เป็นกระทู้แรกของแม่หนิงและครอบครัวหลังจากที่เจอมากับตัวเองในคราวที่ไปเที่ยวปารีสระหว่างวันที่ 27 - 31 มกราคม 2560
เลยอยากแชร์ประสบการณ์เตือนภัยให้ะวังตัวไว้ค่ะ
เตือนภัยในการเที่ยวฝรั่งเศส!!!!!!
ปกติเวลาจะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศทุกครั้ง..แม่หนิงและพ่อโก้จะเตรียมตัวอย่างดีในการแต่งกายมิดชิด ซึ่งส่วนใหญ่ใส่แจ็คเก็ตสีดำ การเก็บของมีค่า (เงินสดสกุลต่างประเทศ) ก็จะมิดชิดและปลอดภัยที่สุด และเพื่อความปลอดภัยแม่หนิงเลยให้พ่อโก้ช่วยเก็บกระเป๋าเงินของแม่หนิงไว้ส่วนหนึ่ง
ประสบการณ์ : พ่อโก้เดินทางไปราชการต่างประเทศมาแล้วไม่น้อยกว่า 20 ประเทศ ก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย..(แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พ่อโก้เดินทางเที่ยวกันเองกับครอบครัว โดยไม่ได้มีบริษัททัวร์ดูแล) เมื่อปีที่แล้วแม่หนิงกับน้องพรีมไปอิตาลีกันเองสองแม่ลูกก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ (มีการแจ้งประกาศเตือนจากทางการสำหรับนักท่องเที่ยวให้ระวังความปลอดภัย) รวมถึงเมื่อไปประเทศสเปนที่เดินทางมาก่อนจะต่อมายังฝรั่งเศส (ระหว่างวันที่ 21-27 มกราคม 2560) ยังมีความปลอดภัยจนน่าประทับใจ
เหตุการณ์ : การมาฝรั่งเศสคราวนี้ แม่หนิงเลือกที่พักในย่าน 203 Rue Saint Honour ซึ่งอยูในเขต 1 ที่ถือได้ว่าเป็นย่านที่ปลอดภัย (เพื่อนๆเคยเตือนว่าอย่าเช่าที่พักในเขต 18-20)
สถานการณ์จริงกับในหนังไม่เหมือนกันเลย!!!!
เวลา 16.00 น. เหตุเกิดที่ย่าน Monmarte (น่าจะเป็นเขต 18) หลังจากเที่ยวชม Monmarte แล้ว เพื่อความปลอดภัยพ่อโก้เลยชวนให้รีบกลับก่อนจะค่ำ
และวางแผนจะนั่ง metro Anvers เพื่อจะกลับมาที่ Cathédrale Notre-Dame de Paris หลังจากลงไปสถานี metro Anvers แล้ว สังเกตุว่าในขบวนรถไฟตู้สุดท้ายทำไมมีคนเยอะผิดปกติจนผิดสังเกต...ทั้งที่ตู้อื่นคนก็ไม่หนาแน่นเท่าไหร่ เมื่อกำลังก้าวขึ้นรถไฟ ในเวลาไม่เกิน 10 วินาที (เหตุการณ์เร็วมาก) พ่อโก้เดินระวังหลังให้แม่หนิงกับน้องพรีม และพยายามป้องกันตัวเองดีที่สุดแล้ว แต่อยู่ๆมันมาเกินสามคนแน่นอน คนนึงก้มล็อกขา (และคาดว่าจะหาเงินในถุงเท้า) อีกคนนึงกระแทกให้เสียหลัก อีกคนล้วงกระเป๋าเงิน ทั้งที่พ่อโก้รู้ตัวและโวยวาย พร้อมยังจับคนที่ล็อกขาพ่อโก้ไว้ได้ โดยพ่อโก้ทำการล็อคคอคนที่คาดวา่าจะเป็นคนร้ายไว้
แต่พักพวกของมันรีบโยนกระเป๋าสตางค์ของพ่อโก้ที่เอาเงินออกแล้ว ออกนอกตัวรถ metro พ่อโก้เลยจำเป็นต้องปล่อยคอคนร้ายและรีบตามไปเก็บกระเป๋าเงินก่อน แม่หนิงพยายามไปล็อคตัวคนร้ายช่วยพ่อโก้..แต่เพราะมันตัวใหญ่ มันเลยหนีไปได้ เท่ากับว่า เป็นการปล้นกันซึ่งหน้า!!!
