**เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวที่พวกเราไปเที่ยวกาญจนบุรี
เริ่มเลยน่ะ วันใกล้สอบเสร็จ พวกเราเพื่อนกัน15คน คุยกันไปเที่ยว เลือกทริปไปกาญจนบุรีทุกคนตัดสินใจที่จะไปที่นี้ หลังจากนั้นก็พากันหาที่พัก เพื่อนคนหนึ่งอาสาหาที่พักได้มา5ที พวกเราเลือกที่สะดวกที่สุด ที่ติดกับสายน้ำจะได้กระโดดลงน้ำได้ พวกเราตัดสินใจจองที่นี้ จองเข้าพักวันที่13 มีนาคม 2560 บ้านที่อยู่ตรงข้ามรถไฟสายมรณะ(ขอไม่เอ๋ยชื่อ
วันที่10 หลังสอบ ต่างคนแยกย้ายกลับหอพัก วันที่13เวลา14.00 พวกเรานัดกันเจอกันที่บ้านเพื่อนอยู่จรัญ เพราะแม่เพื่อนจะมารับไปพักที่ราชบุรีก่อน1คืน
บ่ายสองพวกเรานั่งรถกระบะไปราชรี ถึงประมาณบ่าย4โมงทุกคนแยกย้ายเอากระเป๋า ขึ้นบนบ้าน พวกเราทำหมูกระทะกิน เปิดเพลงสนุกสนาน หลักจากกินเสร็จรีบพากันเข้านอนเพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางไปกาญจนบุรีแต่เช้า พวกเรานัด07.00 เพราะแม่เพื่อนจะมารับไปที่สถานีรถไฟ หนองปลาดุก
เช้าวันที่ 14 พวกเราออกเดินทางไปสถานีรถไฟ ประมาณ7โมงกว่า ไปถึงสถานีรถไฟ8โมง หลังจากนั้น ไปหาซื้อตั่ว แต่พวกเราโชคดี มีรถไฟฟรีออก09.30แค่ไปรับตั๋วก็ออกเดินทางไปได้เลยพวกเราก็นั่งรอรถไฟ และคุยเล่นกันไปเรื่อยเปื่อย เรื่องกินอยู่ดี พวกเรายังพูดกันว่าทริปนี้ดีจังเลย ค่ากินทุกอย่าง อาหารเช้า เย็น เสบียง ที่จะไปกาญแม่เพื่อนจัดการให้ทุกอย่างไม่เสียสักบาทเลย
พอ9โมงพวกเราก็ขึ้นรถไฟพวกเราเฮฮาปาตี้มากคือมันเป็นเรื่องที่สนุกสนานเพราะได้นั่งไปด้วยกันบางคนเป็นครั้งแรกที่ได้นั่งรถไฟไปไกลๆ ระหว่างได้ครึ่งทาง พวกเราเริ่มหิวข้าว ก็พากันกินข้าว คือหมูปิ้ง 100 ไม้ ที่แม่เพื่อนซื้อมา คือในตอนมันสนุกมาก ข้างทางมีอะไรให้เราดูตลอดเลย ทั้งภูเขา ป่าไม้ พอใกล้ถึงจ.กาญจนบุรี ยิ่งตื่นเต้นเลย ข้ามทางรถไฟที่เป็นไม้หรือเรียกว่าทางรถไฟสายมรณะ มองเห็นน้ำตกไทรโยก มองเห็นคนมากมายที่เดินถ่ายรูปมองเห็นที่พักที่เราจองไว้มันสวยมากกกพอถึงก็ลงไปนั่งเรือที่บ้านพักมารับ มันโคตรสนุกไปอีก แต่เรารู้สึกว่าน้ำมันเชี่ยวน่ะ หลังจากนั้นเราไปเช็คอิน พนักงานก็บอกว่า บ่ายสามโมงครึ่ง มีทริปล่องแพ คนล่ะ200 บาท ใครจะเล่นก็โทรหาพี่ก่อนบ่ายสามน่ะ พนักงานบอกว่ามีสตาฟพาเล่นคอยดูแลให้ไม่ต้องกังวล พวกเราก็ดีใจกันใหญ่มีสตาฟคอยดูแลไม่กังวลอะไร
