เปิดแล้วงานธงประจำปีของ SACICT จัดเต็มงานนวัตศิลป์ไทย-เทศ
จัดหนักทุกฟังก์ชั่นงาน IICF2017 ชวนชม ชวนช๊อป 23-26 มี.ค.นี้
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานเปิดงาน “เทศกาลนวัตศิลป์นานาชาติ 2560 หรือ IICF 2017” จัดโดย SACICT ที่ขนทัพงานศิลป์กว่า 350 ร้านค้าร่วมจัดหนัก จัดเต็มทุกฟังก์ชั่น ทั้งด้านองค์ความรู้งานหัตถกรรม พร้อมสรรพ ด้านการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นวัตศิลป์ ตระการตากับนิทรรศการผลงานหัตถกรรมที่รวมตัวกัน หาชมยาก สัมผัสแรงบันดาลใจกับผู้รังสรรค์งานหัตถกรรมเชิงสร้างสรรค์ในการประกวด Innovative Craft Award 2017 และร่วมเชิดชูผู้สืบสานงานฝีมือกับทายาทช่างศิลปหัตถกรรม 2560 พร้อมต่อยอดขับเคลื่อนงานศิลป์ตอบโจทย์ตลาด งานเดียวที่ เอาใจคนรักงานศิลป์อย่างครบถ้วน วันที่ 23 – 26 มีนาคมนี้ ที่ไบเทค บางนา
23 มีนาคม 2560 - นางอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เทศกาลนวัตศิลป์นานาชาติ 2560 หรือ International Innovative Craft Fair 2017 หรือ IICF 2017 เป็นงานที่รวมพลคนรักงานนวัตศิลป์ จับไอเดียคนรุ่นใหม่ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์ โดยในปีนี้ได้กำหนดแนวคิดการจัดงานในหัวข้อ “Today Life’s Crafts” มุ่งเน้นให้สังคมเห็นถึงศักยภาพงานศิลปหัตถกรรมไทยสามารถนำไปใช้ในวิถีชีวิตของคนทุกเพศทุกวัย
ในงานจึงระดมจัดกิจกรรมหลายส่วนที่ร่วมตอบโจทย์ทุกความต้องการอย่างครบถ้วน เริ่มตั้งแต่การเอาใจกลุ่มคนรักงานศิลป์ ซึ่งบรรยากาศจะชวนให้ผู้เข้าชมงานได้ร่วมคิด ร่วมชมผลงาน ร่วมลงมือทำงานประดิษฐ์กว่า 8 งานฝีมือ เป็นอีกหนึ่งงานดีๆ ที่ SACICT มุ่งจุดประกายสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้มีใจรักงานศิลป์ที่เข้าชมงาน พร้อมกันนี้ ก็ยังเป็นเวทีสำคัญสำหรับผู้ประกอบการงานศิลปหัตถกรรมของไทย ได้มีโอกาสเชื่อมโยงทางการตลาด ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ไอเดีย เจรจาธุรกิจต่อยอดงานฝีมือกัน แสดงให้เห็นว่า นอกจากจะเป็นกิจกรรมสำคัญที่สร้างความสุขทางใจแล้ว ยังขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับพื้นฐานแก่กลุ่มสมาชิกงานศิลปหัตถกรรมได้โดยตรง ซึ่งจะช่วยสร้างกำลังใจให้เกิดการสืบสาน ต่อยอดผลงานอย่างต่อเนื่อง
กิจกรรมสำคัญในปีนี้ คือ การมอบรางวัลและจัดแสดงผลงาน Innovative Craft Award 2017 (การประกวดผลิตภัณฑ์หัตถกรรมเชิงสร้างสรรค์ ครั้งที่ 6) ในหัวข้อ “Communi-Craft" หรือ ชุมชนบันดาลใจ ที่เป็นการใช้ทักษะงานออกแบบผสานเข้ากับงานฝีมือจากชุมชนฯ แบ่งการประกวดออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทประชาชนทั่วไป และประเภทอุดมศึกษา จาก 9 กลุ่มงานวัสดุ ประกอบด้วย เครื่องไม้ เครื่องจักสาน เครื่องดิน เครื่องทอ/ผ้า เครื่องรัก เครื่องโลหะ เครื่องหนัง เครื่องกระดาษ เครื่องหิน และอื่นๆ
ผู้ผ่านการคัดเลือกรอบสุดท้าย ประเภทประชาชนทั่วไป จำนวน 10 ราย/กลุ่ม จะได้รับโล่รางวัล และผู้ได้รางวัลสูงสุดจากคณะกรรมการ จำนวน 1 ราย/ทีม จะได้รับรางวัลชนะเลิศ ประกอบด้วยเงินสด จำนวน 100,000 บาท พร้อมโล่รางวัล ประเภทอุดมศึกษา จำนวน 10 ราย/กลุ่ม จะได้รับโล่รางวัลและผู้ได้รางวัลสูงสุด จากคณะกรรมการ จะได้รับรางวัล รางวัลที่ 1 จำนวน 1 ราย/กลุ่ม เงินสด 30,000 บาท พร้อมโล่รางวัล รางวัลที่ 2 จำนวน 1 ราย/กลุ่ม เงินสด 20,000 บาท พร้อมโล่รางวัล และรางวัลที่ 3 จำนวน 1 ราย/กลุ่ม เงินสด 10,000 บาท พร้อมโล่รางวัล ซึ่งจากเวทีนี้ SACICT จะได้นักออกแบบงานฝีมือรุ่นใหม่ๆ เพื่อเชิญชวนให้สังคมนิยมหันมาสนใจงานหัตถกรรมมากขึ้นแน่นอน
