สวัสดีค่ะ ทุกคน กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่เขียนรีวิวนะคะ

ปล. ที่เขียนรีวิวขึ้น เพราะตอนที่เราจะเริ่มสอบใบขับขี่มืดแปดด้านมากค่ะ ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร
เพราะการสอบเริ่มใหม่ใบขับขี่ที่นี่แพงมากค่ะ อย่างต่ำก็ประมาณห้าหมื่นบาทไทย ถ้าสอบผ่านครั้งเดียว
แต่ถ้าสอบไม่ผ่านเช่น[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ สอบทฤษฎี สอบครั้งแรกฟรี ถ้าไม่ผ่าน ครั้งต่อไปเสียค่าสอบครั้งละสี่พันบาทต่อครั้ง
ถ้าเราสอบทฤษฎีไม่ผ่าน เราก็ไม่สารถไปสอบขับได้นะคะ
การสอบขับ โดยปกติสอบครั้งแรกจะต้องเสียค่าใช้จ่ายคือ ค่ายืมรถครูที่สอนเราขับรถน่ะคะ
สอบขับ ค่าใช้จ่ายก็ครั้งละ สามพันบาทต่อครั้ง (ราคานี้แล้วแต่โรงเรียนนะคะ แต่เรทปกติประมาณนี้ค่ะ)
ซึ่งถ้าสอบขับไม่ผ่านครั้งแรก ครั้งต่อไปก็ต้องเสียค่ายืมรถครู + ค่าสอบ ซึ่งไม่ต่ำกว่าโดยประมาณ ห้าพันบาทค่ะ



ขั้นตอน
ตัวเราเองมีใบขับขี่มาจากไทยแล้วค่ะ เป็นใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลธรรมดา ที่ต่ออายุทุกๆ5ปี  
แต่เราไม่สามารถที่จะใช้ขับรถตามท้องถนนของที่นี่ได้ค่ะ
ยกเว้น ในกรณีที่เป็นนักท่องเที่ยวคือใช้ใบบัตรขับขี่สากล สามารถขับได้3เดือน

กรณีของเราไม่ได้เป็นนักท่องเที่ยว มีกฎข้อบังคับคือไม่สามารถใช้ใบขับขี่สากลได้ค่ะ (ที่เดนมาร์ก)

เนื่องจากเรามีใบขับขี่จากที่ไทยแล้ว เราสามารถไปขอเปลี่ยนเป็นใบขับขี่ชั่วคราวกับทางเทศบาล หรืออำเภอที่อยู่ใกล้บ้านเรา
ใบขับขี่ชั่วคราวเป็นแบบนี้ค่ะ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ค่าใช้จ่ายในการขอใบขับขี่ชั่วคราว [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จะมีค่าใบรับรองแพทย์ ประมาณ 2พันบาท ค่าตรวจสอบใบขับขี่ว่าเป็นของจริงหรือไม่ ประมาณหนึ่งพันห้าร้อยบาท และรูปถ่ายประมาณ 5ร้อยกว่าบาทค่ะ โดยใบขับขี่ชั่วคราวนี้ เราสามารถขับบนท้องถนนที่นี่ได้ 90 วันค่ะ

หลังจากที่ใบขับขี่ชั่วคราวของเราหมดอายุ 90 วัน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อีกประมาณ 3 เดือน เราก็จะได้รับ จม. จากอำเภอ ข้อความใน จม. เขียนว่าใบขับขี่เราไม่สามารถใช้ได้ที่นี่ แต่เราสามารถไปสอบทำใบขับขี่ของที่นี่ โดยที่เราไม่ต้องไปเริ่มต้นใหม่ คือไม่ต้องไปเสียเงินเรียนทฤษฎี ซึ่งจะมีบังคับเรียน ไม่แน่ใจนะคะว่ากี่ ชม. น่าจะ 12 ชม. ขึ้นไป ซึ่ง ชม. เรียนที่นี่ประมาณ 3พัน5ร้อยบาทค่ะ ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ แต่มีข้อบังคับว่า เราต้องลงเรียนขับ กับโรงเรียนสอนขับรถค่ะ ซึ่ง ชม.ขับเราสามารถกำหนดได้ว่าจะเรียนกี่ ชม. คือ เราสามารถบอกครูได้ค่ะว่า เราจะเรียน 3-4 ชม. แล้วเราพร้อมสอบขับ ชม.เรียนขับรถ ราคาประมาณเท่าๆกันกับเรียนทฤษฏีค่ะ