พอเข้าบ้านพักเราก็ลงเล่นน้ำกัน บางคนก็ลง บางคนไม่กล้าลง แต่สำหรับเราแล้ว กล้าๆกลัวๆ เพราะน้ำเชี่ยวมากตรงที่เราพักอยู่แต่ทุกคนที่ลงคือใส่เสื้อชูชีพกันทั้งหมด พวกเราเล่นกันแค่ขอบๆ มีอยู่ครั้งหนึ่ง เพื่อนๆพากันจับมือ เล่นน้ำกัน แล้วเพื่อนสามคนหลุดไปเกือบกลางแม่น้ำ แต่ดีเพื่อนว่ายไปช่วย รอดไปครั้งนี้ พอใกล้บ่าย3พวกเราก็โทรหาพี่เขา และพวกเราตัดสินล่องกัน9คน เหลือ5 คนที่ไม่ล่อง ที่เหลือก็ต่างมีเหตุผล ของตนเอง คนหนึ่งกำลังง่อนกับแฟน อีกคนก็กลัวน้ำ พนักงานก็มาเก็บเงิน พอบ่ายสี่โมง เพื่อน4คนอยากไปด้วย เพื่อนเราก็เลยบอก ว่าขอไปด้วยค่อยจ่ายเงินทีหลัง 3คนที่อยู่บนเรือหรือเรียกว่าสตาฟก็โอเค สี่โมงสตาฟก็เอาเรือพูกกับแพที่เป็นไม้ไพ่มารับพวกเราในแพมีทั้งหมด20คน รวมพี่ๆกรุ๊ปอื่นที่อยู่ข้างๆบ้านพักเรา เรือลากไปประมาณสองกิโลเมตรแล้วบอกให้เราลอยน้ำกลับที่พักตอนนั้นก็ไม่กล้าลงเท่าไหร่เพราะว่ายน้ำเป็นไม่กี่คนผุ้ชายที่ไปล่องด้วยคือเพื่อนเรามี4คนว่ายเป็นทั้งหมด3คนส่วนผุ้หญิงที่เป็นเพื่อนเราว่ายเป็น2คนแหละพี่ๆที่มาด้วยเขาว่ายเป็นกันหมดพวกเราที่ว่ายไม่เป็นก็สบายใจแต่แอบกลัวๆแต่พี่ๆผู้หญิงที่มากับพวกเรา ก็จับมือพวกเราลงไปเล่นน้ำด้วย พอลงไปก็สนุกดี น้ำลึก แต่ไม่เชี่ยวเท่าไหร่ พอไปถึงทางโค้ง น้ำก็ตื่นสามารถยืนได้ เพื่อนที่จับมือเราอีก2คนก็บออยากให้สตาฟพาเราเล่นอีกสองรอบได้ไหม สนุกดี ว่ะ เราก็เออออกันเพราะมันสนุกจริงพอใกล้ถึงฝั่งอีก100เมตรเราสามคนที่จับมือกันก็ว่ายเข้าข้างๆฝั่งเตรียมเข้าฝั่งและจะไปจับมือเพื่อนที่ว่ายน้ำเป็นตอนนั้นเราจับมือกัน5คนเเต่ว่ายเป็นเเค่คนเดียวส่วนที่เหลือก็ตามเรามาติดๆ พอเริ่มเข้าใกล้ที่พัก น้ำเชี่ยวมากกกก คนที่อยู่ด้านหน้าคนแรกคือคนที่ว่ายน้ำเป็น กำลังจะเอามือคว้าจับเหล็กที่ติดกับบ้านพัก แต่จับไม่ได้ในตอนนั้นเราลุ้นมาก