สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ทุกคน : ) นี่เป็นกระทู้แรกของเราบนพันทิป เราอยากจะมา แบ่งปันประสบการณ์การขอวีซ่าท่องเที่ยวอังกฤษ (UK) ครั้งแรก ในฐานะที่เป็นฟรีแลนซ์ในเคสของตัวเราเอง ซึ่งเราเตรียมเอกสารยื่นด้วยตัวเอง ไม่ได้ผ่านทางเอเจนซี่ หลังจากที่รู้ผลวีซ่าของเราผ่านแล้วก็ได้มีหลายๆ คนสอบถามเข้ามาเพื่อขอคำแนะนำและขอข้อมูลเพิ่มเติมกับเรา เราเลยคิดว่าสิ่งที่เราได้แบ่งปันนี้จะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ บ้างนะคะ
สำหรับสิ่งที่เราได้เขียนนี้ อาจจะใช้ไม่ได้กับทุกเคส แต่น่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่มีเคสใกล้เคียงกันกับเรา เพราะการพิจารณาของทางสถานทูตนั้นขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยหลายๆ ประกอบกัน ความสมเหตุสมผลของจดหมายและหลักฐานข้อมูลต่างๆ ของแต่ละบุคคลไปค่ะ
อันดับแรกเราต้องบอกว่าเราได้ยื่นคำร้องขอวีซ่าประเภท Standard Visitor Visa (Visit) แบบ 6 เดือน หรือวีซ่าท่องเที่ยว กับทาง https://www.gov.uk โดยมีแฟนเป็น Sponsor รับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ จุดประสงค์เพื่อไปท่องเที่ยวเรียนรู้วัฒนธรรม และเยี่ยมแฟนรวมไปถึงครอบครัวของแฟนที่ประเทศอังกฤษ เป็นระยะเวลา 3 อาทิตย์ การยื่นคำร้องขอวีซ่า Application ออนไลน์นี้ แฟนเราช่วยกรอกข้อมูลด้วยบางส่วน หลังจากกรอกข้อมูลเรียบร้อยก็ทำการเลือกวันนัดยื่นเอกสาร พร้อมกับชำระค่าบริการยื่นคำร้องขอวีซ่าเป็นจำนวน £87 (USD 113)
ก่อนหน้านี้เราได้ยินมาบ่อยว่าการยื่นวีซ่าไปเที่ยวต่างประเทศนั้น เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นคนไทยขั้นตอนการพิจารณาค่อนข้างละเอียดและเราเห็นว่ามีเคสโดนปฎิเสธค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว ทำให้เรากังวลใจมากๆ เพราะนี่เป็นการยื่นครั้งแรกของเราด้วย สิ่งสำคัญหลักๆ ที่ทำให้เรากังวลกับการเตรียมเอกสารก็คือ
1. เราไม่ได้ทำงานประจำ เนื่องด้วยพ่อเราเสียในเดือนตุลาคม 2016 ซึ่งเป็นเหตุผลที่เราต้องกลับมาอยู่บ้านกับแม่ ช่วยเหลือทางบ้าน พร้อมกับรับงานฟรีแลนซ์ในสายงานออกแบบดีไซน์ งานอาร์ต และทำเว็บไซต์ เป็นสายงานที่จะไปทำงานที่ไหนก็ได้แค่มีคอมพิวเตอร์สักตัวกับอินเตอร์เน็ตดีๆ หน่อย โดยเราได้รับเงินเป็นทั้งเงินสดและโอนผ่านทางธนาคาร เป็นรายได้ที่ไม่แน่นอน และรายได้ที่ได้รับก็ไม่ได้เยอะเท่ากับตอนทำงานประจำ
2. เราไม่มีทรัพย์สิน ในนามของตัวเองเลย อย่างเช่น บ้าน ที่ดิน รถ และไม่มีหนี้สินในการผ่อนชำระอะไร (ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าเราได้มีภาระผูกพันกับที่ไทย)
3. แฟนเป็นชาวอังกฤษ เราคบกับแฟนมาได้ปีกว่าซึ่งก็ถือเป็นเวลาไม่นานมาก แฟนได้มาหาและเที่ยวด้วยกันที่ไทยแค่ 2 ครั้ง และปกติแล้วแฟนก็ไม่ได้ส่งเงินให้ใช้ทุกเดือนเหมือนเพื่อนหลายๆ คนค่ะ : D
" ที่กล่าวมาข้างต้นนั้นได้แสดงให้เห็นว่ามีแนวโน้มไม่ผูกพันกับประเทศไทย "
เราจึงคิดว่าเหตุผลดังกล่าวน่าจะเป็นปัญหาหลักๆ ที่อาจจะทำให้การยื่นขอวีซ่าของเรามีโอกาสที่จะถูกปฎิเสธค่อนข้างสูง ดังนั้น...ก่อนที่เราจะเตรียมเอกสารเราได้ศึกษาเคสการขอวีซ่าประเทศอังกฤษ (UK) ตามบล็อค, เว็บไซต์ต่างๆ รวมไปถึงเว็บไซต์ http://www.ladyinter.com ที่มีคนแชร์ประสบการณ์และให้คำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนการยื่นวีซ่ามากมาย เราพยายามหาข้อมูลให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นประโยชน์ในการเตรียมเอกสารของเรา เรานำข้อมูลที่ได้มารวบรวมมาเปรียบเทียบ มาศึกษา และเราก็ได้พบข้อมูลนี้..
