วันนี้จะมาเล่าและแชร์ประสบการณ์การติด ตม ที่เกาหลีให้ฟังกันค่ะ ** ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะคะ
เนื่องจาก จขท. มีแพลนเดินทางไปเกาหลีระหว่างวันที่ 15-23 มี.ค. 2560 เดินทางไปกับพี่สาว (รู้จักและสนิทกันตอน จขท. ไปทำงาน past time ที่ กทม ) เดินทางไป 2 คน พี่สาวกำลังจะเดินทางไปทำเรื่องการแต่งงานกับแฟน ซึ่งเป็นคนเกาหลี (ทำเรื่องที่ไทยเสร็จแล้ว) พี่สาวกับแฟนเจอกันตอนที่เขาไปทำศัลยกรรมที่เกาหลี พี่สาวเป็นคนเชียงรายส่วนเจ้าของกระทู้เป็นคนอุดรฯ พี่สาวก็ได้นัดและบอกจัดเตรียมสิ่งของที่ต้องใช้ให้เรียบร้อย และเรานัดเจอกันที่ สุวรรณภูมิ
***เที่ยวบินที่เราไปคือ ไปลงสนามบินเซี่ยงไฮ้ ก่อนแล้วต่อไปลงที่ -ู พี่สาวต้องไปเอาของกับญาติที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งเครื่องพักที่นี้เป็นเวลาราวๆ 7 ชม. และแฟนพี่สาวก็อยู่ที่-ู เลยได้นั่งเครื่องแบบนี้
***พี่สาวได้จองตั๋วกลับให้ จขท. วันที่ 23 มี.ค. ขึ้นที่สนามบินอินชอน เพราะ จขท.จะอยู่ที่-ู 2-3 วัน หลังจากนั้นท
พี่สาวและแฟนจะพาเข้าโซล
ซึ่งของที่ จขท. เตรียมไปก็มีมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเครื่องสำอางค์ รองเท้า 3 คู่ รวมทั้งรองเท้าที่ใส่ไป ผ้าใบ 1 บุ๊ค 1 และส้นสูงอีก 1 คู่ และเสื้อผ้าก็มีประมาณ 10 กว่าชุด รวมพวกลองจอน เลคกิ้ง แล้ว มีถุงน่องอีก 4 คู่ เคยเจอในกระทู้พันธิปว่า ใส่กันเผื่อแพ้ลองจอน กระเป๋าสพายข้างของรินอราวอีกหนึ่งใบ ซึ่งวันไป จขท.สพายเป้ไปเพราะเอาไว้ใส่หมอนรองคอและเสื้อแขวยาวไหมพรม คิดว่าถ้าไปถึงที่นั้นคงหนาว รวมทั้งหมดนี้ช่างน้ำหนักที่สนามบินได้ 15.5 กก.
และถึงวันเดินทาง 15 มี.ค. จขท. ขึ้นเครื่องจากสนามบินอุดรฯ รอบ 16:05 มาถึง สุวรรณภูมิ 17:10 น. เพื่อที่จะขึ้นเรื่องไปเกาหลีตอนเวลา 19:05 น. พอมาถึง สุวรรณภูมิ ก็เจอพี่สาวและ เช็คอิน ตามปกติ แต่ทางแอร์เขาจะมีใบให้เซ็นรับรองตัวเองเพราะว่าเราไปต่อเครื่องที่จีน (ไม่มีวีซ่า) เรานั่งสายการบินของ chaina eastern ใช้เวลามาถึงสนามบินเซี่งไฮ้ ผู่ตง ประมาณ 4 ชม. มาเจอคนไทยที่สนามบินอยู่หลายคน บางคนมาขึ้นเครื่องต่อไปญี่ปุ่น และมีอีกคนไปลงสนามบิน-ูพร้อมเรา เข้า ตม. ที่จีน ผ่านไปโดยปกติ
รอเวลาขึ้นเครื่อง รอบ 07:50 เพื่อไปสนามบิน-ู
ถึงเวลาที่จะได้ไปเกาหลีแล้ว ไปกินกิมจิ ซึ่ง จขท. ชอบมากกกกกกก ถึงขั้นทำกินเองที่บ้านเพราะซื้อกินไม่ไหว 5555++ ไปกินมาม่าเกาหลี ไปตามรอยซี่รี่ บลาๆๆๆๆๆๆ พอเครื่องลงจอดที่สนามบิน-ู ณ เวลา 11:00 โดยประมาณ น่าจะเยอะกว่านี้จำไม่ค่อยได้ เข้า ตม.เกาหลี จขท. ก็เดินตามหลังพี่สาว พอพี่สาวเข้าไปตรง จนท. ก็โดนเรียกเข้าห้องอย่างที่คิด เพราะเราค่อเครื่องแบะถือพาสไทย ซึ่งเป็นที่เพ่งเล็งเหมือนที่หลายคนบอก จขท. ก็ต้องโดนเข้าไปด้วย ซึ่งพี่สาวมีเอกสารจากทางกงศุลไทย ใบยืนยันสถานะโสด และเอกสารสำคัญจากทางฝ่ายชาย เป็นที่เรียบร้อย ใน office มีคนมาเลเชีย 1 เป็นผู้หญิง ฝรั่งเศส 1 เป็นผู้ชาย และคนไทย 3 หญิงทั้งหมด ซึ่งผู้หญิงคนที่เจอที่จีนก็โดนด้วย จขท. ก็นั่งรอ จนท. อยู่กับพี่สาว ซึ่งในตอนั้นเห็น จนท. กำลังสอบถามผู้ชายคนที่มาจากฝรั่งเศษ
จนท. You come from Africa?
