ช่วงนี้ได้ยินเรื่องราวทั้งด้านความเชื่อ วิทยาศาสตร์ และสถิติ(หวย
) มากมายเกี่ยวกับสถานที่ที่หนึ่ง นั่นคือ คำชะโนด อ. บ้านดุง จ. อุดรธานี เรื่องราวที่ผมจะไม่ขอกล่าวอะไรมากนักในที่นี้ เพราะเชื่อว่าเพื่อน ๆ สามารถหาอ่านได้ใน Google อยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ผมขอสรุปสั้น ๆ เพื่อเรียกน้ำย่อยก่อนเดินทางสักหน่อยแล้วกันเนอะ
คำชะโนด แต่เดิมนั้นเป็นเพียงชื่อเรียกป่าที่มีแต่ต้นชะโนดเกิดอยู่ มีเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ แต่เนื่องจากป่าแห่งนี้มีความพิเศษหลาย ๆ อย่าง ทำให้เป็นชาวบ้านให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น #ต้นชะโนด ซึ่งเป็นพืชตระกูลปาล์ม เป็นพืชที่ชาวบ้านไม่เคยเห็น และเกิดเป็นย่อมเฉพาะบริเวณคำชะโนดเท่านั้น จนชาวบ้านหลายคนคิดว่าเป็นพืชที่เกิดที่คำชะโนดแห่งเดียวในโลก แต่แท้จริงแล้วสามารถพบได้ในหลายประเทศ ส่วนประเทศไทยจะมีเฉพาะที่จังหวัดนราธิวาสและที่คำชะโนดเท่านั้น(ผมว่ามันน่าประหลาดใจตรงนี้หละ) อีกอย่างเนื่องจากป่าคำชะโนดเกิดจากการเกาะตัวของรากของต้นชะโนดแบบหนาแน่นมาก และเกิดในพื้นที่น้ำท่วมทุกปี ส่งผลทำให้ป่าคำชะโนดยกตัวขึ้นสูงเมื่อถึงฤดูน้ำหลาก จนมีเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับ #เกาะลอยน้ำ ตามมาอีกเรื่อง เรื่องน่าสนใจอีกอย่าง ก็คือ ตาน้ำหรือบ่อน้ำที่เกิดขึ้นบริเวณใจกลางป่าคำชะโนด ที่ใส่และสะอาด (คาดว่าจะเป็นทางน้ำใต้ดินบริเวณนั้น) ส่วนตัวผมเชื่อว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้ส่งผลทำให้ชาวบ้านรู้สึกอัศจรรย์ใจ พยายามหาคำตอบว่ามันคืออะไร? ในสมัยก่อนที่ชาวบ้านยังไม่สามารถเข้าถึงความรู้ได้อย่างในปัจจุบัน(เราจึงไม่ควรไปดูถูกเขา) จึงทำให้ก่อเกิดตำนานต่าง ๆ มากมายตามมา ตามมาด้วยความเชื่อ(ตำนานพญานาค) เรื่องเล่าปากต่อปาก(ผีจ้างหนัง) การหลอกลวง(เปรตอาจารย์กู้) ผสมปนเปกันไปหมด
เมื่อคำชะโนดมีเรื่องราวมากมายขนาดนี้ ก็เป็นธรรมดาครับที่จะมีคนมาหยิบเอาเรื่องราวเล่านี้ไปใช้งานในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะการวิจัย การศึกษา การท่องเที่ยว ธุรกิจท้องถิ่น ที่สำคัญก็คือหนังและละคร เมื่อปีที่แล้วคำชะโนดก็ไม่ได้ดังขนาดนี้ครับ แม้จะเคยมีคนเอาเรื่องราวเกี่ยวกับผีจ้างหนังไปทำเป็นหนังออกฉายเมื่อหลายปีก่อนแล้วก็ตาม จะมาดังแบบสุด ๆ ก็เพราะละครเรื่อง #นาคี ที่เพิ่งฉายจบไปนี่หละครับ(ปล. ผมไม่ได้ดูนะ) ส่งผลทำให้ผู้คนต่างก็หลั่งไหลไปกราบไหว้เจ้าพ่อศรีสุทโธ ที่ป่าคำชะโนด อ. บ้านดุง จ. อุดรธานี้ เป็นจำนวนมาก