อีกกิจกรรมคือการ เชิดชูทายาทช่างศิลปหัตถกรรม” ประจำปี 2560 ซึ่งดำเนินงานอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 5 ในการคัดสรร “ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม” จากทั่วประเทศที่สืบสานงานศิลปหัตถกรรมดั้งเดิม 9 สาขาอยู่อย่างต่อเนื่อง ดังนี้ เครื่องไม้ เครื่องจักสาน เครื่องดิน เครื่องทอ (เครื่องผ้า) เครื่องรัก เครื่องโลหะ เครื่องหนัง เครื่องกระดาษ และเครื่องหิน โดยมีหลักเกณฑ์สำคัญ แบ่งออกเป็น 5 มิติ ประกอบด้วย 1.มิติด้านการอนุรักษ์ สืบสาน 2. มิติด้านทักษะฝีมือ 3.มิติด้านองค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นและนวัตกรรม 4.มิติด้านสังคมในการประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีต่อสังคม 5. มิติด้านความร่วมสมัยและการสร้างสรรค์ ซึ่งในปีนี้ มีผู้ผ่านการคัดสรรทั้งหมด 11 ท่าน เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีใจรักในงานหัตถกรรม จากการเป็นลูกหลาน หรือผู้ซึ่งรักษาองค์ความรู้งานศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน จากภูมิปัญญาดั้งเดิมที่สืบทอดผลงานจากบรรพบุรุษให้คงอยู่ บางท่านเป็นทายาทของครูศิลป์ของแผ่นดิน หรือครูช่างศิลปหัตถกรรม ที่ได้รับการยกย่องเชิดชูจาก SACICT หรือช่างฝีมือที่ทำงานศิลปหัตถกรรมในสาขาที่เกี่ยวเนื่องกับภูมิปัญญาดั้งเดิมที่กำลังจะสูญหาย ซึ่งทายาทช่างศิลปหัตถกรรมทั้ง 11 ท่านจะนำเอาผลิตภัณฑ์มาจัดแสดงและสาธิตให้ได้เยี่ยมชมภายในงานร่วมด้วย
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจภายในงาน ประกอบด้วย การจัดนิทรรศการ ซึ่งมีความยิ่งใหญ่ตระการตาและให้ความรู้ ซึ่งในปีนี้ SACICT ได้จัดนิทรรศการพิเศษขึ้นคือ “ต้นกล้าความคิดจากพ่อสู่ลูก” เพื่อน้อมรำลึกและแสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยะภาพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้านงานศิลปและงานช่างที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนไทย ตลอดจนนิทรรศการขององค์กรพันธมิตร ทั้งในและต่างประเทศ นิทรรศการแนวโน้มงานหัตถกรรมปี 2561 ในฝั่งของแต่งบ้านที่ต้องมาอัพเดต SACICT Craft Trend Gallery 2018 ซึ่งมาจากการระดมแนวความคิด และสังเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญในหลายวงการ
พลาดไม่ได้กับการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นวัตศิลป์ ที่มีให้เลือกสรรมากกว่า 350 ร้านค้า แบ่งออกเป็นโซนตามประเภทของผลิตภัณฑ์ เพื่อสะดวกแก่การเลือกชมงาน อาทิ Green Craft Zone บริเวณจำหน่ายผลิตภัณฑ์หัตถกรรมที่ใช้วัสดุจากธรรมชาติ Design Craft Marche Zone บริเวณจำหน่ายผลิตภัณฑ์นวัตศิลป์ไทยเก๋ไก๋หน้าใหม่ Souvenir Gift Zone บริเวณจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับเป็นของขวัญ ของชำร่วย University Street Zone บริเวณจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หัตถกรรมจากสถาบันการศึกษา เห็นอย่างนี้แล้ว บอกได้เลยว่า ไม่ควรพลาด “งานเทศกาลนวัตศิลป์นานาชาติ 2560 (IICF 2017)” 23 – 26 มีนาคม 2560 เวลา 10.00 -20.00 น. ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