ผช. No!
จนท. Where you come from ?
ผช. I come from French.
จนท. Ok ok (ผ่าน)
****หน้าตาขผู้ชายคนนี่ออกไปทางล้ำๆเข้มๆ ตัวใหญ่ๆ
***เราก็นั่งคิด อ๋อเขาเลือกประเทศที่มาด้วย และประเทศไทยก็โดนเพ่งเล็งอยู่แล้ว!!! เราก็ไม่กลัวนะตอนอยู่ในนั้น รู้สึกเฉยๆเพราะมีพี่สาวอยู่ด้วย และผู้หญิงที่มาจากมาเลเซียก็ผ่าน ถึงที่พวกเราแล้ว!!!!
จนท. ก็พูดกับพี่สาว เขาก็เอาเอกสารต่างๆออกมายืนยัน จนท. ก็เช็คต่างๆน่าๆ โทรไปหาแฟนพี่สาว และตอนนั้นแฟนพี่สาวก็มารอรับที่สนามบินแล้ว เช็คน่าตา เช็คประวัติการเดินทาง ถามเรื่องเปลี่ยนชื่อ (คนไทยโดยส่วนมากเปลี่ยนชื่อให้ดีขึ้น คนนู้นคนนี้ทัก เผื่อความเป็นศิริมงคล) พี่สาวเราก็บอกๆไป และก็ชี้มาทางเรา
จนท. ใคร ?
พี่สาว. น้อง // หลาน
จนท. หลักฐานการเป็นที่น้อง การเป็นญาติ
พี่สาว. ตอนนี้ไม่มี หลังจากนี้สามารถหาให้ได้
***** เพราะเราสองคนก็ไม่รู้จะเอาเอกสารอะไรมายืนยัน มีแค่รูปถ่าย จนท. ก็ไม่เชื่ออีก!!!
และเราก็ได้ยิน จนท. บอกผู้หญิงอีกคนที่เจอที่จีน ว่าเข้าไม่ได้ ต้องกลับไทย!!! (ใจเริ่มกลัวว่าจะเข้าไม่ได้แล้ว เพราะถามเยอะมาก!!!)
จนท. ก็ถามหาตั๋วกลับ พวกเราก็โชว์ให้ดู และแล้ว จนท.อีกคนลากกระเป๋าพวกเรามา และค้นๆ ในกระเป๋าก็เจอตามที่บอกมาข้างบน และเจอใบทรานสคิบ เจอสมุดมหาวิทยาลัย และนิทานภาษาอังกฤษอีก 2 เรื่อง (จนท. พึ่งเรียนจบมหาวิทยาลัย// ซึ่งเวลาว่างเยอะเพราะกำลังว่างงาน) และแล้ว จนท. คนที่เป็นคนตัดสินใจทุกอย่างก็บอกว่า จขท. เข้าไม่ได้!!!! ได้ยินเช่นนั้นแทบจะร้องไห้ พี่สาวก็ช่วยพูดต่างๆนาๆ แต่ก็ช่วยไม่ได้ จนท. บอกว่าพี่สาวเข้าได้คนเดียว
จขท. ก็บอก จนท. ว่า ... ฉันจบปริญญา ทำไมฉันจะต้องอยากเข้ามาทำงานที่นี่ด้วย ในเมื่อฉันสามารถหางานที่ดีหว่านี้ได้ (ภาษาอังกฤษ) จนท. ก็ไม่ฟังอะไร และก็ไม่ถามอะไรเราด้วย บอกเข้าไม่ได้อย่างเดียว!!! จนท. ก็มาค้นดูเงินในกระเป๋าต่อ ในกระเป๋า จขท. มีอยู่ 9 พันกว่าบาท ก็บอก จนท. ว่าในบัตรมีอีก แต่ก็ไม่ฟังอะไรสักอย่าง บอกว่าเอาเสื้อผ้ามาเยอะเกินจำนวนวันที่อยู่!!!!!!! ความฝันตอนนั้นพังทลาย ไม่คิดว่ามันจะไม่มีเหตุผลในการตัดสินใจ ของ จนท. ขนาดนี้ หรือ จขท. มีข้อสงสัยอะไร?
