ได้เวลาออกเดินทาง บินๆไปกับสายการบินไลออนแอร์ แต่เช้าตรู่ นัดตีห้าครึ่งเช้ากว่าตื่นทำงานเสียอีก
เครื่องลงที่สนามบินอุดรธานี เราชาวหมู่คณะทั่งสี่ก็นั่ง TAXI สนามบินเหมาราคา 200 บาท ไปที่ บขส.เพื่อนั่งรถข้ามไป สปป.ลาว ตอนแรกที่ตั้งใจคือนั่งรถยาวไปถึงวังเวียงเลยแต่ทว่ารถมีเที่ยวเดียวและเต็มแล้วจึงต้องนั่งไปลงเวียงจันทร์และต่อรถไปวังเวียงอีกที ค่ารถ บขส. คนละ 85 บาทโดยจอดแวะเสียค่าเข้าประเทศ 55 บาท  เดี๋ยวนี้ทันสมัยเป็นการ์ดเสียบผ่านทาง เมื่อเสร็จเรียบร้อยเราชาวคณะเดินทางไปต่อเข้าสู่  สปป.ลาวโลดดดด
แล้วรถ บขส.เมื่อข้ามมาในลาวสู่เวียงจันทร์ก่อนถึงสถานีขนส่ทางรถ บขส.ก็ถามว่าใครจะไปวังเวียงให้ลงก่อนถึงสถานี รถขับมาได้สักระยะก็ปล่อยเราลงก่อนและให้นั่งรถ van คันใหญ่และมีเบาะเสริม (อารมณ์เบาะเสริมรถตู้อนุสาวรีย์) อีกคนละ 300 บาทเพื่อไปวังเวียง สงสารเด็กน้อยนั่งเบาะเสริม นั่งกันเมื่อยตูดแท้หลาวววว
นั่งมาสักพักรถก็แว๊ะให้เราลงไปยืดเส้นยืดสายเข้าห้องน้ำแล้วกินข้าว  หิวมากกก มื้อแรกในลาว ผัดกระเพรา ไข่ดาว 100 บาทไทย แพงจังไม่อิ่ม ตบด้วยเบียร์ กินมันเที่ยงๆนี่แหละ 5555
มาถึงวังเวียง เดินๆๆมาที่พัก ถึงแล้วที่พักของเรา จำปาลาว บังกะโล อากาศเย็นสบาย แม้จะเข้าสู่เดือนมีนา
ควาย สามแม่ลูก อาบน้ำ กินหญ้า ลำน้ำเล็กๆหน้าที่พัก ก่อนพระอาทิตย์ตก ชิลล์เน้อะ ควาย
เก็บข้าวของเสร็จเราก็เดินออกมาหาซื้อซิมมือถือกัน วิวระหว่างทาง น้องทักว่าสวยเอาสะหน่อย
แม่น้ำซอง ยามเย็น พระอาทิตย์ตก แสงสีทอง สวยงาม
แม่น้ำซอง  กับนักท่องเที่ยวพายเรือคายัก และ ขึ้นบอลลูน
กินทุกวัน แทนน้ำ ใจมันรัก เด็กน้อย โดดน้ำ บรรยากาศ ยามค่ำคืน
เช้ามาวันที่ 5 มีนา กินอาหารเช้าเสร็จ ป่ะปีนผาเงินกัน ค่าเข้า 10,000 kip
สูงจริงหวุ้ยยย
ส้มตำบนผาเงิน อร่อยมากกกกกก เป็นการกินส้มตำบนที่สูง
สถานีต่อไปหลังจากปีนผาเงินลงมา เราก็มุ่งสู่ บลูลากูน3 อยากโดดน้ำใจจะขาด ได้แต่นั่งมองด้วยเหตุ วันนั้นของเดือน จิบเบียร์ดูฝรั่ง เกาลี ไทย จีน โดดน้ำวนไปค่ะ
เส้นทางกลับจากบลูลากูน3 วิวทุ่งนา วัวควาย ช่วงนี้เริ่มแห้ง ฝุ่นค่อนข้างตลบอบอวลไปหน่อย
