ก่อนอื่นขอแจ้งก่อนว่า ไม่ได้เคยอยากมาเวียดนามเลย ไม่ได้พิศวาทใดๆทั้งสิ้น แต่ที่มาเพราะเหมือนกับเป็นจังหวะที่ลงตัว ถ้าจะไปที่อื่นค่าใช้จ่ายในช่วงนี้สูงเกินไป เมื่อตัดสินใจจะมาก็มาอ่านรีวิวบางรีวิว จึงโดนโกงค่ามอไซค์โดยมันเรียกเงินค่ารถตั้ง 2,500 ( 1,500,000) บาท โดยแจ้งค่ารถราคา 15,000 ทั้งๆที่เดินก็ได้แค่ราว 10 นาที แต่เนื่องจากเรานั่งรถมันและให้เงินไปส่วนหนึ่งแล้วคือ 500,000 ดอง ประมาณ 800 บาท แต่มันเปลี่ยนแบงค์และหาว่าเราให้เงินแค่ 10,000 ดอง และเพื่อตัดปัญหาจึงไม่ทวงคืนและไม่ให้เงินเพิ่ม ถ้ามานักเลงจะแจ้งความ ถือว่าทำทานไปเดี๋ยวมันทำร้ายจะยุ่งกว่านี้ แล้วมันก็ปล่อยให้เดินไปต่อเอาเอง ไม่ส่งถึงที่โรงนรมตามตกลง เราจึงยอมเดินหาเอาเอง ไม่อยากยุ่งกับมันแล้ว เสียเงินไปมากแล้วกับพวกฉวยโอกาส ยัง ยังไม่หมดค่ะ มาอ่านต่อ
มาจากเมืองไทยแลกเงินดอลล่าร์มา 200 $ ราว 7000 บาท และนำเงินดอลล์แลกเงินเวียดนามดอง ไป 70$ (เหลือ 130$) เมื่อมาแลกเงินดอง จะได้เงินดีกว่าเอาเงินบาทไทยมาแลก พอได้เวลาเช็คอินห้องพัก ก็ไปดำเนินการตามปกติ เนื่องจากทำทานไปเกือบ 800 บาท จึงมั่นใจว่าเงินดองคงไม่พอจ่ายค่าห้อง 4 คืน ก็จะแลกอีกครั้งกับโรงแรมเลย ก็ตั้งใจแลกแค่ 20$ ก่อน แต่พนง.บอกว่าจ่ายตอนเช็คเอ้าท์ได้ก็คิดว่าไม่ต้องแลกวันนี้ก็ได้ จึงเก็บเงินดอลล์ไว้ก่อนและพนง.เก็บพาสปอร์ตไว้ ต่อมาอยากไปซื้อยาสระผม จึงพกเงินแค่ 50,000 ดองออกไปร้านค้าโดยทิ้งกระเป๋าเงินไว้บนห้องพัก ตอนนี้ก็ไม่แน่ใจว่าขณะที่ออกไปข้างนอกนั้นได้ล็อคห้องดีหรือไม่ เมื่อเดินผ่านก็ถามพนง.ว่าลืมคืนพาสปอร์ตหรือไม่ พนง.บอกว่าต้องขอเก็บไว้ อันนี้เข้าใจ ไม่ว่ากัน กลับมาถึงห้องพัก มาคำนวณเงิน ว่าจะต้องแลกอีกเท่าไร ปรากฎว่า พบเงินดอลล่าร์เหลือแค่ 30 $ หายไป 100$ จึงวิ่งลงไปที่ฟร้อนท์ แจ้งพนง.ว่าเงินดอลล่าร์หายไป ขณะนั้นมีชาวต่างชาติ 2 คนกำลังติดต่อเข่าห้องพัก พนง.คนที่เช็คอินให้ จึงพยักหน้ารับทราบ และแสดงอาการให้เรารู้ว่าขอดูแลลูกค้าก่อน ให้เรากลับมารอที่ห้องพัก เราก็งงๆว่า เงินมันหายไป แล้วให้กลับมารอที่ห้องจะได้เงินคืนอย่างไร ขณะที่ยืนมึนงงและใจเสียอยู่นั้น ปรากฎว่า พนง.