สักพัก จนท. บอกพี่สาวไป go go go จับกระเป๋าพี่สาวแล้วก็บอกให้ไป พี่สาวบอก จนท. เดี๋ยวเขาจะซื้อตั๋วแล้วส่งมาให้ แล้วพี่เราก็เดินออกไป !!!
จนท. เรียกเรามาถ่ายรูปและสแกนนิ้ว 10 นิ้ว (มีผลอะไรไหมคะ?) จขท. ก็นั่งร้องไห้ตั้งแต่พี่สาวเดินออกไป เราก็คิดโกธรพี่ แต่จะให้ทำไงได้ แฟนเขาก็มารับแล้ว ตั๋วเขาก็ต้องเสีย แถมเขาต้องซื้อให้เราทั้งไปและกลับอีก (ที่จองจากอินชอนไปไทย) และก็คิดทำไมเราต้องโดนด้วย เสียดายเงิน เสียเวลา เงินที่ซื้อของเตรียมมาก็หมดไปตั้งหลายบาท เราก็ร้องจน จนท. พาเข้าห้องพักคนที่ต้องส่งกลับ นั่งร้องไห้อยู่ตลอด จนปวดตา ในห้องนั้นเหมือนคนทำความผิดและโดนจับ ห้องน้ำก็ไม่มีประตู สกปรกๆ จะต่างตรงที่มีทีวี ห้ามใช้ โทรศัพท์ กลัวถ่ายรูป ร้องไห้จนง่วงและหลับด้วยความที่นั่งเครื่องมาหลายต่อ
ต่อมา จนท. มาถามพี่ ผญ อีกคนว่าจะเอายังไง ถ้าไม่มีเงินซื้อตั๋วก็ต้องรอจนกว่าจะมีเงินซื้อ และก็ถาม จขท. ได้ตั๋วจากพี่ยัง จขท. ก็ต้องว่า ฉันไม่อยากให้เธอช่วย ฉันไม่ต้องการ (โกธรและสงสาร เดี๋ยวแต่งงานต้องใช้ตังค์เยอะอีก) เราก็ให้ ATM ไป เขาก็เอาไปรูด ค่าตั๋วกลับ หมื่นสอง มาจากทางไหนกลับทางนั้น *เอาตราปั้มสุดท้ายที่โดนปั้มใน Passport (นึกเสียดายตังค์ตั้งหมื่นสอง เที่ยวก็ไม่ได้เที่ยว ตังค์ซื้อตั๋วของพี่สาวอีก!!! ) เคลียเรื่องตั๋วทั้งสองคนเรียบร้อย
*เราสองคนต้องอยู่ในห้องนั้น 1 วันเต็มๆ 24 ชม. เพราะตั๋วกลับ 1 วัน มี 1 เที่ยว เท่านั้น!!!! จขท. เข้าห้องนั้นตอนเที่ยงวัน และต้องออกจากนั้นเที่ยงวันของอีกวันเช่นกัน #ทรมานมากๆ 😢😢 เวลากว่าจะเดินไปแต่ละ ชม. หิวข้าว หิวน้ำ จนท. ก็มีช่องเอาไว้ยื่นให้ คิดในใจทำไมเราต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย เรายังไม่ได้ทำความผิดอะไรสักนิด **ใครเคยติด ตม.เกาหลี เจอแบบเดียวกันหรือเปล่า ? มาแชร์ให้ฟังบ้างนะค่ะ
นอนอยู่ในห้องนั้น หลับๆตื่นๆ ครั่นเนื้อครั่นตัว อยากอาบน้ำ แต่ห้องน้ำไม่มีประตู ถ้าเปิดฝักบัวน้ำน่าจะกระจายเป็นวงกว้าง..!
และเวลาเกือบ 7 โมงเช้า มี ผญ ไทยอีก 3 คน ก็ติด ตม. และเข้าไปอยู่ในห้องนั้น พี่ๆเขาก็บ่นๆไป พวกเราก็คุยกันเรื่อง ติด ตม.