และคาดว่าน่าจะเป็นเหตุการณ์ใหญ่จนรถ metro หยุดและเปิดประตูไว้และยังไม่ออกจากสถานีจนตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ
พวกเราพยายามเรียก Police ดังลั่นสถานี ซักพักตำรวจเข้ามา..ขนาดเราบอกว่าคนร้ายน่าจะอยู่ในรถไฟ
หลังจากที่เราแจ้งรูปพรรณของคนที่คาดว่าจะเป็นคนร้ายแล้ว ตำรวจฝรั่งเศสไม่ได้พาเราไปหาตัวคนร้ายในขบวนรถไฟ แต่กลับพาพวกเราขึ้นไปบนสถานีและนั่งรถตำรวจไปค้นหาคนร้ายตามทางขึ้นของ metro ในย่านต่างๆ สุดท้ายก็ไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ ตำรวจพามาส่งที่สถานีตำรวจใน Gare du Norde
เพื่อให้แจ้งความไว้ (ซึ่งไม่สามารถคาดหวังว่าจะได้เงินกลับมา มีเงินสกุลยูโร 670€ และเงินไทยอีก 18,000 บาท รวมแล้วประมาณ 4 หมื่นกว่าบาท)
การเตือนภัย!! จากประสบการณ์ตรง
- การเดินทางท่องเที่ยวในปารีสแนะนำให้ขึ้นรถ bus มากกว่าการขึ้น metro
- พยายามหลีกเลี่ยงที่จะเดินทางในเขต 18-20
- แม่หนิงกับพ่อโก้ไปล็อคคอคนร้าย..ซึ่งจริงๆแล้วไม่ควรทำแบบนั้น..ถ้าคนร้ายมีอาวุธมาทำร้ายร่างกายแย่เลย
- เมื่อเกิดเหตุการรณ์ต้องรีบตะโกนเรียกตำรวจ..หลังจากนั้นต้องรีบแจ้งความให้เร็วที่สุด
- เราคาดหวังกับตำรวจไม่ได้..เพราะจากสถิติที่รู้มาไม่เคยมีการได้ของคืนมาเลย
- หลังเกิดเหตุต้องรีบแจ้งอายัติบัตรเครดิตให้เร็วที่สุด
- พยายามอย่าพกเงินสดไว้กับตัวเยอะ..ในกรณีถ้าที่พักมีตู้เซฟ ให้เก็บของมีค่าไว้ในตู้เซฟให้หมด (ที่พักของแม่หนิงเป็น service Apartment เลยไม่มีตู้เซฟ)
- การเก็บเงินในถุงเท้าก็ไม่ปลอดภัย..เพราะเป้าหมายแรกมันจับขาและค้นถุงเท้าพ่อโก้ก่อนเลย
ปล.
การมาฝรั่งเศสคราวนี้แม่หนิงไม่ประทับใจเอาเสียเลย และไม่คิดจะกลับมาท่องเที่ยวซ้ำอีก
พ่อโก้บอกว่าถือว่าฟาดเคราะห์..ดีที่มันยังไม่ทำร้ายร่างกายเรา และพวกเรายังมีสติตลอดเวลาจนได้เอกสารสำคัญในกระเป๋าสตางค์คืนหมด
ขณะที่เริ่มทำใจได้แม่หนิงก็กำลังออกจากปารีส!!!! และเดินทางด้วยรถไฟ TGV ต่อไปยัง Zurich Switzerland
จากผลการลงคะแนนของพวกเรา :
ทริปสเปน - ฝรั่งเศส - สวิสเซอร์แลนด์
ระหว่างวันที่ 21 มกราคม - 6 กุมภาพันธ์ 2560
- สเปน barcelona - madrid ให้คะแนน (เต็มสิบ)
- ฝรั่งเศสที่ให้คะแนน (ติดลบ)
- สวิสเซอร์แลนด์ ให้คะแนน (เต็มสิบ)
ตอนนี้แม่หนิงไม่ได้รับความคืบหน้าจากตำรวจฝรั่งเศสเลย จึงได้ทำหนังสือร้องเรียนความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวแจ้งไปยังสถานทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยไปอีกช่องทางหนึ่งแล้ว
: แม่หนิง@นักวิจัยด้านการท่องเที่ยว มธ.
