มนุษย์เมื่อแสนปีที่แล้ว ก่อนมีวัฒนธรรม ก็ก่อไฟ ล่าสัตว์ พวกเขาต่างก็ไม่ใช้คณิตศาสตร์
มนุษย์จะไปดวงจันทร์ในปี 1969 ต้องใช้คณิตศาสตร์มากมายมหาศาล คำนวณ trajectory องศา ความเร็ว น้ำหนัก สิ่งต่างๆมากมาย

จะสร้างบ้านหลังหนึ่ง ใช้คนออกแบบ คำนวณน้ำหนักที่เสารับ วาดแบบ โครงร่าง แค่ 1 คน
อีก 20 คนเป็นคนใช้แรงงาน ทำงานตามแบบที่ร่างไว้

พอเห็นภาพไหมครับ งานในสังคมไทยก็เหมือนการสร้างบ้าน งานที่คิดค้น ออกแบบใช้คนน้อยมาก แต่สำคัญมาก
นับเป็นหัวใจ เป็นแหล่งกำเนิดเลย ส่วนในระดับปฎิบัติการใช้คนจำนวนมาก หลากหลายกว่า
การสร้างไอโฟน ไอแพด สินค้าเทคโนโลยีต่างๆ ใช้คณิตศาสตร์ ความรู้สูงมาก แต่งานที่เป็นออกแบบวิจัยมีแค่คนส่วนน้อย
คนที่เหลือจะเป็นคนผลิต คนโปรโมต คนทำการตลาด คนประชาสัมพันธ์ คนขาย และธุรกิจอื่นๆ


น้นนี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงมีคนมาตั้งกระทู้บ่นมากมาย ว่าคณิตศาสตร์เรียนไปทำไม ไม่ได้ใช้
คำตอบก็คือว่า คุณทำงานส่วนไหน ส่วนนักวิทยาศาสตร์ วิจัย หรือส่วนผู้ปฎิบัติงานอื่นๆ
แล้วประเทศไทยยิ่งเป็นฐานการผลิตที่เขาออกแบบ คิดค้นจาก ตปทมาแล้ว มาผลิตในไทยเฉยๆ
ดังนั้นงานของเราในประเทศแนวนี้จึงยิ่งน้อยไปใหญ่


ถ้าอยากทำงานที่ใช้คณิตศาสตร์เยอะๆก็ต้องเป็นอ.มหาวิทยาลัยด้านวิทย์ คณิต นักวิจัยของรัฐและเอกชน
งานวิจัยยังไงก็ต้องใช้แมทพวกสถิติอยู่แล้ว หรือจะสร้างความรู้ด้านแมทเพียวๆแล้วรอให้คนเอาไปใช้ หรือจะเอาแมทที่มี
คนสร้างมาแล้วเอาไปประยุกต์ใช้สร้าง สิ่งของ เทคโนโลยีใหม่ๆก็ได้
หรือเรียนเก่งๆ เข้ามหาวิทยาลัยทอป ไปทำงานบริษัทใหญ่ๆดังๆ ระดับโลก วิจัยออกแบบ สร้างสิ่ง
ต่างๆ เหล่านี้ รับรองใช้แมทในการทำงานแทบทั้งนั้น ถ้าไปด้านโปรแกรมเมอร์ก็ต้องใช้
discrete mathematics

แล้วจะทำอย่างไร ประเทศไทย 4.0 คือคำตอบ valued-based economy การเริ่มสร้างองค์ความรู้ และเริ่มคิดค้นสร้างสินค้า
เทคโนโลยีชั้นสูงขึ้นเองจากในประเทศ เพิ่มงบวิจัยพัฒนา ก้าวไปเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว จะเพิ่มงานด้านการวิจัยแล้วงานที่
ใช้คณิตศาสตร์จะเพิ่มขึ้น สุดท้าย คนจะมาตั้งกท ว่าเรียนคณิตศาสตร์ไปทำไม ในพันทิปน้อยลง