เวลาของพวกเรามาถึง 12:00 PM จนท. พาไปขึ้นเครื่อง ขึ้นก่อนคนอื่น ที่นั่งหลังสุด กระเป๋ามีคนเอามาให้เรียบร้อย passport ไม่ได้ ถึง เซี่ยงไฮ้ เวลาประมาณบ่ายโมงตามเวลาท้องถิ่น (ใช้เวลาเกือบ2ชม.)มีคนมารับ เข้า office จนท. ก็ถามตามปกติว่ามาจากไหน ไปทำไม เราก็ตอบไปตามความจริง พอถามเสร็จก็ให้ไปถ่ายรูป ตรง ตม. พอถ่ายเสร็จให้มานั่งรอแถวๆนี้ ไปไหนไม่ได้ คนเวลาลงเครื่องต้องเข้ามา ปั้มพาส คนเดินไปมามากมาย ทั้งคนทำความสะอาดที่ต้องไปทำเวลาเครื่องลง เดินไปมาหลายๆรอบ แต่พวกเราก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม ทั้งอายคน เหมือนไปก่ออาชญากรรมบ้านเข้าไว้ มี จนท. เข้ามาคุยอยู่เรื่อยๆ คนก็มอง!!! นั่งรอไปในตั๋วบอกเวลา 6:30 PM เราเดินทางกลับไทย นั่งรอมา 5 ชม. แล้วยังไม่มีเจ้าหน้าที่มาเรียก!!!!
ใครจะรู้ว่าวันหนึ่งจะมาเจออะไรที่แย่ขนาดนี้ ในเวลานั้นเป็นความรู้สึกที่แย่ที่สุดที่เคยได้พบมา เราไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ทำไมดูแล้วไม่ต่างจากนักโทษดีๆนี่เอง เราเอาเวลาตรงนี้ไปสามารถทำอย่างอื่นได้ ดีกว่ามานั่งรอเวลา ซึ่งไม่รู้เรื่องอะไรเลย คนเดินผ่านไปมามอง นั่งให้ จนท.ที่จีนพูดดูถูก พูดนู้นนี่นั้น โดนส่งตัวกลับจากเกาหลี ถ้าเราได้ทำความผิดจริงๆและถูกกระทำแบบนี้ จะไม่รู้สึกเช่นนี้เลย!!!! สูญเสียเงินจำนวนมากแบบไม่เกิดประโยชน์ สูญเสียเวลา จาก-ูมาถึงเซี่ยงไฮ้ ใช้เวลาแค่ 2 ชม. เรามาถึงนี่ตั้งแต่บ่ายโมง จนตอนนี้ 3 ทุ่มแล้ว เดินไปถาม จนท. บอกให้นั่งรออย่างเดียว ตอนนี้รู้สึกเหนื่อย อยากกลับไทย อยากรู้ความผิดเราอะไร ทำไมต้องมาทรมานทั้งความรู้สึกและร่างกายแบบนี้ ( ตม.เกาหลี 24 ชม. ตม.จีน ตอนนี้ก็ปาไป 8 ชม. แล้ว) **ความรู้สึกตอนนั้นจริงๆ
หลังจากนั้น 1 ชม. มีเจ้าหน้าที่พาไปขึ้นเครื่อง ส่งถึงที่นั่ง passport ไม่ได้เหมือนเดิม น้ำก็ยังไม่ได้อาบเหมือนเดิม!!! ที่จีนไม่เจอแม้แต่กระเป๋าเดินทาง!! 4 ทุ่มกว่าพวกเรา 2 คนขึ้นเครื่อง และที่นั่งหลังสุดเหมือนเดิม และเครื่องดีเลไป 2 ชม. สภาพอากาศตอนนั้นฝนกำลังตก **คิดในใจเราทำไมมาซวยซ้ำซวยซ้อนจังวะ และแล้วก็มาถึงไทย ตี4 กว่า แอร์เดินไปส่ง มี จนท. จากไทยมารอรับ (ดูเหมือนเป็นคนพิเศษ) เดินไปสักพัก จนท.ยื่น passport ให้และบอกให้ไปปั้ม ตม. ก่อน จนท. จะเดินจากไป จขท. ก็ถามว่ามีผลอะไรไหม ทั้งจากที่กาหลีและจีน แต่ก็ไม่ได้คำตอบ!
****พอ จขท. เปิดดู passport ไม่มีการปั้มของ ตม.ที่เซี่ยงไฮ้ขากลับ! รบกวนผู้รู้บอกด้วยนะค่ะ
ประสบการณ์การติด ตม.เกาหลี!!
