พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า ระหว่างนี้ทางเจ้าหน้าที่จะเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนรับทราบเกี่ยวกับการคาดเข็มขัดนิรภัย ก่อนจะจับปรับจริงในวันที่ 5 เมษายนนี้ ไม่ว่าจะเป็นรถแท็กซี่ รถยนต์ส่วนบุคคลที่มีเข็มขัดนิรภัย ผู้โดยสารทุกคนต้องรัดเข็มขัดด้วย ส่วนรถกระบะจะห้ามไม่ให้นั่งด้านหลัง จะให้นั่งเฉพาะห้องโดยสารเท่านั้น หากบอกว่าได้รับผลกระทบก็กระทบแน่นอน แต่เพื่อให้เกิดความปลอดภัยของประชาชน เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแต่ละครั้งไม่ใช่เดือดร้อนเฉพาะตัวเอง ครอบครัว และรัฐก็ต้องจ่ายเงินดูแลรักษาด้วย

พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า สงกรานต์ปีนี้เจ้าหน้าที่ไม่ได้ห้ามนำโอ่ง หรือถังน้ำขึ้นท้ายรถกระบะ สามารถนำขึ้นได้ตามปกติ แต่จะต้องไม่มีคนไปนั่ง หรือยืนอยู่ท้ายรถ หากพบจะต้องถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับปรับแน่นอน โดยจะต้องนั่งรัดเข็มขัดนิรภัยอยู่ภายในห้องโดยสารเท่านั้น

อ่านข่าวฉบับเต็มได้ที่ : http://www.matichon.co.th/news/506972

---------------------

คิดเห็นอย่างไร? และจะเป็นไปได้ไหม?

สำหรับผม ถึงจะบอกว่า กม. เก่า แต่มันก็ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงอยู่ดี

เหมือนวัยรุ่นกับมอไซค์นั่นแหละ ต่ำกว่า 15 ทำใบขับขี่ไม่ได้ 15-17 ทำได้แต่ห้ามขับรถเกิน 110 cc ถามว่าชีวิตจริงทำได้ไหมล่ะ? ไปดู ตจว. เด็กชายเด็กหญิงขี่มอไซค์เป็นตั้งแต่ ป.5 ป.6 เพราะต้องขี่ไปเรียน แล้วมอไซค์ทุกวันนี้ ส่วนใหญ่ขั้นต่ำก็เกิน 110 cc ทั้งนั้น

รถกระบะก็เหมือนกัน ทำไมคนไทยชอบ เพราะมันนั่งได้หลายคน เอนกประสงค์ ขนได้ทั้งคนทั้งของ

รถบ้านเราแพงกว่า ตปท. แถมขนส่งบ้านเรามันเข้าขั้นแย่โดยเฉพาะ ตจว. คนก็ต้องหาอะไรที่คุ้มค่าที่สุดมาใช้
.
มันก็เท่านั้น