห็นฉากหลังเป็นภูเขาสูง ซึ่งยอดเขาเหล่านั้นถูกปกคลุมด้วยหิมะเป็นหย่อมๆ อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 5-7 องศา บอกเลยว่าวิวสุดยอดมากครับ



เดินทอดน่องมาเรื่อยๆ ก็มาถึงสะพานโค้งสีแดง หรือ สะพานชินเคียว นั่นเองครับ ซึ่งที่นี่ถือว่าเป็นสะพานศักดิ์สิทธิ์ของเมือง Nikko และเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองนี้เลยก็ว่าได้ ใครมาเที่ยวเมืองนี้ ก็จะต้องมาแวะถ่ายรูปกันครับ แต่ผมไม่ได้ขึ้นไปบนสะพานนะครับ เพราะต้องเสียค่าเข้าประมาณ 300 ¥ ( แอบงก 555 ) เดินต่อจากสะพานชินเคียวประมาณ 10 นาที ก็ถึงโซนมรดกโลกแล้วครับ 



สะพานชินเคียว ช่วงที่มีหิมะ ก็ดูสวยไปอีกแบบแฮ่ !!!



มาต่อกันที่โซนมรดกโลกทางวัฒนธรรมครับ เนื่องจากผมไม่ได้ซื้อ pass แบบเหมารวม ผมเลยเลือกเที่ยวแค่บางสถานที่และเดินดูบรรยากาศรอบๆ แทนครับ เริ่มกันที่ วัด Taiyuin ซึ่งเป็นสุสานอิเอะมิสึในสมัยก่อน บรรยากาศภายในวัดเป็นแบบผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมจีนกับญี่ปุ่นครับ ( มีค่าเข้า 550 ¥ )



เมื่อเข้ามาด้านในวัด ก่อนถึงศาลาสีทอง จะเห็นประตู Nitenmon ซึ่งมียักษ์เฝ้าประตูทั้งสองข้างครับ 



นี่คือ "ศาลาสีทอง" ซึ่งถือเป็นจุดไฮไลท์ของวัดนี้ สถาปัตยกรรมข้างในศาลาสีทองนั้น สวยงามและปราณีตมากครับ แต่น่าเสียดาย เขาห้ามถ่ายรูปภายใน เลยไม่สามารถเก็บภาพมาฝากเพื่อนๆชาวพันทิปได้ครับ ผมใช้เวลาสำหรับวัด Taiyuin ประมาณ 45 นาที 



จากนั้นผมก็เดินเล่นภายในโซนมรดกโลกต่อ ซึ่งมีสถานที่สวยงามอีกมากมายให้เข้าชม แต่ผมและเพื่อนเลือกที่จะเดินดูสถานที่น่าสนใจและบรรยากาศรอบๆแทน เพราะดีงามไม่แพ้กันครับ



เจดีย์เก่าแก่ 5 ชั้น สีแดง ซึ่งมีคนสนใจจำนวนมากและมายืนต่อคิวถ่ายรูป


เดินเพลินไปเรื่อยๆ เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก เผลอแป๊บเดียว ก็บ่าย 3 ครึ่งแล้วครับ ถึงเวลาต้องกลับโตเกียวแล้ว น่าเสียดายที่เวลาน้อยไปหน่อย แต่ถึงแม้จะได้เที่ยวแค่นี้ ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วครับ เพราะเมือง Nikko สวยสมคำล่ำลือจริงๆ  จากโซนมรดกโลกกลับไปยังสถานี JR Nikko ผมก็เลือกที่จะเดินเช่นเคย ( ด้วยความงกอีกแล้ว 555 ) จากนั้นก็นั่งรถไฟกลับโตเกียว เพื่อไปนอนชาร์ตพลัง เตรียมตะลุยเมือง Kusatu Onsen จังหวัด Gunma ในวันพรุ่งนี้ครับ
ชื่อสินค้า:   เที่ยวญี่ปุ่น
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่