Ties to home country
1. Financial ties
1.1) Current bank account statement (showing the balance & when established)
1.2) Other Investments
1.3) Family owned business
1.4) Ownership of a residence in home country (a deed or lease)
1.5) Information on future employment in your home country (if possible)
2. Family ties
2.1) Immediate family in home country
2.2) Leaving spouse (Fiance) and/or children in home country
ที่มาของข้อมูล:
http://www.ladyinter.com/forum_posts.asp?TID=74316
หลังจากยื่นแบบฟอร์มออนไลน์ เราใช้เวลาทั้งหมด 2 อาทิตย์ในการหาข้อมูลและเตรียมเอกสารทั้งหมดเพื่อที่จะยื่นในวันนัด โดยเอกสารสำคัญคร่าวๆ ทางสถานทูตได้กำหนดเอาไว้แล้วในรายการ Checklists แล้ว อีกทั้งยังระบุว่า ถ้าหากว่ามี "เอกสารเพิ่มเติ่มเพื่อเป็นหลักฐานประกอบ" สามารถแนบไปด้วยถ้าข้อมูลเหล่านั้นเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณามากยิ่งขึ้น
ในส่วนเอกสารที่เราได้เตรียมไว้นั้น เราได้แยกไว้เป็นหมวดหมู่เพื่อง่ายต่อการจัดเรียงเอกสาร โดยการจัดหมวดหมู่โฟลเดอร์เอกสารของเราเป็นแบบนี้ค่ะ
1. Application Documents ส่วนของเอกสารออนไลน์ที่เราได้กรอกเรียบร้อยแล้ว, ใบเสร็จการจ่ายเงิน, ใบนัดยื่นเอกสาร เอกสารเหล่านี้เราดาวน์โหลดมาเก็บไว้เพื่อปริ้นท์ไปวันยื่นนะคะ
2. My Documents เอกสารในส่วนของตัวเราเองซึ่งสิ่งที่เราได้แนบไปก็จะมี...
2.1) จดหมายแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งของเราเขียนไป 3 หน้ากระดาษ โดยเราเขียนเองและให้แฟนช่วยดูในเรื่องของแกรมม่าและรูปประโยคให้มีความถูกต้องค่ะ การเขียนของเรามีการระบุวันที่ประสงค์จะเดินทางไปและกลับ ระยะเวลาที่ไป เหตุผลที่จะเดินทางไปประเทศอังกฤษครั้งนี้ ใครเป็นสปอนเซอร์ให้ และอธิบายความสัมพันธ์กับสปอนเซอร์(แฟน) พอสังเขปว่าทำไมเขาถึงเป็นสปอนเซอร์ให้เรา แนะนำตัวเองว่าทำงานอะไรรายได้เท่าไร อธิบายภาระผูกพันที่ไทย เหตุผลที่เราจะต้องกลับมาไทยแน่นอน ไม่มีการโดดวีซ่า หรืออยู่เกินระยะเวลาที่ในวีซ่าได้ระบุไว้ รวมไปถึงเราจะต้องอยู่ตามระยะเวลาที่เราได้ยื่นประสงค์ไปค่ะ และอย่าลืมบอกว่าเราได้แนบเอกสารเพิ่มเติมมาด้วยนะคะ
2.2) พาสปอร์ตตัวจริง และถ่ายสำเนาเอกสารทุกหน้าที่มีการสแตมป์ (เราเคยมีประวัติเดินทางไปทำงานในตำแหน่งกราฟิกดีไซน์ที่ประเทศบาห์เรนมาก่อน เมื่อปี 2015 เป็นเวลาประมาณ 3 เดือน ซึ่งนายจ้างเป็นคนดำเนินเรื่องวีซ่าให้หมดค่ะ นอกนั้นก็ไม่เคยมีเดินทางไปต่างประเทศที่ไหนอีก)
2.3) สำเนาบัตรประชาชน + ฉบับแปลภาษาอังกฤษ
2.4) ทะเบียนบ้านตัวจริง + สำเนา + ฉบับแปลภาษาอังกฤษ
2.5) ใบเปลี่ยนชื่อตัวจริง + สำเนา + ฉบับแปลภาษาอังกฤษ
3. Sponsor Documents เอกสารในส่วนของสปอนเซอร์ก็จะมี... (ใครที่ไปเที่ยวเอง เป็นสปอนเซอร์เอง ไม่ต้องส่งส่วนนี้ค่ะ)
