ทริปเกาหลีแบบติ่งๆ 4 คืน 5 วัน

    ก่อนอื่นต้องบอกว่านี่คือกระทู้แรกที่หัดเขียน เพราะ จขกท ได้อ่านกระทู้รีวิวเกี่ยวกับการเที่ยวเกาหลีในพันทิปเยอะมาก ก่อนไปเที่ยวเกาหลี เลยคิดว่าอยากจะเอาประสบการณ์การไปเที่ยวเกาหลีของ จขกท ครั้งแรกมาแชร์ให้เพื่อนๆ



     
    สำหรับทริปนี้เป็นทริปที่เกิดขึ้นแบบไม่ได้นัดกันก่อนว่าเราจะไปเที่ยวเกาหลี เริ่มจาก จขกท เห็นตั๋วของไทยแอร์เอเชียเอกซ์มีโปร เลยถามเพื่อนสนิทอีกสองคนที่เป็นติ่งเกาหลี ว่าไปเกาหลีกันไหม มีตั๋วราคาลดอยู่ไม่เกินหนึ่งหมื่น ทั้งสองคนตอบรับมาแบบง่ายมาก ว่าไป ให้ จขท หาวันที่จะไปเลยวันไหน สุดท้ายเรามาได้ตั๋ว ที่ราคาคนล่ะ 8500 รวมน้ำหนักกระเป๋า แต่เป็นแบบที่เราแชร์ นน กระเป๋ากัน ขาไป 40 kg ขากลับ 50 kg.เราจองล่วงหน้ากัน 7 เดือน เพื่อที่จะมีเวลาเก็บเงินไปเที่ยวกัน  
วันเวลาที่เราได้ตั๋วคือ ขาไปวันที่ 17 มีนาคม 2560 เวลา 02.20 ขากลับ 21 มีนาคม 2560 เวลา 16.25





       วันเวลาที่เรารอคอยก็มาถึง ก่อนเดินทาง พวกเราหารีวิวเรื่องตม กันเยอะมากทำให้จิตตกมาก เพราะ จขกท และเพื่อนอีกคนพาสสปอตหน้าขาว แต่เพื่อนอีกคนเคยไปเกาหลี มา 2 ครั้ง แต่ก็ได้คอยปลอบใจกันว่าเราจะต้องผ่านไปด้วยกัน ก่อนไปพวกเราเตรียมเอกสารกันไปเยอะ ทั้งเอกสารจองที่พัก หนังสือรับรองการทำงาน ตั๋วเครื่องบินไปกลับ เอกสารการจองตั๋ว KTX แพลนการเที่ยว เครื่องออกเวลา 02.20 วันที่ 17 มีนา ไฟต์นี้คนไทยเยอะมาก เราถึงสนามบินอินชอน กันก่อนเวลา 09.20

    เมื่อลงจากเครื่องเราต้องนั่งรถไฟไปเพื่อจะต้องผ่าน ตม เมื่อถึงตมแบบตื่นเต้นมากแต่ยิ้มใจดีสู้เสือกันสุดๆ เราสามคนเข้าแถวเดียวได้ตมผู้หญิง ให้เพื่อนคนแรกพาสสปอตขาวไปก่อน ตมถามหลายคำถามเนื่องจากเพื่อนคนแรกที่ไป เหมือนกับ จขกท คือภาษาเราอ่อนกัน ทำให้ ตม นางเหวี่ยงมากที่เราฟังนางไม่รู้เรื่อง แต่นางก็ค่อยเอาหลักฐานโชว์ให้นางดู ก็สามารถผ่านไปได้ คนที่สองที่ต่อคือเพื่อนที่เคยมาเกาหลีแล้ว ไม่ถามคำถามอะไรเลย เปิดดูพาสสปอตแล้วปั๊มเลยจ้า ก็ผ่านไปได้ง่าย คนสุดท้ายคือ จขกท คือเข้าไปถึงนางถามมากี่วัน ก็ตอบไปว่า 5 วัน ถามว่ามาทำอะไร แต่พอคำถามที่สาม ด้วยความที่ จขกท ง่อยภาษาอังกฤษมาก ทำให้คิดว่านางถามว่าจะไปเที่ยวไหนบ้าง ด้วยความที่ในแพลนเที่ยวมีปูซาน ก็ตอบไปว่าปูซาน  นางทำหน้างง และเหวี่ยง เรียก จนท มาให้มาพา จขกท เข้าห้องเย็น ตอนนั้น หัวใจอยู่ตาตุ่มเลยจ้า เพื่อนที่ผ่านไปก่อนหน้านั้นรีบวิ่งตามจากข้างนอกไปประตูทางเข้า ห้องเย็น

