เจ้าของกระทู้มีโอกาสไปประเทศจีน 2 ครั้งในรอบสองเดือนที่ผ่านมา ก.พ.ไปทัวร์ฮ่องกง เซิ่นเจิ้นกับที่ทำงาน และ มี.ค.ไปทัวร์ปักกิ่ง เราไปกับทัวร์จีนยังไงก็ต้องแวะร้านขายของ เช่น ร้านใบชา ร้านผ้าห่ม บัวหิมะ ปี๋เซียะ ขายยา
แต่ในทั้งสองครั้งนี้ เรารู้สึกแปลกๆกับวิธีการขายของของร้านหยกที่คล้ายๆกัน เราเรียกว่ามุก “ฉันรักคนไทย” โดยเริ่มต้นจะมีพนักงานร้านคนจีนพูดไทยได้ มาแนะนำหยก ซึ่งทั้งสองร้านก็พูดเหมือนกันว่าหยกมาจากพม่า ไม่ใช่หยกจีน แต่คนจีนแกะสลักเก่ง สอนวิธีการดูหยกจีน หยกพม่า วิธีการดูหยกแท้ คุยเรื่องต่างๆ และจะแนะนำต่อว่าวันนี้โชคดี เถ้าแก่มา เถ้าแก่พูดไทยได้ และให้พนักงานร้านหลายๆคนมายืนปรบมือแนะนำเถ้าแก่ ในเซิ่นเจิ้นเถ้าแก่เป็นหญิงสาวน่ารัก แต่งตัวดูดี ส่วนร้านปักกิ่งเป็นชายหนุ่มแต่งตัวแฟชั่นจัดๆ หญิงสาวแนะนำตัวว่าเป็นน้องสาวเจ้าของร้าน บอกชอบคนไทยมาก พ่อแม่เคยมาค้าพลอยที่จันทบุรี เด็กๆตัวเองก็อยู่เมืองไทย ตอนหลังพ่อแม่กลับมาทำธุรกิจเมืองจีน เธอชอบเมืองไทยมาก กลับมาเที่ยวทุกปี ไม่ต้องซื้อของในร้านก็ได้ ของแพงนะ เน้นคำนี้ตลอด ของเราเป็นของแท้ และมีตัวอย่างกำไลหยกหลายๆแบบให้ดู อันไหนเป็นเกรด ABC ถ้าชอบก็จะลดราคาให้เป็นพิเศษ เดี๋ยวจะมาออกบูทจัดงานแบงคอกเจมส์ที่กรุงเทพฯ เน้นรักเมืองไทย ชอบคนไทยมาก
ส่วนผู้ชายบอกเป็นดีไซนเนอร์ ไม่ชอบทำธุรกิจ พ่อแม่ตอนนี้อายุมากแล้ว ย้ายไปอยู่สิงค์โปร์ เขาชอบเมืองไทยมาก เฉพาะทัวร์ไทยจะลดราคาให้เลย 90% และตบท้ายด้วยประโยคเด็ด เดี๋ยวจะมาออกบูทจัดงานแบงคอกเจมส์ และให้พวกเราย้ายไปดูห้องที่โชว์จิวเวอร์ลี่ ในเซิ่นเจิ้นเราเหมากรุ๊ปทัวร์ไปทั้งบริษัท เจ้านายไม่มีใครซื้อ คนขายดูออกเลยเอาสร้อยแฟชั่นมาขาย ต่อไปต่อมาเหลือราคาเส้นละร้อย ก็มีคนซื้อกันหลายเส้น ส่วนร้านที่เซิ่นเจิ้น แม่เราซื้อสร้อยกังหัง ป้ายราคา1800หยวน แต่สุดท้ายต่อเหลือ 5เส้นๆละสิบหยวน มีครอบครัวนึงซื้อกำไลหยกราคาเกือบสี่หมื่นบาท เรารู้สึกเสียดายเงินแทน แต่ก็ต่างคนต่างความคิดอาจจะเป็นของแท้ของดีก็ได้ เพราะครอบครัวนี้ซื้อปี๋เซียะอีกร้านราคาเกือบสามหมื่นบาท ใครที่ไปประเทศจีน เจอมุกขายของแบบนี้บ้างคะ เหมือนรักคนไทย ให้ลูกทัวร์มีความรู้สึกดีๆก่อนค่อยขายของ
