มาคุยกัน เกี่ยวกับการเรียนการสอนแบบ Waldorf ค่า -
การเรียนการสอนแบบ Waldorf นั้น เน้นการสร้างความเป็นตัวตนอย่างมีอัตลักษณ์แก่เด็กๆ โดยเฉพาะในช่วงอายุเจ็ดปีแรก ที่ควรจะได้รับการเสริมสร้างพัฒนาการบนประสบการณ์แห่งการให้ และ บรรยากาศที่อบอวลด้วยความรัก โดย Walddorf ให้ความสำคัญกับการสร้างทัศนคติภายในที่ถูกต้องให้กับคุณครูผู้สอนเด็กๆ
แนวการเรียนการสอนแบบ Waldorf จึงให้ความสำคัญกับความก้าวหน้าทางการวิจัย และการศึกษาด้วยตนเองเกี่ยวกับมนุษยวิทยา การฝึกทำสมาธิ ศิลปะ และการทำกิจกรรมต่างๆ
ัดังนั้น พื้นฐานของการศึกษาแบบ Walddorf จึงอยู่บนพื้นฐานความเข้าใจในพัฒนาการความเป็นอัตลักษณ์ของมนุษย์ การนำเสนอการปกป้องและเคารพศักดิ์ศรีในช่วงวัยเด็กด้วยค่ะ
โดยกิจกรรมต่างๆ ในโรงเรียนแบบ Waldorf นี้ จะพิจารณาตามพัฒนาการในแต่ละช่วงวัยเป็นหลัก กล่าวคือ ในช่วงวัยสามปีแรกนั้น เด็กๆ จะได้รับการพัฒนาผ่านกิจกรรมที่เน้นการเคลื่อนไหวและร่างกายเป็นหลัก หลังจากช่วงอายุในช่วงสามปีแรก ได้ผ่านพ้นไปแล้ว การเล่นที่เน้นการใช้จินตนาการจะเข้ามาแทนที่ และเมื่อเด็กๆ เข้าโรงเรียน การเรียนรู้ที่เน้นการรับรู้ก็เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ
ลักษณะร่วมของโปรแกรม Waldorf จากที่ต่างๆ นั้น คือ
1. ความสนใจและยอมรับในเด็กๆ แต่ละคนด้วยความรัก
2. โอกาสที่จะเล่นวัสดุต่างๆ ของเด็กเล็กๆ เป็นสิ่งที่จำเป็น
3.สร้างให้เด็กๆ เรียนรู้จากการเล่นที่พวกเขาจะสามารถเรียนรู้ผ่านประสบการณ์และความเข้าใจของพวกเขา
4. การตระหนักว่า เด็กเล็ก เรียนรู้ผ่านการเลียนแบบ ผ่านประสบการณ์ต่างๆ ผ่านความรู้สึกประทับใจ และผ่านกระบวนการ
5. ตระหนักถึงความเป็นธรรมชาติ ที่เกี่ยวข้องกับพัฒนาการด้านร่างกาย และสิ่งแวดล้อมทางสงคม
6. การสนับสนุนพัฒนาการของเด็ก คือ การสร้างความสัมพันธ์ที่มีสุขภาพดีให้กับเด็กๆ มีต่อโลกใบนี้
7. ให้ความสำคัญกับกิจกรรมด้านศิลปะ การเล่าเรื่อง ดนตรี การวาดรูป การเพนท์ เกมส์ที่เน้นจังหวะ และการสร้างหุ่นจำลอง เพื่อสร้างความสนุกสนานในด้านจินตนาการและความสร้างสรรค์
8. การสร้างสรรค์กิจกรรมต่างๆ ที่มีความหมาย เช่น การทำอาหาร การอบขนมปัง การทำสวน การทำงานฝีมือ และโอกาสที่จำกิจกรรมภายใน เพื่อพัฒนาเด็กๆ ให้กลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสามารถ่อไป
9. เน้นกระบวนการทำงานมากกว่าผลลัพท์ที่ได้
10. เฉลิมฉลองวัฒนธรรมต่างๆ ตามภูมิประเทศและวัฒนธรรม
