ความเดิมจากตอนที่แล้ว
แชร์ประสบการณ์ รู้ไว้ก่อน ซื้อทัวร์ (ตอนที่1)
กำหนดการ ในวันที่สอง ของการเดินทาง
ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส - พระราชวังโดลมาบาเช่ - โบสถ์เซนต์โซเฟีย - สุเหร่าสีน้ำเงิน - อ่างเก็บน้ำใต้ดินเยเรบาตัน - ฮิปโปโดรม - ช้อปปิ้งตลาดสไปซ์
กิจกรรมและสถานที่มากมาย นึกว่าโฆษณากิจกรรมของเมืองไทยสไมล์
ตอนแรกพอรู้กำหนดการ ใจนึกก็นึกอยู่แล้วว่าแต่ละที่ต้องใช้เวลาสั้นมาก จะให้ดื่มด่ำในวัฒนธรรมหรือศิลปะชั้นครูคงยาก
เพราะถ้าอยากเที่ยวให้คุ้มค่า แนะนำจริงๆว่าควรใช้เวลาที่ Istanbul ไม่ต่ำว่า 2 วันจะได้ไม่เป็นชะโงกทัวร์
ไปกับทัวร์ทุกท่านต้องรู้รหัสลับ 678 ตื่นหกโมง กินข้าว เจ็ดโมง ล้อหมุน แปดโมง
สำหรับวันแรก เราก็จะไปนั่งเรือผ่านช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งช่องแคบนี้ทำหน้าที่เป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรปกับเอเซีย เชื่อมระหว่าง The black sea กับ ทะเล มาร์มาร่า เราใช้เวลาในการล่องเรือ ประมาณ 45 นาที
จากนั้น รถจะพาเราเดินทางไปยัง พระราชวังโดลมาบาเช่ ( Dolmabahce Palace)
ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนว่า พระราชวังนี้เป็นพระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญสูงสุดของอาณาจักรออตโตมัน ใช้เวลาก่อสร้าง 12 ปี เป็นศิลปะที่ผสมผสานงานของยุโรปและตะวันออกได้อย่างงดงาม โดยไม่คำนึงถึงความสิ้นเปลืองใดๆ ทั้งสิ้น เนื้อที่กว้างขวางมาก
แต่เนื่องจากเวลาจำกัด เรามีเวลาที่จะเดินชม
เพียง 45 นาที
จากนั้น หัวหน้าไกด์จะพาเรานั่งรถไป สุเหร่าสีน้ำเงิน Blue Mosque ที่ในปัจจุบันยังคง ใช้ทำพิธีละหมาดจริง คนที่จะเดินทางเองแนะนำให้เช็คเวลาก่อนเข้าชมนะคะ เรามีเวลา เพียง 30 นาทีเพื่อดื่มด่ำ กับความเลอค่า ของศิลปะ และวัฒนธรรมทางศาสนา
เดินทางต่อไป เพื่อ ไปรับประทานอาหารกลางวัน ที่มี เคบับ 2 ไม้ ซุปมะเขือเทศ 1 ถ้วย ขนมปัง ข้าวมันๆ ผักสลัดแห้งๆ(ตอนนี้ยังมีหลอนกับคำว่า รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมืองอยู่เลย แต่สิ่งนี้ยังเทียบเท่าไม่ได้ กับคำว่า รับประทานอาหารกลางวัน แบบบุฟเฟ่ต์)
คำแนะนำ หากเป็นคนทานอาหารยาก ให้ติด น้ำพริก ปลาดุกฟู มาม่ากระป๋องแต่ต้องเสียเงิน 1 USD ค่าน้ำร้อนนะคะ
ปลากรอบ หอยกระป๋อง และอื่นๆอีกมากมาย
แต่ขอร้อง ไม่เอามาม่าหมูสับ นะคะ หมูหยอง หมูแผ่นหรืออาหารที่มีส่วนประกอบของหมูนะคะ
ขอเถอะ เรามาประเทศที่เค้านับถือ ศาสนาอิสลามคนที่นี้เขาไม่ทานหมู
เราเห็นลูกทัวร์ บางท่านนำอาหารเหล่านี้มากิน บอกตามตรงรู้สึกอาย แต่ใจหนึ่งก็หรือเป็นเพราะเขาไม่รู้ ก็อยากให้บริษัททัวร์เขียนแนะนำในใบเตรียมตัวด้วยคะ แต่ถ้าท่านเป็นคนที่ขาดหมูไม่ได้ในการดำรงชีวิตก็แอบๆ เก็บไปทานที่โรงแรมก็ได้คะ
