สวัสดีค่ะ ดิฉันมาตั้งกระทู้แรกเพราะค่อนข้างลำบากใจไม่อยากให้เรื่องยืดยาวไปจนถึงขึ้นฟ้องร้องมันอาจจะจำนวนเงินเล็กน้อยสำหรับคนอื่นแต่าเจ้าของห้องทำแบบนี้กับใครอีกหลายคนจะถือว่าไม่ยุติธรรมนะ
เข้าเรื่อง... ดิฉันเช่าห้องผ่านนายหน้ากับนายหน้านึงขอใช้ชื่อว่าเดอะกรุงเทพ แนะนำห้องคอนโดย่านห้วยขวางตรงสี่แยก สัญญาเช่าระยะเวลา 6 เดือน มัดจำ 2 เดือน เป็นเงิน 34,xxx บาท หลังจากครบกำหนดสัญญาดิฉันแจ้งย้ายออก โดยวันที่ย้ายออกทางเจ้าของห้องไม่มาเช็คห้องความเสียหายด้วยกัน ให้เพียงแค่ตัวแทนนายมาเท่านั้น หลังจากดิฉันย้ายออกมาแล้ว 15 วัน ทางเจ้าห้องเพิ่งเข้ามาตรวจเช็คความเสียหาย โดยแจงความเสียหายว่า ดิฉันต้องทาสีห้องให้ใหม่ทั้งหมดเพียงเพราะมีรอยเลอะสีดำ ซึ่งรอยนั้นสามารถทำความสะอาดเช็ดออกได้ และดิฉันเป็นคนเข้าไปทำความสะอาดรอยเลอะนั้นจนออกหมด ซึ่งมีนายหน้าเป็นพยานว่าห้องไม่ได้เสียหาย  แต่ทางเจ้าของห้องยังคงยึดเงินมัดจำของดิฉันไว้ 4,000 บาท ยืนยันจะต้องทาสีห้องใหม่ โดยอ้างว่าทาสีห้องใหม่ให้ก็ต้องทาสีห้องคืน???? ซึ่งในสัญญาไม่ได้ระบุ และ สัญญาระบุแน่ชัดแล้วว่าความเสียหายที่เกิดจากการใช้งานที่ไม่ใช่เกิดจากการทำลายถือว่าไม่นับเป็นจุดเสียหาย มัดจำทั้งหมดของดิฉันกว่าจะได้คืนก็ปาไปเกือบ 1 เดือนหลังจากหักค่าน้ำไฟทำความสะอาดแล้ว เงิน 4,000 ยังคงยึดไว้ซึ่งดิฉันไม่ยินยอมเพราะห้องไม่ได้เสียหายอะไรจนต้องทาสีใหม่ ทางนายหน้าก็ไม่สามารถทวงเงิน 4,000 คืนจากเจ้าของห้องให้ดิฉันได้ ขอคอมเพลนบริษัทนายหน้านี้เช่นกัน ทำงานล่าช้า ไม่ติดตาม เราต้องตามอยู่ตลอด ร่วมเข้าไปเกือบ 3 เดือนยังคงนิ่ง นายหน้าก็ช่วยติดตามให้ดิฉันไม่ได้ ดิฉันไม่อยากให้เรื่องยืดยาวจนถึงขั้นฟ้องศาลกับเงิน 4,000 ฉันกลัวว่าจะไม่คุ้มกันไหม ดิฉันเดินเรื่องร้องเรียน สคบ. แล้ว เมื่อต้นเดือนมีนา เกือบถึง 1 เดือนแล้วยังไม่ได้รับการติดต่อกลับจาก สคบ.ดิฉันจะทำอย่างไรได้บ้างหาก เรื่องถึง สคบ.แล้วยังไม่มีความคืบหน้า ควรจะฟ้องศาลแล้วจะคุ้มไหม?? แต่ถ้าหากไม่ทำอะไรเลย คนที่เช่าคนอื่นๆก็จะโดนแบบดิฉันไปเรื่อยๆ ค่าเช่าไม่ใช่ถูกๆ อยากได้คำแนะนำถ้าหาก สคบ.ช่วยไกล่เกลี่ยไม่ได้ การฟ้องคือทางออกสุดท้ายใช่หรือไม่? หรือมีทางอื่นไหมที่จะทำให้เจ้าของคืนเงินดิฉัน และไม่เอาเปรียบหรือขี้โกงกับคนอื่นอีก