นี่นะบอกว่าสรุปสั้น ๆ - -“
พูดซะเท่ ดูดี มีข้อมูล เป็นวิทยาศาสตร์ แต่ความจริงแล้ว …เหตุผลในการเดินทางของผมในครั้งนี้ ก็คือ ผมฝันเห็นพญานาคมาบอกหวย ถูกรางวัล เลยต้องเดินทางไปขอบคุณท่านให้ถึงที่เลย แต่เจ้ากรรม!! รางวัลที่ถูกไม่พอซื้อรถครับ เลยต้องเดินทางด้วยเครื่องบิน+รถสาธารณะ ซึ่งผมเชื่อว่าหลายคนก็อยากไป แต่ไม่รู้จะเดินทางอย่างไร ผมเลยเก็บเรื่องราวการเดินทางมาฝากทุกคนครับ
อันดับแรกเลย จองตั๋วเครื่องบินจากดอนเมืองไปอุดรธานี ซึ่งมีหลายเที่ยวหลายสายการบินมาก เลือกได้ตามใจชอบกับเลยครับ หากเลือกเดินทางในวันธรรมดาแบบผมก็จะได้ตั๋วราคาถูกหน่อย แต่หากใครต้องการเดินทางด้วยรถโดยสาร แนะนำ #นครชัยแอร์ มีไปถึงจังหวัดอุดรธานีเลยครับ ซึ่งผมได้เที่ยวบินเช้า เนื่องจากเดินทางแบบฉุกละหุก เลยมีเรื่องวุ่นวายหลายอย่างก่อนออกเดินทาง ตอนออกจากคอนโดก็เริ่มจะสายแล้ว เวลาแค่ 1 ชั่วโมงก่อนเครื่อง แม้จะเดินทางด้วย BTS แต่งานนี้ทำใจเลยครับตกเครื่องแน่ ๆ
แต่ก็ถือว่าโชคดีที่ BTS แจ้งว่าไม่ต้องไปรอเปลี่ยนขบวนที่สยาม ให้ขึ้นรถต่อไปจนถึงหมอชิตได้เลย จึงประหยัดเวลาไปได้พอสมควร สำหรับเพื่อน ๆ ที่เดินทางด้วยเครื่องบินที่ดอนเมืองครั้งแรก ให้ตีตั๋ว BTS มาลงที่สถานีหมอชิตนะครับ เมื่อถึงแล้วก็ลงที่ทางออกหมายเลข 3 เดินลงบันไดแล้วไปยืนรอรถเมล์สนามบิน สาย A1 และ A2 ที่ป้ายรถเมล์ได้เลย
รอให้ตรงจุดนะครับ 2 สายนี้จะจอดตรงจุดนี้เท่านั้น
เมื่อรถเมล์สาย A1, A2 มาก็ขึ้นได้เลยครับ รถจะขึ้นทางด่วนและไปจอดที่ดอนเมืองเลย ไม่ต้องกลัวลงผิดป้าย(จอดอีก 1 ป้าย ก่อนยูเทิร์นเข้าดอนเมือง) ค่าโดยสาร 30 บาทเท่ากันหมดทุกคน
แล้วผมก็มาถึงดอนเมืองแบบเฉียดฉิวมากครับ โชคดีที่เช็คอินไว้แล้ว และไม่โหลดกระเป๋าสักใบเลยวิ่งเข้าเกตได้เลย
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ก็มาถึงสนามบินนานาชาติอุดรธานีแล้วครับ
เมื่อเดินมาทางออกให้เพื่อน ๆ มองด้านขวามือเอาไว้(ฝั่งซ้ายมือเป็นโต๊ะประชาสัมพันธ์) จะเห็นเคาน์เตอร์ซื้อบัตรรถตู้เข้าตัวเมือง ที่แนะนำให้ขึ้นรถตู้เพราะหากเหมารถเข้าตัวเมืองจะแพงมาก หลายร้อย แต่รถตู้ราคา 80 บาท เท่านั้น (ได้ยินว่าแต่ก่อนมีรถสองแถว แต่ปัจจุบันหายไปไหนหมดแล้วไม่รู้ครับ)