พอรับประทานอาหารเสร็จเราก็เดิน เพื่อมุ่งหน้าไป สุเหร่าเซนต์โซเฟีย Mosque of Hagia Sophia เรามีเวลาประมาณ 15 นาที ในการถ่ายรูป
ระหว่างทาง เราจะเดินผ่าน Hippodrome ที่เคยเป็นสนามแข่งม้า จากตรงนี้มีเวลาอีก 15 นาที
เดินลัดเลาะไป เพื่อจะไป อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน Yerebatan Sarnici สำหรับเราเนื่องจากเป็นแฟนหนังสือของ Dan Brown ในเรื่อง Inferno ฉากสุดท้ายที่สำคัญของเรื่องก็มาถ่ายที่นี้ หัวหน้าทัวร์จะเล่าความเป็นมาคร่าวๆ ประมาณ 5 นาที จากนั้นก็ปล่อยให้เราเดินเองอีกประมาณ 20 นาที
จากนั้น นั่งรถเพื่อทีจะเดินทางต่อไป ที่ Spice market ที่ที่จุดพีคของวัน บังเกิด
เราเชื่อว่าหลายท่านที่ไปกับทัวร์ จะคิดเหมือนเราว่า ไกด์น่าจะแนะนำร้านที่ดี ราคาย่อมเยาว์
แต่สิ่งที่เราเจอคือ
1) ไกด์แนะนำร้านที่ตัวเองได้เปอร์เซนต์อยู่ และเป็น Turkish delight และ เครื่องเทศ ที่แพงกว่าร้านปกติ แนะนำให้คนที่จะไปเที่ยว Check ข้อมูลจาก TripAdvisor หรือไม่ก็ Lonely planet ก่อนนะคะจะได้รู้พิกัดที่ใช่
2) พ่อค้าที่ตลาดนี้จะ Hard sales มากนะคะ ให้ระวังตัวนิดนึง
รับประทานอาหารเย็นเข้าโรงแรม
วันที่ 2 การเดินทางที่แสน ทรหด แต่ยังไม่ที่สุด Istanbul - Bursa - Izmir
เราจะใช้เวลานั่งรถประมาณ 3 ชั่วโมงโดยแวะพักเข้าห้องน้ำ 1 ครั้ง (ทุกครั้งที่เราจะเข้าห้องน้ำ เราจะเสียเงิน 10 TRY นะคะ)
สถานที่จอดพักส่วนใหญ่ จะเป็นที่พักที่บริษัททัวร์ได้ Deal ไว้แล้วเพราะฉะนั้นราคาขนม น้ำอัดลม ของกินเล่นต่างๆ จะราคาสูงกว่าร้านสะดวกซื้อทั่ว ไป นี่ก็เป็นอีกหนึ่ง กลยุทธ์ ที่ทำให้เขาสามารถทำทัวร์ได้ในราคาถูก
แต่ก็พอมีบางครั้งนะคะ ที่ได้จอดตามปั๊มใหญ่ๆ ถึงตอนนั้นใครอยากซื้อ อะไรแนะนำเลยคะ McDonald จะกลายเป็นอาหารเลอค่าของคุณเลยทีเดียว
สถานที่แรกที่เราจะได้ เที่ยวกันและเป็น สถานที่เดียวของวันก็คือ Green Mosque เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา สร้างด้วยกระเบื้องหินอ่อนสีฟ้าเขียว และสถานที่นี้ยังยรรจุศพของ สุลต่านเมห์เมดที่ 1 และครอบครัว
แวะรับประทานอาหารท้องถิ่น เคบับ กับข้าวมัน ซุปมะเขือเทศ ผักสลัดเหี่ยว ขนมปัง
จากนั้นก็ขึ้นรถ แบบยาวๆ อีกประมาณ 5 ชั่วโมง จอดแวะเข้าห้องน้ำ 2 ครั้ง
ระหว่างที่อยู่บนรถ เราก็หยิบ กำหนดการขึ้นมาดู เอาเฮ้ย นี่เราพลาดการไป ตลาดผ้าไหม หรือเปล่า ลองถามไกด์ดู อ๋อตลาดผ้าไหมก็อยู่แนวรอบๆ Green mosque นั่นแหละ คือผ่านมาแล้วโดยที่เรา ไม่รู้สึกตัว
กว่าจะถึงโรงแรมก็ ทุ่มครึ่งทั้งๆ ที่โรงแรมติดทะเล แต่เราก็ไม่ได้ดื่มด่ำกับทะเล เท่าไหร่ เพราะตอนเช้าเราก็ต้องรีบออกเดินทาง
