หนูเป็นแม่บ้านฟลูไทม์ เลี้ยงลูกอยู่บ้าน คนโตอายุ 2 ขวบปลายๆ คนเล็กเพิ่งคลอดได้ 3 เดือน หนูเช่าบ้านที่จังหวัดหนึ่ง แฟนก็ขอให้แม่มาอยู่ด้วยแกแก่แล้ว อายุ 74 ปี มีโรคประจำตัวคือ เส้นประสาทที่เอวขาด 3 เส้น ทำให้มีอาการชา ทั้งตัว ตอนนี้เดินเหินไม่ค่อยสะดวก เส้นประสาทที่คอเสื่อม ข้อเข่าเสื่อม ซึ่งอยู่บ้านนอกแกอยู่คนเดียว ซึ่งหมอบอกว่าอาการไม่ดีไปกว่านี้แล้ว พยายามอย่าให้มันทรุด หรือล้ม ถ้าล้มมานอนติดเตียง หนูก็โอเค แม่ใครใครก็รัก แล้วทีนี่พี่สาวหนูและหลานสองคน อายุ 3 ขวบ กับ 6 ขวบ จะมาเยี่ยมหลานที่เพิ่งคลอด จะมาหา 1 อาทิตย์ หนูก็บอกแฟนกับแม่แฟนว่าพี่สาวจะมาหาหลานนะ พี่สาวมาถึง
วันแรก. หลานๆจะเข้าหาน้องเพื่อจะเล่นกับน้อง แกบอกหลานหนูว่าไม่ต้องเข้าใกล้น้องน้องเพิ่งตื่นอารมณ์ไม่ดี และอื่นๆอีกมากมาย หนูก็ไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ว่าแกหวงหลาน
วันที่สอง. หลานๆก็ไม่ได้เล่นกับน้อง แกถามหลานหนูว่ามาบ้านคนอื่นนี่เกรงใจไหม หลานหนูก็เงียบไม่ได้พูดอะไร หนูเริ่มคิดละว่ามันต้องมีอะไรแน่
วันที่สาม. มีเด็กข้างบ้านคนหนึ่ง แกก็เรียกหนูหนูมาเล่นกับน้องหน่อยสิลูกเห็นไหมน้องไม่มีเพื่อนเลย มาวันนี้พี่สาวหนูบอกจะกลับบ้านจะเลื่อนไฟท์บิน เพราะพี่สาวหนูจองตั๋วไป-กลับ หนูถามว่ามีอะไรรึเปล่า พี่สาวบอกเปล่าแค่คิดถึงแม่ที่อยู่บ้าน หนูขอให้อยู่ต่อจนกว่าจะครบอาทิตย์
วันที่สี่. กำลังนั่งกินข้าว ลูกคนโตหนูนั่งเล่นคนเดียว อยู่ดีๆก็กรี๊ดขึ้นมา พี่สาวหนูถาม หนูเป็นอะไรลูก บอกป้าสิหนูเป็นอะไร หนูไม่กรี๊ดนะลูก มันไม่ดี เดี๋ยวติดเป็นนิสัย แกพูดขึ้นมาว่า หลานมันนิสัยไม่ดีคราวหลังก็ไม่ต้องมาหามัน หนูเลยพูดขึ้นมาว่า แม่พูดแบบนั้นก็ไม่ถูก ป้าเขาจะมาหาหลานไม่ได้เลยเหรอ ป้าเขาตักเตือนเพราะหวังดี แกหาว่าหนูเสียงดัง ขึ้นเสียงใส่แก ปกติหนูเป็นคนพูดเสียงดัง ห้วนๆ หนูเลยบอกว่าถ้าแม่บอกว่าหนูเสียงดัง ขึ้นเสียงใส่หนูขอโทษ หนูก็ยกมือไหว้ แกโวยวายจะกลับบ้าน หนูกับพี่สาวก็เงียบ แล้วแกก็พูดว่าลูกแกทำงานคนเดียวคนรอกินเพียบ ไม่ได้พักผ่อน มีลูกสองคนก็ใช่ลูกมันรึเปล่า ลูกแกยิ่งโง่ ยิ่งไม่ทันคนอยู่ หนูเลยพูดขึ้นมาว่าถ้าไม่ใช่ลูกเขาจะเป็นลูกใคร แกก็บอกจะไปรู้เหรอ ยิ่งส่ำส่อนอยู่ อยู่กับลูกกูมีแต่พาลูกกูลงเหว เกาะลูกกูกิน หนูหน้าชาเลย หนูเดินหนีพี่สาวหนูเดินตาม หนูไปปลุกแฟนหนูที่นอนอยู่บนบ้านแฟนก็ไม่ตื่นเพราะเพิ่งออกกะดึกมา (แฟนหนูทำงานโรงงาน) แกก็โทรให้รถที่บ้านนอกมารับค่ารถเท่าไหร่ไม่อั้น หนูก็ไม่ได้ว่าอะไร ตอนเย็นแกขึ้นไปปลุกแฟนหนูแล้วคุยกันในห้อง ก็คุยกันเรื่องที่เกิดขึ้นนี่แหละแต่ไม่รู้ว่าแกจะบอกลูกแกว่ายังไง เพราะแฟนหนูบอกหนูว่าตอนเย็นค่อยเคลียร์กัน ตกเย็นรถที่บ้านมารับแกก็กลับไป ก่อนกลับแกก็บอกแฟนหนูว่าอะไรไม่ดีตัดออกไปจากชีวิตมั่งก็ได้ โง่ดักดานเป็นเต่าร้อยปี พี่สาวหนูก็เครียด โทษตัวเองว่ามาหาน้องก็ทำครอบครัวน้องเดือดร้อน หนูบอกอย่าคิดมากไม่มีใครอยากให้เกิดหรอก ตอนค่ำๆแฟนหนูก็มาคุยกับหนูว่าหนูพูดกับแม่แรงไปรึเปล่า หนูก็ไม่ได้ถามว่าแกพูดอะไรมั่ง หนูก็บอกแฟนว่าหนูทำดีที่สุดแล้วนะ แฟนก็บอกว่าเรื่องนี้จบนะ
วันที่ห้า. พี่สาวหนูก็กลับโดยที่หลานได้เล่นด้วยกันแค่คืนเดียว โดยที่แฟนหนูไม่ไปส่งพี่สาวที่สนามบิน ปกติจะไปส่งขึ้นเครื่องทุกครั้งที่มา
หลังจากที่พี่สาวกลับแฟนหนูก็เปลี่ยนไป ปกตินอนห้องเดียวกัน ตอนนี้แฟนแยกห้องนอน พูดคำ ตอบคำ ซึ่งต่างจากเดิมมาก ซึ่งหนูขอคำแนะนำเป็นข้อๆ ต่อไปนี้
1.หนูจะเริ่มต้นคุยเรื่องนี้ยังไงดี หนูเข้าใจว่าแฟนเครียด ไหนจะเมีย ไหนจะแม่อีก ถ้าให้เลือกเป็นใครต้องเลือกแม่อยู่แล้ว หนูยอมถอยดีกว่า
2.หนูมีความคิดจะสมัครงาน ทำงานแล้วเอาลูกไปให้พี่สาวเลี้ยง จะได้ไม่เป็นภาระแฟน ซึ่งถ้าทำแบบนี้หมายถึงเลิกกันแน่นอน เพราะแฟนเคยบอกว่าลูกไม่ให้ใครเลี้ยง ขอคำแนะนำด้วยคะ ตอนนี้มืดแปดด้านจริงๆ
ปล. หนูอยู่กับแฟนมา 8 ปี ไม่ได้จัดงานแต่ง แต่จดทะเบียน
ปัญหาสุดคลาสสิค แม่ผัวกับลูกสะใภ้ ขอคำแนะนำค่ะ
วันแรก. หลานๆจะเข้าหาน้องเพื่อจะเล่นกับน้อง แกบอกหลานหนูว่าไม่ต้องเข้าใกล้น้องน้องเพิ่งตื่นอารมณ์ไม่ดี และอื่นๆอีกมากมาย หนูก็ไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ว่าแกหวงหลาน
วันที่สอง. หลานๆก็ไม่ได้เล่นกับน้อง แกถามหลานหนูว่ามาบ้านคนอื่นนี่เกรงใจไหม หลานหนูก็เงียบไม่ได้พูดอะไร หนูเริ่มคิดละว่ามันต้องมีอะไรแน่
วันที่สาม. มีเด็กข้างบ้านคนหนึ่ง แกก็เรียกหนูหนูมาเล่นกับน้องหน่อยสิลูกเห็นไหมน้องไม่มีเพื่อนเลย มาวันนี้พี่สาวหนูบอกจะกลับบ้านจะเลื่อนไฟท์บิน เพราะพี่สาวหนูจองตั๋วไป-กลับ หนูถามว่ามีอะไรรึเปล่า พี่สาวบอกเปล่าแค่คิดถึงแม่ที่อยู่บ้าน หนูขอให้อยู่ต่อจนกว่าจะครบอาทิตย์