    พอ จขกท เข้าไปข้างใน จนท จะให้กรอก ข้อมูลว่า มาทำอะไร มากับใคร มีเงินมาเท่าไร มีบัตรเครดิตหรือเปล่า ทำอาชีพอะไร  พอเข้าไปกรอกข้อมูลข้างในเพื่อรอเจ้าหน้าที่เรียก เจอคนไทยเยอะมากประมาณ 30 คนได้ และมีคนจีนปะปน ข้างในจากที่ดูคนที่มาเที่ยวจริงๆไม่กี่คน นอกนั้นดูรู้เลยว่ามาทำงานแน่นอน เพราะมีบางคนพูดว่า"อุตส่าห์ไปยืมเงินญาติพี่น้องเพื่อลงทุน คิดว่าจะได้มาทำงาน" จากที่นั่งรอสักพัก ก็ไลน์คุยกับเพื่อนตลอดเพราะตอนจะมา จขกท ได้ซื้อซิมของ ais sim2fly ไว้ทำให้ใจชื่นขึ้น ได้คุยกับเพื่อนว่าเป็นยังไงบ้าง แนะนำสำหรับใครที่จะไปให้ซื้อซิมไปเลย เพราะถ้าจะรอ wifi ที่สนามบินคือจะขาดๆหายๆ ยิ่งในห้องเย็นอับสัญญาณมาก

   หลังจากที่สังเกตคือในห้องเย็นแต่ไม่ได้เย็นเลย คือร้อน จนต้องถอดโค้ทออกเลยจ้า ในห้องจะมีสองส่วนคือ ส่วนที่จะมีคุยผ่านล่ามทางโทรศัทพ์ จากที่สังเกต บางคนเอาหนังท่องเที่ยวมาเป็นเล่ม บางคนโดนส่งกลับ เพราะมีเจ้าหน้าที่เอากระเป๋ามาให้ ตอนนั้นคือแบบไม่เอาแบบนี้นะ  แต่ก็มีบางคนสามารถออกจากห้องเย็นนี้ไปได้ อยู่หลายคนทำให้ใจชื่นขึ้นมาหน่อย เพื่อนก็ไลน์มาบอกว่าเตรียมออกมาได้เลย คือหน้าห้องเย็น ตม จะเอาพาสสปอตเราไปถามหาว่าใครเป็นญาติกับคนนี้บ้าง เพื่อยืนยัน เพื่อนของ จขกท เลยโชว์เอกสารที่เป็นหน้าพาสสปอตที่เราถ่ายเอกสารรวมกันไว้ และแสดงพวกเอกสารการจองที่พัก ตั๋วไปกับ แพลนเที่ยว หลังจากนั้น ตม ก็มาเรียกชื่อ จขกท ไปคุยอีกห้องหนึ่ง ไม่ใช่ส่วนที่เป็นการคุยกับล่าม แค่โชว์พาสสปอต์เพื่อนของ จขท และถามว่าใช่เพื่อนคุณไหม ก็ตอบไปว่าใช่ หลังจากนั้น นางก็ให้สแกนลายนิ้วมือ แล้วปั้ม พาไปส่งที่หน้าห้อง แบบว่าดีใจมาก ได้เที่ยวเกาหลีแล้วโว้ยย

    บอกขอบคุณ ตม มาก ตม คนนี้นางเป็นผู้หญิงดูใจดีมาก ออกมาได้แบบเหมือนยกหินออกจากอก  จากที่ได้เข้าห้องเย็นไป คนที่โดนส่งกลับคือ พวกที่ไปกับทัวร์แล้วไม่มีใครรอยืนยันตัวตนให้ว่ามาด้วยกัน เพราะหัวหน้าทัวร์ส่วนใหญ่จะไม่รอ ดังนั้นหากเกิดเพื่อนหรือญาติ มีคนเข้าห้องเย็น คนที่ผ่านไปได้ต้องมารอที่หน้าห้องเพื่อ ยืนยันให้เพื่อนที่อยู่ข้างใน ประสบการณ์ล้ำค่ากับการมาเกาหลีครั้งแรก