วันที่ 3 Izmir - House of Virgin Mary - City of Ephesus - Shopping โรงงานทำเครื่องหนัง - Pamukkale
วันนี้เป็นวันที่เราตั้งหน้ตั้งตารอคอย เพราะถือว่าเป็น Highlight สำหรับการมาเยือน Turkey ในครั้งนี้ ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 1 ชั่วโมงจากโรงแรมไป House of Virgin Mary สำหรับคนที่นับถือศาสนาคริสต์ ที่นี่ถือว่าเป็นสถานที่สำคัญมากนะคะ เพราะเชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มาเรียอาศัยและสิ้นพระชนน์ที่นี้ เตรียม ริบบิ้นขาวมาเขียนขอพรด้วยนะคะ ไกด์ให้เวลา 25 นาที
ก่อนที่จะขึ้นรถไปโรงงานทำเครื่องหนัง
มีคำถามในใจเกิดขึ้นมากมายระหว่างการเดินทาง
1) เนื่องจาก House of Virgin Mary อยู่บนเขาทางที่จะขึ้นไปจะต้องผ่าน City of Ephesus ซึ่งอยู่ตีนเขา เราคิดว่าน่าจะแวะ City of Ephesus ก่อนที่จะไป เครื่องหนังน่าจะดีกว่าจะได้ไม่เสียเวลา อีกอย่างเราไปแต่เช้าจะได้ไม่ร้อนมาก เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจเพียงคนเดียวเรื่อยมา จนมาถึงบางอ้อ ก็ตอนเข้าไปชมโรงงานเครื่องหนัง
พอไปถึงโรงงานเครื่องหนัง ทางทัวร์ก็จัดให้เราไปนั่งชม แฟชั่นโชว์ ที่จะมีคนใส่เสื้อหนังของโรงงานมาเดินขายของ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที จากนั้นก็นำเราเข้าไปในโชว์รูม เครื่องหนังที่นี้ถือว่าราคาค่อนข้างสูง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมส่วนตัวเราไม่ว่ากันเนอะ ไกด์ ให้เราใช้เวลาเลือกชื้อของ
ประมาณ 1 ชั่วโมง เราใช้เวลาทั้งหมดเกือบ 2 ชั่วโมงในการที่อยู่ที่โรงงานเครื่องหนัง เท่าที่ถามมาได้ความว่า โรงงานนี้ก็ Deal กับบริษัททัวร์ไว้เรียบร้อยแล้วเหมือนกัน ทำไมเราได้ทัวร์ถูกเข้าใจนะ เป็นการ Tie in product แบบเนียนๆ ไม่ว่ากันๆ
จากนั้น เราก็ย้อนกลับไป ที่ City of Ephesus เนื่องจากเป็นคนชอบหนัง จักรๆวงศ์ ของยุโรป เราก็ค่อนข้างอินเป็นธรรมดา สิ่งที่อยู่ในจินตนาการวันนี้มาเห็นกับตา แต่เราต้องจับตาจริงๆคะท่านผู้ชม เพราะแต่ละเฟรมจะผ่านไปเร็วมาก ยังไง
ในแต่ละจุดที่สำคัญ ไกด์จะให้ความรู้ว่าที่ตรงนี้มีความสำคัญอย่างไร มีประวัติศาสตร์ อย่างไร ในขณะที่กำลังหลับตาจินตนาการเติมเต็มภาพอยู่นั้น กรุ๊ปของเราก็ได้ผ่านไปในจุดถัดไป จะไม่วิ่งตามก็กลัวจะไม่ได้ความรู้ แต่รูปก็ยังไม่ได้ถ่าย คือเข้าใจนะคะ ถ้ามี ทัวร์ Group อื่นมาเร่งตามตูดอยู่ แต่มันไม่มีไง เมื่อกี้เรายอมอยู่ในโรงเชือด เครื่องหนัง 2 ชั่วโมงนะ ขอเวลาบ้าง แอบไม่พอใจเล็กๆ รูปเราก็ยังไม่ได้ถ่ายใน กรุ๊ปป้าๆ ร่วมทัวร์ยังมาขอให้ถ่ายรูปให้อีก นี่แหละนะ การมาเป็นรวมตัวของคน 37 คน คือบางครั้งเวลาเราขอให้คนเขาถ่ายรูปให้นะ มันก็แบบ เกรงใจเนอะ อะไรก็ได้เหอะให้รู้ว่า วันหนึ่งมีรูปเรามาเยือนที่นี้แล้ว แต่กรุ๊ปป้านี่ นางไม่ใช่นะจ๊ะ เออหนู เอามุมนี้ด้วย เอาติด อันนี้นะ เอาแบบเอียงๆ นะคะ ว้ายไม่เอาอันนี้ป้าหน้าดำ หรือบางครั้งนางผลักคนที่ยืนบังองศา นางเฉยเลยคะ บอกว่าคือป้าจะถ่ายตรงนี้