3.1) จดหมายเชิญจากสปอนเซอร์ภาษาอังกฤษ (เขียนหรือพิมพ์แล้วให้เขาสแกนส่งมาให้เราได้ค่ะ) โดยมีการระบุว่าเขาได้เชิญเราไปเที่ยวและเยี่ยมครอบครัวเขา โดยเขายืนยันว่าจะซัพพอร์ตเราทั้งหมด หรือในด้านใดบ้างอะไรบ้าง แนะนำตัวเองโดยบอกข้อมูลว่าชื่ออะไร อายุเท่าไร ทำงานตำแหน่งอะไร ที่บริษัทไหน เงินเดือนเท่าไร พอที่จะเป็นสปอนเซอร์ตลอดระยะเวลาที่เราไปอยู่ที่นั้นมั้ย อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเราคร่าวๆ... บอกเหตุผลว่าเราจะต้องกลับมาที่ไทยตามช่วงเวลาที่กำหนด และควรยืนยันว่าการไปเที่ยวครั้งนี้เขากับเราไม่ได้ไปแต่งงานกันหรือทำผิดกฏของวีซ่า... ซึ่งถ้าเรายื่นวีซ่าท่องเที่ยวเราไม่ควรไปหมั้นหรือแต่งงานที่นั่น เพราะเป็นการทำผิดประเภทวีซ่า ไปเที่ยวคือไปเที่ยวค่ะ ถ้าจะไปหมั้นหรือแต่งงานควรยื่นตามประเภทที่ทางสถานทูตได้ระบุเอาไว้ ไม่งั้นจะทำให้มีปัญหาต่อการพิจารณาในครั้งถัดไปค่ะ
3.2) เอกสารทางการเงินของสปอนเซอร์ ได้แก่ Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือน, Pay Slip (สลิปเงินเดือน) ย้อนหลัง 6 เดือน
3.3) จดหมายรับรองการลาพักร้อนจากที่ทำงานของสปอนเซอร์
3.4) ถ้าหากเราไปพักบ้านสปอนเซอร์ควรยื่น Council Tax, บิลค่าน้ำ ค่าไฟ เพื่อระบุว่าที่อยู่นี้มีจริงไม่ได้แอบอ้างไปด้วย (เราไม่ได้แนบส่วนนี้ไปด้วยเพราะแฟนหาให้ไม่ทันค่ะ)
3.5) หากพ่อหรือแม่ของสปอนเซอร์เป็นเจ้าบ้าน ควรมีจดหมายเชิญจากเจ้าของบ้านด้วยค่ะ (เราไม่ได้ยื่นส่วนนี้ไปค่ะเพราะส่วนใหญ่แพลนไปเที่ยวหลายที่และไปพักที่อื่น)
3.6) แพลนการท่องเที่ยวคร่าวๆ ในแต่ละวัน ว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง พักที่โรงแรมไหน
3.7) ตั๋วเครื่องบิน และการจองโรงแรม ส่วนนี้เราไม่ได้แนบไปเพราะยังไม่มั่นใจผลวีซ่าค่ะ
4. Evidence of financial เอกสารทางการเงินเราเอง เป็นบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือนค่ะ
4.1) เราได้เขียนอธิบายคร่าวๆ เกี่ยวกับยอดเงินในบัญชีว่ามีที่มาที่ไปยังไง เพราะเราไม่ได้ทำงานแบบรับเงินเดือนค่ะ ยอดเงินเลยไม่คงที่ หากมีเงินก้อนใหญ่เข้ามาก็อธิบายที่มาของเงินนั้นด้วยค่ะ ถ้ามีหลักฐานก็แนบไปด้วย
4.2) เรายื่นบัญชีธนาคารกรุงไทย ที่เปิดร่วมกับแม่เมื่อเดือนธันวาคม 2016 หลังจากที่พ่อเสีย เพื่อใช้จ่ายในครอบครัว เรากับแม่ช่วยกันดูแลในส่วนนี้ เราเลยยื่นส่วนนี้ไปด้วยเพราะ แสดงให้เห็นว่าการทำธุรกรรมถอนเงินจำเป็นต้องมีการลงชื่อด้วยกันเสมอ ไม่สามารถทำได้เพียงคนใดคนหนึ่ง เรายื่น Statement และ สมุดบัญชีเล่มจริง + สำเนาทุกหน้า
4.3) บัญชีเงินฝากส่วนตัวธนาคารกรุงเทพ เป็นบัญชีที่ไม่ค่อยได้ใช้จ่ายแต่ไว้รับเงินชดเชยประกันสังคม 6 เดือน เนื่องจากเราลาออกจากที่ทำงานเก่า และเงินประกันชีวิตของพ่อที่เราได้รับในส่วนของเรา, เรายื่น Statement และ สมุดบัญชีเล่มจริง + สำเนาทุกหน้า