มีไปร้านนวดเท้า สมุนไพรแช่เท้าฟรีและมีคนมานวดเท้าให้ ไกด์แจ้งก่อนขอทิปคนละ10หยวน ขายสมุนไพรนวดเท้า มีหมอจีนมาแมะให้และขายยา อันนี้ในกรุ๊ปไม่มีคนซื้อเลย เพราะแมะแล้วป่วยต้องซื้อยาของเขาทุกคน
และอีกมุกขายของ ไกด์ชาวจีนบิ้วตั้งแต่ในรถ คุยแต่เรื่องอภินิหาร์ของปี๋เซียะ บอกทัวร์ไทยอภิสิทธิ์ไม่ต้องต่อแถวเข้าไปดูกำแพงเมืองเก่า ให้เข้าได้เลย ต้อนเฉพาะคนไทยเข้าห้องไปชมปี๋เซียะ สอนวิธีลูบ ลูบแล้วรวย มีซินแสมาแนะนำ (ขายของ) ให้เดินต่อไปอีกห้อง เป็นห้องขายของ เรากับแม่เลยไปห้องน้ำและออกไปเลย ไปถ่ายรูปข้างนอกมีตันบ๊วยสวยๆกำลังบาน มีครอบครัวเดียวที่ซื้อ ที่เหลือชมเฉยๆ สังเกตถ้ามีคนซื้อของไกด์จะยิ้มอารมณ์ดีเลย
ลุงเราบอกถ้าปี๋เซียะดีจริง คนทำความสะอาดที่นี่ ลูบทุกวันทำไมไม่รวย เราว่าอันนี้มันก็คือความเชื่อส่วนบุคคล ไม่ก้าวล่วงกัน อีกเรื่องขนมที่ไกด์เอามาให้ชิมบนรถ แพงกว่าทุกอย่างเลยค่ะ ไกด์ฮ่องกงมีขนมซีเรียลอัดเป็นแท่งเล็กๆ บนรถขายถุงละ50ดอลล่าล์ฮ่องกง แต่เจอในซุปเปอร์ ถุงแบบเดียวกันเลยราคา 13.99 เสียใจมาก ส่วนไกด์จีนขายพวกบ๊วย พุทธา เมล็ดทานตะวัน 3ถุงร้อยหยวน ในซุปเปอร์ ราคา 19.99
อย่างน้อยไปทัวร์จีน ข้อดีก็มีนะคะ ทั้งสองทัวร์ที่ไปมาราคาไม่แพงเลยค่ะ ไปฮ่องกงบินคาร์เธ่ร์มีอาหาร ไปปักกิ่งบินการบินไทยมีอาหาร 5วัน3คืน ราคา14900 +ทิปไกด์200หยวน อาหารครบทุกมื้อ ได้รู้ประวัติศาสตร์และความนึกคิดของคนจีน เข้าใจว่าลดราคาเพื่อดึงดูดคนไทย เพราะแต่ก่อนปักกิ่งราคาสองหมื่นขึ้น ห้องน้ำตามสถานที่ต่างๆก็โอเคแล้ว แต่ทั้งสองทริปเป็นวีซ่าแบบกรุ๊ป ราคาถูกกว่า พี่สาวเราไปญี่ปุ่นราคา 26,000 แต่วันอิสระ1วัน และมื้ออิสระหลายมื้อเลย ราคารวมจ่ายเพิ่มอีกหลายบาท
อีกเรื่องขอถามผู้รู้ได้ไหมคะ เราซื้อไฟแช็กรูปประธานเหมา ไม่ได้นึกถึงเลย ซื้อก็แพ็คใส่กระเป๋าเดินทาง ที่สุวรรณภูมิตอนรับกระเป๋ามีเชือกพลาสติกรัดมาอีกเส้นแต่ซิปและกุญแจปกติ ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าสงสัยเราใส่ของเยอะเกินไป พอกลับบ้านเปิดกระเป๋าเจอกระดาษA4 มีติ๊กข้อ Flameable ก็เลยรู้ว่า ไฟแช็กถูกยึดไป เราเอาไฟแช็กขึ้นบนเครื่องไม่ได้ จริงๆแล้วถ้าอยากเอาไฟแช็กกลับต้องทำอย่างไร หรือคนที่สูบบุหรี่เค้าทำยังไงคะ
รูปดอกบ๊วยสวยๆค่ะ
ของในซุปเปอร์มีนมแล็คตาซอยด้วย และน้ำมะพร้าวกล้วยไม่ได้ลองว่าจะให้รสชาตเหมือนกล้วยบวดชีไหมนะ
