เมื่อไม่นานมานี้เรามีโอกาสได้กลับไปที่โรงเรียนเก่า แน่นอนว่าทุกคนมีประสบการณ์ร่วมกันคือ
“ชั้นไม่อยู่แล้วทำไมโรงเรียนดูเจริญขึ้น” อันเป็นเรื่องให้คิดไปว่า “ตกลงนี่เราถ่วงความเจริญ หนักแผ่นดินโรงเรียนใช่มั้ยในทันที”
ซึ่งจริงๆ ไม่หรอก โรงเรียนก็เติบโตได้เหมือนเรานั่นแล่ะ และที่สำคัญเพราะนักเรียนเก่าอย่างเราๆ
ที่มีหน้าที่การงานได้ร่วมกันช่วยสมทบทุนพัฒนามันขึ้นเรื่อยๆ นี่เอง
เราแวะไปที่โรงอาหาร นี่อาจเป็นอย่างเดียวที่โรงเรียนและบรรดาศิษย์เก่าไม่สามารถพัฒนาได้
หรือมันก็ถึงจุดที่ไม่มีอะไรให้พัฒนาแล้วนั่นคือ “รสชาติ” ห่วยแตกเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือราคา
เมื่อเราแวะเข้าไปที่ร้านขายน้ำ สิ่งที่สมัยเราเรียนไม่มีคือ “น้ำเปล่าบรรจุขวด” ที่มาพร้อมกับป้ายฉลากโรงเรียน
ตราสัญลักษณ์อันใหม่ที่พยายามทำให้มีรัศมี ทั้ง ที่แบบเดิมนั้นเก๋ และเท่ อย่างไม่มีใครเหมือน
เราก็ดันนึกสนุกนับจำนวนขวดที่แช่ในถาดน้ำแข็งนั่นเล่นๆ
“1, 2,3,4,...37 อ้าว!!
จำนวนเท่ากับนักเรียนห้องกุเลย” เราคิดในใจ
ไอ้ความอุตริชอบอุปมาของเราก็ดันคิดภาพเพื่อนๆ ม.ปลายขึ้นมาบัดดล
ถ้าขวดน้ำนี่สมมติว่าเป็นนักเรียนอย่างเรานะ
กว่ามันจะมาวางขายบนนี้ได้มันต้องผ่านอะไรมาบ้างวะ
ขั้นแรก เราคงเกิดเป็นเม็ดพลาสติคจากปิโตรเลียม ที่ผ่านการขึ้นรูปอย่างที่โรงเรียนต้องการ
จึงได้เข้ามาสู่รางการผลิตทุกขั้นตอน หรือชั้นปี เราจะถูกตรวจวัดรอยรั่ว แรงดัน คุณภาพต่างๆ
จนมั่นใจได้ว่าจะสามารถบรรจุน้ำได้ หากเป็นน้ำก็ปลอดภัย หากเป็นนักเรียนก็ พร้อมศึกษาเรียนรู้
ขั้นสอง ขวดน้ำจะถูกส่งไปบรรจุน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่โรเรียนคิดว่านี่แล่ะคือสิ่งที่เธอต้องรู้และทำเมื่อจบออกไป
โรงงานจะมีการตรวจวัดคุณภาพ คัดกรองสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ออกจากทั้งเราและสิ่งที่จะบรรจุเราเมื่อถึงระดับปริ่มคอเป็นที่พอใจ
มากพอจนแทบไม่เหลือที่ให้เราใส่ตัวตนของเราด้วยซ้ำ โอ้ย..... แต่มันก็ยังมีเหลืออยู่นะเธอ
แต่ช้าก่อน!!!!
ขั้นที่สาม อย่าคิดว่าเธอจะใส่อะไรลงไปที่เหลือได้ทัน เมื่อพวกเค้าจัดการปิดฝาขวด
ปิดหนทางการเป็นตัวเราเองเอาไว้ด้วยพลาสติคสีต่างๆป้องกันไม่ให้อะไรออกไป
แถมยังไม่ให้อะไรมาปนเปื้อนด้วย ดีจริงๆ น้ำสะอาดปลอดภัย
ขั้นสุดท้าย เพื่อให้ตัวเธอเป็นดั่งที่ควรเป็น เธอจะเป็นอะไร ไม่ใช่เธอเป็นใคร
เธอจะได้รับการติดฉลากด้วยตราโรงเรียนผ่านพิธีจบการศึกษา และได้ใบประกาศมาเหมือนตราฉลากบนขวดน้ำ
พร้อมออกไปทำหน้าที่ดับกระหายให้สังคมบนโลกใบนี้แล้ว
“โอ๊ะ!!! มาอยู่ตรงหน้านี้แล้วไง” แม้แต่การออกมาสู้โลกภายนอกก็ยังเหมือนกัน
มีแบบแช่เย็น ไม่แช่เย็น มีแบบขายยกแพคด้วย
“ไหนชั้นวะ” เราก็ก้มลงมองหาไอ้ขวดที่คิดว่าน่าจะเป็นเราจนเรานึกขึ้นได้
“ชั้นไม่ได้ติดฉลากนี่หว่า ชั้นไม่จบ ชั้นมากจากโรงงาน กศน.”