เตือนภัย!!เที่ยวในปารีส
เลยอยากแชร์ประสบการณ์เตือนภัยให้ะวังตัวไว้ค่ะ
เตือนภัยในการเที่ยวฝรั่งเศส!!!!!!
ปกติเวลาจะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศทุกครั้ง..แม่หนิงและพ่อโก้จะเตรียมตัวอย่างดีในการแต่งกายมิดชิด ซึ่งส่วนใหญ่ใส่แจ็คเก็ตสีดำ การเก็บของมีค่า (เงินสดสกุลต่างประเทศ) ก็จะมิดชิดและปลอดภัยที่สุด และเพื่อความปลอดภัยแม่หนิงเลยให้พ่อโก้ช่วยเก็บกระเป๋าเงินของแม่หนิงไว้ส่วนหนึ่ง
ประสบการณ์ : พ่อโก้เดินทางไปราชการต่างประเทศมาแล้วไม่น้อยกว่า 20 ประเทศ ก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย..(แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พ่อโก้เดินทางเที่ยวกันเองกับครอบครัว โดยไม่ได้มีบริษัททัวร์ดูแล) เมื่อปีที่แล้วแม่หนิงกับน้องพรีมไปอิตาลีกันเองสองแม่ลูกก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ (มีการแจ้งประกาศเตือนจากทางการสำหรับนักท่องเที่ยวให้ระวังความปลอดภัย) รวมถึงเมื่อไปประเทศสเปนที่เดินทางมาก่อนจะต่อมายังฝรั่งเศส (ระหว่างวันที่ 21-27 มกราคม 2560) ยังมีความปลอดภัยจนน่าประทับใจ
เหตุการณ์ : การมาฝรั่งเศสคราวนี้ แม่หนิงเลือกที่พักในย่าน 203 Rue Saint Honour ซึ่งอยูในเขต 1 ที่ถือได้ว่าเป็นย่านที่ปลอดภัย (เพื่อนๆเคยเตือนว่าอย่าเช่าที่พักในเขต 18-20)
สถานการณ์จริงกับในหนังไม่เหมือนกันเลย!!!!
เวลา 16.00 น. เหตุเกิดที่ย่าน Monmarte (น่าจะเป็นเขต 18) หลังจากเที่ยวชม Monmarte แล้ว เพื่อความปลอดภัยพ่อโก้เลยชวนให้รีบกลับก่อนจะค่ำ
และวางแผนจะนั่ง metro Anvers เพื่อจะกลับมาที่ Cathédrale Notre-Dame de Paris หลังจากลงไปสถานี metro Anvers แล้ว สังเกตุว่าในขบวนรถไฟตู้สุดท้ายทำไมมีคนเยอะผิดปกติจนผิดสังเกต...ทั้งที่ตู้อื่นคนก็ไม่หนาแน่นเท่าไหร่ เมื่อกำลังก้าวขึ้นรถไฟ ในเวลาไม่เกิน 10 วินาที (เหตุการณ์เร็วมาก) พ่อโก้เดินระวังหลังให้แม่หนิงกับน้องพรีม และพยายามป้องกันตัวเองดีที่สุดแล้ว แต่อยู่ๆมันมาเกินสามคนแน่นอน คนนึงก้มล็อกขา (และคาดว่าจะหาเงินในถุงเท้า) อีกคนนึงกระแทกให้เสียหลัก อีกคนล้วงกระเป๋าเงิน ทั้งที่พ่อโก้รู้ตัวและโวยวาย พร้อมยังจับคนที่ล็อกขาพ่อโก้ไว้ได้ โดยพ่อโก้ทำการล็อคคอคนที่คาดวา่าจะเป็นคนร้ายไว้
แต่พักพวกของมันรีบโยนกระเป๋าสตางค์ของพ่อโก้ที่เอาเงินออกแล้ว ออกนอกตัวรถ metro พ่อโก้เลยจำเป็นต้องปล่อยคอคนร้ายและรีบตามไปเก็บกระเป๋าเงินก่อน แม่หนิงพยายามไปล็อคตัวคนร้ายช่วยพ่อโก้..แต่เพราะมันตัวใหญ่ มันเลยหนีไปได้ เท่ากับว่า เป็นการปล้นกันซึ่งหน้า!!!