นับ 1 -100 ในใจ พร้อมกับฉีกยิ้มแล้วตอบป้าไปว่า สถานที่มันก็เป็นอารยธรรมโบราณ อยู่แล้ว เพิ่มป้าเข้าไปในรูปอีก ต้องไปขอเค้า เพิ่มอายุของการค้นพบเลยนะคะ เออ แล้วก็ป้ามีรูปที่นี้กว่า 20 รูปแล้ว หนูยังไม่ได้สักรูปเลย ขอเป็นที่ระลึกสักรูปนะคะ จะได้ไม่ต้องไปซื้อ Postcard เป็นที่ระลึก ว่าได้มาที่นี่แล้ว ฉีกยิ้ม แล้วทำหน้า น่ารักใสๆ แล้วเดินจากไป ขอแชร์ประสบการณ์นิดนึงนะคะ จะได้เป็น อรรถรส
กลับมาต่อที่การเดินทาง หลังจากที่เราใช้เวลาเพียงเล็กน้อยที่นี่แล้ว เราจะไป ที่ Pamukkale ที่เรารอคอย เราใช้เวลาที่นี่ค่อนข้างนาน ประมาณ 1 ชั่วโมง คือมันอิ่ม ไม่มากไป ไม่น้อยไป แต่ถ้าคนต้องการจะ Tracking เพื่อจะเดินขึ้นไปดูโรงอาบน้ำเก่า เวลาแค่นี้ไม่พอนะคะ เพราะประมาณการเดินไปกลับก็ ประมาณ 50 นาที สำหรับคนที่คิดจะเที่ยวเอง แนะนำให้ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งคะ
พอมาถึง ความเศร้าใจก็เกิดขึ้น น้ำตกหินปูนสีขาวที่ไหลมาจากภูเขา คาลดากี ปริมาณน้ำเริ่มลดลงอย่างมาก คาดว่าไม่เกิน 5 ปี จะไม่มีน้ำแล้ว นี่แหละเป็นเหตุผลว่าทำไมเราชอบเที่ยว ธรรมชาติ ถ้าไม่ได้มาวันนี้ต่อไป เราคงได้เห็นเพียงแค่รูปถ่าย
คำแนะนำ ขอแนะนำเรื่องการแต่งการนะคะ คนตุรกีในฝั่งตะวันออกนี้เขาค่อนข้างที่จะเคร่งครัดในเรื่องของศาสนา การเห็นเนื้อหนังของสตรี ถือว่าเป็นบาปสำหรับเขา ที่แนะนำเนื่องจากสิ่งที่ประสบพบเจอมา สตรีไทยใจกล้านางหนึ่ง ใส่กางเกงขาสั้นเสมอหู แล้วใส่กระโปรงตาข่ายขาวๆ โปร่งๆ ทับไว้ คือมันโปร่ง คนมันเห็นทะลุอะค่ะ เข้าใจว่ามันคือ แฟชั่น แต่ถ้าคุณไปเดิน New York Fashion week มันคือความเหมาะสม แต่นี่ คือตุรกี ไม่เอาเนอะ เราคงไม่อยากได้ยินคำด่าที่สะเทือนใจที่สุด ว่า " อ๋อ นี่คนไทย"
ติดตามตอนต่อไปในวันที่ 4
ปามุคคาเล่ - เมืองคอนย่า - เมืองคัปปาโดเกีย
ความสนุกหรรษา ยังคงมีตามมา
สำหรับความสงสัยที่เพื่อนๆ ถามว่า อะไรคือความต่างระหว่าง ค่าทัวร์ 29,900 / 39,900 / 49,900
เพื่อนๆลองเปรียบเทียบ Itinerary schedule และรายการ การเดินทางกับของเราดูนะคะ
สำหรับคนที่ส่งหลังไมค์ มาถามเรื่องชื่อ Tour ขอไม่บอกเนอะ สาเหตุที่มาเขียนก็เพื่อ อยากให้เพื่อนๆ เตรียมตัว จะได้เที่ยวอย่างสนุก การเดินทางเป็นเรื่องที่สนุกสำหรับเราเสมอ มันเป็นประสบการณ์ ถ้าถามว่า รู้อย่างไรไม่สู้รู้อย่างนี้หรือเปล่า คำตอบคือไม่คะ มันก็เรื่องราวให้รู้ว่าแบบนี้ก็มีด้วย