เนื่องจาก จขท. มีแพลนเดินทางไปเกาหลีระหว่างวันที่ 15-23 มี.ค. 2560 เดินทางไปกับพี่สาว (รู้จักและสนิทกันตอน จขท. ไปทำงาน past time ที่ กทม ) เดินทางไป 2 คน พี่สาวกำลังจะเดินทางไปทำเรื่องการแต่งงานกับแฟน ซึ่งเป็นคนเกาหลี (ทำเรื่องที่ไทยเสร็จแล้ว) พี่สาวกับแฟนเจอกันตอนที่เขาไปทำศัลยกรรมที่เกาหลี พี่สาวเป็นคนเชียงรายส่วนเจ้าของกระทู้เป็นคนอุดรฯ พี่สาวก็ได้นัดและบอกจัดเตรียมสิ่งของที่ต้องใช้ให้เรียบร้อย และเรานัดเจอกันที่ สุวรรณภูมิ
***เที่ยวบินที่เราไปคือ ไปลงสนามบินเซี่ยงไฮ้ ก่อนแล้วต่อไปลงที่ -ู พี่สาวต้องไปเอาของกับญาติที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งเครื่องพักที่นี้เป็นเวลาราวๆ 7 ชม. และแฟนพี่สาวก็อยู่ที่-ู เลยได้นั่งเครื่องแบบนี้
***พี่สาวได้จองตั๋วกลับให้ จขท. วันที่ 23 มี.ค. ขึ้นที่สนามบินอินชอน เพราะ จขท.จะอยู่ที่-ู 2-3 วัน หลังจากนั้นท
พี่สาวและแฟนจะพาเข้าโซล
ซึ่งของที่ จขท. เตรียมไปก็มีมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเครื่องสำอางค์ รองเท้า 3 คู่ รวมทั้งรองเท้าที่ใส่ไป ผ้าใบ 1 บุ๊ค 1 และส้นสูงอีก 1 คู่ และเสื้อผ้าก็มีประมาณ 10 กว่าชุด รวมพวกลองจอน เลคกิ้ง แล้ว มีถุงน่องอีก 4 คู่ เคยเจอในกระทู้พันธิปว่า ใส่กันเผื่อแพ้ลองจอน กระเป๋าสพายข้างของรินอราวอีกหนึ่งใบ ซึ่งวันไป จขท.สพายเป้ไปเพราะเอาไว้ใส่หมอนรองคอและเสื้อแขวยาวไหมพรม คิดว่าถ้าไปถึงที่นั้นคงหนาว รวมทั้งหมดนี้ช่างน้ำหนักที่สนามบินได้ 15.5 กก.
และถึงวันเดินทาง 15 มี.ค. จขท. ขึ้นเครื่องจากสนามบินอุดรฯ รอบ 16:05 มาถึง สุวรรณภูมิ 17:10 น. เพื่อที่จะขึ้นเรื่องไปเกาหลีตอนเวลา 19:05 น. พอมาถึง สุวรรณภูมิ ก็เจอพี่สาวและ เช็คอิน ตามปกติ แต่ทางแอร์เขาจะมีใบให้เซ็นรับรองตัวเองเพราะว่าเราไปต่อเครื่องที่จีน (ไม่มีวีซ่า) เรานั่งสายการบินของ chaina eastern ใช้เวลามาถึงสนามบินเซี่งไฮ้ ผู่ตง ประมาณ 4 ชม. มาเจอคนไทยที่สนามบินอยู่หลายคน บางคนมาขึ้นเครื่องต่อไปญี่ปุ่น และมีอีกคนไปลงสนามบิน-ูพร้อมเรา เข้า ตม. ที่จีน ผ่านไปโดยปกติ
รอเวลาขึ้นเครื่อง รอบ 07:50 เพื่อไปสนามบิน-ู
ถึงเวลาที่จะได้ไปเกาหลีแล้ว ไปกินกิมจิ ซึ่ง จขท. ชอบมากกกกกกก ถึงขั้นทำกินเองที่บ้านเพราะซื้อกินไม่ไหว 5555++ ไปกินมาม่าเกาหลี ไปตามรอยซี่รี่ บลาๆๆๆๆๆๆ พอเครื่องลงจอดที่สนามบิน-ู ณ เวลา 11:00 โดยประมาณ น่าจะเยอะกว่านี้จำไม่ค่อยได้ เข้า ตม.เกาหลี จขท. ก็เดินตามหลังพี่สาว พอพี่สาวเข้าไปตรง จนท. ก็โดนเรียกเข้าห้องอย่างที่คิด เพราะเราค่อเครื่องแบะถือพาสไทย ซึ่งเป็นที่เพ่งเล็งเหมือนที่หลายคนบอก จขท. ก็ต้องโดนเข้าไปด้วย ซึ่งพี่สาวมีเอกสารจากทางกงศุลไทย ใบยืนยันสถานะโสด และเอกสารสำคัญจากทางฝ่ายชาย เป็นที่เรียบร้อย ใน office มีคนมาเลเชีย 1 เป็นผู้หญิง ฝรั่งเศส 1 เป็นผู้ชาย และคนไทย 3 หญิงทั้งหมด ซึ่งผู้หญิงคนที่เจอที่จีนก็โดนด้วย จขท. ก็นั่งรอ จนท. อยู่กับพี่สาว ซึ่งในตอนั้นเห็น จนท. กำลังสอบถามผู้ชายคนที่มาจากฝรั่งเศษ
จนท. You come from Africa?