แจ้งชาวต่างชาติว่า ห้องพักเต็ม เป็นจังหวะที่เราก็เดินกลับห้อง แค่ไม่กี่อึดใจ พนง.คนนั้นเอาพาสปอร์ตเรามา แล้วทำหัวเราะขำขัน ว่านี่ไงเจอเงินแล้ว เราลืมไว้ในพาสปอร์ต เป็น แบงค์ 20$ 2 ใบและ 10$ อีก 1 ใบ และเปิดพาสปอร์ตให้ดูผ่านๆบอกว่า ไม่มีแล้ว เราบอกว่า มีแบงค์ 50$ อีก 1 ใบ นางบอกว่าขอเช็คก่อน สักแปป วิ่งมาบอกประมาณว่าอุ้ยตาย เจอแล้วติดอยู่ในพาสปอร์ตเช่นกัน เราได้เงินคืนครบ จึงไม่อยากโวยวายอะไร ยิ่งอยู่ต่างบ้านต่างเมือง สื่อสารไม่รู้เรื่อง ใครว่าคนเวียดนามพูดอังกฤษเก่ง ส่วนใหญ่ที่เจอพูดแทบไม่ได้เลย
กรณีนี้แสดงว่า พนง.คนนี้คงแอบขึ้นมาเอาเงินตอนที่ออกไปเดินซื้อยาสระผมนางคงสังเกตตอนที่เดินออกไปไม่ได้สะพายกระเป๋าส่วนตัว เพราะตอนที่ตั้งใจจะแลกเงินเพิ่ม ได้เอาเงินออกจากกระเป๋าแค่ 20$ เฮ้อ ! ในโรงแรมพนง.ยังขโมยเอง ต่อไปนี้ต้องระวังอย่างหนักเลย มิจฉาชีพรอบตัว นี่ถ้ารู้ตัวช้ามันคงอ้างว่าเราอาจจะไปทำหายที่อื่นแน่และคงไม่ได้คืน ขอให้เพื่อนๆอ่านและคอยระวังตัวเอง เมื่อจะเดินทางไปที่ใดก็ตาม แต่สำหรับเราพอกันทีกับเวียดนาม วันนี้เพิ่งมาถึงวันแรก มาคนเดียวและต้องอยู่ 4 คืน เราต้องระวังตัวอย่างมาก จะไปที่ไหนก็ต้องพกกระเป๋าติดไปให้ตลอด เพราะแม้แต่พนง.รร.ก็ยังไว้ใจไม่ได้ ดีนะที่มาคืนครบ เราทำเป็นไม่รู้เรื่องไว้ก่อนเดี๋ยวจะไม่ปลอดภัย ส่วนค่ามอไซค์นั้น เป็นมิจฉาชีพ เดี๋ยวปล่อยให้เวรกรรมทำงานไปเราถือว่าอุทิศส่วนกุศลให้ พอกันทีเวียดนามเมืองไทยของเราดีกว่ามากมาย
[CR] ทริปที่ไม่ประทับใจอย่างมาก ที่โฮจิมินห์
มาจากเมืองไทยแลกเงินดอลล่าร์มา 200 $ ราว 7000 บาท และนำเงินดอลล์แลกเงินเวียดนามดอง ไป 70$ (เหลือ 130$) เมื่อมาแลกเงินดอง จะได้เงินดีกว่าเอาเงินบาทไทยมาแลก พอได้เวลาเช็คอินห้องพัก ก็ไปดำเนินการตามปกติ เนื่องจากทำทานไปเกือบ 800 บาท จึงมั่นใจว่าเงินดองคงไม่พอจ่ายค่าห้อง 4 คืน ก็จะแลกอีกครั้งกับโรงแรมเลย ก็ตั้งใจแลกแค่ 20$ ก่อน แต่พนง.บอกว่าจ่ายตอนเช็คเอ้าท์ได้ก็คิดว่าไม่ต้องแลกวันนี้ก็ได้ จึงเก็บเงินดอลล์ไว้ก่อนและพนง.เก็บพาสปอร์ตไว้ ต่อมาอยากไปซื้อยาสระผม จึงพกเงินแค่ 50,000 ดองออกไปร้านค้าโดยทิ้งกระเป๋าเงินไว้บนห้องพัก ตอนนี้ก็ไม่แน่ใจว่าขณะที่ออกไปข้างนอกนั้นได้ล็อคห้องดีหรือไม่ เมื่อเดินผ่านก็ถามพนง.