แชร์ประสบการณ์ รู้ไว้ก่อน ซื้อทัวร์ (ตอนที่ 2)
แชร์ประสบการณ์ รู้ไว้ก่อน ซื้อทัวร์ (ตอนที่1)
กำหนดการ ในวันที่สอง ของการเดินทาง
ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส - พระราชวังโดลมาบาเช่ - โบสถ์เซนต์โซเฟีย - สุเหร่าสีน้ำเงิน - อ่างเก็บน้ำใต้ดินเยเรบาตัน - ฮิปโปโดรม - ช้อปปิ้งตลาดสไปซ์
กิจกรรมและสถานที่มากมาย นึกว่าโฆษณากิจกรรมของเมืองไทยสไมล์
ตอนแรกพอรู้กำหนดการ ใจนึกก็นึกอยู่แล้วว่าแต่ละที่ต้องใช้เวลาสั้นมาก จะให้ดื่มด่ำในวัฒนธรรมหรือศิลปะชั้นครูคงยาก
เพราะถ้าอยากเที่ยวให้คุ้มค่า แนะนำจริงๆว่าควรใช้เวลาที่ Istanbul ไม่ต่ำว่า 2 วันจะได้ไม่เป็นชะโงกทัวร์
ไปกับทัวร์ทุกท่านต้องรู้รหัสลับ 678 ตื่นหกโมง กินข้าว เจ็ดโมง ล้อหมุน แปดโมง
สำหรับวันแรก เราก็จะไปนั่งเรือผ่านช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งช่องแคบนี้ทำหน้าที่เป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรปกับเอเซีย เชื่อมระหว่าง The black sea กับ ทะเล มาร์มาร่า เราใช้เวลาในการล่องเรือ ประมาณ 45 นาที
จากนั้น รถจะพาเราเดินทางไปยัง พระราชวังโดลมาบาเช่ ( Dolmabahce Palace)
ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนว่า พระราชวังนี้เป็นพระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญสูงสุดของอาณาจักรออตโตมัน ใช้เวลาก่อสร้าง 12 ปี เป็นศิลปะที่ผสมผสานงานของยุโรปและตะวันออกได้อย่างงดงาม โดยไม่คำนึงถึงความสิ้นเปลืองใดๆ ทั้งสิ้น เนื้อที่กว้างขวางมาก
แต่เนื่องจากเวลาจำกัด เรามีเวลาที่จะเดินชม เพียง 45 นาที
จากนั้น หัวหน้าไกด์จะพาเรานั่งรถไป สุเหร่าสีน้ำเงิน Blue Mosque ที่ในปัจจุบันยังคง ใช้ทำพิธีละหมาดจริง คนที่จะเดินทางเองแนะนำให้เช็คเวลาก่อนเข้าชมนะคะ เรามีเวลา เพียง 30 นาทีเพื่อดื่มด่ำ กับความเลอค่า ของศิลปะ และวัฒนธรรมทางศาสนา
เดินทางต่อไป เพื่อ ไปรับประทานอาหารกลางวัน ที่มี เคบับ 2 ไม้ ซุปมะเขือเทศ 1 ถ้วย ขนมปัง ข้าวมันๆ ผักสลัดแห้งๆ(ตอนนี้ยังมีหลอนกับคำว่า รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมืองอยู่เลย แต่สิ่งนี้ยังเทียบเท่าไม่ได้ กับคำว่า รับประทานอาหารกลางวัน แบบบุฟเฟ่ต์)
คำแนะนำ หากเป็นคนทานอาหารยาก ให้ติด น้ำพริก ปลาดุกฟู มาม่ากระป๋องแต่ต้องเสียเงิน 1 USD ค่าน้ำร้อนนะคะ
ปลากรอบ หอยกระป๋อง และอื่นๆอีกมากมาย
แต่ขอร้อง ไม่เอามาม่าหมูสับ นะคะ หมูหยอง หมูแผ่นหรืออาหารที่มีส่วนประกอบของหมูนะคะ
ขอเถอะ เรามาประเทศที่เค้านับถือ ศาสนาอิสลามคนที่นี้เขาไม่ทานหมู
เราเห็นลูกทัวร์ บางท่านนำอาหารเหล่านี้มากิน บอกตามตรงรู้สึกอาย แต่ใจหนึ่งก็หรือเป็นเพราะเขาไม่รู้ ก็อยากให้บริษัททัวร์เขียนแนะนำในใบเตรียมตัวด้วยคะ แต่ถ้าท่านเป็นคนที่ขาดหมูไม่ได้ในการดำรงชีวิตก็แอบๆ เก็บไปทานที่โรงแรมก็ได้คะ