เพราะเหลือแค่เหล็กสุดท้ายแล้วตอนนั้นที่เราจะคว้าจับไว้ น้ำก็เชี่ยวมากพัดเราอย่างรวดเร็วไปถึงเหล็กสุดท้าย เพื่อนเราก็จับแล้วหลุดมือ จากนั้นไม่ถึงวินาทีลุงที่อยู่หัวกำลังจอดเรือให้นิ่ง ลุงตะโกนมาด้วยเสียง **อย่าเข้ามาในท้องเรือน่ะ ได้ยินซ้ำสองรอบ ตอนนั้นต่างคนก็ปล่อยมือ ตอนไหนไม่รุ้ เราได้ยินเสียงลุงอีกครั้ง **สวยแล้วกู ** และเสียงเพื่อนผุ้ชายพูด ใครเข้าไปท้องเรือว่ะ ในตอนเราไปจับคว้าเรือไว้ทั้งเรือทั้งแพคือหนีบหัวเรา เราเกือบหลลุดไปในท้องเรือ ลุงเห็นเราจับได้ แต่คือ,,ยืนดูเรา แล้วหายไป/ในตอนนั้นเหนื่อยมาก จับไม่ไหวแล้ว แต่มองขึ้นไปบนเรือ เห็นเพื่อนสองคนสำลักน้ำแล้วเรายังไม่ได้ขึ้นเลยแล้วมีเพื่อนมาช่วยดึงเราขึ้นไปในตอนนั้นเหนื่อยมาก พอขึ้นกันทุกคนถึงรู้ว่าเพื่อน เข้าไปในท้องเรือ2คนต่อไปขอให้เพื่อนทีเข้าไปเล่าต่อน่ะ ***เราที่เข้าท้องเรือน่ะ ความรู้สึกตอนนั้นคือเราจำเพื่อนที่จับมือไม่ได้ว่าเราปล่อบมือกันตอนไหนตินเเรกต่อก็ดันตัวเองเพื่จะให้ขึ้นเรือได้เเต่มันก้สู้เเรงน้ำไม่ไหวเพราะน้ำมันเชี่ยวมาก ได้ยินเสียงสุดท้ายของคนที่ขับเรือบอกว่าระวังๆท้องเรือเเต่มันก้ไม่ทันเเล้วได้ยินเสียงนี้เเค่สามครั้งเราก้เข้าไปเเล้วคือตอนนั้นมันเร็วมากจริงๆ ตอนเข้าไปคิดว่าตัวเองไม่รอดล่ะเหมือนจะตายเเต่ก็พยามยามจะช่วยให้ตัวเองออกมาให้ได้เพนาะว่าในท้องเรือมีหางเสือหรือใบพัดเรือสุดท้ายก็ออกมาได้ตอนนั้นตั้งสติได้คือจับเรือไว้เเล้วเรียกให้เจ้าของเรือมาช่วยความรู้สึกมันเหนือยมากกว่าจะขึ้นมาได้พอขึ้นมาได้หน้าซีดไม่ไหวล่ะเหมือนจะเป็นลมส่วนเพื่อนอีกคนที่เข้าไปด้วยตอนที่ขึ้นมาได้เพื่อนคนนั่นเล่าว่าเค้าคงไม่รอดล่ะ เพราะเค้าสั่งเสียเเล้วเพื่อนบอกว่าเค้านึกถึงพ่อเเม่เค้าเพื่อนบอกตอนนั้นเค้าเหมือนจะตายล่ะตอนที่เห็นเพื่อนตอนนั้นคิดว่าเพื่อนตายแล้ว แต่ในความโชคร้ายในความโชคดีนั้นมีเพื่อนวิ่งเข้ามาช่วยทัน
