เพราะฉันเพิ่งบอกรักไป........และเค้าก็รับฟัง...(แหม มาเป็นเพลงเลยนะ)
เกิดเป็นหญิงมาจนอายุ 30 ปี ก็เพิ่งได้สารภาพชายหนุ่มเป็นครั้งแรก ถึงจะไม่ได้เป็นการสารภาพตรงๆต่อหน้าก็เถอะ
แต่.....สุดท้ายก็ได้ นก มาเลี้ยงอีกตัวค่ะ
เรารู้จักหนุ่มคนนี้มาเกือบๆ 6 เดือนแล้วค่ะ ผ่านทางโปรแกรม tinder เริ่มแรก เราไม่ได้สนใจเค้าเล้ยยยยย เพราะ หน้าตาไม่ได้สเปคเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ตอนเล่นก็เลือกไปแบบขำๆไม่ได้คิดไร ปกติเราก็ไม่ได้ทักใครก่อนด้วย
เราทั้งสองคน Match กันประมาณ 2 เดือน เค้าถึงได้มาเริ่มทักเรา เพราะตอนนั้นเค้ามาไทยพอดี แต่ไม่ได้จะนัดเจออะไรนะคะ เเค่ถามไถ่เรื่องราวในเมืองไทย ว่าเค้ามาทำงานที่จังหวัดกาญฯ เจออะไรบ้าง แต่เราสองคนคุยกันแล้วทำไมไม่รู้มันคลิกกันมากเลยค่ะ แค่2-3วันแรกนี่ คุยกันยาวมากๆๆๆๆ ปกติเราเป็นคนไม่ติดแชทเลยนะ แต่คุยกับเค้านี่มันเพลินมากๆ เราทั้งคู่ก็เล่าเรื่องของตัวเองให้ฟัง ถามเรื่องราวของกันและกัน เค้ามาทำงานที่ไทยประมาณ 1สัปดาห์ก็กลับประเทศเค้า คือ สิงคโปร์ แต่เราก็ยังแมสเซสคุยกันตลอดถึงแม้เค้าจะกลับบ้านไปแล้ว
จนวันนึงเค้าก็มาเที่ยวเมืองไทยกับเพื่อนช่วงตอนคริสมาสต์ที่ผ่านมา และนั่นเป็นครั้งแรกที่เราได้เจอกันตัวเป็นๆ เจอตอนแรกเราบอกเลย เรายังไม่ได้ประทับใจกับรูปลักษณ์มากนัก คือเราชอบผู้ชายแต่งตัวบูติคๆหน่อย แต่วันนั้นเค้ามาหาเราแบบเสื้อยืด กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ สไตล์ผู้ชายสิงคโปร์ในวันชิลๆ
วันนั้นเราก็พาเค้าเดินเที่ยวในเมือง แถวๆสยามนั้นแหละค่ะ ไล่มาตั้งแต่เซ็นทรัลเวิลด์ พารากอน สยามสแควร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ พาไปดูหอศิลป์ แล้วก็ร่ำลากันไป ซึ่งเราพาเค้าชมกทม แค่ครึ่งวันนั้นวันเดียวค่ะ แต่เราก็คุยกันสม่ำเสมอไม่ขาด แต่ไม่ได้คุยตลอดเวลา เพราะต่างคนก็ต่างงานยุ่ง
จนเรามีโอกาสได้ไปสิงคโปร์ อีก 1 เดือน ถัดมา และแน่นอน เราต้องบอกพ่อหนุ่มของเราว่าจะไปเยือน เพื่อเราจะได้เจอะเจอกันอีก