หลังจากที่เราได้รับ จม. ให้ไปสอบใบขับขี่ ในจม.ไม่ได้ระบุวันที่เราจะไปสอบนะคะ คือเราสามารถกำหนดเองได้ว่าเราพร้อมสอบวันไหนปีไหนก็ได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ความพร้อมในที่นี่ หมายถึงพร้อมทั้งเงินและภาษานะคะ

การสอบทฤษฎีสามารถเลือกสอบเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาเดนนิช หรือใช้ล่ามแปลได้ค่ะ การสอบทฤษฎีครั้งแรกฟรี
การใช้ล่ามแปลในระหว่างสอบมีค่าใช้จ่ายคือค่าชม.ของล่ามด้วยนะคะ ชม.ประมาณ 2 พันบาท

เมื่อเราพร้อม เราก็เริ่มหาโรงเรียนสอนขับรถเลยค่ะ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือครูค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ครูจะต้องไม่เอาเปรียบเรา ครูบางคิดว่าเราเป็นคนต่างชาติ ก็จะเอาเปรียบ ชม. เรียนเรา เป็นบางคนเท่านั้นนะคะไม่ใช่ทุกคน ซึ่งการหาครูก็ง่ายๆค่ะ ถามจากเพื่อน แฟน หรือลองโพสต์ในกลุ่มเฟสบุ๊คที่เราอยู่ในเมืองนั้น

เมื่อเราหาโรงเรียนสอนขับรถได้แล้ว ครูก็จะถามว่า จะสอบเป็นภาษาอะไร ใช้ล่ามไหม เราเลือกสอบเป็นภาษาเดนนิชค่ะ ไม่ใช้ล่าม
แล้วครูก็จะถามอีกว่าจะลงเรียนทฤษฎีด้วยไหม [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตัวทฤษฏีถึงแม้จะไม่ได้บังคับเราเรียน แต่บางคนลงเรียนเพราะเพื่อความมั่นใจเพิ่มขึ้นค่ะ แต่เราตอบว่าไม่ อ่านหนังสือทำแบบฝึกหัดเองที่บ้านค่ะ ซึ่งตรงนี้ก็ประหยัดค่าใช้จ่ายไปมาก
วิธีที่เราเรียนเองที่บ้านคือ เราซื้อแบบฝึกหัดผ่านเว็บไซด์ค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.trafiktesten.dk โดยเราเลือกโปรแกรม1เดือน ราคา หกร้อยกว่าบาท เราใช้เวลาในการทำแบบฝึกหัดก่อนสอบประมาณสามอาทิตย์ ใช้เวลาวันละ2ชม.อย่างต่ำ หลักคือ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ทำแล้วทำอีกทำจนไม่ผิดสักข้อ
โดยข้อสอบจริงรูปบางรูปเหมือนกัน แต่คำถามไม่เหมือนในแบบฝึกหัด บางคำถามก็จะคล้ายๆกัน
เมื่อเราพร้อมแล้วเราก็นัดเวลาสอบ โดยนัดเวลาสอบกับอำเภอ ทางอำเภอก็จะส่งเวลานัดสอบไปทางสถานีตำรวจ
ก่อนสอบหนึ่งวันก็จะมีข้อความส่งมาว่าเราต้องไปสอบที่ไหนเวลาไหนเพื่อยืนยันอีกที
การสอบที่นี่ ต้องไปสอบที่สถานีตำรวจเท่านั้นค่ะ สถานที่สอบ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ข้อสอบที่นี่ จะให้ดูแค่รูปภาพ และให้เรากากบาท ในข้อย่อยแต่ละข้อแค่ว่า ใช่/ไม่ใช่ เท่านั้นค่ะ
ในกระดาษคำตอบไม่มีข้อความอะไร มีแค่ให้เรากากบาท ใช่/ไม่ใช่ เท่านั้น

ก่อนจะไปสอบ สิ่งสำคัญที่สุดคือสมาธิค่ะ ต้องตั้งใจฟังคำถามดีๆ เลือกที่นั่งตรงหน้าสุดจะได้เห็นรูปชัดๆ

