จากตัวอย่างหนังอาจจะดูตลาดเน้นความสนุกและตลก แต่ตัวหนังจริงๆออกแนวเรียบๆเหมือนไม่ค่อยมีเรื่องราวอะไรที่เป็นพล็อตให้น่าตื่นเต้น ดูเรื่อยๆคล้ายหนังสารคดีชีวิตประจำวันด้วยซ้ำ ตรงนี้ถือว่าผู้กำกับที่เคยผ่านงานหนังสารคดีและงานที่ออกแนวอินดี้อย่าง คุณบุญส่ง นาคภู่ ไม่ได้เอาใจคนดูซะทีเดียว ยังคงมีสไตล์แบบหนังอินดี้ที่ผ่านมา บางช่วงให้ความรู้สึกเหมือนดูหนังพี่เจ้ยเมืองคานส์ แต่ไม่ได้ดูเข้าใจยากแบบนั้น ตรงกันข้ามหนังเรียบง่ายและเข้าใจง่ายมากๆ เพียงแต่วิธีการนำเสนอและเล่าเรื่องอาจนิ่งไปสักนิดสำหรับคนดูทั่วไป ชอบที่การกำกับและการแสดงเป็นธรรมชาติมาก ถ่ายทอดวิถีชีวิตชาวบ้านได้น่าประทับใจ อาจจะมีหลุดบทเป็นละครอยู่ในช่วงที่ต้องการอารมณ์ดราม่า ทั้งยังแอบมีความเหนือจริงเป็นหนังเพลงในตอนที่ตัวละครร้องเพลงแทนความรู้สึก สิ่งที่พอจะเชื่อมโยงกับคนดูทั่วไปได้คือพล็อตน้ำเน่าแบบผู้ชายบ้านๆอกหัก มีการแอบรัก มีคนผิดหวัง มีแอบลุ้นว่าเขาจะรักกันหรือเปล่า มีอารมณ์ขันแบบธรรมชาติๆน่ารักๆ
รวมทั้งเรื่องราวอุดมการณ์ความใฝ่ฝันของนักร้องนักดนตรี
ในช่วงกลางถึงช่วงท้ายเรื่องหนังพอจะเอาใจตลาดด้วยความกระฉับกระเฉงและสนุกมากขึ้น เสียงเพลงเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้คนดูเพลิดเพลินและทำให้หนังที่นิ่งๆคึกคักขึ้น งานภาพถ่ายได้สวยมากๆ แม้จะมีแนวถือกล้องถ่ายภาพสั่นอยู่บ้าง แต่ก็ได้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติจริงๆ ประเด็นความเป็นศิลปินเพลงในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นความฝันที่จะยิ่งใหญ่ แต่จะเป็นแบบเจียมตัวและพอเพียง ขอแค่ได้มีความสุขที่ได้ทำก็พอแล้ว
โดยส่วนตัวไม่เคยได้ยินวงพัทลุงมาก่อน เพิ่งมารู้จักจากหนังเรื่องนี้ ดูแล้วก็ถือว่าหนังเกินความคาดหมายที่เรานึกว่าจะออกแนวตลาดมากๆ แต่ก็เป็นหนังไทยดีๆอีกเรื่องที่น่าเข้าไปชมในโรงภาพยนตร์
หมายเหตุ เป็นหนังพูดภาษาใต้ทั้งเรื่องเหมือนเรื่อง "เทริด" ซึ่งคนใต้น่าภูมิใจว่าหนังแหลงใต้สองเรื่องนี้เป็นหนังที่ถ่ายทำดีและมีเรื่องราวที่ดีทั้งคู่
สุดท้าย หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดูสบายตา เรื่อยๆ มาเรียงๆ ดูจบแล้วอาจจะให้แรงบันดาลใจในการมุ่งมั่นทำในสิ่งที่เรารัก ซึ่งถ้าทางตรงก็คือการทำหนังหรืองานเพลง แต่คนที่ทำงานสายอาชีพอื่นก็อาจได้แรงบันดาลใจดีๆกลับไป ถ้าคุณเข้าใจในความงามที่เป็นธรรมชาติของหนังเรื่องนี้
[CR] มหาลัยวัวชน : อีกหนึ่งหนังไทยดีๆที่เรียบง่ายใสซื่อเป็นธรรมชาติและแอบอาร์ตหน่อยๆ
รวมทั้งเรื่องราวอุดมการณ์ความใฝ่ฝันของนักร้องนักดนตรี
ในช่วงกลางถึงช่วงท้ายเรื่องหนังพอจะเอาใจตลาดด้วยความกระฉับกระเฉงและสนุกมากขึ้น เสียงเพลงเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้คนดูเพลิดเพลินและทำให้หนังที่นิ่งๆคึกคักขึ้น งานภาพถ่ายได้สวยมากๆ แม้จะมีแนวถือกล้องถ่ายภาพสั่นอยู่บ้าง แต่ก็ได้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติจริงๆ ประเด็นความเป็นศิลปินเพลงในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นความฝันที่จะยิ่งใหญ่ แต่จะเป็นแบบเจียมตัวและพอเพียง ขอแค่ได้มีความสุขที่ได้ทำก็พอแล้ว
โดยส่วนตัวไม่เคยได้ยินวงพัทลุงมาก่อน เพิ่งมารู้จักจากหนังเรื่องนี้ ดูแล้วก็ถือว่าหนังเกินความคาดหมายที่เรานึกว่าจะออกแนวตลาดมากๆ แต่ก็เป็นหนังไทยดีๆอีกเรื่องที่น่าเข้าไปชมในโรงภาพยนตร์
หมายเหตุ เป็นหนังพูดภาษาใต้ทั้งเรื่องเหมือนเรื่อง "เทริด" ซึ่งคนใต้น่าภูมิใจว่าหนังแหลงใต้สองเรื่องนี้เป็นหนังที่ถ่ายทำดีและมีเรื่องราวที่ดีทั้งคู่
สุดท้าย หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดูสบายตา เรื่อยๆ มาเรียงๆ ดูจบแล้วอาจจะให้แรงบันดาลใจในการมุ่งมั่นทำในสิ่งที่เรารัก ซึ่งถ้าทางตรงก็คือการทำหนังหรืองานเพลง แต่คนที่ทำงานสายอาชีพอื่นก็อาจได้แรงบันดาลใจดีๆกลับไป ถ้าคุณเข้าใจในความงามที่เป็นธรรมชาติของหนังเรื่องนี้