เช้าวันที่สองในวังเวียง ระหว่างทางแม่ค้าเอาของมานั่งขายกัน
เมืองวังเวียง เหมาะกับผู้ชอบการท่องเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์ มีกิจกรรมมากมาย
ร้านอาหาร ป้ายภาษาอังกฤษ และเกาหลี
แฮมเบอร์เกอร์ แซนวิช แพนเค้ก โรตี มีขายมากมาย เตรียมเสบียงเพื่อนเดินทางต่อไปหลวงพระบาง
นั่งรถตู้เดินทางต่อไปยังหลวงพระบางผ่านภูเขาน้อยใหญ่ พอให้ได้มึนๆ รถตู้แวะจอดให้พักชม วิว ทิวทัศน์ข้างทาง
มาถึงจุดหมาย ท่ารถนั่งสกายแลบ ต่อไปยังเกสเฮาส์หลวงพระบาง
ถึงแล้วจ้า หลวงพระบาง เมืองมรดกโลก
เก็บข้าวของเสร็จ ออกไปหาอะไรกินแล้วก็ขึ้นพระธาตุพูสี รอชมพระอาทิตย์ตกกัน ค่าเข้า 20,000 kip
ต้นจำปาลาว
พูสี มีความหมายว่า ภูเขาของพระฤาษี พระอาทิตย์ตกแล้ววววว
ร้านนี้แซ่บ กินสองวันจนแม่ค้าลดราคาให้ ^^
มื้อค่ำฝากท้องไว้ที่ตลาดมืด
เช้าแล้วตื่นๆๆๆ ใส่บาตรข้าวเหนียวกัน ค่าข้าวเหนียวกระติ๊บละ 10,000 kip
ใส่บาตรเสร็จเดินหากาแฟกินกัน
เดินๆๆ
ร้านกาแฟประชานิยม หลวงพระบาง กาแฟหวานไปหน่อย แต่กินได้
สาวลาว เรียบร้อย นุ่งผ้าซิ่น
ยามเช้าผู้คนเดินไปมาทั้งคนลาว ทั้งนักท่องเที่ยว
เช้ามากินอาหารเช้าเสร็จกลับมาอาบน้ำแต่งตัวก็ได้เวลาออกเดินเล่น
ผ้าซิ่นทอมือ ลายสวยงาม
ผ้าลายพิมพ์
นักเรียนลาว ชอบยูนิฟอร์ม วัยรุ่นที่นี้ น่ารักดูเรียบร้อย
เดินมาถึงวัดเชียงของ อัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมลาว ค่าเข้าคนละ 20,000 kip
วัดเชียงของ สถาปัตยกรรม ที่ขึ้นชื่ออัญมณีหลวงพระบาง

ร้านอาหารยามเที่ยง เฝอ ข้าวเปียก ข้าวซอย อาหารหลักๆที่มีขายมากมาย เสริฟพร้อมเครื่องเคียงผักเยอะมาก
ช่วงบ่าย ป่ะเที่ยวน้ำตกตาดกวางสี น้ำตกที่สวยที่สุดในหลวงพระบางกัน

แวะกินเฝอ ข้าวซอยมื้อเที่ยงกันที่ร้านนี้ เครื่องเคียงเป็นผักเยอะมาก
กลับจากน้ำตกมาแวะถ่ายพระอาทิตย์ตกกันที่วัดพระบาทใต้
คนหาปลา อารมณ์ดีร้องเพลง เช้าแล้วมาเดินตลาดเช้าหลวงพระบางกันบ้าง
ขนมครกลาว
ริมน้ำโขง กับเรือข้ามฝาก ยามเช้าแม่ค้าพ่อค้าจะข้ามเพื่อเอาของมาขายฝั่งนี้กัน
แม่ค้าที่นี้จะหาบกระบุง ขายกัน