4.4) บัญชีเงินฝากส่วนตัวธนาคารกสิกร เป็นบัญชีไว้รับเงินค่าจ้างการทำงานของเรา และใช้จ่ายส่วนตัว ในครอบครัว จะมีรายการเข้าออกบ่อยสุด แต่เงินเข้าออกไม่ได้เป็นจำนวนเยอะ และยอดตอนที่ยื่นวีซ่ามีติดบัญชีอยู่ไม่ถึง 5 พันบาท, เรายื่น Statement และ สมุดบัญชีเล่มจริง + สำเนาทุกหน้า
4.5) หลักฐานที่มาของเงินในบัญชีที่เป็นประโยชน์อื่นๆ เช่น ใบเสร็จ, E-Slip หรือหลักฐานของการโอนเงินผ่านมือถือ และอื่นๆ
4.6) สำหรับใครที่สงสัยว่า ถ้ายื่นท่องเที่ยวและเป็นสปอนเซอร์ตัวเอง(รับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยตัวเองทั้งหมด) ต้องเดิน Statement หรือมีเงินติดบัญชีมากเท่าไหร่ .. ส่วนนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราไปเที่ยวนานแค่ไหน ที่พักหรือโรงแรมมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ เราก็ต้องลองคำนวณคร่าวๆ เกี่ยวกับค่ากิน ใช้จ่ายในแต่ละวัน + ค่าที่พัก + ค่าเดินทาง + ค่าตั๋วเครื่องบิน + ค่ายื่นวีซ่า + ค่าใช้จ่ายอื่นๆ และนั่นคือยอดเงินที่ควรจะมีติดบัญชีคร่าวๆ ก่อนยื่นขอวีซ่าค่ะ
5. Evidence of works หลักฐานเกี่ยวกับการทำงานของตัวเรา ซึ่งเรารับงานเป็นฟรีแลนซ์เราเลยเขียนอธิบายประวัติการทำงานที่ผ่านมาของเราตั้งแต่เรียนจบจนถึงปัจจุบัน และแนบ Portfolio พอสังเขปของงานที่ผ่านมา รวมถึงงานที่กำลังทำในปัจจุบันไปด้วย พร้อมกับแนบรูปภาพประกอบ ส่งที่เราแนบไปก็จะมี...
5.1) ใบเสร็จหรือหลักฐานการโอนเงิน และการเสียภาษีของเรามีการหักภาษี ณ ที่จ่ายจากนายจ้างด้วยค่ะ
5.2) ใบรับรองการทำงานหรือจ้างงานจากนายจ้าง ว่าเราได้ทำงานนี้ให้เขาจริงๆ ในช่วงเวลาไหน ค่าจ้างที่ได้รับเป็นจำนวนเท่าไร
5.3) ประวัติการสนทนาหรืออีเมลติดต่องานกับนายจ้างหรือผู้ว่าจ้าง ในช่วงเวลาที่เราทำงานชิ้นนั้นๆ
5.4) Pay slip สลิปเงินเดือนและสัญญาจ้างงานของบริษัทก่อนหน้านี้ที่เราทำทั้งหมด (เราแนบไปเท่าที่เรามีเก็บไว้) เพื่อแสดงว่าเราไม่ได้แอบอ้างเรื่องประวัติการทำงานในช่วงที่ผ่านมา
5.5) หลักฐานสัญญาจ้างงาน และวีซ่าเมื่อตอนที่เราไปทำงานเป็นกราฟฟิกดีไซน์อยู่ประเทศบาห์เรนเมื่อปี 2015
5.6) เราได้แนบรูปพื้นที่ที่เราทำงานที่บ้าน เช่น โต๊ะคอมพิวเตอร์และที่วาดรูปของเรา รูปที่เคยถ่ายร่วมกับผลงานของบริษัทเก่า รูปเว็บไซต์ที่เราทำทั้งหมด รวมไปถึงรูปผลงานอื่นๆ เช่นกันค่ะ
5.7) ผลงานอื่นๆ ที่เราทำ เช่น เราทำสติ๊กเกอร์ไลน์ขาย, ทำบล็อก, ตัดต่อวิดีโอ, วาดรูป ฯลฯ
( . . มีต่อค่ะ . . )
[CR] แบ่งปันประสบการณ์: การยื่นวีซ่าอังกฤษ(UK) ในฐานะฟรีแลนซ์
สำหรับสิ่งที่เราได้เขียนนี้ อาจจะใช้ไม่ได้กับทุกเคส แต่น่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่มีเคสใกล้เคียงกันกับเรา เพราะการพิจารณาของทางสถานทูตนั้นขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยหลายๆ ประกอบกัน ความสมเหตุสมผลของจดหมายและหลักฐานข้อมูลต่างๆ ของแต่ละบุคคลไปค่ะ
อันดับแรกเราต้องบอกว่าเราได้ยื่นคำร้องขอวีซ่าประเภท Standard Visitor Visa (Visit) แบบ 6 เดือน หรือวีซ่าท่องเที่ยว กับทาง https://www.gov.uk โดยมีแฟนเป็น Sponsor รับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ จุดประสงค์เพื่อไปท่องเที่ยวเรียนรู้วัฒนธรรม และเยี่ยมแฟนรวมไปถึงครอบครัวของแฟนที่ประเทศอังกฤษ เป็นระยะเวลา 3 อาทิตย์ การยื่นคำร้องขอวีซ่า Application ออนไลน์นี้ แฟนเราช่วยกรอกข้อมูลด้วยบางส่วน หลังจากกรอกข้อมูลเรียบร้อยก็ทำการเลือกวันนัดยื่นเอกสาร พร้อมกับชำระค่าบริการยื่นคำร้องขอวีซ่าเป็นจำนวน £87 (USD 113)
ก่อนหน้านี้เราได้ยินมาบ่อยว่าการยื่นวีซ่าไปเที่ยวต่างประเทศนั้น เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นคนไทยขั้นตอนการพิจารณาค่อนข้างละเอียดและเราเห็นว่ามีเคสโดนปฎิเสธค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว ทำให้เรากังวลใจมากๆ เพราะนี่เป็นการยื่นครั้งแรกของเราด้วย สิ่งสำคัญหลักๆ ที่ทำให้เรากังวลกับการเตรียมเอกสารก็คือ
1. เราไม่ได้ทำงานประจำ เนื่องด้วยพ่อเราเสียในเดือนตุลาคม 2016 ซึ่งเป็นเหตุผลที่เราต้องกลับมาอยู่บ้านกับแม่ ช่วยเหลือทางบ้าน พร้อมกับรับงานฟรีแลนซ์ในสายงานออกแบบดีไซน์ งานอาร์ต และทำเว็บไซต์ เป็นสายงานที่จะไปทำงานที่ไหนก็ได้แค่มีคอมพิวเตอร์สักตัวกับอินเตอร์เน็ตดีๆ หน่อย โดยเราได้รับเงินเป็นทั้งเงินสดและโอนผ่านทางธนาคาร เป็นรายได้ที่ไม่แน่นอน และรายได้ที่ได้รับก็ไม่ได้เยอะเท่ากับตอนทำงานประจำ
2. เราไม่มีทรัพย์สิน ในนามของตัวเองเลย อย่างเช่น บ้าน ที่ดิน รถ และไม่มีหนี้สินในการผ่อนชำระอะไร (ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าเราได้มีภาระผูกพันกับที่ไทย)
3. แฟนเป็นชาวอังกฤษ เราคบกับแฟนมาได้ปีกว่าซึ่งก็ถือเป็นเวลาไม่นานมาก แฟนได้มาหาและเที่ยวด้วยกันที่ไทยแค่ 2 ครั้ง และปกติแล้วแฟนก็ไม่ได้ส่งเงินให้ใช้ทุกเดือนเหมือนเพื่อนหลายๆ คนค่ะ : D
เราจึงคิดว่าเหตุผลดังกล่าวน่าจะเป็นปัญหาหลักๆ ที่อาจจะทำให้การยื่นขอวีซ่าของเรามีโอกาสที่จะถูกปฎิเสธค่อนข้างสูง ดังนั้น...ก่อนที่เราจะเตรียมเอกสารเราได้ศึกษาเคสการขอวีซ่าประเทศอังกฤษ (UK) ตามบล็อค, เว็บไซต์ต่างๆ รวมไปถึงเว็บไซต์ http://www.ladyinter.com ที่มีคนแชร์ประสบการณ์และให้คำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนการยื่นวีซ่ามากมาย เราพยายามหาข้อมูลให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นประโยชน์ในการเตรียมเอกสารของเรา เรานำข้อมูลที่ได้มารวบรวมมาเปรียบเทียบ มาศึกษา และเราก็ได้พบข้อมูลนี้..
1. Financial ties
1.1) Current bank account statement (showing the balance & when established)
1.2) Other Investments
1.3) Family owned business
1.4) Ownership of a residence in home country (a deed or lease)
1.5) Information on future employment in your home country (if possible)
2. Family ties
2.1) Immediate family in home country
2.2) Leaving spouse (Fiance) and/or children in home country
ที่มาของข้อมูล: http://www.ladyinter.com/forum_posts.asp?TID=74316
หลังจากยื่นแบบฟอร์มออนไลน์ เราใช้เวลาทั้งหมด 2 อาทิตย์ในการหาข้อมูลและเตรียมเอกสารทั้งหมดเพื่อที่จะยื่นในวันนัด โดยเอกสารสำคัญคร่าวๆ ทางสถานทูตได้กำหนดเอาไว้แล้วในรายการ Checklists แล้ว อีกทั้งยังระบุว่า ถ้าหากว่ามี "เอกสารเพิ่มเติ่มเพื่อเป็นหลักฐานประกอบ" สามารถแนบไปด้วยถ้าข้อมูลเหล่านั้นเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณามากยิ่งขึ้น
ในส่วนเอกสารที่เราได้เตรียมไว้นั้น เราได้แยกไว้เป็นหมวดหมู่เพื่อง่ายต่อการจัดเรียงเอกสาร โดยการจัดหมวดหมู่โฟลเดอร์เอกสารของเราเป็นแบบนี้ค่ะ
1. Application Documents ส่วนของเอกสารออนไลน์ที่เราได้กรอกเรียบร้อยแล้ว, ใบเสร็จการจ่ายเงิน, ใบนัดยื่นเอกสาร เอกสารเหล่านี้เราดาวน์โหลดมาเก็บไว้เพื่อปริ้นท์ไปวันยื่นนะคะ
2. My Documents เอกสารในส่วนของตัวเราเองซึ่งสิ่งที่เราได้แนบไปก็จะมี...
2.1) จดหมายแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งของเราเขียนไป 3 หน้ากระดาษ โดยเราเขียนเองและให้แฟนช่วยดูในเรื่องของแกรมม่าและรูปประโยคให้มีความถูกต้องค่ะ การเขียนของเรามีการระบุวันที่ประสงค์จะเดินทางไปและกลับ ระยะเวลาที่ไป เหตุผลที่จะเดินทางไปประเทศอังกฤษครั้งนี้ ใครเป็นสปอนเซอร์ให้ และอธิบายความสัมพันธ์กับสปอนเซอร์(แฟน) พอสังเขปว่าทำไมเขาถึงเป็นสปอนเซอร์ให้เรา แนะนำตัวเองว่าทำงานอะไรรายได้เท่าไร อธิบายภาระผูกพันที่ไทย เหตุผลที่เราจะต้องกลับมาไทยแน่นอน ไม่มีการโดดวีซ่า หรืออยู่เกินระยะเวลาที่ในวีซ่าได้ระบุไว้ รวมไปถึงเราจะต้องอยู่ตามระยะเวลาที่เราได้ยื่นประสงค์ไปค่ะ และอย่าลืมบอกว่าเราได้แนบเอกสารเพิ่มเติมมาด้วยนะคะ
2.2) พาสปอร์ตตัวจริง และถ่ายสำเนาเอกสารทุกหน้าที่มีการสแตมป์ (เราเคยมีประวัติเดินทางไปทำงานในตำแหน่งกราฟิกดีไซน์ที่ประเทศบาห์เรนมาก่อน เมื่อปี 2015 เป็นเวลาประมาณ 3 เดือน ซึ่งนายจ้างเป็นคนดำเนินเรื่องวีซ่าให้หมดค่ะ นอกนั้นก็ไม่เคยมีเดินทางไปต่างประเทศที่ไหนอีก)
2.3) สำเนาบัตรประชาชน + ฉบับแปลภาษาอังกฤษ
2.4) ทะเบียนบ้านตัวจริง + สำเนา + ฉบับแปลภาษาอังกฤษ
2.5) ใบเปลี่ยนชื่อตัวจริง + สำเนา + ฉบับแปลภาษาอังกฤษ