เปิดแล้วงานธงประจำปีของ SACICT จัดเต็มงานนวัตศิลป์ไทย-เทศ
จัดหนักทุกฟังก์ชั่นงาน IICF2017 ชวนชม ชวนช๊อป 23-26 มี.ค.นี้
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานเปิดงาน “เทศกาลนวัตศิลป์นานาชาติ 2560 หรือ IICF 2017” จัดโดย SACICT ที่ขนทัพงานศิลป์กว่า 350 ร้านค้าร่วมจัดหนัก จัดเต็มทุกฟังก์ชั่น ทั้งด้านองค์ความรู้งานหัตถกรรม พร้อมสรรพ ด้านการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นวัตศิลป์ ตระการตากับนิทรรศการผลงานหัตถกรรมที่รวมตัวกัน หาชมยาก สัมผัสแรงบันดาลใจกับผู้รังสรรค์งานหัตถกรรมเชิงสร้างสรรค์ในการประกวด Innovative Craft Award 2017 และร่วมเชิดชูผู้สืบสานงานฝีมือกับทายาทช่างศิลปหัตถกรรม 2560 พร้อมต่อยอดขับเคลื่อนงานศิลป์ตอบโจทย์ตลาด งานเดียวที่ เอาใจคนรักงานศิลป์อย่างครบถ้วน วันที่ 23 – 26 มีนาคมนี้ ที่ไบเทค บางนา
23 มีนาคม 2560 - นางอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เทศกาลนวัตศิลป์นานาชาติ 2560 หรือ International Innovative Craft Fair 2017 หรือ IICF 2017 เป็นงานที่รวมพลคนรักงานนวัตศิลป์ จับไอเดียคนรุ่นใหม่ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์ โดยในปีนี้ได้กำหนดแนวคิดการจัดงานในหัวข้อ “Today Life’s Crafts” มุ่งเน้นให้สังคมเห็นถึงศักยภาพงานศิลปหัตถกรรมไทยสามารถนำไปใช้ในวิถีชีวิตของคนทุกเพศทุกวัย
ในงานจึงระดมจัดกิจกรรมหลายส่วนที่ร่วมตอบโจทย์ทุกความต้องการอย่างครบถ้วน เริ่มตั้งแต่การเอาใจกลุ่มคนรักงานศิลป์ ซึ่งบรรยากาศจะชวนให้ผู้เข้าชมงานได้ร่วมคิด ร่วมชมผลงาน ร่วมลงมือทำงานประดิษฐ์กว่า 8 งานฝีมือ เป็นอีกหนึ่งงานดีๆ ที่ SACICT มุ่งจุดประกายสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้มีใจรักงานศิลป์ที่เข้าชมงาน พร้อมกันนี้ ก็ยังเป็นเวทีสำคัญสำหรับผู้ประกอบการงานศิลปหัตถกรรมของไทย ได้มีโอกาสเชื่อมโยงทางการตลาด ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ไอเดีย เจรจาธุรกิจต่อยอดงานฝีมือกัน แสดงให้เห็นว่า นอกจากจะเป็นกิจกรรมสำคัญที่สร้างความสุขทางใจแล้ว ยังขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับพื้นฐานแก่กลุ่มสมาชิกงานศิลปหัตถกรรมได้โดยตรง ซึ่งจะช่วยสร้างกำลังใจให้เกิดการสืบสาน ต่อยอดผลงานอย่างต่อเนื่อง
กิจกรรมสำคัญในปีนี้ คือ การมอบรางวัลและจัดแสดงผลงาน Innovative Craft Award 2017 (การประกวดผลิตภัณฑ์หัตถกรรมเชิงสร้างสรรค์ ครั้งที่ 6) ในหัวข้อ “Communi-Craft" หรือ ชุมชนบันดาลใจ ที่เป็นการใช้ทักษะงานออกแบบผสานเข้ากับงานฝีมือจากชุมชนฯ แบ่งการประกวดออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทประชาชนทั่วไป และประเภทอุดมศึกษา จาก 9 กลุ่มงานวัสดุ ประกอบด้วย เครื่องไม้ เครื่องจักสาน เครื่องดิน เครื่องทอ/ผ้า เครื่องรัก เครื่องโลหะ เครื่องหนัง เครื่องกระดาษ เครื่องหิน และอื่นๆ
ผู้ผ่านการคัดเลือกรอบสุดท้าย ประเภทประชาชนทั่วไป จำนวน 10 ราย/กลุ่ม จะได้รับโล่รางวัล และผู้ได้รางวัลสูงสุดจากคณะกรรมการ จำนวน 1 ราย/ทีม จะได้รับรางวัลชนะเลิศ ประกอบด้วยเงินสด จำนวน 100,000 บาท พร้อมโล่รางวัล ประเภทอุดมศึกษา จำนวน 10 ราย/กลุ่ม จะได้รับโล่รางวัลและผู้ได้รางวัลสูงสุด จากคณะกรรมการ จะได้รับรางวัล รางวัลที่ 1 จำนวน 1 ราย/กลุ่ม เงินสด 30,000 บาท พร้อมโล่รางวัล รางวัลที่ 2 จำนวน 1 ราย/กลุ่ม เงินสด 20,000 บาท พร้อมโล่รางวัล และรางวัลที่ 3 จำนวน 1 ราย/กลุ่ม เงินสด 10,000 บาท พร้อมโล่รางวัล ซึ่งจากเวทีนี้ SACICT จะได้นักออกแบบงานฝีมือรุ่นใหม่ๆ เพื่อเชิญชวนให้สังคมนิยมหันมาสนใจงานหัตถกรรมมากขึ้นแน่นอน