สตอรเบอรี่ก็มี ลูกใหญ่แต่ไม่หวานเท่าของเกาหลีญี่ปุ่นค่ะ
มุกใหม่ ร้านขายหยก ทัวร์จีนล่าสุดที่ไปมา ใครเจอแบบนี้บ้างคะ กับเสียดายเงินซื้อขนมบนรถทัวร์กับไกด์จีน
แต่ในทั้งสองครั้งนี้ เรารู้สึกแปลกๆกับวิธีการขายของของร้านหยกที่คล้ายๆกัน เราเรียกว่ามุก “ฉันรักคนไทย” โดยเริ่มต้นจะมีพนักงานร้านคนจีนพูดไทยได้ มาแนะนำหยก ซึ่งทั้งสองร้านก็พูดเหมือนกันว่าหยกมาจากพม่า ไม่ใช่หยกจีน แต่คนจีนแกะสลักเก่ง สอนวิธีการดูหยกจีน หยกพม่า วิธีการดูหยกแท้ คุยเรื่องต่างๆ และจะแนะนำต่อว่าวันนี้โชคดี เถ้าแก่มา เถ้าแก่พูดไทยได้ และให้พนักงานร้านหลายๆคนมายืนปรบมือแนะนำเถ้าแก่ ในเซิ่นเจิ้นเถ้าแก่เป็นหญิงสาวน่ารัก แต่งตัวดูดี ส่วนร้านปักกิ่งเป็นชายหนุ่มแต่งตัวแฟชั่นจัดๆ หญิงสาวแนะนำตัวว่าเป็นน้องสาวเจ้าของร้าน บอกชอบคนไทยมาก พ่อแม่เคยมาค้าพลอยที่จันทบุรี เด็กๆตัวเองก็อยู่เมืองไทย ตอนหลังพ่อแม่กลับมาทำธุรกิจเมืองจีน เธอชอบเมืองไทยมาก กลับมาเที่ยวทุกปี ไม่ต้องซื้อของในร้านก็ได้ ของแพงนะ เน้นคำนี้ตลอด ของเราเป็นของแท้ และมีตัวอย่างกำไลหยกหลายๆแบบให้ดู อันไหนเป็นเกรด ABC ถ้าชอบก็จะลดราคาให้เป็นพิเศษ เดี๋ยวจะมาออกบูทจัดงานแบงคอกเจมส์ที่กรุงเทพฯ เน้นรักเมืองไทย ชอบคนไทยมาก
ส่วนผู้ชายบอกเป็นดีไซนเนอร์ ไม่ชอบทำธุรกิจ พ่อแม่ตอนนี้อายุมากแล้ว ย้ายไปอยู่สิงค์โปร์ เขาชอบเมืองไทยมาก เฉพาะทัวร์ไทยจะลดราคาให้เลย 90% และตบท้ายด้วยประโยคเด็ด เดี๋ยวจะมาออกบูทจัดงานแบงคอกเจมส์ และให้พวกเราย้ายไปดูห้องที่โชว์จิวเวอร์ลี่ ในเซิ่นเจิ้นเราเหมากรุ๊ปทัวร์ไปทั้งบริษัท เจ้านายไม่มีใครซื้อ คนขายดูออกเลยเอาสร้อยแฟชั่นมาขาย ต่อไปต่อมาเหลือราคาเส้นละร้อย ก็มีคนซื้อกันหลายเส้น ส่วนร้านที่เซิ่นเจิ้น แม่เราซื้อสร้อยกังหัง ป้ายราคา1800หยวน แต่สุดท้ายต่อเหลือ 5เส้นๆละสิบหยวน มีครอบครัวนึงซื้อกำไลหยกราคาเกือบสี่หมื่นบาท เรารู้สึกเสียดายเงินแทน แต่ก็ต่างคนต่างความคิดอาจจะเป็นของแท้ของดีก็ได้ เพราะครอบครัวนี้ซื้อปี๋เซียะอีกร้านราคาเกือบสามหมื่นบาท ใครที่ไปประเทศจีน เจอมุกขายของแบบนี้บ้างคะ เหมือนรักคนไทย ให้ลูกทัวร์มีความรู้สึกดีๆก่อนค่อยขายของ
มีไปร้านนวดเท้า สมุนไพรแช่เท้าฟรีและมีคนมานวดเท้าให้ ไกด์แจ้งก่อนขอทิปคนละ10หยวน ขายสมุนไพรนวดเท้า มีหมอจีนมาแมะให้และขายยา อันนี้ในกรุ๊ปไม่มีคนซื้อเลย เพราะแมะแล้วป่วยต้องซื้อยาของเขาทุกคน