พอรับประทานอาหารเสร็จเราก็เดิน เพื่อมุ่งหน้าไป สุเหร่าเซนต์โซเฟีย Mosque of Hagia Sophia เรามีเวลาประมาณ 15 นาที ในการถ่ายรูป
ระหว่างทาง เราจะเดินผ่าน Hippodrome ที่เคยเป็นสนามแข่งม้า จากตรงนี้มีเวลาอีก 15 นาที
เดินลัดเลาะไป เพื่อจะไป อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน Yerebatan Sarnici สำหรับเราเนื่องจากเป็นแฟนหนังสือของ Dan Brown ในเรื่อง Inferno ฉากสุดท้ายที่สำคัญของเรื่องก็มาถ่ายที่นี้ หัวหน้าทัวร์จะเล่าความเป็นมาคร่าวๆ ประมาณ 5 นาที จากนั้นก็ปล่อยให้เราเดินเองอีกประมาณ 20 นาที
จากนั้น นั่งรถเพื่อทีจะเดินทางต่อไป ที่ Spice market ที่ที่จุดพีคของวัน บังเกิด
เราเชื่อว่าหลายท่านที่ไปกับทัวร์ จะคิดเหมือนเราว่า ไกด์น่าจะแนะนำร้านที่ดี ราคาย่อมเยาว์
แต่สิ่งที่เราเจอคือ
1) ไกด์แนะนำร้านที่ตัวเองได้เปอร์เซนต์อยู่ และเป็น Turkish delight และ เครื่องเทศ ที่แพงกว่าร้านปกติ แนะนำให้คนที่จะไปเที่ยว Check ข้อมูลจาก TripAdvisor หรือไม่ก็ Lonely planet ก่อนนะคะจะได้รู้พิกัดที่ใช่
2) พ่อค้าที่ตลาดนี้จะ Hard sales มากนะคะ ให้ระวังตัวนิดนึง
รับประทานอาหารเย็นเข้าโรงแรม
วันที่ 2 การเดินทางที่แสน ทรหด แต่ยังไม่ที่สุด Istanbul - Bursa - Izmir
เราจะใช้เวลานั่งรถประมาณ 3 ชั่วโมงโดยแวะพักเข้าห้องน้ำ 1 ครั้ง (ทุกครั้งที่เราจะเข้าห้องน้ำ เราจะเสียเงิน 10 TRY นะคะ)
สถานที่จอดพักส่วนใหญ่ จะเป็นที่พักที่บริษัททัวร์ได้ Deal ไว้แล้วเพราะฉะนั้นราคาขนม น้ำอัดลม ของกินเล่นต่างๆ จะราคาสูงกว่าร้านสะดวกซื้อทั่ว ไป นี่ก็เป็นอีกหนึ่ง กลยุทธ์ ที่ทำให้เขาสามารถทำทัวร์ได้ในราคาถูก
แต่ก็พอมีบางครั้งนะคะ ที่ได้จอดตามปั๊มใหญ่ๆ ถึงตอนนั้นใครอยากซื้อ อะไรแนะนำเลยคะ McDonald จะกลายเป็นอาหารเลอค่าของคุณเลยทีเดียว
สถานที่แรกที่เราจะได้ เที่ยวกันและเป็น สถานที่เดียวของวันก็คือ Green Mosque เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา สร้างด้วยกระเบื้องหินอ่อนสีฟ้าเขียว และสถานที่นี้ยังยรรจุศพของ สุลต่านเมห์เมดที่ 1 และครอบครัว
แวะรับประทานอาหารท้องถิ่น เคบับ กับข้าวมัน ซุปมะเขือเทศ ผักสลัดเหี่ยว ขนมปัง
จากนั้นก็ขึ้นรถ แบบยาวๆ อีกประมาณ 5 ชั่วโมง จอดแวะเข้าห้องน้ำ 2 ครั้ง
ระหว่างที่อยู่บนรถ เราก็หยิบ กำหนดการขึ้นมาดู เอาเฮ้ย นี่เราพลาดการไป ตลาดผ้าไหม หรือเปล่า ลองถามไกด์ดู อ๋อตลาดผ้าไหมก็อยู่แนวรอบๆ Green mosque นั่นแหละ คือผ่านมาแล้วโดยที่เรา ไม่รู้สึกตัว
กว่าจะถึงโรงแรมก็ ทุ่มครึ่งทั้งๆ ที่โรงแรมติดทะเล แต่เราก็ไม่ได้ดื่มด่ำกับทะเล เท่าไหร่ เพราะตอนเช้าเราก็ต้องรีบออกเดินทาง
