มีอยู่วันหนึ่งเจ้าของกระทู้นั่งเลื่อน feed ใน FB ไปมาเหมือนกับสาวโซเซียลทั่วไปที่เสพติดการอัพเดทข่าวในโซเซียล แต่นิ้วต้องหยุดเพราะสายไปสะดุดกับโพสต์หนึ่งค่ะ เป็นภาพของก้อยรัชวินที่ถ่ายจากฉากในละครเรื่องหนึ่งบนภาพปรากฏข้อความประมาณว่า
“ถึงแฟนจะน่าเบื่อแค่ไหน ก็ไม่ควรแก้ไขด้วยการไปมีคนอื่น” เจ้าของกระทู้นิ่งเลยค่ะ จ้องมองภาพนั้นอยู่นาน ก็จะอ่านที่เครดิตภาพจึงทำให้รู้ว่ามาจากละครของ Club Friday ตอนที่มีชื่อว่า รักแท้หรือแค่ไม่พอ ซึ่งมีก้อยรัชวินแสดงนำนั่นเอง เจ้าของกระทู้ยังไม่ได้ดูหรอกค่ะว่าเรื่องราวเป็นยังไง เพราะเจ้ากระทู้นึกถึงเรื่องของตัวเองมากกว่า เรื่องของความไม่พอ ความไม่พอของเจ้าของกระทู้เอง ฟังดูแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องดีอะไรที่เจ้าของกระทู้ต้องมาเล่าให้คนอื่นรับรู้ เผลอๆ อาจจะโดนคอมเม้นท์ด่าด้วยซ้ำ รู้นะคะ แต่ก็ไม่รู้ทำไมถึงตัดสินตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เอาล่ะค่ะ ก่อนอื่นเจ้าของกระทู้ขอแนะนำตัวเองก่อนนะคะ ขอใช้นามสมมุติแทนตัวเองว่า ดรีม ดรีมเป็นเด็กต่างจังหวัดค่ะพอจบ ม.6 ก็ย้ายมาเรียนมหาลัยที่ไกลบ้าน คณะที่ดรีมเรียนค่อนข้างเรียนหนัก (มาก) คนที่พบเจอส่วนใหญ่ก็เป็นคนในคณะก็ด้วยเพราะตารางเรียน กิจกรรมอะไรต่างๆ ดรีมเป็นคนไม่สวยค่ะ ตัวเตี้ยๆ อ้วนๆ ดำๆ สิวเขรอะหนักมาก ผมยาวตัดหน้าม้าดูไม่มีอะไรเข้ากันซักอย่างจนปีหนึ่งได้ฉายาจากเพื่อนว่า “อีผี” แต่ถึงจะไม่สวยแต่ดรีมก็เป็นที่รู้จักของคนในคณะไม่ว่าจะเป็นเพื่อนๆ พี่ๆ หรือแม้แต่อาจารย์ในคณะ คงเป็นเพราะดรีมค่อนข้างมั่นใจในตัวเอง กล้าแสดงออก เป็นเด็กกิจกรรมแถมผลการเรียนยังอยู่ในระดับดีอีกด้วย ก่อนที่ทุกคนจะไปฟังเรื่องไม่พอของดรีม ดรีมอยากจะให้ทุกคนรับรู้ถึงเรื่องราวความรักที่ดรีมคิดว่านี่คือความรักที่ดีที่สุดในชีวิตของดรีมที่รองมาจากความรักของพ่อแม่เลยล่ะค่ะ
ซัมเมอร์ ปี 1
ดรีม : “แกคุยไรกันอ่ะ” ดรีมเดินเข้าไปนั่งโต๊ะประจำที่ใต้คณะพร้อมกับถามเพื่อนสาวทั้ง 3 คนที่กำลังเม้าท์มอยกันอย่างสนุก
กีกี้ : “กรี๊ดดดดด อีดรีม! สวยขึ้นป่ะเนี้ย หน้าดูใสขึ้นป่ะ เฮ้ย! แกผอมลงด้วยเปล่าเนี้ย แม่เจ้า! กลับบ้านนอกไปไม่กี่อาทิตย์ดูเป๊ะเว่อร์ขึ้นนะจ้ะ”เพื่อนสาวสองของฉันเอ่ยถามขึ้นโดยไม่ได้สนใจคำถามของฉัน