ขึ้นรถแล้วต้องนั่งรอให้คนเต็มครับ ไม่นานมากนัก ให้เพื่อน ๆ บอกกับคนขับเลยว่าเราจะไปลง บขส. เก่า (ใกล้เซ็นทรัล ใครจะไปดูหนังก่อนก็ได้นะ อิ อิ)
เมื่อมาถึงแล้ว ใครอยากกินแหนมเนือง VT เจ้าดังเมืองอุดรฯ ก็แวะซื้อร้านขายของฝากหน้า บขส. ได้เลยครับ จะซื้อตอนขาไปเอาไว้กินที่คำชะโนด หรือซื้อเป็นของฝากตอนขากลับก็ได้ ซึ่งร้านนี้เป็นแค่ตัวแทนจำหน่ายขายเฉพาะชุดนำกลับบ้านเท่านั้น ใครอยากนั่งกินชิล ๆ มีเมนูหลากหลาย ก็แวะกินที่ร้านในตัวเมืองก่อนได้ครับ ซึ่งผมก็ได้มา 1 กล่องเอาไว้ไปนั่งกินที่รีสอร์ทคืนนี้
หลังจากนั้น ก็เดินเข้า บขส. ไปที่ซานซาลาที่ 15 ขึ้นรถบัสสีแดง ป้ายหน้ารถจะเขียนว่า อุดรธานี – คำตากล้า ได้เลยครับ แล้วบอกกระเป๋ารถเลยว่าลงสามแยกบ้านสันติสุข ราคาตั๋วผมไม่แน่ใจนะครับ เพราะผมลงก่อนที่ บขส. บ้านดุง(ราคา 60 บาท) เหตุเพราะผมต้องแวะซื้อของในเมืองก่อนไปพักแถวคำชะโนด โดยรถบัสสายนี้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ก็ถึงจุดหมายครับ
พิกัดสามแยกบ้านสันติสุข ที่ผมขอแนะนำให้เพื่อน ๆ ลง แล้วต่อรถรับจ้างแถวนั้น เข้าไปคำชะโนดได้เลยครับ หรือใครจะโบกรถเข้าไป บอกเลยว่าสะดวกมาก เพราะรถเยอะ คนไปทำบุญกัน เลยรับกันง่าย ๆ และไม่ต้องกังวลเรื่องมิจฉาชีพ เพราะถนนเข้าคำชะโนดไม่มีที่เว้นว่างให้เปลี่ยว ที่จะเปิดโอกาสให้มิจฉาชีพได้เลย ตั้งแต่มีกระแสมาในช่วงนี้
ลิงค์แผนที่ >> https://goo.gl/maps/y3DYYrCub1C2
ส่วนผมเองนั้น ลงที่ตัวอำเภอบ้านดุงครับ แวะหาซื้อของกินไปตุนเอาไว้ สำหรับคืนนี้ เพราะเราไม่มีรถส่วนตัว แล้วไปพักแถวคำชะโนด ซึ่งอยู่ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 20 กิโลเมตร คงออกมาซื้อลำบาก แต่หากเป็นของใช้ ของกิน เล็ก ๆ น้อย ๆ ร้านขายของชำแถว ๆ นั้น ก็มีให้ได้เลือกซื้ออยู่ครับ เมื่อซื้อของเสร็จ ก็เหมาสามล้อที่ บขส. ไปส่งที่รีสอร์ทพรพรหมบ้านไร่ ที่บ้านวังทอง ต. วังทอง อ. บ้านดุง ซึ่งถือว่าอยู่ใกล้คำชะโนดมากที่สุดเท่าที่ผมหาได้แล้วครับ
สอบถามราคาสามล้อ ก็เหมา 200 บาท ครับ ตกกิโลเมตรและ 10 บาท ถือพอรับได้ครับ แต่ก่อนจะออกคนขับเสนอว่าไปทางลัดไหม? แต่เป็นทางขี้หินแห่นะ(ถนนลูกรัง) ไอ้เราก็อยากสัมผัสการเดินทางทุกรูปแบบในเที่ยวเดียว จึงบอกพี่คนขับว่า …จัดไปพี่
แม้จะปวดบั่นเอวตอนตกหลุมอยู่เป็นครั้งคราว แต่ผมชอบวิวสองข้างทางมากครับ พื้นที่โล่ง ป่าสองข้างทาง การทำไร่ทำสวนของชาวบ้าน และรอยยิ้มตัวเองที่สัมผัสได้อยู่เป็นระยะ ๆ มีความสุขมากครับ แถมเป็นทางลัดอย่างพี่เขาว่า ระยะทางประมาณ 12-13 กิโลเมตรได้ครับ