วันที่ 3 Izmir - House of Virgin Mary - City of Ephesus - Shopping โรงงานทำเครื่องหนัง - Pamukkale
วันนี้เป็นวันที่เราตั้งหน้ตั้งตารอคอย เพราะถือว่าเป็น Highlight สำหรับการมาเยือน Turkey ในครั้งนี้ ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 1 ชั่วโมงจากโรงแรมไป House of Virgin Mary สำหรับคนที่นับถือศาสนาคริสต์ ที่นี่ถือว่าเป็นสถานที่สำคัญมากนะคะ เพราะเชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มาเรียอาศัยและสิ้นพระชนน์ที่นี้ เตรียม ริบบิ้นขาวมาเขียนขอพรด้วยนะคะ ไกด์ให้เวลา 25 นาที
ก่อนที่จะขึ้นรถไปโรงงานทำเครื่องหนัง
มีคำถามในใจเกิดขึ้นมากมายระหว่างการเดินทาง
1) เนื่องจาก House of Virgin Mary อยู่บนเขาทางที่จะขึ้นไปจะต้องผ่าน City of Ephesus ซึ่งอยู่ตีนเขา เราคิดว่าน่าจะแวะ City of Ephesus ก่อนที่จะไป เครื่องหนังน่าจะดีกว่าจะได้ไม่เสียเวลา อีกอย่างเราไปแต่เช้าจะได้ไม่ร้อนมาก เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจเพียงคนเดียวเรื่อยมา จนมาถึงบางอ้อ ก็ตอนเข้าไปชมโรงงานเครื่องหนัง
พอไปถึงโรงงานเครื่องหนัง ทางทัวร์ก็จัดให้เราไปนั่งชม แฟชั่นโชว์ ที่จะมีคนใส่เสื้อหนังของโรงงานมาเดินขายของ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที จากนั้นก็นำเราเข้าไปในโชว์รูม เครื่องหนังที่นี้ถือว่าราคาค่อนข้างสูง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมส่วนตัวเราไม่ว่ากันเนอะ ไกด์ ให้เราใช้เวลาเลือกชื้อของประมาณ 1 ชั่วโมง เราใช้เวลาทั้งหมดเกือบ 2 ชั่วโมงในการที่อยู่ที่โรงงานเครื่องหนัง เท่าที่ถามมาได้ความว่า โรงงานนี้ก็ Deal กับบริษัททัวร์ไว้เรียบร้อยแล้วเหมือนกัน ทำไมเราได้ทัวร์ถูกเข้าใจนะ เป็นการ Tie in product แบบเนียนๆ ไม่ว่ากันๆ
จากนั้น เราก็ย้อนกลับไป ที่ City of Ephesus เนื่องจากเป็นคนชอบหนัง จักรๆวงศ์ ของยุโรป เราก็ค่อนข้างอินเป็นธรรมดา สิ่งที่อยู่ในจินตนาการวันนี้มาเห็นกับตา แต่เราต้องจับตาจริงๆคะท่านผู้ชม เพราะแต่ละเฟรมจะผ่านไปเร็วมาก ยังไง
ในแต่ละจุดที่สำคัญ ไกด์จะให้ความรู้ว่าที่ตรงนี้มีความสำคัญอย่างไร มีประวัติศาสตร์ อย่างไร ในขณะที่กำลังหลับตาจินตนาการเติมเต็มภาพอยู่นั้น กรุ๊ปของเราก็ได้ผ่านไปในจุดถัดไป จะไม่วิ่งตามก็กลัวจะไม่ได้ความรู้ แต่รูปก็ยังไม่ได้ถ่าย คือเข้าใจนะคะ ถ้ามี ทัวร์ Group อื่นมาเร่งตามตูดอยู่ แต่มันไม่มีไง เมื่อกี้เรายอมอยู่ในโรงเชือด เครื่องหนัง 2 ชั่วโมงนะ ขอเวลาบ้าง แอบไม่พอใจเล็กๆ รูปเราก็ยังไม่ได้ถ่ายใน กรุ๊ปป้าๆ ร่วมทัวร์ยังมาขอให้ถ่ายรูปให้อีก นี่แหละนะ การมาเป็นรวมตัวของคน 37 คน คือบางครั้งเวลาเราขอให้คนเขาถ่ายรูปให้นะ มันก็แบบ เกรงใจเนอะ อะไรก็ได้เหอะให้รู้ว่า วันหนึ่งมีรูปเรามาเยือนที่นี้แล้ว แต่กรุ๊ปป้านี่ นางไม่ใช่นะจ๊ะ เออหนู เอามุมนี้ด้วย เอาติด อันนี้นะ เอาแบบเอียงๆ นะคะ ว้ายไม่เอาอันนี้ป้าหน้าดำ หรือบางครั้งนางผลักคนที่ยืนบังองศา นางเฉยเลยคะ บอกว่าคือป้าจะถ่ายตรงนี้