เริ่มด้วยไฟลท์ที่เราไปถึงค่อนข้างเช้ามากกกก ตี 3 ได้ แต่เค้าก็ยืนกรานยังไงก็จะมารับเราที่สนามบิน นั่นก็เป็นความประทับใจแรกละ โห นี่ทุ่มเทตื่นเช้าเพื่อขับรถมารับเราเลยหรอ วันนั้นเราต้องไปนอนกับเพื่อนเราค่ะ เราก็บอกเพื่อนเรียบร้อยว่าถ้าถึงแล้วจะโทรหานะ มารับด้วย เพราะเราเข้าไม่ได้ถ้าไม่มี Key Card ซึ่งจริงๆตอนแรกเรากะนั่งๆนอนๆรอในสนามบิน จนเช้าละค่อยออก เพราะก็เกรงใจเพื่อนไปหาแต่เช้าตรู่ขนาดนั้น แต่พ่อหนุ่มเราบอกอย่าเลย ไอไปรับยูได้ เราก็เลยต้องไปขอโทษขอโพยเพื่อนให้ช่วยมาเปิดประตูให้หน่อยนะ
แต่....พอจอดที่หน้าคอนโดเพื่อน โทรหา เพื่อนไม่รับค่ะ เราเข้าใจคงนอนเพลินจนไม่ได้ยินเสียง โทรเป็น10 เป็น 100 พ่อหนุ่มก็หาวแล้วหาวอีก เพราะนั่นก็ตี3กว่าแล้ว เราก็ตายแล้วเอาไง เพื่อนไม่รับโทรศัพท์ ก็เลยบอกเค้าว่ายูไปส่งไอที่สนามบินเหมือนเดิมได้ไหม ณ เวลานั้นเราคิดไรไม่ออกจริงๆ แต่พ่อหนุ่มก็บอกว่า ถ้ายูไม่มายด์ ไปนอนบ้านไอก็ได้นะ ไอ้เราก็แบบ ตายล้าวววววว... แต่รู้ว่าเค้าไม่ทำอะไรแน่นอน เพราะเค้าค่อนข้างสุภาพบุรุษ แล้วบ้านเมืองนี้ก็ค่อนข้างปลอดภัย เราก็เลย เอาว่ะ เอาไงก็เอา ให้ไปส่งสนามบินเหมือนเดิมก็ดูเหมือนคนบ้า ไปๆกลับๆ
แชร์ประสบการณ์การเดทกับหนุ่มในแอพ และ การสารภาพรักแบบนกๆ
เกิดเป็นหญิงมาจนอายุ 30 ปี ก็เพิ่งได้สารภาพชายหนุ่มเป็นครั้งแรก ถึงจะไม่ได้เป็นการสารภาพตรงๆต่อหน้าก็เถอะ
แต่.....สุดท้ายก็ได้ นก มาเลี้ยงอีกตัวค่ะ
เรารู้จักหนุ่มคนนี้มาเกือบๆ 6 เดือนแล้วค่ะ ผ่านทางโปรแกรม tinder เริ่มแรก เราไม่ได้สนใจเค้าเล้ยยยยย เพราะ หน้าตาไม่ได้สเปคเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ตอนเล่นก็เลือกไปแบบขำๆไม่ได้คิดไร ปกติเราก็ไม่ได้ทักใครก่อนด้วย
เราทั้งสองคน Match กันประมาณ 2 เดือน เค้าถึงได้มาเริ่มทักเรา เพราะตอนนั้นเค้ามาไทยพอดี แต่ไม่ได้จะนัดเจออะไรนะคะ เเค่ถามไถ่เรื่องราวในเมืองไทย ว่าเค้ามาทำงานที่จังหวัดกาญฯ เจออะไรบ้าง แต่เราสองคนคุยกันแล้วทำไมไม่รู้มันคลิกกันมากเลยค่ะ แค่2-3วันแรกนี่ คุยกันยาวมากๆๆๆๆ ปกติเราเป็นคนไม่ติดแชทเลยนะ แต่คุยกับเค้านี่มันเพลินมากๆ เราทั้งคู่ก็เล่าเรื่องของตัวเองให้ฟัง ถามเรื่องราวของกันและกัน เค้ามาทำงานที่ไทยประมาณ 1สัปดาห์ก็กลับประเทศเค้า คือ สิงคโปร์ แต่เราก็ยังแมสเซสคุยกันตลอดถึงแม้เค้าจะกลับบ้านไปแล้ว