ผช. No!
จนท. Where you come from ?
ผช. I come from French.
จนท. Ok ok (ผ่าน)
****หน้าตาขผู้ชายคนนี่ออกไปทางล้ำๆเข้มๆ ตัวใหญ่ๆ
***เราก็นั่งคิด อ๋อเขาเลือกประเทศที่มาด้วย และประเทศไทยก็โดนเพ่งเล็งอยู่แล้ว!!! เราก็ไม่กลัวนะตอนอยู่ในนั้น รู้สึกเฉยๆเพราะมีพี่สาวอยู่ด้วย และผู้หญิงที่มาจากมาเลเซียก็ผ่าน ถึงที่พวกเราแล้ว!!!!
จนท. ก็พูดกับพี่สาว เขาก็เอาเอกสารต่างๆออกมายืนยัน จนท. ก็เช็คต่างๆน่าๆ โทรไปหาแฟนพี่สาว และตอนนั้นแฟนพี่สาวก็มารอรับที่สนามบินแล้ว เช็คน่าตา เช็คประวัติการเดินทาง ถามเรื่องเปลี่ยนชื่อ (คนไทยโดยส่วนมากเปลี่ยนชื่อให้ดีขึ้น คนนู้นคนนี้ทัก เผื่อความเป็นศิริมงคล) พี่สาวเราก็บอกๆไป และก็ชี้มาทางเรา
จนท. ใคร ?
พี่สาว. น้อง // หลาน
จนท. หลักฐานการเป็นที่น้อง การเป็นญาติ
พี่สาว. ตอนนี้ไม่มี หลังจากนี้สามารถหาให้ได้
***** เพราะเราสองคนก็ไม่รู้จะเอาเอกสารอะไรมายืนยัน มีแค่รูปถ่าย จนท. ก็ไม่เชื่ออีก!!!
และเราก็ได้ยิน จนท. บอกผู้หญิงอีกคนที่เจอที่จีน ว่าเข้าไม่ได้ ต้องกลับไทย!!! (ใจเริ่มกลัวว่าจะเข้าไม่ได้แล้ว เพราะถามเยอะมาก!!!)
จนท. ก็ถามหาตั๋วกลับ พวกเราก็โชว์ให้ดู และแล้ว จนท.อีกคนลากกระเป๋าพวกเรามา และค้นๆ ในกระเป๋าก็เจอตามที่บอกมาข้างบน และเจอใบทรานสคิบ เจอสมุดมหาวิทยาลัย และนิทานภาษาอังกฤษอีก 2 เรื่อง (จนท. พึ่งเรียนจบมหาวิทยาลัย// ซึ่งเวลาว่างเยอะเพราะกำลังว่างงาน) และแล้ว จนท. คนที่เป็นคนตัดสินใจทุกอย่างก็บอกว่า จขท. เข้าไม่ได้!!!! ได้ยินเช่นนั้นแทบจะร้องไห้ พี่สาวก็ช่วยพูดต่างๆนาๆ แต่ก็ช่วยไม่ได้ จนท. บอกว่าพี่สาวเข้าได้คนเดียว
จขท. ก็บอก จนท. ว่า ... ฉันจบปริญญา ทำไมฉันจะต้องอยากเข้ามาทำงานที่นี่ด้วย ในเมื่อฉันสามารถหางานที่ดีหว่านี้ได้ (ภาษาอังกฤษ) จนท. ก็ไม่ฟังอะไร และก็ไม่ถามอะไรเราด้วย บอกเข้าไม่ได้อย่างเดียว!!! จนท. ก็มาค้นดูเงินในกระเป๋าต่อ ในกระเป๋า จขท. มีอยู่ 9 พันกว่าบาท ก็บอก จนท. ว่าในบัตรมีอีก แต่ก็ไม่ฟังอะไรสักอย่าง บอกว่าเอาเสื้อผ้ามาเยอะเกินจำนวนวันที่อยู่!!!!!!! ความฝันตอนนั้นพังทลาย ไม่คิดว่ามันจะไม่มีเหตุผลในการตัดสินใจ ของ จนท. ขนาดนี้ หรือ จขท. มีข้อสงสัยอะไร?