ลิงค์แผนที่ >> https://goo.gl/maps/5v9K3HoT5TL2
และแล้วผมก็มาถึงรีสอร์ทพรพรหมบ้านไร่ ที่บ้านวังทอง ทันพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งวันนี้ผมจะยังไม่ไปคำชะโนดครับ เพราะในช่วงบ่าย ๆ เย็น ๆ แบบนี้ คนจะเยอะพอสมควร เลยวางแผนเอาไว้ว่ามานอนพัก 1 คืนแบบชิล ๆ แล้วตื่นแต่เข้าไปคำชะโนด ซึ่งจะเปิดให้คนเข้าไปไหว้และชื่นชมป่าคำชะโนดประมาณ 6 โมงเช้า
รีสอร์ทนี้เพิ่งสร้างใหม่หลังจากที่มีกระแสคำชะโนดบูม จึงดูใหม่ น่าอยู่ เน้นลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยว ไม่ใช่แนวรีสอร์ทต่างจังหวัดที่เน้นลูกค้าเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่นัดมานอนเป่ายิ้งฉุบกัน ถือว่าประทับใจครับ ราคาก็ถูกมาก คืนละ 500 บาท เท่านั้น (เบอร์เจ้าของครับ เผื่ออยากโทรมาจอง Tel : 0989603376 Line ID: dr.kanyakorn)
บรรยากาศดี ๆ อากาศบริสุทธิ์บริเวณรีสอร์ท บอกเลยนาทีนี้ มีความสุขมากครับ ทั้งกับวิวที่ได้มองเห็นและคนที่มาด้วยกัน ^ ^
..............................................................................................................................................................................
อ่านต่อเม้นท์ล่างครับ
[CR] พาเที่ยว #คำชะโนด ด้วยรถสาธารณะ+เครื่องบิน ที่นี่มี...มากกว่าที่คุณคิด
คำชะโนด แต่เดิมนั้นเป็นเพียงชื่อเรียกป่าที่มีแต่ต้นชะโนดเกิดอยู่ มีเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ แต่เนื่องจากป่าแห่งนี้มีความพิเศษหลาย ๆ อย่าง ทำให้เป็นชาวบ้านให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น #ต้นชะโนด ซึ่งเป็นพืชตระกูลปาล์ม เป็นพืชที่ชาวบ้านไม่เคยเห็น และเกิดเป็นย่อมเฉพาะบริเวณคำชะโนดเท่านั้น จนชาวบ้านหลายคนคิดว่าเป็นพืชที่เกิดที่คำชะโนดแห่งเดียวในโลก แต่แท้จริงแล้วสามารถพบได้ในหลายประเทศ ส่วนประเทศไทยจะมีเฉพาะที่จังหวัดนราธิวาสและที่คำชะโนดเท่านั้น(ผมว่ามันน่าประหลาดใจตรงนี้หละ) อีกอย่างเนื่องจากป่าคำชะโนดเกิดจากการเกาะตัวของรากของต้นชะโนดแบบหนาแน่นมาก และเกิดในพื้นที่น้ำท่วมทุกปี ส่งผลทำให้ป่าคำชะโนดยกตัวขึ้นสูงเมื่อถึงฤดูน้ำหลาก จนมีเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับ #เกาะลอยน้ำ ตามมาอีกเรื่อง เรื่องน่าสนใจอีกอย่าง