11. การที่เด็กๆ จะตอบโตอย่างมีสุขภาพที่ดีทั้งร่างกาย และจิตใจนั้น ขึ้นอยู่กับ การมีส่วนในสังคมว่ามากน้อยเพียงใด ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ คุณครู และตัวโน๊ตค่ะ
12. เป้าหมายหลักของการสอนแบบ Waldorf หรือ ผู้ก่อตั้งในนาม Rudolf Steiner คือ การเสริมสร้างให้เด็กๆ มีอิสรภาพ และตัดสินใจเลือกสิ่งต่างๆ เพื่อชีวิตของพวกเขาเอง และการตระหนักมนอัตลักษณ์ของเด็กแต่ละคน จนพวกเขากลายเป็นผู้ใหญ่
เรามาดูต้นกำเนิดแนวคิดของการเรียนการสอนแบบวอลดอร์ฟกัน ผ่านวิดีโอด้านล่างนี้ด้วยกันค่ะ และหวังว่า เพื่อนๆ ทุกคนจะได้รับประโยชน์จากบทความนี้ ไม่มากก็น้อยนะคะ ;)
https://www.facebook.com/aDiaryofaDr.MomofThreeGirls/
เครดิตข้อมูล:
http://www.waldorfanswers.org/Waldorf.htm,
http://www.iaswece.org/waldorf-education/what-is-waldorf-education/ และ
http://www.bildungsxperten.net/wissen/was-ist-die-waldorfschule/
ปล. อีกหนึ่งบทความ ตอนต่อจากบทความนี้ คือ แนวทางการพัฒนาคุณครูแบบ Waldorf ตามอ่านได้ที่นี่เลยค่ะ
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1433747396665000&id=1328618513844556
มารู้จัก การเรียนการสอนแบบ Waldorf กันค่ะ : เรียกว่า "ดีต่อใจ" จริงๆ :)
การเรียนการสอนแบบ Waldorf นั้น เน้นการสร้างความเป็นตัวตนอย่างมีอัตลักษณ์แก่เด็กๆ โดยเฉพาะในช่วงอายุเจ็ดปีแรก ที่ควรจะได้รับการเสริมสร้างพัฒนาการบนประสบการณ์แห่งการให้ และ บรรยากาศที่อบอวลด้วยความรัก โดย Walddorf ให้ความสำคัญกับการสร้างทัศนคติภายในที่ถูกต้องให้กับคุณครูผู้สอนเด็กๆ
แนวการเรียนการสอนแบบ Waldorf จึงให้ความสำคัญกับความก้าวหน้าทางการวิจัย และการศึกษาด้วยตนเองเกี่ยวกับมนุษยวิทยา การฝึกทำสมาธิ ศิลปะ และการทำกิจกรรมต่างๆ
ัดังนั้น พื้นฐานของการศึกษาแบบ Walddorf จึงอยู่บนพื้นฐานความเข้าใจในพัฒนาการความเป็นอัตลักษณ์ของมนุษย์ การนำเสนอการปกป้องและเคารพศักดิ์ศรีในช่วงวัยเด็กด้วยค่ะ
โดยกิจกรรมต่างๆ ในโรงเรียนแบบ Waldorf นี้ จะพิจารณาตามพัฒนาการในแต่ละช่วงวัยเป็นหลัก กล่าวคือ ในช่วงวัยสามปีแรกนั้น เด็กๆ จะได้รับการพัฒนาผ่านกิจกรรมที่เน้นการเคลื่อนไหวและร่างกายเป็นหลัก หลังจากช่วงอายุในช่วงสามปีแรก ได้ผ่านพ้นไปแล้ว การเล่นที่เน้นการใช้จินตนาการจะเข้ามาแทนที่ และเมื่อเด็กๆ เข้าโรงเรียน การเรียนรู้ที่เน้นการรับรู้ก็เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ
ลักษณะร่วมของโปรแกรม Waldorf จากที่ต่างๆ นั้น คือ
1. ความสนใจและยอมรับในเด็กๆ แต่ละคนด้วยความรัก
2. โอกาสที่จะเล่นวัสดุต่างๆ ของเด็กเล็กๆ เป็นสิ่งที่จำเป็น
3.สร้างให้เด็กๆ เรียนรู้จากการเล่นที่พวกเขาจะสามารถเรียนรู้ผ่านประสบการณ์และความเข้าใจของพวกเขา
4. การตระหนักว่า เด็กเล็ก เรียนรู้ผ่านการเลียนแบบ ผ่านประสบการณ์ต่างๆ ผ่านความรู้สึกประทับใจ และผ่านกระบวนการ
5. ตระหนักถึงความเป็นธรรมชาติ ที่เกี่ยวข้องกับพัฒนาการด้านร่างกาย และสิ่งแวดล้อมทางสงคม
6. การสนับสนุนพัฒนาการของเด็ก คือ การสร้างความสัมพันธ์ที่มีสุขภาพดีให้กับเด็กๆ มีต่อโลกใบนี้
7. ให้ความสำคัญกับกิจกรรมด้านศิลปะ การเล่าเรื่อง ดนตรี การวาดรูป การเพนท์ เกมส์ที่เน้นจังหวะ และการสร้างหุ่นจำลอง เพื่อสร้างความสนุกสนานในด้านจินตนาการและความสร้างสรรค์
8. การสร้างสรรค์กิจกรรมต่างๆ ที่มีความหมาย เช่น การทำอาหาร การอบขนมปัง การทำสวน การทำงานฝีมือ และโอกาสที่จำกิจกรรมภายใน เพื่อพัฒนาเด็กๆ ให้กลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสามารถ่อไป
9. เน้นกระบวนการทำงานมากกว่าผลลัพท์ที่ได้
10. เฉลิมฉลองวัฒนธรรมต่างๆ ตามภูมิประเทศและวัฒนธรรม
11. การที่เด็กๆ จะตอบโตอย่างมีสุขภาพที่ดีทั้งร่างกาย และจิตใจนั้น ขึ้นอยู่กับ การมีส่วนในสังคมว่ามากน้อยเพียงใด ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ คุณครู และตัวโน๊ตค่ะ
12. เป้าหมายหลักของการสอนแบบ Waldorf หรือ ผู้ก่อตั้งในนาม Rudolf Steiner คือ การเสริมสร้างให้เด็กๆ มีอิสรภาพ และตัดสินใจเลือกสิ่งต่างๆ เพื่อชีวิตของพวกเขาเอง และการตระหนักมนอัตลักษณ์ของเด็กแต่ละคน จนพวกเขากลายเป็นผู้ใหญ่
เรามาดูต้นกำเนิดแนวคิดของการเรียนการสอนแบบวอลดอร์ฟกัน ผ่านวิดีโอด้านล่างนี้ด้วยกันค่ะ และหวังว่า เพื่อนๆ ทุกคนจะได้รับประโยชน์จากบทความนี้ ไม่มากก็น้อยนะคะ ;)
https://www.facebook.com/aDiaryofaDr.MomofThreeGirls/
เครดิตข้อมูล:
http://www.waldorfanswers.org/Waldorf.htm, http://www.iaswece.org/waldorf-education/what-is-waldorf-education/ และ http://www.bildungsxperten.net/wissen/was-ist-die-waldorfschule/
ปล. อีกหนึ่งบทความ ตอนต่อจากบทความนี้ คือ แนวทางการพัฒนาคุณครูแบบ Waldorf ตามอ่านได้ที่นี่เลยค่ะ
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1433747396665000&id=1328618513844556