นับ 1 -100 ในใจ พร้อมกับฉีกยิ้มแล้วตอบป้าไปว่า สถานที่มันก็เป็นอารยธรรมโบราณ อยู่แล้ว เพิ่มป้าเข้าไปในรูปอีก ต้องไปขอเค้า เพิ่มอายุของการค้นพบเลยนะคะ เออ แล้วก็ป้ามีรูปที่นี้กว่า 20 รูปแล้ว หนูยังไม่ได้สักรูปเลย ขอเป็นที่ระลึกสักรูปนะคะ จะได้ไม่ต้องไปซื้อ Postcard เป็นที่ระลึก ว่าได้มาที่นี่แล้ว ฉีกยิ้ม แล้วทำหน้า น่ารักใสๆ แล้วเดินจากไป ขอแชร์ประสบการณ์นิดนึงนะคะ จะได้เป็น อรรถรส
กลับมาต่อที่การเดินทาง หลังจากที่เราใช้เวลาเพียงเล็กน้อยที่นี่แล้ว เราจะไป ที่ Pamukkale ที่เรารอคอย เราใช้เวลาที่นี่ค่อนข้างนาน ประมาณ 1 ชั่วโมง คือมันอิ่ม ไม่มากไป ไม่น้อยไป แต่ถ้าคนต้องการจะ Tracking เพื่อจะเดินขึ้นไปดูโรงอาบน้ำเก่า เวลาแค่นี้ไม่พอนะคะ เพราะประมาณการเดินไปกลับก็ ประมาณ 50 นาที สำหรับคนที่คิดจะเที่ยวเอง แนะนำให้ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งคะ
พอมาถึง ความเศร้าใจก็เกิดขึ้น น้ำตกหินปูนสีขาวที่ไหลมาจากภูเขา คาลดากี ปริมาณน้ำเริ่มลดลงอย่างมาก คาดว่าไม่เกิน 5 ปี จะไม่มีน้ำแล้ว นี่แหละเป็นเหตุผลว่าทำไมเราชอบเที่ยว ธรรมชาติ ถ้าไม่ได้มาวันนี้ต่อไป เราคงได้เห็นเพียงแค่รูปถ่าย
คำแนะนำ ขอแนะนำเรื่องการแต่งการนะคะ คนตุรกีในฝั่งตะวันออกนี้เขาค่อนข้างที่จะเคร่งครัดในเรื่องของศาสนา การเห็นเนื้อหนังของสตรี ถือว่าเป็นบาปสำหรับเขา ที่แนะนำเนื่องจากสิ่งที่ประสบพบเจอมา สตรีไทยใจกล้านางหนึ่ง ใส่กางเกงขาสั้นเสมอหู แล้วใส่กระโปรงตาข่ายขาวๆ โปร่งๆ ทับไว้ คือมันโปร่ง คนมันเห็นทะลุอะค่ะ เข้าใจว่ามันคือ แฟชั่น แต่ถ้าคุณไปเดิน New York Fashion week มันคือความเหมาะสม แต่นี่ คือตุรกี ไม่เอาเนอะ เราคงไม่อยากได้ยินคำด่าที่สะเทือนใจที่สุด ว่า " อ๋อ นี่คนไทย"
ติดตามตอนต่อไปในวันที่ 4
ปามุคคาเล่ - เมืองคอนย่า - เมืองคัปปาโดเกีย
ความสนุกหรรษา ยังคงมีตามมา
สำหรับความสงสัยที่เพื่อนๆ ถามว่า อะไรคือความต่างระหว่าง ค่าทัวร์ 29,900 / 39,900 / 49,900
เพื่อนๆลองเปรียบเทียบ Itinerary schedule และรายการ การเดินทางกับของเราดูนะคะ
สำหรับคนที่ส่งหลังไมค์ มาถามเรื่องชื่อ Tour ขอไม่บอกเนอะ สาเหตุที่มาเขียนก็เพื่อ อยากให้เพื่อนๆ เตรียมตัว จะได้เที่ยวอย่างสนุก การเดินทางเป็นเรื่องที่สนุกสำหรับเราเสมอ มันเป็นประสบการณ์ ถ้าถามว่า รู้อย่างไรไม่สู้รู้อย่างนี้หรือเปล่า คำตอบคือไม่คะ มันก็เรื่องราวให้รู้ว่าแบบนี้ก็มีด้วย