ก็คือ ตาน้ำหรือบ่อน้ำที่เกิดขึ้นบริเวณใจกลางป่าคำชะโนด ที่ใส่และสะอาด (คาดว่าจะเป็นทางน้ำใต้ดินบริเวณนั้น) ส่วนตัวผมเชื่อว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้ส่งผลทำให้ชาวบ้านรู้สึกอัศจรรย์ใจ พยายามหาคำตอบว่ามันคืออะไร? ในสมัยก่อนที่ชาวบ้านยังไม่สามารถเข้าถึงความรู้ได้อย่างในปัจจุบัน(เราจึงไม่ควรไปดูถูกเขา) จึงทำให้ก่อเกิดตำนานต่าง ๆ มากมายตามมา ตามมาด้วยความเชื่อ(ตำนานพญานาค) เรื่องเล่าปากต่อปาก(ผีจ้างหนัง) การหลอกลวง(เปรตอาจารย์กู้) ผสมปนเปกันไปหมด
เมื่อคำชะโนดมีเรื่องราวมากมายขนาดนี้ ก็เป็นธรรมดาครับที่จะมีคนมาหยิบเอาเรื่องราวเล่านี้ไปใช้งานในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะการวิจัย การศึกษา การท่องเที่ยว ธุรกิจท้องถิ่น ที่สำคัญก็คือหนังและละคร เมื่อปีที่แล้วคำชะโนดก็ไม่ได้ดังขนาดนี้ครับ แม้จะเคยมีคนเอาเรื่องราวเกี่ยวกับผีจ้างหนังไปทำเป็นหนังออกฉายเมื่อหลายปีก่อนแล้วก็ตาม จะมาดังแบบสุด ๆ ก็เพราะละครเรื่อง #นาคี ที่เพิ่งฉายจบไปนี่หละครับ(ปล. ผมไม่ได้ดูนะ) ส่งผลทำให้ผู้คนต่างก็หลั่งไหลไปกราบไหว้เจ้าพ่อศรีสุทโธ ที่ป่าคำชะโนด อ. บ้านดุง จ. อุดรธานี้ เป็นจำนวนมาก
นี่นะบอกว่าสรุปสั้น ๆ - -“
พูดซะเท่ ดูดี มีข้อมูล เป็นวิทยาศาสตร์ แต่ความจริงแล้ว …เหตุผลในการเดินทางของผมในครั้งนี้ ก็คือ ผมฝันเห็นพญานาคมาบอกหวย ถูกรางวัล เลยต้องเดินทางไปขอบคุณท่านให้ถึงที่เลย แต่เจ้ากรรม!! รางวัลที่ถูกไม่พอซื้อรถครับ เลยต้องเดินทางด้วยเครื่องบิน+รถสาธารณะ ซึ่งผมเชื่อว่าหลายคนก็อยากไป แต่ไม่รู้จะเดินทางอย่างไร ผมเลยเก็บเรื่องราวการเดินทางมาฝากทุกคนครับ
อันดับแรกเลย จองตั๋วเครื่องบินจากดอนเมืองไปอุดรธานี ซึ่งมีหลายเที่ยวหลายสายการบินมาก เลือกได้ตามใจชอบกับเลยครับ หากเลือกเดินทางในวันธรรมดาแบบผมก็จะได้ตั๋วราคาถูกหน่อย แต่หากใครต้องการเดินทางด้วยรถโดยสาร แนะนำ #นครชัยแอร์ มีไปถึงจังหวัดอุดรธานีเลยครับ ซึ่งผมได้เที่ยวบินเช้า เนื่องจากเดินทางแบบฉุกละหุก เลยมีเรื่องวุ่นวายหลายอย่างก่อนออกเดินทาง ตอนออกจากคอนโดก็เริ่มจะสายแล้ว เวลาแค่ 1 ชั่วโมงก่อนเครื่อง แม้จะเดินทางด้วย BTS แต่งานนี้ทำใจเลยครับตกเครื่องแน่ ๆ
แต่ก็ถือว่าโชคดีที่ BTS แจ้งว่าไม่ต้องไปรอเปลี่ยนขบวนที่สยาม ให้ขึ้นรถต่อไปจนถึงหมอชิตได้เลย จึงประหยัดเวลาไปได้พอสมควร สำหรับเพื่อน ๆ ที่เดินทางด้วยเครื่องบินที่ดอนเมืองครั้งแรก ให้ตีตั๋ว BTS มาลงที่สถานีหมอชิตนะครับ เมื่อถึงแล้วก็ลงที่ทางออกหมายเลข 3 เดินลงบันไดแล้วไปยืนรอรถเมล์สนามบิน สาย A1 และ A2 ที่ป้ายรถเมล์ได้เลย
