[โหมโรง ไทย – ญี่ปุ่น] ย้อนรอยคืนฝันร้ายที่เมลเบิร์น สกอร์ 9 – 0 กับฟุตบอลโอลิมปิกไทย 2499

นับจนถึงทุกวันนี้ ทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทยยังไม่เคยได้สัมผัสกับฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายแม้แต่เพียงครั้งเดียว อย่างไรก็ตามสำหรับการแข่งขันกีฬาแห่งมวลมนุษย์ชาติอย่างกีฬาโอลิมปิกแล้ว เหมือนว่าทีมชาติไทยยังพอมีโชคให้เห็นอยู่บ้าง

ในปี 1956 หรือ 2499 ปีซึ่งอันธพาลครองเมืองครองอิทธิพลอย่างไม่หวั่นเกรงกฎหมาย กลับมีปาฏิหารย์ส่งทีมชาติไทยไปแข่งโอลิมปิกรอบสุดท้ายที่เมลเบิร์นได้สำเร็จแม้จะไม่ได้แข่งคัดเลือกแม้แต่เกมส์เดียว

วันที่ 1 กันยายน 2499 การจับฉลากประกบคู่แบบแพ้คัดออกได้เริ่มขึ้นที่ซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์และทีมชาติไทยก็ได้จับฉลากเจอทีมต้นตำรับฟุตบอลสมัยใหม่อย่าง ทีมฟุตบอลทีมชาติบริเตนใหญ่หรือสหราชอาณาจักร นั่นเอง



และแล้วในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2499 วันประวัติศาสตร์ก็มาถึง เกมส์แรกของทีมฟุตบอลทีมชาติไทยในกีฬาฟุตบอลที่จัดแข่งในโอลิมปิกครั้งแรกเช่นกัน



โค้ชบุญชู สมุทรโคจร ได้วางแผนการเล่นด้วยระบบ 5-3-2 โดย 11 ตัวผู้เล่นของทีมชาติไทยในเกมส์นั้นประกอบด้วย

ผู้รักษาประตู: เกษม ใบคำ
แบคซ้าย: ประทีป เจิมอุทัย
แบคขวา: สุรพงษ์ ชุติมาวงศ์
ฮาร์ฟซ้าย: วันชัย สุวารี
เซนเตอร์ฮาร์ฟ: โสภณ หยะจันทรา
ฮาร์ฟขวา: ประสันต์ สุวรรณสิทธิ์
ปีกซ้าย: สุชาติ มุทุกันฑ์
ในซ้าย: บำเพ็ญ ลัทธิมนต์
ศูนย์หน้า: สำรวย ไชยยงค์
ในขวา: วิวัฒน์ มิลินทจินดา
ปีกขวา: สุกิจ จิตรานุเคราะห์

และผู้รักษาประตูสำรอง กับ ผู้เล่นสำรอง รวมทั้งหมด 3 คน คือ ตุ๊ สุวานิช, โสภณ สุวรรณรุจี และ นิตย์ ศรียาภัย

(โฉมหน้านักฟุตบอลทีมชาติไทยชุดไปแข่งขัน OLYMPIC GAMES ครั้งที่ 16 ปี 1956 ณ กรุงเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย)


แต่แล้วดราม่าก็บังเกิดขึ้นก่อนเริ่มการแข่งขัน เมื่อเกิดเรื่องเข้าใจผิดโดยกัปตันทีมสหราชอาณาจักรได้ทำการเบิร์ดศีรษะกัปตันทีมไทยแบบเบาๆ ตามธรรมเนียมชาวตะวันตก แต่ในมุมของนักฟุตบอลไทยการตบหัวกันถือว่าเป็นการหาเรื่องและไม่ให้เกียรติกัน กัปตันทีมชาติไทยจึงสวนกลับด้วยการชกเข้าที่ท้องของกัปตันทีมสหราชอาณาจักร ทำให้ต้องใช้เวลาเคลียร์กันอยู่พักหนึ่งกว่าจะปรับความเข้าใจกันได้

(ภาพการแข่งขันภาพเดียวที่หาได้จากเกมส์การแข่งขันในวันนั้น)


เมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้น ท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บของสนามเมลเบิร์นคริกเก็ตกราวด์ ทีมต้นตำรับลูกหนังอย่างทีมสหราชอาณาจักรดาหน้าเข้าใส่ทีมชาติไทยราวกับพายุบุแคม โสภณ หยะจันทรา เซนเตอร์ฮาร์ฟของทีมชาติไทยต้องทำหน้าที่อย่างหนัก แต่เพราะศูนย์หน้าสหราชอาณาจักร มีรูปร่างราวกับยักษ์ปักหลั่น ชนิดบังกันมิด ทำให้เกิดอุบัติเหตุจากจังหวะการโหม่งแย่งลูกบอล เป็นเหตุให้ศีรษะของโสภณ หัวกะโหลกบุบและร้าว สลบเหมือดคาสนาม ต้องรักษาในโรงพยาบาลที่ออสเตรเลียเป็นแรมเดือนจึงได้กลับประเทศไทย ทำให้เกมส์นั้น ตุ๊ สุวานิช ผู้รักษาประตูสำรองจำต้องลงมาเล่นในตำแหน่งผู้เล่นในเกมส์นั้นด้วย

และแล้วผลก็จบลงด้วยการที่ทีมสหราชอาณาจักรเป็นฝ่ายสอนบอลทีมชาติไทยไปถึง 9 – 0 เป็นการปิดฉากโอลิมปิกหนแรกของทีมชาติไทยไปอย่างบอบซ้ำและย่อยยับ ซึ่งสกอร์ 9 - 0 นับเป็นการแพ้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีมฟุตบอลชาติไทยในการแข่งขันระดับชาติตามสถิติของ FIFA มาจนถึงทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม ทีมสหราชอาณาจักรก็จอดป้ายในรอบถัดไปเมื่อพ่ายบัลแกเรียไปถึง 1 - 6 ส่วนแชมป์ในการแข่งขันครั้งนั้นเป็นของสหภาพโซเวียตที่มี "ไอ้ปลาหมึกยักษ์ดำ" เลฟ ยาชิน ผู้รักษาประตูระดับตำนานเป็นนายด่านเฝ้าเสา

Note: ผู้ทำประตูของทีมสหราชอาณาจักร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


(เลฟ อิวาโนวิช ยาชิน)


วันที่ 28 มีนาคม 2560 นี้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง จะนำทีมชาติไทยบุกไปเยือนทีมชาติญี่ปุ่นด้วยขวัญกำลังใจที่ไม่น่าจะสู้ดีเท่าไหร่ ประกอบกับทีมชาติญี่ปุ่นในยุคนี้ที่อุดมไปด้วยผู้เล่นในสโมสรยุโรปแทบทั้งสิ้น แล้วกงล้อประวัติศาสตร์จะหมุนวนกลับมาหรือไม่? ชะตากรรมของทีมชาติไทยจะเป็นเช่นไร? หรือเกมส์นี้จะสร้างสิ่งใดอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทย? อีกไม่กี่วันข้างหน้า เราคงได้รู้กัน...

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่