กระทู้ชวนดูวีดีโอเปรียบเทียบ อนิเมชั่น vs. หนัง
มีคนทำวีดีโอเปรียบเทียบไว้ ไม่รู้มีใครมาแชร์หรือยัง ทึ่งคนทำวีดีโอนี้มาก แต่ก็ทำให้แอบคิดว่า หนังเหมือนของก็อปเกรด A (สนุกๆน้า อย่าซีเรียส)

Beauty and the Beast Full Trailer - 1991 vs 2017 Comparison/Side by Side

Beauty and the Beast Trailer 2 - 1991 vs 2017 Comparison/Side by Side

ถ้าไม่เอาเปรียบเทียบกับเวอร์ชั่นอนิเมชั่น หนังอาจจะได้คะแนนรีวิวจาก critics มากกว่านี้ เพราะคะแนนปากต่อปากสูงมาก (ระดับ A คือ บอกเพื่อนไปดูเถอะ) เผอิญว่าหนังเอามาจากอนิเมชั่นเต็มๆ (แถมเพิ่มเรื่องด้วย) ก็เลยโดนวิจารณ์เยอะ เพราะใครๆก็จับตามอง ดีสนีย์ตั้งใจทำตามอนิเมชั่นเลย ซึ่งก็เสี่ยงเพราะอนิเมชั่นกลายเป็นของขึ้นหิ้งไปแล้ว ทั้งๆที่เพิ่งผ่านไป 25ปี แต่เวอร์ชั่นอนิเมชั่นก็กลายเป็นของคลาสิกไปแล้ว ผู้บริหารดีสนีย์สตูดิโอ (หรือผกก.เนี่ยแหละ ไม่แน่ใจ) บอกอยากให้พ่อแม่พาลูกไปดูเรื่องนี้ในโรงเหมือนที่ปู่ย่าพาพ่อแม่ไปดูเวอร์ชั่นอนิเมชั่นในโรง เพื่อให้เป็นความทรงจำในวัยเด็กที่ดี ดังนั้นดีสนีย์จึงตั้งใจทำหนังเรื่องนี้มาก มากจริงๆ มันเห็นได้ รู้สึกได้ love & care ของคนทำ คนแสดง มันล้นออกมาจากจอให้คนดูรู้สึกอิ่มเอมเหมือนสัมผัสได้

ดีสนีย์เอาคนทำเพลงจากเวอร์ชั่นอนิเมชั่นมาทำให้หนัง ถึงคนเขียนเพลงจะไม่อยู่แล้ว (เป็น AIDSเสียชีวิตก่อนอนิเมชั่นเข้าโรง) ดีสนีย์ก็ยังมีเทพเขียนเพลงคนอื่นอีก ดึงเอาคนเขียนเพลง Aladdinมาร่วมงาน ทีมคอสตูม ทีมโปรดักชั่นระดับออสก้า ใส่ใจทุกอย่างในรายละเอียดชุดกับฉาก คนแสดง (ทั้งหลักและรอง) ก็มีเนม คนร้องเพลงก็ชื่อดัง  ผกก. คนเขียนบก ก็ไม่ไก่กา budget ก็สูง ดีสนีย์จัดเต็มกับเรื่องนี้ แน่นอนสตูดิโอก็อยากจะทำรายได้เยอะ แต่ในขณะเดียวกัน คนที่ทำเรื่องนี้ทุกคนพูดมาทางเดียวกันหมดว่า ตั้งใจมากกับเวอร์ชั่นหนัง เพราะทุกกันประทับใจกับเวอร์ชั่นอนิเมชั่น โตมากับเพลงพวกนี้ ทุกคนดีใจมากที่ได้มีส่วนร่วมกับหนังเรื่องนี้ คนดูก็รอดูอย่างใจเย็น เพราะเรื่องนี้ถ่ายจริงแค่ 4เดือน แต่ post production ปีครึ่ง

จขกทไปดูมาวันเสาร์ค่ะ จองตั๋วเกือบสามอาทิตย์ล่วงหน้า เพราะอยากได้เวลาที่ดี ที่นั่งดี รอบที่เราดู หนังจบ คนปรบมือเต็มตรึมสองครั้ง ครั้งแรกตอนหนังจบแล้วเริ่ม end credit (เพลงของ Celine ขึ้น) แล้วก็อีกทีตอนที่เพลง Beauty and the Beast ขึ้น (หลังจากที่ขึ้นชื่อนักแสดงทุกคนแล้ว) คุยกับเพื่อนเมื่อวานที่ไปดูรอบวันศุกร์มา เขาก็บอกว่า โรงเขาคนก็ปรบมือตรึมเหมือนกัน

ไม่แปลกใจที่ทำเงินเปิดตัวแรงมาก เพราะโรงหนังกว่าพันโรง sell out เต็มทุกที่นั่งวีคเอนท์ผ่านมา ข่าวบอก สตูดิโอเริ่มเห็น March เป็น new summer หนังบล็อคบัสเตอร์เริ่มออกเดือนมีนามากขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะตั้งแต่กลางเดือนมีนาถึงกลางเดือนเมษา เป็นช่วง spring break โรงเรียนปิดหนึ่งอาทิตย์ (แล้วแต่โรงเรียน บางโรงเรียนก็ปิดก่อน บางโรงเรียนก็ปิดทีหลัง) แล้วสตูดิโอก็เริ่มหันมาสนใจทำหนังเรท PG มากขึ้นด้วย เพราะเพิ่มฐานคนดู เป็นหนังที่ดูได้ทั้งครอบครัว อย่างหนัง Beauty and the Beast เป็นต้น กว่า 50% ของคนซื้อตั๋วล่วงหน้า ก็จัดอยู่ในกลุ่มนี้ (รวมทั้งเรากับเพื่อนด้วย) แต่ข่าวล่าสุดบอก กว่า 70% ของคนที่ไปดู เป็นผู้หญิง คาดว่า วีคเอนท์นี้ก็จะยังแรงอยู่