แบ่งปันประสบการณ์ การไปคลินิกผู้มีบุตรยากกันครับ มันไม่ยากอย่างที่คิด

พอดีผมอ่านมาเห็นประสบการณ์การรีดน้ำเชื้อ ของกระทู้นึง ก็เลยเกิดความรู้สึกอยากแบ่งปันประสบการณ์ ให้ฟังกันนะครับ เพราะคนรอบๆ ข้างก็ถามผมบ่อยๆ สำหรับการไปรักษาผู้มีบุตรยาก ทำอย่างไร อะไรเท่าไหร่ หมดไปเท่าไหร่   สำหรับข้อมูลที่ผมจะแบ่งปันกันนี้ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยนะครับ เพราะผ่านมา 5 เกือบ 6 ปีแล้ว วิวัฒนาการการแพทย์ อาจจะมีการพัฒนาเกินจากช่วงที่ผมทำอยู่  

*** ขออนุญาต TAG มนุษย์เงินเดือน  เพราะผมคิดว่า สมัยนี้ คนมีบุตรยากกันเยอะ และสำหรับพนักงานบริษัท ผมคิดว่าน่าจะเยอะมาก ***

แต่งงานมา 3-4 ปี ไม่มีลูกสักที

ตอนนั้นผมแต่งงานมาแล้ว ประมาณ 3-4 ปี ไม่มีลูก ไม่มีวี่แวว ว่าจะมีลูกเลย ถึงแม้ว่าจะมีภารกิจในช่วงของไข่ตกก็ตามแต่  ตอนนั้นอายุฝ่ายชาย ก็ประมาณ 36  ฝ่ายหญิงเช่นเดียวกัน ประมาณ 35  ปี  นั่นหมายความว่าโอกาสที่จะมีบุตรเองก็อาจจะลำบาก เลยทำให้คิดว่า น่าจะต้องพบแพทย์แล้ว   เลยตัดสินใจไปพบแพทย์   วันแรกที่ไปพบก็ค่อนข้างอายพอสมควร โดยเฉพาะฝ่ายชาย เพราะอาจจะโดนมองว่า ไม่มีน้ำยา  หรือประมาณว่า ไม่เป็นงาน อะไรทำนองนั้น  


    และนี่คือสาเหตุนึงที่คนไม่ค่อยชอบไปพบแพทย์นอกจากปัจจัยเรื่องเงิน   วันแรกที่ไปพบแพทย์นั้น ก็ทำใจสบายๆ  แต่ผมแนะนำได้เลยว่า   ก่อนที่ไปพบแพทย์นั้นเราต้องมีการโทรนัดก่อน หรือถ้า Walk in เข้าไปเลย ก็ได้ แต่แพทย์อาจจะไม่มีคิวให้   แต่ผมแนะนำว่าให้โทรไปปรึกษาก่อนดีกว่า เพราะจะมีพยาบาลคอยแนะนำเลย ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง  แต่เท่าที่จำได้ว่า เหมือนเค้าจะให้ฝ่ายหญิงเป็นประจำเดือนวันที่สอง แล้วค่อยไปหรือเปล่า ผมไม่แน่ใจ  แต่ที่รู้คือ ฝ่ายชายก่อนไปพบ ก็ใหรีดเอาน้ำเชื้อออก หรือเรียกว่าง่ายๆ คือไปช่วยตัวเองก่อน ไปพบ สักสองสามวัน  

    ส่วนใหญ่คนมักจะเข้าใจผิดว่า การที่ไม่ได้เอาเชื้อออกนานๆ จะทำให้เชื้อแข็งแรงปึ๋งปัง แต่ความจริงไม่ใช่เลยครับ    ก่อนวันไปพบแพทย์ ก็รีดออกก่อนสักสามวันกำลังสวย


วันพบแพทย์
       คลินิกที่ผมไปรักษาอยู่ในโรงพยาบาล  ค่อนข้างมีมาตรฐานสักหน่อย  วันไปพบแพทย์ แพทย์ก็จะดูนั่นดูนี่  แล้วก็จะทำการตรวจ แต่ผมจำไม่ได้ว่าฝ่ายหญิงตรวจอะไรบ้าง  แต่ที่แน่ๆ นอนๆ เลย คือฝ่ายชาย   ต้องเข้าห้องปฏิบัติการ    คราวนี้ละครับ ฝ่ายชายนี่ ต่อให้เข้มแข็งแค่ไหน ไม่แคร์สื่ออย่างไร ใช้ชีวิตแมนแค่ไหน เจอช้อตนี้เข้าไป รับรองมีอาย และเขินมากๆๆ นะครับ   

