ในฐานะคนนับถือศาสนาคนหนึ่ง เห็นพฤติกรรมล้อเลียนพระ ล้อเลียนศาสดา ล้อเลียนคำสอนของศาสนามากขึ้นผิดหูผิดตาในช่วงรอบสองสามปีที่ผ่านมา
ชีวิตผมทำงานด้านวิทยาศาสตร์ พบปะเสวนากับนักวิชาการ นักวทิยาศาสตร์จากทั่วโลก เคยใช้ชีวิตในโลกตะวันตกที่คนไม่นับถือศาสนามีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ คนที่ไม่นับถือศาสนาส่วนใหญ่ที่พบในชีวิตจริง มีความเคารพในความเชื่อ ความศรัทธาของศาสนิก
แม้จะมีเกรียนในอินเตอร์เน็ตบ้าง แต่ส่วนมากก็ยังเป็นคนมีมารยาท
กลับมาดูเมืองไทย การล้อเลียนความเชื่อความศรัทธากลายเป็นเรื่องปกติ ไปแล้วหรอครับ
ผมเองมองว่าพฤติกรรมแบบนี้คือการยั่วยุ และนำไปสู่ความเกลียดชังเสียเอง
ถ้ามองว่าโลกมีศาสนิกสุดโต่งที่น่ากลัวเป็นอันตรายแล้ว กลุ่มไม่นับถือศาสนาที่สุดโต่งจนเอาสิ่งเคารพของคนอื่นๆมาทำเป็นของไร้ค่าได้ ก็ไม่ได้ต่างกันในแง่ของฟังค์ชั่นของกลุ่มคนเหล่านี้ คือมีแล้วมีประโยชน์น้อยกว่าโทษ ต่อการอยู่ร่วมกันของคนในสังคม
วุฒิภาวะนี่เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับศาสนา จะมีหรือไม่มีศาสนาก็ไม่น่าจะเพิ่มวุฒิภาวะได้ อย่างนั้นหรือเปล่า
ลองแลกเปลี่ยนกันดูครับ
ทำไมคนไม่นับถือศาสนาในโลกออนไลน์ถึงชอบล้อเลียนความศรัทธา
ชีวิตผมทำงานด้านวิทยาศาสตร์ พบปะเสวนากับนักวิชาการ นักวทิยาศาสตร์จากทั่วโลก เคยใช้ชีวิตในโลกตะวันตกที่คนไม่นับถือศาสนามีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ คนที่ไม่นับถือศาสนาส่วนใหญ่ที่พบในชีวิตจริง มีความเคารพในความเชื่อ ความศรัทธาของศาสนิก
แม้จะมีเกรียนในอินเตอร์เน็ตบ้าง แต่ส่วนมากก็ยังเป็นคนมีมารยาท
กลับมาดูเมืองไทย การล้อเลียนความเชื่อความศรัทธากลายเป็นเรื่องปกติ ไปแล้วหรอครับ
ผมเองมองว่าพฤติกรรมแบบนี้คือการยั่วยุ และนำไปสู่ความเกลียดชังเสียเอง
ถ้ามองว่าโลกมีศาสนิกสุดโต่งที่น่ากลัวเป็นอันตรายแล้ว กลุ่มไม่นับถือศาสนาที่สุดโต่งจนเอาสิ่งเคารพของคนอื่นๆมาทำเป็นของไร้ค่าได้ ก็ไม่ได้ต่างกันในแง่ของฟังค์ชั่นของกลุ่มคนเหล่านี้ คือมีแล้วมีประโยชน์น้อยกว่าโทษ ต่อการอยู่ร่วมกันของคนในสังคม
วุฒิภาวะนี่เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับศาสนา จะมีหรือไม่มีศาสนาก็ไม่น่าจะเพิ่มวุฒิภาวะได้ อย่างนั้นหรือเปล่า
ลองแลกเปลี่ยนกันดูครับ