อี ดี โอ เค ชั้นต่ำ เป็นขวดน้ำสีขาวๆ ราคาห้าบาทที่แช่ตู้เหล็กร้านเจ๊ก
มามีค่ามากตอนสงกรานต์ที่สีลมขวดละยี่สิบเพื่อใช้ล้างหน้า ล้างตีน
37 ขวด เหมือนกันทั้งหมด ไม่มีเรา รู้สึกแปลกแยก ถอนหายใจยาวจนแม่ค้ามอง
“ป้า แตงโมปั่นแก้วนึง” นี่แล่ะตัวกุ
ธรรมมะจากเขวดน้ำ : เมื่อโรงเรียนเป็นดั่งโรงงานน้ำบรรจุขวด
“ชั้นไม่อยู่แล้วทำไมโรงเรียนดูเจริญขึ้น” อันเป็นเรื่องให้คิดไปว่า “ตกลงนี่เราถ่วงความเจริญ หนักแผ่นดินโรงเรียนใช่มั้ยในทันที”
ซึ่งจริงๆ ไม่หรอก โรงเรียนก็เติบโตได้เหมือนเรานั่นแล่ะ และที่สำคัญเพราะนักเรียนเก่าอย่างเราๆ
ที่มีหน้าที่การงานได้ร่วมกันช่วยสมทบทุนพัฒนามันขึ้นเรื่อยๆ นี่เอง
เราแวะไปที่โรงอาหาร นี่อาจเป็นอย่างเดียวที่โรงเรียนและบรรดาศิษย์เก่าไม่สามารถพัฒนาได้
หรือมันก็ถึงจุดที่ไม่มีอะไรให้พัฒนาแล้วนั่นคือ “รสชาติ” ห่วยแตกเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือราคา
เมื่อเราแวะเข้าไปที่ร้านขายน้ำ สิ่งที่สมัยเราเรียนไม่มีคือ “น้ำเปล่าบรรจุขวด” ที่มาพร้อมกับป้ายฉลากโรงเรียน
ตราสัญลักษณ์อันใหม่ที่พยายามทำให้มีรัศมี ทั้ง ที่แบบเดิมนั้นเก๋ และเท่ อย่างไม่มีใครเหมือน
เราก็ดันนึกสนุกนับจำนวนขวดที่แช่ในถาดน้ำแข็งนั่นเล่นๆ
“1, 2,3,4,...37 อ้าว!! จำนวนเท่ากับนักเรียนห้องกุเลย” เราคิดในใจ
ไอ้ความอุตริชอบอุปมาของเราก็ดันคิดภาพเพื่อนๆ ม.ปลายขึ้นมาบัดดล
ถ้าขวดน้ำนี่สมมติว่าเป็นนักเรียนอย่างเรานะ
กว่ามันจะมาวางขายบนนี้ได้มันต้องผ่านอะไรมาบ้างวะ
ขั้นแรก เราคงเกิดเป็นเม็ดพลาสติคจากปิโตรเลียม ที่ผ่านการขึ้นรูปอย่างที่โรงเรียนต้องการ
จึงได้เข้ามาสู่รางการผลิตทุกขั้นตอน หรือชั้นปี เราจะถูกตรวจวัดรอยรั่ว แรงดัน คุณภาพต่างๆ
จนมั่นใจได้ว่าจะสามารถบรรจุน้ำได้ หากเป็นน้ำก็ปลอดภัย หากเป็นนักเรียนก็ พร้อมศึกษาเรียนรู้
ขั้นสอง ขวดน้ำจะถูกส่งไปบรรจุน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่โรเรียนคิดว่านี่แล่ะคือสิ่งที่เธอต้องรู้และทำเมื่อจบออกไป
โรงงานจะมีการตรวจวัดคุณภาพ คัดกรองสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ออกจากทั้งเราและสิ่งที่จะบรรจุเราเมื่อถึงระดับปริ่มคอเป็นที่พอใจ
มากพอจนแทบไม่เหลือที่ให้เราใส่ตัวตนของเราด้วยซ้ำ โอ้ย..... แต่มันก็ยังมีเหลืออยู่นะเธอ แต่ช้าก่อน!!!!
ขั้นที่สาม อย่าคิดว่าเธอจะใส่อะไรลงไปที่เหลือได้ทัน เมื่อพวกเค้าจัดการปิดฝาขวด
ปิดหนทางการเป็นตัวเราเองเอาไว้ด้วยพลาสติคสีต่างๆป้องกันไม่ให้อะไรออกไป
แถมยังไม่ให้อะไรมาปนเปื้อนด้วย ดีจริงๆ น้ำสะอาดปลอดภัย
ขั้นสุดท้าย เพื่อให้ตัวเธอเป็นดั่งที่ควรเป็น เธอจะเป็นอะไร ไม่ใช่เธอเป็นใคร
เธอจะได้รับการติดฉลากด้วยตราโรงเรียนผ่านพิธีจบการศึกษา และได้ใบประกาศมาเหมือนตราฉลากบนขวดน้ำ
พร้อมออกไปทำหน้าที่ดับกระหายให้สังคมบนโลกใบนี้แล้ว
“โอ๊ะ!!! มาอยู่ตรงหน้านี้แล้วไง” แม้แต่การออกมาสู้โลกภายนอกก็ยังเหมือนกัน
มีแบบแช่เย็น ไม่แช่เย็น มีแบบขายยกแพคด้วย
“ไหนชั้นวะ” เราก็ก้มลงมองหาไอ้ขวดที่คิดว่าน่าจะเป็นเราจนเรานึกขึ้นได้
“ชั้นไม่ได้ติดฉลากนี่หว่า ชั้นไม่จบ ชั้นมากจากโรงงาน กศน.”
อี ดี โอ เค ชั้นต่ำ เป็นขวดน้ำสีขาวๆ ราคาห้าบาทที่แช่ตู้เหล็กร้านเจ๊ก
มามีค่ามากตอนสงกรานต์ที่สีลมขวดละยี่สิบเพื่อใช้ล้างหน้า ล้างตีน
37 ขวด เหมือนกันทั้งหมด ไม่มีเรา รู้สึกแปลกแยก ถอนหายใจยาวจนแม่ค้ามอง
“ป้า แตงโมปั่นแก้วนึง” นี่แล่ะตัวกุ