รอให้ตรงจุดนะครับ 2 สายนี้จะจอดตรงจุดนี้เท่านั้น
เมื่อรถเมล์สาย A1, A2 มาก็ขึ้นได้เลยครับ รถจะขึ้นทางด่วนและไปจอดที่ดอนเมืองเลย ไม่ต้องกลัวลงผิดป้าย(จอดอีก 1 ป้าย ก่อนยูเทิร์นเข้าดอนเมือง) ค่าโดยสาร 30 บาทเท่ากันหมดทุกคน
แล้วผมก็มาถึงดอนเมืองแบบเฉียดฉิวมากครับ โชคดีที่เช็คอินไว้แล้ว และไม่โหลดกระเป๋าสักใบเลยวิ่งเข้าเกตได้เลย
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ก็มาถึงสนามบินนานาชาติอุดรธานีแล้วครับ
เมื่อเดินมาทางออกให้เพื่อน ๆ มองด้านขวามือเอาไว้(ฝั่งซ้ายมือเป็นโต๊ะประชาสัมพันธ์) จะเห็นเคาน์เตอร์ซื้อบัตรรถตู้เข้าตัวเมือง ที่แนะนำให้ขึ้นรถตู้เพราะหากเหมารถเข้าตัวเมืองจะแพงมาก หลายร้อย แต่รถตู้ราคา 80 บาท เท่านั้น (ได้ยินว่าแต่ก่อนมีรถสองแถว แต่ปัจจุบันหายไปไหนหมดแล้วไม่รู้ครับ)
ขึ้นรถแล้วต้องนั่งรอให้คนเต็มครับ ไม่นานมากนัก ให้เพื่อน ๆ บอกกับคนขับเลยว่าเราจะไปลง บขส. เก่า (ใกล้เซ็นทรัล ใครจะไปดูหนังก่อนก็ได้นะ อิ อิ)
เมื่อมาถึงแล้ว ใครอยากกินแหนมเนือง VT เจ้าดังเมืองอุดรฯ ก็แวะซื้อร้านขายของฝากหน้า บขส. ได้เลยครับ จะซื้อตอนขาไปเอาไว้กินที่คำชะโนด หรือซื้อเป็นของฝากตอนขากลับก็ได้ ซึ่งร้านนี้เป็นแค่ตัวแทนจำหน่ายขายเฉพาะชุดนำกลับบ้านเท่านั้น ใครอยากนั่งกินชิล ๆ มีเมนูหลากหลาย ก็แวะกินที่ร้านในตัวเมืองก่อนได้ครับ ซึ่งผมก็ได้มา 1 กล่องเอาไว้ไปนั่งกินที่รีสอร์ทคืนนี้
หลังจากนั้น ก็เดินเข้า บขส. ไปที่ซานซาลาที่ 15 ขึ้นรถบัสสีแดง ป้ายหน้ารถจะเขียนว่า อุดรธานี – คำตากล้า ได้เลยครับ แล้วบอกกระเป๋ารถเลยว่าลงสามแยกบ้านสันติสุข ราคาตั๋วผมไม่แน่ใจนะครับ เพราะผมลงก่อนที่ บขส. บ้านดุง(ราคา 60 บาท) เหตุเพราะผมต้องแวะซื้อของในเมืองก่อนไปพักแถวคำชะโนด โดยรถบัสสายนี้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ก็ถึงจุดหมายครับ
พิกัดสามแยกบ้านสันติสุข ที่ผมขอแนะนำให้เพื่อน ๆ ลง แล้วต่อรถรับจ้างแถวนั้น เข้าไปคำชะโนดได้เลยครับ หรือใครจะโบกรถเข้าไป บอกเลยว่าสะดวกมาก เพราะรถเยอะ คนไปทำบุญกัน เลยรับกันง่าย ๆ และไม่ต้องกังวลเรื่องมิจฉาชีพ เพราะถนนเข้าคำชะโนดไม่มีที่เว้นว่างให้เปลี่ยว ที่จะเปิดโอกาสให้มิจฉาชีพได้เลย ตั้งแต่มีกระแสมาในช่วงนี้