ดรีม : “สวยบ้าไรวะ รอยสิวเต็มหน้าอยู่เลย” ฉันพูดหน้านิ่ง แต่ในใจแทบกรี๊ด หลังจากที่ใช้เวลาปิดเทอมอันน้อยที่บ้านนอกประโคมสมุนไพรที่มีสรรพคุณเรื่องความสวย ปิดตายตัวเองอยู่แต่ในบ้าน ดูเหมือนว่ามันจะได้ผลนะคะ
นีล : “เออ อีดรีม สวยขึ้นจริง ได้น้ำดีหรอวะ ฮ่าๆ”
ใบหม่อน : “โอ้ย! อีนีล พูดไป อีดรีมมันไม่รู้จักหรอก น้ำ เนิ้มอะไร เกิดมา 18 ฝนจึงไม่เคยสัมผัสชายใด และไม่เคยมีชายใดมาสัมผัสนะคร้า (ลากเสียงยาวด้วยน้ำเสียงที่โคตรจะเยาะเย้ยเลย): เบ้ปากมองบนค่ะ ไม่สนใจ เพราะจริงอย่างที่มันว่าค่ะ เกิดมา 18 ปีไม่เคยมีใครมาจีบ ไม่เคยมีแฟน แต่แคร์ที่ไหนคะ
ดรีม : “ค่ะ อีแม่คนสวย อย่าให้กรูสวยบ้างนะคะ แม่จะควงผู้พร้อมกันซักสิบคนเลยค่ะ”
กีกี้ : “ค่ะ กรูจะคอยดูนะคะ”
ดรีม : “เออ! ช่างเรื่องของกรูเถอะ ว่าแต่เมื่อกี้พวกเมิงคุยเรื่องไรกันอยู่ ออกรสออกชาติเชียว” ฉันถามก่อนจะยกแก้วน้ำชาเย็นขึ้นมาดูด
(ก่อนที่หลายคนจะงง ขออธิบายก่อนนะคะว่าแก๊งค์ของดรีม ประกอบไปด้วยดรีม กีกี้(นางเป็นสาวสองที่แต่งชายไม่ได้เฉาะ ส่วนนีลและใบหม่อนเป็นสาวแท้ที่แซ่บใช้ได้เลยล่ะค่ะ)
นีล : “นี่แกไม่รู้หรอว่านทีเลิกกับอิมแล้วอ่ะ”
นทีคือเพื่อนในคณะที่ไม่ได้สนิทถึงขั้นอยู่แก๊งค์เดียวกัน แต่ด้วยความที่เขาเลขที่ใกล้กันเลยได้ทำงานร่วมกันบ่อยๆ ทำให้สนิทกันในระดับหนึ่ง แถมนทียังเป็นคู่กัดประจำคณะของฉันอีกด้วย เจอกันทีไรเป็นต้องแกล้งฉันให้หงุดหงิดทุกที ส่วนอิมเป็นแฟนนทีที่เรียนอยู่คนละมหาลัยนางคบกันมาตั้งแต่มัธยม แต่พอเข้ามหาลัยก็ได้ข่าวรักๆ เลิกๆ กันมาตลอด ดรีมไม่เคยเจออิมหรอก ไม่รู้ว่าเป็นคนยังไง เคยเห็นแต่ใน facebook
ดรีม : “ไม่เห็นแปลก เดี๋ยวมันก็คืนดีกันป่ะวะ ก็เห็นมันรักๆ เลิกๆ มาหลายครั้งแล้วนี่ ครั้งนี้ก็คงเหมือนเดิมแหละ”
ใบหม่อน : “ไม่เว้ย! ลางของฉันมันบอกว่าครั้งนี้มันเลิกจริง มันเฮิร์ทมากกว่าทุกครั้งอีกนะ”
เฮ้ย!!!!!!!!!!!
ดรีม : “กรี๊ดดดดดดดดดดดดด!” อกอีแป้นจะแตกใครบังอาจมาจี้เอวฉันเนี้ย ตกใจหมดเลย คนกำลังตั้งใจนินทา เอ้ยย! ตั้งใจฟังอยู่
สี่สาวแหกปากพร้อมกัน : “นที!!!”