วันที่สี่. กำลังนั่งกินข้าว ลูกคนโตหนูนั่งเล่นคนเดียว อยู่ดีๆก็กรี๊ดขึ้นมา พี่สาวหนูถาม หนูเป็นอะไรลูก บอกป้าสิหนูเป็นอะไร หนูไม่กรี๊ดนะลูก มันไม่ดี เดี๋ยวติดเป็นนิสัย แกพูดขึ้นมาว่า หลานมันนิสัยไม่ดีคราวหลังก็ไม่ต้องมาหามัน หนูเลยพูดขึ้นมาว่า แม่พูดแบบนั้นก็ไม่ถูก ป้าเขาจะมาหาหลานไม่ได้เลยเหรอ ป้าเขาตักเตือนเพราะหวังดี แกหาว่าหนูเสียงดัง ขึ้นเสียงใส่แก ปกติหนูเป็นคนพูดเสียงดัง ห้วนๆ หนูเลยบอกว่าถ้าแม่บอกว่าหนูเสียงดัง ขึ้นเสียงใส่หนูขอโทษ หนูก็ยกมือไหว้ แกโวยวายจะกลับบ้าน หนูกับพี่สาวก็เงียบ แล้วแกก็พูดว่าลูกแกทำงานคนเดียวคนรอกินเพียบ ไม่ได้พักผ่อน มีลูกสองคนก็ใช่ลูกมันรึเปล่า ลูกแกยิ่งโง่ ยิ่งไม่ทันคนอยู่ หนูเลยพูดขึ้นมาว่าถ้าไม่ใช่ลูกเขาจะเป็นลูกใคร แกก็บอกจะไปรู้เหรอ ยิ่งส่ำส่อนอยู่ อยู่กับลูกกูมีแต่พาลูกกูลงเหว เกาะลูกกูกิน หนูหน้าชาเลย หนูเดินหนีพี่สาวหนูเดินตาม หนูไปปลุกแฟนหนูที่นอนอยู่บนบ้านแฟนก็ไม่ตื่นเพราะเพิ่งออกกะดึกมา (แฟนหนูทำงานโรงงาน) แกก็โทรให้รถที่บ้านนอกมารับค่ารถเท่าไหร่ไม่อั้น หนูก็ไม่ได้ว่าอะไร ตอนเย็นแกขึ้นไปปลุกแฟนหนูแล้วคุยกันในห้อง ก็คุยกันเรื่องที่เกิดขึ้นนี่แหละแต่ไม่รู้ว่าแกจะบอกลูกแกว่ายังไง เพราะแฟนหนูบอกหนูว่าตอนเย็นค่อยเคลียร์กัน ตกเย็นรถที่บ้านมารับแกก็กลับไป ก่อนกลับแกก็บอกแฟนหนูว่าอะไรไม่ดีตัดออกไปจากชีวิตมั่งก็ได้ โง่ดักดานเป็นเต่าร้อยปี พี่สาวหนูก็เครียด โทษตัวเองว่ามาหาน้องก็ทำครอบครัวน้องเดือดร้อน หนูบอกอย่าคิดมากไม่มีใครอยากให้เกิดหรอก ตอนค่ำๆแฟนหนูก็มาคุยกับหนูว่าหนูพูดกับแม่แรงไปรึเปล่า หนูก็ไม่ได้ถามว่าแกพูดอะไรมั่ง หนูก็บอกแฟนว่าหนูทำดีที่สุดแล้วนะ แฟนก็บอกว่าเรื่องนี้จบนะ
วันที่ห้า. พี่สาวหนูก็กลับโดยที่หลานได้เล่นด้วยกันแค่คืนเดียว โดยที่แฟนหนูไม่ไปส่งพี่สาวที่สนามบิน ปกติจะไปส่งขึ้นเครื่องทุกครั้งที่มา
หลังจากที่พี่สาวกลับแฟนหนูก็เปลี่ยนไป ปกตินอนห้องเดียวกัน ตอนนี้แฟนแยกห้องนอน พูดคำ ตอบคำ ซึ่งต่างจากเดิมมาก ซึ่งหนูขอคำแนะนำเป็นข้อๆ ต่อไปนี้
1.หนูจะเริ่มต้นคุยเรื่องนี้ยังไงดี หนูเข้าใจว่าแฟนเครียด ไหนจะเมีย ไหนจะแม่อีก ถ้าให้เลือกเป็นใครต้องเลือกแม่อยู่แล้ว หนูยอมถอยดีกว่า
2.หนูมีความคิดจะสมัครงาน ทำงานแล้วเอาลูกไปให้พี่สาวเลี้ยง จะได้ไม่เป็นภาระแฟน ซึ่งถ้าทำแบบนี้หมายถึงเลิกกันแน่นอน เพราะแฟนเคยบอกว่าลูกไม่ให้ใครเลี้ยง ขอคำแนะนำด้วยคะ ตอนนี้มืดแปดด้านจริงๆ
ปล. หนูอยู่กับแฟนมา 8 ปี ไม่ได้จัดงานแต่ง แต่จดทะเบียน