ลิงค์แผนที่ >> https://goo.gl/maps/y3DYYrCub1C2
ส่วนผมเองนั้น ลงที่ตัวอำเภอบ้านดุงครับ แวะหาซื้อของกินไปตุนเอาไว้ สำหรับคืนนี้ เพราะเราไม่มีรถส่วนตัว แล้วไปพักแถวคำชะโนด ซึ่งอยู่ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 20 กิโลเมตร คงออกมาซื้อลำบาก แต่หากเป็นของใช้ ของกิน เล็ก ๆ น้อย ๆ ร้านขายของชำแถว ๆ นั้น ก็มีให้ได้เลือกซื้ออยู่ครับ เมื่อซื้อของเสร็จ ก็เหมาสามล้อที่ บขส. ไปส่งที่รีสอร์ทพรพรหมบ้านไร่ ที่บ้านวังทอง ต. วังทอง อ. บ้านดุง ซึ่งถือว่าอยู่ใกล้คำชะโนดมากที่สุดเท่าที่ผมหาได้แล้วครับ
สอบถามราคาสามล้อ ก็เหมา 200 บาท ครับ ตกกิโลเมตรและ 10 บาท ถือพอรับได้ครับ แต่ก่อนจะออกคนขับเสนอว่าไปทางลัดไหม? แต่เป็นทางขี้หินแห่นะ(ถนนลูกรัง) ไอ้เราก็อยากสัมผัสการเดินทางทุกรูปแบบในเที่ยวเดียว จึงบอกพี่คนขับว่า …จัดไปพี่
แม้จะปวดบั่นเอวตอนตกหลุมอยู่เป็นครั้งคราว แต่ผมชอบวิวสองข้างทางมากครับ พื้นที่โล่ง ป่าสองข้างทาง การทำไร่ทำสวนของชาวบ้าน และรอยยิ้มตัวเองที่สัมผัสได้อยู่เป็นระยะ ๆ มีความสุขมากครับ แถมเป็นทางลัดอย่างพี่เขาว่า ระยะทางประมาณ 12-13 กิโลเมตรได้ครับ
ลิงค์แผนที่ >> https://goo.gl/maps/5v9K3HoT5TL2
และแล้วผมก็มาถึงรีสอร์ทพรพรหมบ้านไร่ ที่บ้านวังทอง ทันพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งวันนี้ผมจะยังไม่ไปคำชะโนดครับ เพราะในช่วงบ่าย ๆ เย็น ๆ แบบนี้ คนจะเยอะพอสมควร เลยวางแผนเอาไว้ว่ามานอนพัก 1 คืนแบบชิล ๆ แล้วตื่นแต่เข้าไปคำชะโนด ซึ่งจะเปิดให้คนเข้าไปไหว้และชื่นชมป่าคำชะโนดประมาณ 6 โมงเช้า
รีสอร์ทนี้เพิ่งสร้างใหม่หลังจากที่มีกระแสคำชะโนดบูม จึงดูใหม่ น่าอยู่ เน้นลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยว ไม่ใช่แนวรีสอร์ทต่างจังหวัดที่เน้นลูกค้าเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่นัดมานอนเป่ายิ้งฉุบกัน ถือว่าประทับใจครับ ราคาก็ถูกมาก คืนละ 500 บาท เท่านั้น (เบอร์เจ้าของครับ เผื่ออยากโทรมาจอง Tel : 0989603376 Line ID: dr.kanyakorn)
บรรยากาศดี ๆ อากาศบริสุทธิ์บริเวณรีสอร์ท บอกเลยนาทีนี้ มีความสุขมากครับ ทั้งกับวิวที่ได้มองเห็นและคนที่มาด้วยกัน ^ ^
.............................................................................................................................................................................. อ่านต่อเม้นท์ล่างครับ