วิธีจำของเราคือ จำแค่ว่าให้ระวังขวา ระวังจักรยาน ระวังคนข้ามถนน

โดยข้อสอบจะมีทั้งหมด 25 ข้อ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้และใน1 ข้อจะมีข้อย่อยประมาณ 2-4 ข้อย่อย คือถ้าผิดย่อยไปหนึ่งข้อ ก็เท่ากับว่าข้อนั้นเราไม่ได้คะแนนเลย
ซึ่งข้อสอบ 25 ข้อนี้ เราต้องผ่าน 20 ข้อขึ้นค่ะ คือผิดได้ต่ำสุดแค่ 5 ข้อ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ของเราสอบครั้งเดียวผ่าน ถือว่าโชคดีมากๆ ผิด4ข้อ เกือบไม่ผ่าน ตัวที่กากบาทคือข้อที่เราผิด จากที่เกริ่นมาก่อนหน้านี้แล้วว่าถ้าครั้งแรกไม่ผ่าน ครั้งต่อไปต้องเสียค่าสอบใหม่ค่ะ ประมาณ4พันบาท

เมื่อเราสอบทฤษฎี ผ่าน แล้ว หลังจากนั้นเราก็โทรหาครู นัดเวลาเรียนสอนขับรถ
หลักๆคือที่นี่หน้าหนาวถนนจะลื่นมาก เขาก็จะสอนวิธีขับถนนลื่น สอบขับมอเตอร์เวย์ และวงเวียน ซึ่งบ้านเราไม่ค่อยมี

เมื่อเรามั่นใจแล้วว่าเราต้องการจะสอบขับ เราก็ให้ครูนัดเวลากับตำรวจให้ค่ะ
การสอบขับ มีค่าใช้จ่ายคือ ค่าเช่ารถครูผู้สอนเราค่ะ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เพราะรถจะมีลักษณะพิเศษคือสามารถเบรคได้ทั้งครขับและคนนั่งข้าง โดยประมาณ สามพันบาท ตอนสอบก็มีเรากับตำรวจเท่านั้น สอบขับบนท้องถนนจริงเลยค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ซึ่งการสอบขับนี้สามารถใช้ล่ามได้ด้วยค่ะ ถ้าใครใช้ล่ามก็จะมีผู้สอบ ตำรวจ และก็ล่ามอยู่ในรถค่ะ ถ้าต้องการใช้ล่ามก็มีค่าใช้จ่าย ชม. ล่ามค่ะ ชม.ละสองพันบาท

เมื่อเราสอบชับ ผ่าน แล้ว หลังจาก 3-6 อาทิตย์ หรือเร็วกว่านั้น ก็จะได้ใบขับขี่ค่ะ โดยจะส่งมาทางไปรษณีย์ถึงบ้าน

สรุปค่าใช้จ่ายของเรา โดยประมาณ 16000 บาทค่ะ ถ้าเราสอบขับผ่านในครั้งแรก ถ้ามีใบขับขี่มาจากไทยแล้ว การสอบขับถือว่าง่ายมากค่ะ สำหรับคนขับเป็นแล้วสอบครั้งเดียวยังไงก็ผ่าน

เราพอเข้าใจนะคะ ว่าทำไมที่นี่ถึงบังคับเรียน เพราะค่าใช้จ่ายสูง คนใช้รถใช้ถนนต้องระวัง
คือคนที่นี่ที่มีใบขับขี่เขาจะระวังมากค่ะในเรื่องขับรถ เพราะถ้าทำผิดกฎ และโดนยึดใบขับขี่ไปก็ต้องสอบใหม่ ทำอะไรใหม่หมด
ทุกอย่างคือเงินทั้งนั้นค่ะ แต่ก็ถือว่าดีนะคะ เพราะที่นี่อุบัติเหตุน้อยมาก เมาแล้วขับไม่มีเลย เพราะโดนปรับเท่าเงินเดือน ยึดใบขับขี่ด้วยค่ะ


ขั้นตอนและวิธีการก็มีเท่านี้ล่ะค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนไทยในต่างแดนนะคะ

ปล. เราเริ่มของใบขับขี่ชั่วคราวเมื่อปลายปี2015 มันดีตรงที่เราสามารถเลือกได้ว่าเราจะสอบตอนไหน
โดยครั้งนั้นที่ไม่ตัดสินใจสอบเพราะไม่มีเวลาอ่านและทำแบบฝึกหัดค่ะ
ถ้าเราตัดสินใจสอบครั้งนั้นคงสอบไม่ผ่านภายในครั้งเดียว เพราะความไม่พร้อม
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความพร้อม ความตั้งใจ และมั่นใจ
เราเพิ่งตัดสินใจที่จะสอบเมื่อเดือนมกราคม 2017 แต่ที่ใช้เวลานานเพราะยังหา รร.สอนขับรถที่ถูกใจไม่ได้ ได้ รร. เมื่อต้นเดือนกุมภาค่ะ
และนัดสอบ มีนา ที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้ของเราเหลือแค่สอบขับ