สักพัก จนท. บอกพี่สาวไป go go go จับกระเป๋าพี่สาวแล้วก็บอกให้ไป พี่สาวบอก จนท. เดี๋ยวเขาจะซื้อตั๋วแล้วส่งมาให้ แล้วพี่เราก็เดินออกไป !!!
จนท. เรียกเรามาถ่ายรูปและสแกนนิ้ว 10 นิ้ว (มีผลอะไรไหมคะ?) จขท. ก็นั่งร้องไห้ตั้งแต่พี่สาวเดินออกไป เราก็คิดโกธรพี่ แต่จะให้ทำไงได้ แฟนเขาก็มารับแล้ว ตั๋วเขาก็ต้องเสีย แถมเขาต้องซื้อให้เราทั้งไปและกลับอีก (ที่จองจากอินชอนไปไทย) และก็คิดทำไมเราต้องโดนด้วย เสียดายเงิน เสียเวลา เงินที่ซื้อของเตรียมมาก็หมดไปตั้งหลายบาท เราก็ร้องจน จนท. พาเข้าห้องพักคนที่ต้องส่งกลับ นั่งร้องไห้อยู่ตลอด จนปวดตา ในห้องนั้นเหมือนคนทำความผิดและโดนจับ ห้องน้ำก็ไม่มีประตู สกปรกๆ จะต่างตรงที่มีทีวี ห้ามใช้ โทรศัพท์ กลัวถ่ายรูป ร้องไห้จนง่วงและหลับด้วยความที่นั่งเครื่องมาหลายต่อ
ต่อมา จนท. มาถามพี่ ผญ อีกคนว่าจะเอายังไง ถ้าไม่มีเงินซื้อตั๋วก็ต้องรอจนกว่าจะมีเงินซื้อ และก็ถาม จขท. ได้ตั๋วจากพี่ยัง จขท. ก็ต้องว่า ฉันไม่อยากให้เธอช่วย ฉันไม่ต้องการ (โกธรและสงสาร เดี๋ยวแต่งงานต้องใช้ตังค์เยอะอีก) เราก็ให้ ATM ไป เขาก็เอาไปรูด ค่าตั๋วกลับ หมื่นสอง มาจากทางไหนกลับทางนั้น *เอาตราปั้มสุดท้ายที่โดนปั้มใน Passport (นึกเสียดายตังค์ตั้งหมื่นสอง เที่ยวก็ไม่ได้เที่ยว ตังค์ซื้อตั๋วของพี่สาวอีก!!! ) เคลียเรื่องตั๋วทั้งสองคนเรียบร้อย
*เราสองคนต้องอยู่ในห้องนั้น 1 วันเต็มๆ 24 ชม. เพราะตั๋วกลับ 1 วัน มี 1 เที่ยว เท่านั้น!!!! จขท. เข้าห้องนั้นตอนเที่ยงวัน และต้องออกจากนั้นเที่ยงวันของอีกวันเช่นกัน #ทรมานมากๆ 😢😢 เวลากว่าจะเดินไปแต่ละ ชม. หิวข้าว หิวน้ำ จนท. ก็มีช่องเอาไว้ยื่นให้ คิดในใจทำไมเราต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย เรายังไม่ได้ทำความผิดอะไรสักนิด **ใครเคยติด ตม.เกาหลี เจอแบบเดียวกันหรือเปล่า ? มาแชร์ให้ฟังบ้างนะค่ะ
นอนอยู่ในห้องนั้น หลับๆตื่นๆ ครั่นเนื้อครั่นตัว อยากอาบน้ำ แต่ห้องน้ำไม่มีประตู ถ้าเปิดฝักบัวน้ำน่าจะกระจายเป็นวงกว้าง..!
และเวลาเกือบ 7 โมงเช้า มี ผญ ไทยอีก 3 คน ก็ติด ตม. และเข้าไปอยู่ในห้องนั้น พี่ๆเขาก็บ่นๆไป พวกเราก็คุยกันเรื่อง ติด ตม.