นที : “ฉันเอง มีอะไรหรอ ตะโกนซะดัง” นทีถามงงๆ
กีกี้ : “ผัวขา ไม่เป็นไรละ เมียอยู่นี่แล้ว เมียจะดามใจผัวเองค่ะ” นังกีกี้พูดพร้อมกับเดินเข้าไปควงแขนนทีแล้วเอาหน้าซุกไปที่แผงอกของนที
นที : “เฮ้ย! โอเค ไม่เป็นไร ว่าแต่เย็นนี้พวกแกว่างกันป่ะ ไปให้อาหารปลากันมะ”
นีล : “ฉันก็อยากไปนะที ฉันรู้ว่าตอนนี้เป็นช่วงยากลำบาก แกคงอยากจะมีเพื่อนใช่มะ แต่ฉันนัดผู้ไว้แล้วอ่า”
ใบหม่อน : “เออ นั่นสิ ฉันก็อยากไปนะแก แต่แกก็รู้นี่ว่าฉันกับอีกี้สอบตกปลายภาคยังไม่ได้แก้เลย เย็นนี้อาจารย์นัดฉันสองคนไว้อ่ะ ไว้คราวหลังนะ”
กีกี้ : “อีผี เมิงว่างนี่ เมิงก็ไปเป็นเพื่อนผัวกรูหน่อย”
นที : “แกว่างหรอ ไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยดิ”
ดรีม : “ก็ว่างนะ แต่….เออๆ ไปก็ได้ งั้นแกก็แถมข้าวเย็นให้ฉันด้วยนะละกันนะ”
นที : “ได้ดิ งั้นห้าโมงเย็นไปรับหน้าหอนะ”
ดรีม : “เออค่ะ”
จำได้ว่าวันนั้นนัดกันห้าโมงเย็น นาง
มารับตอนเกือบหกโมงเย็นค่ะ เจอดิฉันสวดไปยกใหญ่ เราเถียงกันไปสุดทางกว่าจะถึงสวนสาธารณะที่จะไปปล่อยปลาเล่นเอาคอแห้งกันเลยทีเดียว 1 ในเรื่องที่เถียงกันก็คือเรื่องปลาที่จะซื้อมาปล่อย ดรีมเห็นว่าเราก็แค่ซื้อปลาที่เขาขายอยู่ที่สวนเลยก็ได้ ยังไงก็ได้ปล่อยปลาเหมือนกัน แต่นทีกลับพาดรีมไปซื้อปลาในตลาด ปลาที่กำลังจะซื้อไปเป็นอาหารมาปล่อยแทน โอ้โห! ลึกซึ้งไปอีก ไม่คิดว่านางจะมีมุมแบบนี้ หือ! นะ หลังจากที่เราปล่อยปลาเสร็จ เราก็ไปให้อาหารนกพิราบกันต่อ
นที : “ดรีม แกโอเคเปล่า”
ดรีม : “โอเคเรื่องไรวะ”
นที : “ก็ที่ไอ้ติณมันเปิดตัวคบกับรุ่นพี่ในคณะอ่ะ”
ดรีม : “ทำไมฉันจะไม่โอเควะ ฉันกับติณไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย”
จำได้ว่าตอนนั้นติณเป็นผู้ชายที่ทำให้ฉันเฮิร์ทในตอนนั้น ทำให้ฉันอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง อยากสวยขึ้น สงสัยไหมคะว่าติณเป็นใคร ติณก็เป็นเพื่อนผู้ชายที่อยู่ในคณะค่ะ หล่อ ขาว หน้าตาดี เป็นที่หมายปองของสาวๆ ในคณะไม่ว่าจะรุ่นเพื่อนหรือรุ่นพี่ ติณเป็นผู้ชายอีกคนที่ฉันได้มีโอกาสได้ทำงานร่วมกันบ่อยมากจนทำให้เราสนิทกัน สนิทกันแบบที่ไม่มีใครรู้ ฉันแทบจะรู้ทุกเรื่องของติณ เวลาติณมีปัญหาก็มักจะปรึกษาฉันตลอด ทั้งๆ ที่นางเป็นคนที่โลกส่วนตัวสูง เข้าถึงยาก นิ่ง เฉย ออกจะเย็นชาด้วยซ้ำไป นี่แหละผู้ชายในสเป็คฉันเลย แต่ฉันคิดว่าที่ผ่านมาฉันก็แค่เป็นถังขยะที่นางเก็บไว้ระบายก็เท่านั้น หลังจากที่ติณเปิดตัวว่าคบกับรุ่นพี่ในคณะฉันก็ถอยห่างออกมา กลับมาอยู่ในโลกเป็นจริงๆ ว่าจริงๆ แล้วฉันก็คือเพื่อนคนหนึ่งที่นางไว้ใจก็เท่านั้นเอง
นที : “เปล่า ฉันก็แค่เห็นเพื่อนเขาพูดกันว่าแกกับติณมีแบบซัมติงงี้ พักหลังมาฉันว่าแกก็ดูเศร้าๆ นะเว้ย”
ดรีม : “ถ้าเป็นแก แกจะเลือกอีผีอย่างฉันมาเป็นแฟนป่ะล่ะ”
นที : “แล้วแกไม่ดีตรงไหนวะ” จำได้ว่าคำพูดนั้นทำให้ฉันลอยเลยทีเดียว ในชิวิตอีผีอย่างฉัน ไม่มีใครมาพูดแบบนี้หรอก แม้ว่าในตอนนั้นนางอาจจะแค่อยากปลอบฉันก็ตาม
และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของความรักครั้งแรก รักที่เป็นของจริว รักของเรา รักที่ไม่ใช่ฉันคิดไปเอง รักที่ไม่ใช่ฉันรักข้างเดียว รักที่วันนี้ฉันเกือบทำลายมันด้วยความไม่พอของฉันเอง
"รักแท้" หรือแค่ "ไม่พอ" ประสบการณ์ตรงของผู้หญิงที่ไม่รู้จักพอ
ซัมเมอร์ ปี 1
ดรีม : “แกคุยไรกันอ่ะ” ดรีมเดินเข้าไปนั่งโต๊ะประจำที่ใต้คณะพร้อมกับถามเพื่อนสาวทั้ง 3 คนที่กำลังเม้าท์มอยกันอย่างสนุก
กีกี้ : “กรี๊ดดดดด อีดรีม! สวยขึ้นป่ะเนี้ย หน้าดูใสขึ้นป่ะ เฮ้ย! แกผอมลงด้วยเปล่าเนี้ย แม่เจ้า! กลับบ้านนอกไปไม่กี่อาทิตย์ดูเป๊ะเว่อร์ขึ้นนะจ้ะ”เพื่อนสาวสองของฉันเอ่ยถามขึ้นโดยไม่ได้สนใจคำถามของฉัน
ดรีม : “สวยบ้าไรวะ รอยสิวเต็มหน้าอยู่เลย” ฉันพูดหน้านิ่ง แต่ในใจแทบกรี๊ด หลังจากที่ใช้เวลาปิดเทอมอันน้อยที่บ้านนอกประโคมสมุนไพรที่มีสรรพคุณเรื่องความสวย ปิดตายตัวเองอยู่แต่ในบ้าน ดูเหมือนว่ามันจะได้ผลนะคะ
นีล : “เออ อีดรีม สวยขึ้นจริง ได้น้ำดีหรอวะ ฮ่าๆ”
ใบหม่อน : “โอ้ย! อีนีล พูดไป อีดรีมมันไม่รู้จักหรอก น้ำ เนิ้มอะไร เกิดมา 18 ฝนจึงไม่เคยสัมผัสชายใด และไม่เคยมีชายใดมาสัมผัสนะคร้า (ลากเสียงยาวด้วยน้ำเสียงที่โคตรจะเยาะเย้ยเลย): เบ้ปากมองบนค่ะ ไม่สนใจ เพราะจริงอย่างที่มันว่าค่ะ เกิดมา 18 ปีไม่เคยมีใครมาจีบ ไม่เคยมีแฟน แต่แคร์ที่ไหนคะ
ดรีม : “ค่ะ อีแม่คนสวย อย่าให้กรูสวยบ้างนะคะ แม่จะควงผู้พร้อมกันซักสิบคนเลยค่ะ”
กีกี้ : “ค่ะ กรูจะคอยดูนะคะ”