จนวันนึงเค้าก็มาเที่ยวเมืองไทยกับเพื่อนช่วงตอนคริสมาสต์ที่ผ่านมา และนั่นเป็นครั้งแรกที่เราได้เจอกันตัวเป็นๆ เจอตอนแรกเราบอกเลย เรายังไม่ได้ประทับใจกับรูปลักษณ์มากนัก คือเราชอบผู้ชายแต่งตัวบูติคๆหน่อย แต่วันนั้นเค้ามาหาเราแบบเสื้อยืด กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ สไตล์ผู้ชายสิงคโปร์ในวันชิลๆ
วันนั้นเราก็พาเค้าเดินเที่ยวในเมือง แถวๆสยามนั้นแหละค่ะ ไล่มาตั้งแต่เซ็นทรัลเวิลด์ พารากอน สยามสแควร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ พาไปดูหอศิลป์ แล้วก็ร่ำลากันไป ซึ่งเราพาเค้าชมกทม แค่ครึ่งวันนั้นวันเดียวค่ะ แต่เราก็คุยกันสม่ำเสมอไม่ขาด แต่ไม่ได้คุยตลอดเวลา เพราะต่างคนก็ต่างงานยุ่ง
จนเรามีโอกาสได้ไปสิงคโปร์ อีก 1 เดือน ถัดมา และแน่นอน เราต้องบอกพ่อหนุ่มของเราว่าจะไปเยือน เพื่อเราจะได้เจอะเจอกันอีก
เริ่มด้วยไฟลท์ที่เราไปถึงค่อนข้างเช้ามากกกก ตี 3 ได้ แต่เค้าก็ยืนกรานยังไงก็จะมารับเราที่สนามบิน นั่นก็เป็นความประทับใจแรกละ โห นี่ทุ่มเทตื่นเช้าเพื่อขับรถมารับเราเลยหรอ วันนั้นเราต้องไปนอนกับเพื่อนเราค่ะ เราก็บอกเพื่อนเรียบร้อยว่าถ้าถึงแล้วจะโทรหานะ มารับด้วย เพราะเราเข้าไม่ได้ถ้าไม่มี Key Card ซึ่งจริงๆตอนแรกเรากะนั่งๆนอนๆรอในสนามบิน จนเช้าละค่อยออก เพราะก็เกรงใจเพื่อนไปหาแต่เช้าตรู่ขนาดนั้น แต่พ่อหนุ่มเราบอกอย่าเลย ไอไปรับยูได้ เราก็เลยต้องไปขอโทษขอโพยเพื่อนให้ช่วยมาเปิดประตูให้หน่อยนะ
แต่....พอจอดที่หน้าคอนโดเพื่อน โทรหา เพื่อนไม่รับค่ะ เราเข้าใจคงนอนเพลินจนไม่ได้ยินเสียง โทรเป็น10 เป็น 100 พ่อหนุ่มก็หาวแล้วหาวอีก เพราะนั่นก็ตี3กว่าแล้ว เราก็ตายแล้วเอาไง เพื่อนไม่รับโทรศัพท์ ก็เลยบอกเค้าว่ายูไปส่งไอที่สนามบินเหมือนเดิมได้ไหม ณ เวลานั้นเราคิดไรไม่ออกจริงๆ แต่พ่อหนุ่มก็บอกว่า ถ้ายูไม่มายด์ ไปนอนบ้านไอก็ได้นะ ไอ้เราก็แบบ ตายล้าวววววว... แต่รู้ว่าเค้าไม่ทำอะไรแน่นอน เพราะเค้าค่อนข้างสุภาพบุรุษ แล้วบ้านเมืองนี้ก็ค่อนข้างปลอดภัย เราก็เลย เอาว่ะ เอาไงก็เอา ให้ไปส่งสนามบินเหมือนเดิมก็ดูเหมือนคนบ้า ไปๆกลับๆ