3. Sponsor Documents เอกสารในส่วนของสปอนเซอร์ก็จะมี... (ใครที่ไปเที่ยวเอง เป็นสปอนเซอร์เอง ไม่ต้องส่งส่วนนี้ค่ะ)
3.1) จดหมายเชิญจากสปอนเซอร์ภาษาอังกฤษ (เขียนหรือพิมพ์แล้วให้เขาสแกนส่งมาให้เราได้ค่ะ) โดยมีการระบุว่าเขาได้เชิญเราไปเที่ยวและเยี่ยมครอบครัวเขา โดยเขายืนยันว่าจะซัพพอร์ตเราทั้งหมด หรือในด้านใดบ้างอะไรบ้าง แนะนำตัวเองโดยบอกข้อมูลว่าชื่ออะไร อายุเท่าไร ทำงานตำแหน่งอะไร ที่บริษัทไหน เงินเดือนเท่าไร พอที่จะเป็นสปอนเซอร์ตลอดระยะเวลาที่เราไปอยู่ที่นั้นมั้ย อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเราคร่าวๆ... บอกเหตุผลว่าเราจะต้องกลับมาที่ไทยตามช่วงเวลาที่กำหนด และควรยืนยันว่าการไปเที่ยวครั้งนี้เขากับเราไม่ได้ไปแต่งงานกันหรือทำผิดกฏของวีซ่า... ซึ่งถ้าเรายื่นวีซ่าท่องเที่ยวเราไม่ควรไปหมั้นหรือแต่งงานที่นั่น เพราะเป็นการทำผิดประเภทวีซ่า ไปเที่ยวคือไปเที่ยวค่ะ ถ้าจะไปหมั้นหรือแต่งงานควรยื่นตามประเภทที่ทางสถานทูตได้ระบุเอาไว้ ไม่งั้นจะทำให้มีปัญหาต่อการพิจารณาในครั้งถัดไปค่ะ
3.2) เอกสารทางการเงินของสปอนเซอร์ ได้แก่ Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือน, Pay Slip (สลิปเงินเดือน) ย้อนหลัง 6 เดือน
3.3) จดหมายรับรองการลาพักร้อนจากที่ทำงานของสปอนเซอร์
3.4) ถ้าหากเราไปพักบ้านสปอนเซอร์ควรยื่น Council Tax, บิลค่าน้ำ ค่าไฟ เพื่อระบุว่าที่อยู่นี้มีจริงไม่ได้แอบอ้างไปด้วย (เราไม่ได้แนบส่วนนี้ไปด้วยเพราะแฟนหาให้ไม่ทันค่ะ)
3.5) หากพ่อหรือแม่ของสปอนเซอร์เป็นเจ้าบ้าน ควรมีจดหมายเชิญจากเจ้าของบ้านด้วยค่ะ (เราไม่ได้ยื่นส่วนนี้ไปค่ะเพราะส่วนใหญ่แพลนไปเที่ยวหลายที่และไปพักที่อื่น)
3.6) แพลนการท่องเที่ยวคร่าวๆ ในแต่ละวัน ว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง พักที่โรงแรมไหน
3.7) ตั๋วเครื่องบิน และการจองโรงแรม ส่วนนี้เราไม่ได้แนบไปเพราะยังไม่มั่นใจผลวีซ่าค่ะ
4. Evidence of financial เอกสารทางการเงินเราเอง เป็นบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือนค่ะ
4.1) เราได้เขียนอธิบายคร่าวๆ เกี่ยวกับยอดเงินในบัญชีว่ามีที่มาที่ไปยังไง เพราะเราไม่ได้ทำงานแบบรับเงินเดือนค่ะ ยอดเงินเลยไม่คงที่ หากมีเงินก้อนใหญ่เข้ามาก็อธิบายที่มาของเงินนั้นด้วยค่ะ ถ้ามีหลักฐานก็แนบไปด้วย
4.2) เรายื่นบัญชีธนาคารกรุงไทย ที่เปิดร่วมกับแม่เมื่อเดือนธันวาคม 2016 หลังจากที่พ่อเสีย เพื่อใช้จ่ายในครอบครัว เรากับแม่ช่วยกันดูแลในส่วนนี้ เราเลยยื่นส่วนนี้ไปด้วยเพราะ แสดงให้เห็นว่าการทำธุรกรรมถอนเงินจำเป็นต้องมีการลงชื่อด้วยกันเสมอ ไม่สามารถทำได้เพียงคนใดคนหนึ่ง เรายื่น Statement และ สมุดบัญชีเล่มจริง + สำเนาทุกหน้า