ดรีม : “เออ! ช่างเรื่องของกรูเถอะ ว่าแต่เมื่อกี้พวกเมิงคุยเรื่องไรกันอยู่ ออกรสออกชาติเชียว” ฉันถามก่อนจะยกแก้วน้ำชาเย็นขึ้นมาดูด
(ก่อนที่หลายคนจะงง ขออธิบายก่อนนะคะว่าแก๊งค์ของดรีม ประกอบไปด้วยดรีม กีกี้(นางเป็นสาวสองที่แต่งชายไม่ได้เฉาะ ส่วนนีลและใบหม่อนเป็นสาวแท้ที่แซ่บใช้ได้เลยล่ะค่ะ)
นีล : “นี่แกไม่รู้หรอว่านทีเลิกกับอิมแล้วอ่ะ”
นทีคือเพื่อนในคณะที่ไม่ได้สนิทถึงขั้นอยู่แก๊งค์เดียวกัน แต่ด้วยความที่เขาเลขที่ใกล้กันเลยได้ทำงานร่วมกันบ่อยๆ ทำให้สนิทกันในระดับหนึ่ง แถมนทียังเป็นคู่กัดประจำคณะของฉันอีกด้วย เจอกันทีไรเป็นต้องแกล้งฉันให้หงุดหงิดทุกที ส่วนอิมเป็นแฟนนทีที่เรียนอยู่คนละมหาลัยนางคบกันมาตั้งแต่มัธยม แต่พอเข้ามหาลัยก็ได้ข่าวรักๆ เลิกๆ กันมาตลอด ดรีมไม่เคยเจออิมหรอก ไม่รู้ว่าเป็นคนยังไง เคยเห็นแต่ใน facebook
ดรีม : “ไม่เห็นแปลก เดี๋ยวมันก็คืนดีกันป่ะวะ ก็เห็นมันรักๆ เลิกๆ มาหลายครั้งแล้วนี่ ครั้งนี้ก็คงเหมือนเดิมแหละ”
ใบหม่อน : “ไม่เว้ย! ลางของฉันมันบอกว่าครั้งนี้มันเลิกจริง มันเฮิร์ทมากกว่าทุกครั้งอีกนะ”
เฮ้ย!!!!!!!!!!!
ดรีม : “กรี๊ดดดดดดดดดดดดด!” อกอีแป้นจะแตกใครบังอาจมาจี้เอวฉันเนี้ย ตกใจหมดเลย คนกำลังตั้งใจนินทา เอ้ยย! ตั้งใจฟังอยู่
สี่สาวแหกปากพร้อมกัน : “นที!!!”
นที : “ฉันเอง มีอะไรหรอ ตะโกนซะดัง” นทีถามงงๆ
กีกี้ : “ผัวขา ไม่เป็นไรละ เมียอยู่นี่แล้ว เมียจะดามใจผัวเองค่ะ” นังกีกี้พูดพร้อมกับเดินเข้าไปควงแขนนทีแล้วเอาหน้าซุกไปที่แผงอกของนที
นที : “เฮ้ย! โอเค ไม่เป็นไร ว่าแต่เย็นนี้พวกแกว่างกันป่ะ ไปให้อาหารปลากันมะ”
นีล : “ฉันก็อยากไปนะที ฉันรู้ว่าตอนนี้เป็นช่วงยากลำบาก แกคงอยากจะมีเพื่อนใช่มะ แต่ฉันนัดผู้ไว้แล้วอ่า”
ใบหม่อน : “เออ นั่นสิ ฉันก็อยากไปนะแก แต่แกก็รู้นี่ว่าฉันกับอีกี้สอบตกปลายภาคยังไม่ได้แก้เลย เย็นนี้อาจารย์นัดฉันสองคนไว้อ่ะ ไว้คราวหลังนะ”
กีกี้ : “อีผี เมิงว่างนี่ เมิงก็ไปเป็นเพื่อนผัวกรูหน่อย”
นที : “แกว่างหรอ ไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยดิ”
ดรีม : “ก็ว่างนะ แต่….เออๆ ไปก็ได้ งั้นแกก็แถมข้าวเย็นให้ฉันด้วยนะละกันนะ”
นที : “ได้ดิ งั้นห้าโมงเย็นไปรับหน้าหอนะ”
ดรีม : “เออค่ะ”