ว่าลืมคืนพาสปอร์ตหรือไม่ พนง.บอกว่าต้องขอเก็บไว้ อันนี้เข้าใจ ไม่ว่ากัน กลับมาถึงห้องพัก มาคำนวณเงิน ว่าจะต้องแลกอีกเท่าไร ปรากฎว่า พบเงินดอลล่าร์เหลือแค่ 30 $ หายไป 100$ จึงวิ่งลงไปที่ฟร้อนท์ แจ้งพนง.ว่าเงินดอลล่าร์หายไป ขณะนั้นมีชาวต่างชาติ 2 คนกำลังติดต่อเข่าห้องพัก พนง.คนที่เช็คอินให้ จึงพยักหน้ารับทราบ และแสดงอาการให้เรารู้ว่าขอดูแลลูกค้าก่อน ให้เรากลับมารอที่ห้องพัก เราก็งงๆว่า เงินมันหายไป แล้วให้กลับมารอที่ห้องจะได้เงินคืนอย่างไร ขณะที่ยืนมึนงงและใจเสียอยู่นั้น ปรากฎว่า พนง.แจ้งชาวต่างชาติว่า ห้องพักเต็ม เป็นจังหวะที่เราก็เดินกลับห้อง แค่ไม่กี่อึดใจ พนง.คนนั้นเอาพาสปอร์ตเรามา แล้วทำหัวเราะขำขัน ว่านี่ไงเจอเงินแล้ว เราลืมไว้ในพาสปอร์ต เป็น แบงค์ 20$ 2 ใบและ 10$ อีก 1 ใบ และเปิดพาสปอร์ตให้ดูผ่านๆบอกว่า ไม่มีแล้ว เราบอกว่า มีแบงค์ 50$ อีก 1 ใบ นางบอกว่าขอเช็คก่อน สักแปป วิ่งมาบอกประมาณว่าอุ้ยตาย เจอแล้วติดอยู่ในพาสปอร์ตเช่นกัน เราได้เงินคืนครบ จึงไม่อยากโวยวายอะไร ยิ่งอยู่ต่างบ้านต่างเมือง สื่อสารไม่รู้เรื่อง ใครว่าคนเวียดนามพูดอังกฤษเก่ง ส่วนใหญ่ที่เจอพูดแทบไม่ได้เลย
กรณีนี้แสดงว่า พนง.คนนี้คงแอบขึ้นมาเอาเงินตอนที่ออกไปเดินซื้อยาสระผมนางคงสังเกตตอนที่เดินออกไปไม่ได้สะพายกระเป๋าส่วนตัว เพราะตอนที่ตั้งใจจะแลกเงินเพิ่ม ได้เอาเงินออกจากกระเป๋าแค่ 20$ เฮ้อ ! ในโรงแรมพนง.ยังขโมยเอง ต่อไปนี้ต้องระวังอย่างหนักเลย มิจฉาชีพรอบตัว นี่ถ้ารู้ตัวช้ามันคงอ้างว่าเราอาจจะไปทำหายที่อื่นแน่และคงไม่ได้คืน ขอให้เพื่อนๆอ่านและคอยระวังตัวเอง เมื่อจะเดินทางไปที่ใดก็ตาม แต่สำหรับเราพอกันทีกับเวียดนาม วันนี้เพิ่งมาถึงวันแรก มาคนเดียวและต้องอยู่ 4 คืน เราต้องระวังตัวอย่างมาก จะไปที่ไหนก็ต้องพกกระเป๋าติดไปให้ตลอด เพราะแม้แต่พนง.รร.ก็ยังไว้ใจไม่ได้ ดีนะที่มาคืนครบ เราทำเป็นไม่รู้เรื่องไว้ก่อนเดี๋ยวจะไม่ปลอดภัย ส่วนค่ามอไซค์นั้น เป็นมิจฉาชีพ เดี๋ยวปล่อยให้เวรกรรมทำงานไปเราถือว่าอุทิศส่วนกุศลให้ พอกันทีเวียดนามเมืองไทยของเราดีกว่ามากมาย
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น