ฝ่ายชายรีดน้ำเชื้อ ไม่ต้องอายครับ พยาบาลเห็นมาเยอะมากๆ แล้ว

แต่ไม่ต้องอาย เพราะเค้าจะมีห้องให้คุณอย่างดี ห้องน้ำในตัว  พร้อมหนังโป๊ หนังสือโป๊ (แต่ค่อนข้างเก่ามากๆ อาจบิลท์อารมณ์ไม่ขึ้นเท่าไหร่)  ผมไม่รู้ว่าผ่านหลายปี เปลี่ยนเรื่อง เปลี่ยนหนังสือหรือยังก็ไม่รู้    พร้อมไฟแบบ warm white ให้บรรยากาศสุดๆ   พร้อมเก้าอี้ la””oy  อย่างดี แต่เก่า เอี๊ยดอ๊าดไปหน่อย  เวลาคุณผุ้ชายปฏิบัติเสียงกันก็เอียดๆ อาดๆ อาจจะดังไปถึงข้างนอกได้  ทำให้คุณผู้ชายเขินได้ง่ายๆ    ผมแนะนำสำหรับฝ่ายชายคือ ก่อนไปพบแพทย์ ให้หาขวดพลาสติกเล็กๆ เหมือนใส่ยา ลองให้น้ำเชื้อแรกให้ลงในขวดให้ได้นะครับ เพราะค่อนข้างจะยากสักนิด เพราะเวลาฝ่ายชายถึงจะสุดยอด มันไม่มีจังหวะในการเอาขวดพลาสติกไปรองนะครับ  และน้ำหยดแรกที่ออกมาจะมีความสำคัญ เห็นพยาบาลบอกว่า หยดแรกนั่นแข็งแรงที่สุด  ตรงนี้ยากสักนิดนึง

หลังจากเก็บใส่ขวดเรียบร้อย จัดการตัวเองให้ไวๆ และเรียกพยาบาลให้เร็วที่สุดเลยครับ  ของผมตอนนั้นออกเรียกเอง เพราะห้องดันอยู่ข้างๆ พอดี พยาบาลก็จะมาดูว่า เยอะพอที่จะปั่นได้หรือไม่  ผมบอกได้เลยครับ ครั้งแรกเขินสุดๆ  พยาบาลก็จะเอาไปตรวจ คราวนี้เราก็มานั่งรอพบแพทย์อีกครั้งนึง  คราวนี้เราก็จะรู้แล้วว่า ฝ่ายไหนละที่มีปัญหากันแน่  หมอก็จะบอกว่า ของฝ่ายหญิง มีพังผืด มดลูกบาง  อะไรก็ว่ากันไป  ฝ่ายชายก็เชื้อน้อย แต่แข็งแรง แต่ไม่พอ หรือเชื้อเยอะ แต่ตัวแข็งแรงน้อย ไม่สมบูรณ์   หรือบางคุ่ก็จะสมบูรณ์ทั้งคู่ แต่ไม่มีลูกก็มี

หมอก็จะแนะนำเลยว่า เจอเคสแบบนี้ต้องทำแบบไหนถึงจะสัมฤทธิ์ผล  เช่นแข็งแรงทั้งคู่เลยก็อาจจะให้วิตามินไปกินก่อน แล้วลองสักเดือนนึง ไม่ได้ผลก็มาหาใหม่ อาจจะเริ่มที่ IUI ก่อน  ถ้าไม่ได้อีก ก็ต้องหาวิธีการอื่นต่อไป

แล้วเคสของผมอย่างไรล่ะ  ของผมฝ่ายหญิงปรกติ แต่ฝ่ายชายเชื้อไม่แข็งแรง  หมอเลยแนะนำว่าถ้าเคสแบบนี้ และอายุแบบนี้ แนะนำให้ทำวิธี ICSI เลยจะดีกว่า หรืออยากจะลอง IUI ซึ่งค่าใช้จ่ายถูกกว่ากันมากๆๆ    ด้วยความที่เสียดายเงิน ก็ขอลอง IUI ก่อนดีกว่า งบประมาณที่เสียไปก็ประมาณ สองหมื่นกว่าๆ ได้    บางคนก็สงสัย IUI คืออะไร   IUI คร่าวๆ คือการเอาเชื้อของฝ่ายชาย  ไปปล่อยลงปากทาง แล้วให้เค้าว่ายไปเอง ไปหาไข่เอง และช่วยตัวเองเจาะเอง จัดการเอง จนกว่าจะปฏิสนธิกันเอง     แต่ผมก็เฟลที่วิธีนี้ ไม่ได้ผล ไม่ประสบความสำเร็จ

วันที่จะทำ IUI ก่อนหน้านั้น พยาบาลจะให้เรามารีดเชื้ออีกรอบนึง แพทย์จะเป็นคนฉีดเชื้อของเราไปที่มดลูกของฝ่ายหญิง ขั้นตอนนี้แป๊บเดียวเอง แต่ผมไม่แน่ใจว่าแพทย์จะเอาตัวที่แข็งแรงที่สุดหรือเปล่า แต่คิดว่าน่าจะเลือกตัวที่แข็งแรงที่สุดมา ฝ่ายหญิงก็ไม่ต้องอะไร ถึงวันก็ไปขึ้นขาหยั่ง  ก่อนหน้านั้นฝ่ายหญิงก็จะมีวิตามินไปกินเสริม

ครั้งแรกไม่สำเร็จ  แล้วอย่างไรต่อไปดี  หมอก็แจ้งว่าวิธีที่ดีที่สุดคือ ICSI  แล้ว ICSI คืออะไรกัน แล้วต้องเตรียมเงินเท่าไหร่ดี มันทั้งหมดประมาณกี่บาท  เจ็บมั้ย อะไรยังไง เดี๋ยวมาต่อนะครับ ขอพักก่อน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่