เวลาของพวกเรามาถึง 12:00 PM จนท. พาไปขึ้นเครื่อง ขึ้นก่อนคนอื่น ที่นั่งหลังสุด กระเป๋ามีคนเอามาให้เรียบร้อย passport ไม่ได้ ถึง เซี่ยงไฮ้ เวลาประมาณบ่ายโมงตามเวลาท้องถิ่น (ใช้เวลาเกือบ2ชม.)มีคนมารับ เข้า office จนท. ก็ถามตามปกติว่ามาจากไหน ไปทำไม เราก็ตอบไปตามความจริง พอถามเสร็จก็ให้ไปถ่ายรูป ตรง ตม. พอถ่ายเสร็จให้มานั่งรอแถวๆนี้ ไปไหนไม่ได้ คนเวลาลงเครื่องต้องเข้ามา ปั้มพาส คนเดินไปมามากมาย ทั้งคนทำความสะอาดที่ต้องไปทำเวลาเครื่องลง เดินไปมาหลายๆรอบ แต่พวกเราก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม ทั้งอายคน เหมือนไปก่ออาชญากรรมบ้านเข้าไว้ มี จนท. เข้ามาคุยอยู่เรื่อยๆ คนก็มอง!!! นั่งรอไปในตั๋วบอกเวลา 6:30 PM เราเดินทางกลับไทย นั่งรอมา 5 ชม. แล้วยังไม่มีเจ้าหน้าที่มาเรียก!!!!
ใครจะรู้ว่าวันหนึ่งจะมาเจออะไรที่แย่ขนาดนี้ ในเวลานั้นเป็นความรู้สึกที่แย่ที่สุดที่เคยได้พบมา เราไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ทำไมดูแล้วไม่ต่างจากนักโทษดีๆนี่เอง เราเอาเวลาตรงนี้ไปสามารถทำอย่างอื่นได้ ดีกว่ามานั่งรอเวลา ซึ่งไม่รู้เรื่องอะไรเลย คนเดินผ่านไปมามอง นั่งให้ จนท.ที่จีนพูดดูถูก พูดนู้นนี่นั้น โดนส่งตัวกลับจากเกาหลี ถ้าเราได้ทำความผิดจริงๆและถูกกระทำแบบนี้ จะไม่รู้สึกเช่นนี้เลย!!!! สูญเสียเงินจำนวนมากแบบไม่เกิดประโยชน์ สูญเสียเวลา จาก-ูมาถึงเซี่ยงไฮ้ ใช้เวลาแค่ 2 ชม. เรามาถึงนี่ตั้งแต่บ่ายโมง จนตอนนี้ 3 ทุ่มแล้ว เดินไปถาม จนท. บอกให้นั่งรออย่างเดียว ตอนนี้รู้สึกเหนื่อย อยากกลับไทย อยากรู้ความผิดเราอะไร ทำไมต้องมาทรมานทั้งความรู้สึกและร่างกายแบบนี้ ( ตม.เกาหลี 24 ชม. ตม.จีน ตอนนี้ก็ปาไป 8 ชม. แล้ว) **ความรู้สึกตอนนั้นจริงๆ
หลังจากนั้น 1 ชม. มีเจ้าหน้าที่พาไปขึ้นเครื่อง ส่งถึงที่นั่ง passport ไม่ได้เหมือนเดิม น้ำก็ยังไม่ได้อาบเหมือนเดิม!!! ที่จีนไม่เจอแม้แต่กระเป๋าเดินทาง!! 4 ทุ่มกว่าพวกเรา 2 คนขึ้นเครื่อง และที่นั่งหลังสุดเหมือนเดิม และเครื่องดีเลไป 2 ชม. สภาพอากาศตอนนั้นฝนกำลังตก **คิดในใจเราทำไมมาซวยซ้ำซวยซ้อนจังวะ และแล้วก็มาถึงไทย ตี4 กว่า แอร์เดินไปส่ง มี จนท. จากไทยมารอรับ (ดูเหมือนเป็นคนพิเศษ) เดินไปสักพัก จนท.ยื่น passport ให้และบอกให้ไปปั้ม ตม. ก่อน จนท. จะเดินจากไป จขท. ก็ถามว่ามีผลอะไรไหม ทั้งจากที่กาหลีและจีน แต่ก็ไม่ได้คำตอบ!
****พอ จขท. เปิดดู passport ไม่มีการปั้มของ ตม.ที่เซี่ยงไฮ้ขากลับ! รบกวนผู้รู้บอกด้วยนะค่ะ