อีกกิจกรรมคือการ เชิดชูทายาทช่างศิลปหัตถกรรม” ประจำปี 2560 ซึ่งดำเนินงานอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 5 ในการคัดสรร “ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม” จากทั่วประเทศที่สืบสานงานศิลปหัตถกรรมดั้งเดิม 9 สาขาอยู่อย่างต่อเนื่อง ดังนี้ เครื่องไม้ เครื่องจักสาน เครื่องดิน เครื่องทอ (เครื่องผ้า) เครื่องรัก เครื่องโลหะ เครื่องหนัง เครื่องกระดาษ และเครื่องหิน โดยมีหลักเกณฑ์สำคัญ แบ่งออกเป็น 5 มิติ ประกอบด้วย 1.มิติด้านการอนุรักษ์ สืบสาน 2. มิติด้านทักษะฝีมือ 3.มิติด้านองค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นและนวัตกรรม 4.มิติด้านสังคมในการประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีต่อสังคม 5. มิติด้านความร่วมสมัยและการสร้างสรรค์ ซึ่งในปีนี้ มีผู้ผ่านการคัดสรรทั้งหมด 11 ท่าน เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีใจรักในงานหัตถกรรม จากการเป็นลูกหลาน หรือผู้ซึ่งรักษาองค์ความรู้งานศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน จากภูมิปัญญาดั้งเดิมที่สืบทอดผลงานจากบรรพบุรุษให้คงอยู่ บางท่านเป็นทายาทของครูศิลป์ของแผ่นดิน หรือครูช่างศิลปหัตถกรรม ที่ได้รับการยกย่องเชิดชูจาก SACICT หรือช่างฝีมือที่ทำงานศิลปหัตถกรรมในสาขาที่เกี่ยวเนื่องกับภูมิปัญญาดั้งเดิมที่กำลังจะสูญหาย ซึ่งทายาทช่างศิลปหัตถกรรมทั้ง 11 ท่านจะนำเอาผลิตภัณฑ์มาจัดแสดงและสาธิตให้ได้เยี่ยมชมภายในงานร่วมด้วย
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจภายในงาน ประกอบด้วย การจัดนิทรรศการ ซึ่งมีความยิ่งใหญ่ตระการตาและให้ความรู้ ซึ่งในปีนี้ SACICT ได้จัดนิทรรศการพิเศษขึ้นคือ “ต้นกล้าความคิดจากพ่อสู่ลูก” เพื่อน้อมรำลึกและแสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยะภาพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้านงานศิลปและงานช่างที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนไทย ตลอดจนนิทรรศการขององค์กรพันธมิตร ทั้งในและต่างประเทศ นิทรรศการแนวโน้มงานหัตถกรรมปี 2561 ในฝั่งของแต่งบ้านที่ต้องมาอัพเดต SACICT Craft Trend Gallery 2018 ซึ่งมาจากการระดมแนวความคิด และสังเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญในหลายวงการ
พลาดไม่ได้กับการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นวัตศิลป์ ที่มีให้เลือกสรรมากกว่า 350 ร้านค้า แบ่งออกเป็นโซนตามประเภทของผลิตภัณฑ์ เพื่อสะดวกแก่การเลือกชมงาน อาทิ Green Craft Zone บริเวณจำหน่ายผลิตภัณฑ์หัตถกรรมที่ใช้วัสดุจากธรรมชาติ Design Craft Marche Zone บริเวณจำหน่ายผลิตภัณฑ์นวัตศิลป์ไทยเก๋ไก๋หน้าใหม่ Souvenir Gift Zone บริเวณจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับเป็นของขวัญ ของชำร่วย University Street Zone บริเวณจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หัตถกรรมจากสถาบันการศึกษา เห็นอย่างนี้แล้ว บอกได้เลยว่า ไม่ควรพลาด “งานเทศกาลนวัตศิลป์นานาชาติ 2560 (IICF 2017)” 23 – 26 มีนาคม 2560 เวลา 10.00 -20.00 น. ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา