ก่อนอื่นต้องขอออกตัวไว้ก่อนว่า จขกท.ไม่ใช่กูรูในด้านนี้ เพียงแต่อยากมาแชร์ประสบการณ์จากการที่ได้ไปเช่ารถขับทั่วไต้หวันเมื่อช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา เลยเอามาเล่าสู่กันฟังครับ ถ้าหากมีข้อความใดที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง รบกวนผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยครับ และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

แรกเริ่มเดิมที่ไม่ได้ตั้งใจจะเช่ารถขับ เพราะมีผู้รู้หลายคนแนะนำว่า อันตราย ไม่ปลอดภัย ขับยากเพราะพวงมาลัยซ้าย เช่ารถพร้อมคนขับที่ชำนาญทางดีกว่า ก็เลยคิดว่าจะติดต่อเช่ารถพร้อมคนขับแทน

แต่หลังจากที่ผมลองให้บริษัทอินบาวน์ของไต้หวันบริษัทหนึ่งเสนอราคารถเช่าพร้อมคนขับ 7 วันมา ปรากฏว่าราคาแพงมาก ด้วยงบประมาณที่จำกัด ผมก็เลยหันกลับมามองการเช่ารถขับด้วยตัวเองแทน ซึ่งเมื่อพอมาเช็คราคารถเช่าผ่านเวป ก็พบว่าราคาไม่แพงเลย และการเช่ารถก็มอบความอิสระให้กับการเดินทาง ซึ่งในกรณีของผมคือเดินทางแบบครอบครัวที่มีลูกวัยอนุบาลไปด้วย แน่นอนว่าต้องมีสัมภาระมาก ไหนจะรถเข็นเวลาเด็กเมื่อยเมื่อต้องเดินไกลๆอีก จึงทำให้ตัดสินใจว่าการเดินทางไปไต้หวันทริปนี้เราจะเช่ารถขับกันเอง



ตัวผมเองเคยเช่ารถขับที่ญี่ปุ่น แอฟริกาใต้ และนิวซีแลนด์มาแล้ว แต่ไม่เคยทดลองขับรถด้วยพวงมาลัยซ้ายเลย ก็เลยเป็นการตัดสินใจที่ค่อนข้างกังวลพอดู แต่หลังจากที่ได้ขับจริงๆ ปรากฏว่า ใช้เวลาปรับระบบสมองและประสาทของเราให้เขากับการขับรถพวงมาลัยซ้ายในเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งต้องบอกเลยว่าผมไม่ใช่คนขับรถเก่งอะไร แต่เคยชินกับการขับรถขึ้นเขาลงเขาและถนนที่วกวนเป็นประจำเพราะอาศัยอยู่ที่ภูเก็ต การมาขับที่ไต้หวันก็แทบไม่ต่างกันเลย และสำรับคนที่ชินกับการขับรถบนทางด่วนที่กรุงเทพ การขับรถบนทางด่วนของไต้หวันนั้นก็ไม่แตกต่างกัน และจีพีเอสที่ติดมากับรถเช่า ก็ชัดเจน มีภาพสามมิติแสดงให้เห็นเวลาจะต้องลงทางด่วนอย่างชัดเจน ไม่หลงแน่นอน

หลังจากที่ผ่านการเช่ารถขับครบรอบเกาะไต้หวันอย่างปลอดภัยมาแล้ว ผมขออนุญาตสรุปข้อดีข้อเสียให้ทราบดังนี้

ข้อดี

1. อิสระในการเดินทางสูงสุด สามารถกำหนดเวลาในการเดินทางที่เหมาะสมของเราเองได้

2. ไม่ต้องยึดกับตารางรถไฟหรือรถบัส และสามารถเข้าถึงท้องที่ที่ห่างไกลได้ทุกที่ ที่รถไฟหรือรถบัสไปไม่ถึง

3. สามารถหยุดถ่ายรูปข้างทาง หรือแวะพักในจุดที่อาจไม่ได้วางแผนมาล่วงหน้าได้ อาทิ บังเอิญไปเจอทุ่งทานตะวันสวยงามมาก แต่ไม่ได้วางแผนมาเที่ยว ถ้าเช่ารถขับเองก็ลงแวะถ่ายรูปได้สบายๆ

4. ถนนหนทางอยู่ในสภาพดีมาก ไม่ต่างจากญี่ปุ่น มีป้ายบอกทางชัดเจน

5. สามารถใช้ GPS นำทางได้ง่ายโดยใส่หมายเลขโทรศัพท์ของสถานที่นั้นๆ ลงใน GPS เพื่อนำทาง เช่นเดียวกับญี่ปุ่น

6. น้ำมันราคาพอๆกับที่เมืองไทย น้ำมันเบนซิน 95 อยู่ที่ 26NT โดยประมาณ (ประมาณ 30 บาทต่อลิตร)

7. การเดินทางระหว่างเมืองใหญ่ๆ มีทางด่วนเชื่อมโยงถึงกันหมด ย่นระยะเวลาเดินทางได้มาก

8. ไม่ต้องกังวลเรื่องจ่ายค่าทางด่วนมหาโหดเหมือนที่ญี่ปุ่น ที่นี่เราสามารถขับโดยไม่ต้องผ่านด่านเก็บเงินอะไร ใดๆ ทั้งสิ้น แต่เมื่อคืนรถพนักงานจะให้เราจ่ายค่าทางด่วนรวดเดียว ซึ่งผมขับรอบเกาะใช้เวลา 7 วัน เสียค่าทางด่วนไป 500NT (ประมาณ 600 บาท) ซึ่งถือว่าถูกมากๆ เพราะใช้ทางด่วนเป็นส่วนใหญ่ในแต่ละวัน

9. คนที่นี่มีวินัยในการขับรถดี แต่ก็ไม่ถึงกับเป๊ะเหมือนที่ญี่ปุ่น ในเมือง จำกัดความเร็ว 50 แต่ก็ไม่เห็นมีใครขับตามลิมิต (ส่วนใหญ่จะขับประมาณ 60-70 กม/ชม.) ผิดกับญี่ปุ่นที่เป๊ะๆมากๆ ขับเป็นเต่าคลานโดยเฉพาะในเมือง ส่วนทางด่วน จำกัดความเร็วที่ 110 กม/ชม. แต่ก็เห็นขับเร็วเกินกันทั้งนั้น (อันนี้แนะนำให้ขับที่ 110-120 จะดีกว่า เพราะโอกาสที่จะโดนปรับเพราะขับเร็วบนทางด่วนมีมากกว่าขับในเมือง)

10. ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นเวลาขับรถ เพราะไม่ได้มีตำรวจจราจรเพ่นพ่านอยู่ทุกมุมเมือง ถ้าคุณคิดว่าขับที่เมืองไทยเคยขับอย่างไรแล้วไม่โดนจับ ขับที่ไต้หวันก็สามารถเอาตัวรอดได้ครับ ถ้าไม่ได้ขับแย่จริงๆนะ

11. เรื่องการเข้าห้องน้ำระหว่างทาง ถ้าขับบนทางด่วนจะมี EXIT เป็นระยะๆเพื่อให้ไปยังจุดแวะพักที่มีห้องน้และร้านอาหาร แต่ถ้าวิ่งในถนนชนบททุกๆ เมืองเล็กๆจะมี 7-eleven และ family mart ซึ่งจะมีห้องน้ำสะอาดๆให้แวะเข้าได้ และมีอาหารอร่อยๆให้แวะรับประทานเสมอๆ (มีโต๊ะให้นั่งกินเป็นเรื่องเป็นราวด้วย)



ข้อเสีย

1. ขับรถพวงมาลัยซ้าย วิ่งเลนขวา หลายคนที่ขับรถไม่คล่อง อาจลองเลือกการเช่ารถพร้อมคนขับแทน แต่ถ้าใครขับคล่อง และปรับตัวได้ดี การขับรถพวงมาลัยซ้ายก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถของคนทั่วไป

2. การเปลี่ยนมาขับรถพวงมาลัยซ้ายกะทันหัน อาจเกิดความสับสนในเรื่องเลนที่ควรจะวิ่ง แนะนำให้สังเกตการขับรถจากรถคันหน้า ไม่นานเราจะเข้าใจว่าอะไรคืออะไร ต้องเลี้ยวอย่างไร

3. การขับรถพวงมาลัยซ้าย อาจทำให้สับสนระหว่างการใช้ที่ปัดน้ำฝนกับไฟเลี้ยว ซึ่งอันนี้ตัว จขกท.เองก็ผิดพลาดประจำ แต่ออกจะเป็นเรื่องขำขันมากกว่าเพราะไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายกับการขับขี่แต่อย่างใด

4. หากเลือกที่พักที่อยู่กลางเมือง ต้องศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนจอง ว่าโรงแรมนั้นๆมีที่จอดรถหรือไม่ ต้องจองล่วงหน้าหรือไม่ และมีค่าใช้จ่ายหรือว่าฟรี

5. การขับรถในเมือง ถนนมีแยกไฟแดงเยอะ ต้องอ่าน GPS ให้คล่องๆไม่งั้นอาจเลี้ยวผิดแยกได้ เพราะแต่ละแยกอยู่ห่างกัน 100 เมตรก็มี

6. การใช้ GPS ในไต้หวัน อาจเรียกได้ว่า ไม่ง่ายที่สุด คล้ายๆกับที่ญี่ปุ่นเอง คือถ้าจะไปไหนต้องมีหมายเลขโทรศัพท์ของสถานที่ๆจะเตรียมไว้ก่อน ไม่เช่นนั้นปัญหาจะเกิดทันที เพราะจะให้คีย์สถานที่เป็นภาษาจีนก็คงเป็นไปไม่ได้ สำหรับคนไทยทั่วๆไป จขกท.เอง เคยเกิดปัญหาแบบนี้มาหนึ่งครั้งในวันแรกที่เช่ารถขับ เพราะลืมจดหมายเลขโทรศัพท์ของสถานที่ๆจะไป ดีที่ว่าให้พนักงานของบริษัทรถเช่าช่วยคีย์ข้อมูลเป็นภาษาจีน แถมในตอนบ่าย คีย์หมายเลขโทรศัพท์ของโรงแรมที่จะไปพักที่ซันมูนเลค ปรากฏว่าหมายเลขโทรศัพท์ผิด เลยนั่งงมอยู่ครึ่งชั่วโมง ก่อนตัดสินใจขับรถไปที่ปั๊มน้ำมัน ให้ผู้จัดการร้านช่วยคีย์สถานที่เป็นภาษาจีนให้ (คนไต้หวันการศึกษาสูง และมีน้ำใจมาก ) จากนั้นมาก่อนออกเดินทางทุกวันตอนเช้าตรู่ ผมต้องตื่นก่อนคนอื่นลงมาเซ็ท GPS สำหรับสถานที่ๆจะไปในแต่ละวันและเซฟลงเครื่องให้เรียบร้อย เท่านี้ก็ไม่มีปัญหาครับ

7. การขับรถเที่ยวในไต้หวัน จำเป็นมาต้องมี wifi ติดตัว เผื่อเอาไว้หาหมายเลขโทรศัพท์สถานที่ๆเราจะไป และสามารถใช้ Google Map ช่วยนำทางได้



หวังว่าข้อมูลนี้คงเป็นประโยชน์แก่คนที่สนใจจะเช่ารถขับเที่ยวไต้หวันบ้างนะครับ มีคำถามอะไรเพิ่มเติม ถามมาได้เลยนะครับ ถ้าตอบได้ยินดีตอบครับ

โปรดติดตามชมตอนต่อไป ซึ่งจะเป็นเรื่องราวการเดินทางรอบเกาะไต้หวันด้วยการเช่ารถ แบบฉบับครอบครัวครับ ใครที่มีเด็กๆเดินทางด้วย อย่าลืมติดตามนะครับ