และคาดว่าน่าจะเป็นเหตุการณ์ใหญ่จนรถ metro หยุดและเปิดประตูไว้และยังไม่ออกจากสถานีจนตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ
พวกเราพยายามเรียก Police ดังลั่นสถานี ซักพักตำรวจเข้ามา..ขนาดเราบอกว่าคนร้ายน่าจะอยู่ในรถไฟ
หลังจากที่เราแจ้งรูปพรรณของคนที่คาดว่าจะเป็นคนร้ายแล้ว ตำรวจฝรั่งเศสไม่ได้พาเราไปหาตัวคนร้ายในขบวนรถไฟ แต่กลับพาพวกเราขึ้นไปบนสถานีและนั่งรถตำรวจไปค้นหาคนร้ายตามทางขึ้นของ metro ในย่านต่างๆ สุดท้ายก็ไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ ตำรวจพามาส่งที่สถานีตำรวจใน Gare du Norde
เพื่อให้แจ้งความไว้ (ซึ่งไม่สามารถคาดหวังว่าจะได้เงินกลับมา มีเงินสกุลยูโร 670€ และเงินไทยอีก 18,000 บาท รวมแล้วประมาณ 4 หมื่นกว่าบาท)
การเตือนภัย!! จากประสบการณ์ตรง
- การเดินทางท่องเที่ยวในปารีสแนะนำให้ขึ้นรถ bus มากกว่าการขึ้น metro
- พยายามหลีกเลี่ยงที่จะเดินทางในเขต 18-20
- แม่หนิงกับพ่อโก้ไปล็อคคอคนร้าย..ซึ่งจริงๆแล้วไม่ควรทำแบบนั้น..ถ้าคนร้ายมีอาวุธมาทำร้ายร่างกายแย่เลย
- เมื่อเกิดเหตุการรณ์ต้องรีบตะโกนเรียกตำรวจ..หลังจากนั้นต้องรีบแจ้งความให้เร็วที่สุด
- เราคาดหวังกับตำรวจไม่ได้..เพราะจากสถิติที่รู้มาไม่เคยมีการได้ของคืนมาเลย
- หลังเกิดเหตุต้องรีบแจ้งอายัติบัตรเครดิตให้เร็วที่สุด
- พยายามอย่าพกเงินสดไว้กับตัวเยอะ..ในกรณีถ้าที่พักมีตู้เซฟ ให้เก็บของมีค่าไว้ในตู้เซฟให้หมด (ที่พักของแม่หนิงเป็น service Apartment เลยไม่มีตู้เซฟ)
- การเก็บเงินในถุงเท้าก็ไม่ปลอดภัย..เพราะเป้าหมายแรกมันจับขาและค้นถุงเท้าพ่อโก้ก่อนเลย
ปล.
การมาฝรั่งเศสคราวนี้แม่หนิงไม่ประทับใจเอาเสียเลย และไม่คิดจะกลับมาท่องเที่ยวซ้ำอีก
พ่อโก้บอกว่าถือว่าฟาดเคราะห์..ดีที่มันยังไม่ทำร้ายร่างกายเรา และพวกเรายังมีสติตลอดเวลาจนได้เอกสารสำคัญในกระเป๋าสตางค์คืนหมด
ขณะที่เริ่มทำใจได้แม่หนิงก็กำลังออกจากปารีส!!!! และเดินทางด้วยรถไฟ TGV ต่อไปยัง Zurich Switzerland
จากผลการลงคะแนนของพวกเรา :
ทริปสเปน - ฝรั่งเศส - สวิสเซอร์แลนด์
ระหว่างวันที่ 21 มกราคม - 6 กุมภาพันธ์ 2560
- สเปน barcelona - madrid ให้คะแนน (เต็มสิบ)
- ฝรั่งเศสที่ให้คะแนน (ติดลบ)
- สวิสเซอร์แลนด์ ให้คะแนน (เต็มสิบ)
ตอนนี้แม่หนิงไม่ได้รับความคืบหน้าจากตำรวจฝรั่งเศสเลย จึงได้ทำหนังสือร้องเรียนความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวแจ้งไปยังสถานทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยไปอีกช่องทางหนึ่งแล้ว
: แม่หนิง@นักวิจัยด้านการท่องเที่ยว มธ.