4.3) บัญชีเงินฝากส่วนตัวธนาคารกรุงเทพ เป็นบัญชีที่ไม่ค่อยได้ใช้จ่ายแต่ไว้รับเงินชดเชยประกันสังคม 6 เดือน เนื่องจากเราลาออกจากที่ทำงานเก่า และเงินประกันชีวิตของพ่อที่เราได้รับในส่วนของเรา, เรายื่น Statement และ สมุดบัญชีเล่มจริง + สำเนาทุกหน้า
4.4) บัญชีเงินฝากส่วนตัวธนาคารกสิกร เป็นบัญชีไว้รับเงินค่าจ้างการทำงานของเรา และใช้จ่ายส่วนตัว ในครอบครัว จะมีรายการเข้าออกบ่อยสุด แต่เงินเข้าออกไม่ได้เป็นจำนวนเยอะ และยอดตอนที่ยื่นวีซ่ามีติดบัญชีอยู่ไม่ถึง 5 พันบาท, เรายื่น Statement และ สมุดบัญชีเล่มจริง + สำเนาทุกหน้า
4.5) หลักฐานที่มาของเงินในบัญชีที่เป็นประโยชน์อื่นๆ เช่น ใบเสร็จ, E-Slip หรือหลักฐานของการโอนเงินผ่านมือถือ และอื่นๆ
4.6) สำหรับใครที่สงสัยว่า ถ้ายื่นท่องเที่ยวและเป็นสปอนเซอร์ตัวเอง(รับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยตัวเองทั้งหมด) ต้องเดิน Statement หรือมีเงินติดบัญชีมากเท่าไหร่ .. ส่วนนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราไปเที่ยวนานแค่ไหน ที่พักหรือโรงแรมมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ เราก็ต้องลองคำนวณคร่าวๆ เกี่ยวกับค่ากิน ใช้จ่ายในแต่ละวัน + ค่าที่พัก + ค่าเดินทาง + ค่าตั๋วเครื่องบิน + ค่ายื่นวีซ่า + ค่าใช้จ่ายอื่นๆ และนั่นคือยอดเงินที่ควรจะมีติดบัญชีคร่าวๆ ก่อนยื่นขอวีซ่าค่ะ
5. Evidence of works หลักฐานเกี่ยวกับการทำงานของตัวเรา ซึ่งเรารับงานเป็นฟรีแลนซ์เราเลยเขียนอธิบายประวัติการทำงานที่ผ่านมาของเราตั้งแต่เรียนจบจนถึงปัจจุบัน และแนบ Portfolio พอสังเขปของงานที่ผ่านมา รวมถึงงานที่กำลังทำในปัจจุบันไปด้วย พร้อมกับแนบรูปภาพประกอบ ส่งที่เราแนบไปก็จะมี...
5.1) ใบเสร็จหรือหลักฐานการโอนเงิน และการเสียภาษีของเรามีการหักภาษี ณ ที่จ่ายจากนายจ้างด้วยค่ะ
5.2) ใบรับรองการทำงานหรือจ้างงานจากนายจ้าง ว่าเราได้ทำงานนี้ให้เขาจริงๆ ในช่วงเวลาไหน ค่าจ้างที่ได้รับเป็นจำนวนเท่าไร
5.3) ประวัติการสนทนาหรืออีเมลติดต่องานกับนายจ้างหรือผู้ว่าจ้าง ในช่วงเวลาที่เราทำงานชิ้นนั้นๆ
5.4) Pay slip สลิปเงินเดือนและสัญญาจ้างงานของบริษัทก่อนหน้านี้ที่เราทำทั้งหมด (เราแนบไปเท่าที่เรามีเก็บไว้) เพื่อแสดงว่าเราไม่ได้แอบอ้างเรื่องประวัติการทำงานในช่วงที่ผ่านมา
5.5) หลักฐานสัญญาจ้างงาน และวีซ่าเมื่อตอนที่เราไปทำงานเป็นกราฟฟิกดีไซน์อยู่ประเทศบาห์เรนเมื่อปี 2015
5.6) เราได้แนบรูปพื้นที่ที่เราทำงานที่บ้าน เช่น โต๊ะคอมพิวเตอร์และที่วาดรูปของเรา รูปที่เคยถ่ายร่วมกับผลงานของบริษัทเก่า รูปเว็บไซต์ที่เราทำทั้งหมด รวมไปถึงรูปผลงานอื่นๆ เช่นกันค่ะ
5.7) ผลงานอื่นๆ ที่เราทำ เช่น เราทำสติ๊กเกอร์ไลน์ขาย, ทำบล็อก, ตัดต่อวิดีโอ, วาดรูป ฯลฯ
( . . มีต่อค่ะ . . )