และอีกมุกขายของ ไกด์ชาวจีนบิ้วตั้งแต่ในรถ คุยแต่เรื่องอภินิหาร์ของปี๋เซียะ บอกทัวร์ไทยอภิสิทธิ์ไม่ต้องต่อแถวเข้าไปดูกำแพงเมืองเก่า ให้เข้าได้เลย ต้อนเฉพาะคนไทยเข้าห้องไปชมปี๋เซียะ สอนวิธีลูบ ลูบแล้วรวย มีซินแสมาแนะนำ (ขายของ) ให้เดินต่อไปอีกห้อง เป็นห้องขายของ เรากับแม่เลยไปห้องน้ำและออกไปเลย ไปถ่ายรูปข้างนอกมีตันบ๊วยสวยๆกำลังบาน มีครอบครัวเดียวที่ซื้อ ที่เหลือชมเฉยๆ สังเกตถ้ามีคนซื้อของไกด์จะยิ้มอารมณ์ดีเลย
ลุงเราบอกถ้าปี๋เซียะดีจริง คนทำความสะอาดที่นี่ ลูบทุกวันทำไมไม่รวย เราว่าอันนี้มันก็คือความเชื่อส่วนบุคคล ไม่ก้าวล่วงกัน อีกเรื่องขนมที่ไกด์เอามาให้ชิมบนรถ แพงกว่าทุกอย่างเลยค่ะ ไกด์ฮ่องกงมีขนมซีเรียลอัดเป็นแท่งเล็กๆ บนรถขายถุงละ50ดอลล่าล์ฮ่องกง แต่เจอในซุปเปอร์ ถุงแบบเดียวกันเลยราคา 13.99 เสียใจมาก ส่วนไกด์จีนขายพวกบ๊วย พุทธา เมล็ดทานตะวัน 3ถุงร้อยหยวน ในซุปเปอร์ ราคา 19.99
อย่างน้อยไปทัวร์จีน ข้อดีก็มีนะคะ ทั้งสองทัวร์ที่ไปมาราคาไม่แพงเลยค่ะ ไปฮ่องกงบินคาร์เธ่ร์มีอาหาร ไปปักกิ่งบินการบินไทยมีอาหาร 5วัน3คืน ราคา14900 +ทิปไกด์200หยวน อาหารครบทุกมื้อ ได้รู้ประวัติศาสตร์และความนึกคิดของคนจีน เข้าใจว่าลดราคาเพื่อดึงดูดคนไทย เพราะแต่ก่อนปักกิ่งราคาสองหมื่นขึ้น ห้องน้ำตามสถานที่ต่างๆก็โอเคแล้ว แต่ทั้งสองทริปเป็นวีซ่าแบบกรุ๊ป ราคาถูกกว่า พี่สาวเราไปญี่ปุ่นราคา 26,000 แต่วันอิสระ1วัน และมื้ออิสระหลายมื้อเลย ราคารวมจ่ายเพิ่มอีกหลายบาท
อีกเรื่องขอถามผู้รู้ได้ไหมคะ เราซื้อไฟแช็กรูปประธานเหมา ไม่ได้นึกถึงเลย ซื้อก็แพ็คใส่กระเป๋าเดินทาง ที่สุวรรณภูมิตอนรับกระเป๋ามีเชือกพลาสติกรัดมาอีกเส้นแต่ซิปและกุญแจปกติ ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าสงสัยเราใส่ของเยอะเกินไป พอกลับบ้านเปิดกระเป๋าเจอกระดาษA4 มีติ๊กข้อ Flameable ก็เลยรู้ว่า ไฟแช็กถูกยึดไป เราเอาไฟแช็กขึ้นบนเครื่องไม่ได้ จริงๆแล้วถ้าอยากเอาไฟแช็กกลับต้องทำอย่างไร หรือคนที่สูบบุหรี่เค้าทำยังไงคะ
รูปดอกบ๊วยสวยๆค่ะ
ของในซุปเปอร์มีนมแล็คตาซอยด้วย และน้ำมะพร้าวกล้วยไม่ได้ลองว่าจะให้รสชาตเหมือนกล้วยบวดชีไหมนะ
สตอรเบอรี่ก็มี ลูกใหญ่แต่ไม่หวานเท่าของเกาหลีญี่ปุ่นค่ะ