จำได้ว่าวันนั้นนัดกันห้าโมงเย็น นางมารับตอนเกือบหกโมงเย็นค่ะ เจอดิฉันสวดไปยกใหญ่ เราเถียงกันไปสุดทางกว่าจะถึงสวนสาธารณะที่จะไปปล่อยปลาเล่นเอาคอแห้งกันเลยทีเดียว 1 ในเรื่องที่เถียงกันก็คือเรื่องปลาที่จะซื้อมาปล่อย ดรีมเห็นว่าเราก็แค่ซื้อปลาที่เขาขายอยู่ที่สวนเลยก็ได้ ยังไงก็ได้ปล่อยปลาเหมือนกัน แต่นทีกลับพาดรีมไปซื้อปลาในตลาด ปลาที่กำลังจะซื้อไปเป็นอาหารมาปล่อยแทน โอ้โห! ลึกซึ้งไปอีก ไม่คิดว่านางจะมีมุมแบบนี้ หือ! นะ หลังจากที่เราปล่อยปลาเสร็จ เราก็ไปให้อาหารนกพิราบกันต่อ
นที : “ดรีม แกโอเคเปล่า”
ดรีม : “โอเคเรื่องไรวะ”
นที : “ก็ที่ไอ้ติณมันเปิดตัวคบกับรุ่นพี่ในคณะอ่ะ”
ดรีม : “ทำไมฉันจะไม่โอเควะ ฉันกับติณไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย”
จำได้ว่าตอนนั้นติณเป็นผู้ชายที่ทำให้ฉันเฮิร์ทในตอนนั้น ทำให้ฉันอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง อยากสวยขึ้น สงสัยไหมคะว่าติณเป็นใคร ติณก็เป็นเพื่อนผู้ชายที่อยู่ในคณะค่ะ หล่อ ขาว หน้าตาดี เป็นที่หมายปองของสาวๆ ในคณะไม่ว่าจะรุ่นเพื่อนหรือรุ่นพี่ ติณเป็นผู้ชายอีกคนที่ฉันได้มีโอกาสได้ทำงานร่วมกันบ่อยมากจนทำให้เราสนิทกัน สนิทกันแบบที่ไม่มีใครรู้ ฉันแทบจะรู้ทุกเรื่องของติณ เวลาติณมีปัญหาก็มักจะปรึกษาฉันตลอด ทั้งๆ ที่นางเป็นคนที่โลกส่วนตัวสูง เข้าถึงยาก นิ่ง เฉย ออกจะเย็นชาด้วยซ้ำไป นี่แหละผู้ชายในสเป็คฉันเลย แต่ฉันคิดว่าที่ผ่านมาฉันก็แค่เป็นถังขยะที่นางเก็บไว้ระบายก็เท่านั้น หลังจากที่ติณเปิดตัวว่าคบกับรุ่นพี่ในคณะฉันก็ถอยห่างออกมา กลับมาอยู่ในโลกเป็นจริงๆ ว่าจริงๆ แล้วฉันก็คือเพื่อนคนหนึ่งที่นางไว้ใจก็เท่านั้นเอง
นที : “เปล่า ฉันก็แค่เห็นเพื่อนเขาพูดกันว่าแกกับติณมีแบบซัมติงงี้ พักหลังมาฉันว่าแกก็ดูเศร้าๆ นะเว้ย”
ดรีม : “ถ้าเป็นแก แกจะเลือกอีผีอย่างฉันมาเป็นแฟนป่ะล่ะ”
นที : “แล้วแกไม่ดีตรงไหนวะ” จำได้ว่าคำพูดนั้นทำให้ฉันลอยเลยทีเดียว ในชิวิตอีผีอย่างฉัน ไม่มีใครมาพูดแบบนี้หรอก แม้ว่าในตอนนั้นนางอาจจะแค่อยากปลอบฉันก็ตาม
และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของความรักครั้งแรก รักที่เป็นของจริว รักของเรา รักที่ไม่ใช่ฉันคิดไปเอง รักที่ไม่ใช่ฉันรักข้างเดียว รักที่วันนี้ฉันเกือบทำลายมันด้วยความไม่พอของฉันเอง