หลังจากนั้นมีเพื่อนคนทีตามมาทีหลัง เพราะว่ามีเพื่อนคนนึงได้ยินเสียงผู้หญิงร้องเรียกว่า"รอด้วยค่ะ" จากนั้นเพื่อนก็หยุดดูว่าใครเรียก ทำให้เพื่อน3คนนี้มาช้ากว่าพวกเราดีที่1ใน3คนนี้มีคนนึงที่ว่ายน้ำเป็นก็ช่วยๆกันพาขึ้นฝั่ง เพื่อนอีกคนเลยไปถามลุงว่า เคยเกิดเหตุการณ์นี้ไหมลุง ลุงแกตอบว่ามีเยอะ แต่ก็ปล่อยให้ไหลตามสายน้ำไปถ้าหากหลุดออกจากท้องเรือแล้ว คือแบบปล่อยให้คนตายง่ายๆอย่างนี้เลยหรอ ทั้งคืนวันนั้นพวกเราอยากกลับบ้านมากๆแต่ก็มืดมาก แม้แต่ทางรถไฟก็ไม่มีไฟเลยในคืนนั้นมันัเงียบวังเวงเหงามากแม้แต่เสียงลมยังไม่มีเลย พอรุ่งเช้าเราก็บ้านโดยรถโดยสารเหมา เพราะพวกเราไม่อยากข้ามเรือไม่อยากนั่งรถไฟแล้ว มันรุ้สึกไม่ปลอดภัยมันระแวงอยู่ตลอดเวลา
ถึงแม้วันนี้ทุกคนจะกลับบ้านแล้วแต่จิตยังผูกไว้ที่นั้น ขวัญเรามันยังไม่กลับมาเลย เจอหน้ากันทีไรก็เล่าเรื่องนี้ ว่าเกือบตายไปแล้ว ที่เล่ามาทั้งหมดอยากเตือนใจทุกคนที่ตัดสินใจไปล่องแพเพราะมันอันตรายอย่างที่เราคาดไม่ถึงเลย คนที่กลัวๆไม่ควรไปสถานที่แห่งนี้เด็ดขาดเลย คนที่ว่ายน้ำไม่เป็นก็อย่าลงน้ำเลย เพราะน้ำเชี่ยวมากถึงมีที่จับก็เอาไม่อยู่ ที่ตรงนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายคนตายหลายร้อยคนทุกคนคงจะรู้น่ะ มันวังเวงมากตอนกลางคืน ที่เขาบอกมีสตาฟไปเล่นด้วยคอยดูแลอย่าเพิ่งเชื่อเขาเด็ดขาดเลย ก่อนไปควรศึกษาสถานที่ให้ดีก่อน ว่าสถานที่นั้นมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง จบอันซีนไทยแลนด์
เชียดตายที่แม่น้ำแขวรถไฟสายมรณะ
เริ่มเลยน่ะ วันใกล้สอบเสร็จ พวกเราเพื่อนกัน15คน คุยกันไปเที่ยว เลือกทริปไปกาญจนบุรีทุกคนตัดสินใจที่จะไปที่นี้ หลังจากนั้นก็พากันหาที่พัก เพื่อนคนหนึ่งอาสาหาที่พักได้มา5ที พวกเราเลือกที่สะดวกที่สุด ที่ติดกับสายน้ำจะได้กระโดดลงน้ำได้ พวกเราตัดสินใจจองที่นี้ จองเข้าพักวันที่13 มีนาคม 2560 บ้านที่อยู่ตรงข้ามรถไฟสายมรณะ(ขอไม่เอ๋ยชื่อ
วันที่10 หลังสอบ ต่างคนแยกย้ายกลับหอพัก วันที่13เวลา14.00 พวกเรานัดกันเจอกันที่บ้านเพื่อนอยู่จรัญ เพราะแม่เพื่อนจะมารับไปพักที่ราชบุรีก่อน1คืน
บ่ายสองพวกเรานั่งรถกระบะไปราชรี ถึงประมาณบ่าย4โมงทุกคนแยกย้ายเอากระเป๋า ขึ้นบนบ้าน พวกเราทำหมูกระทะกิน เปิดเพลงสนุกสนาน หลักจากกินเสร็จรีบพากันเข้านอนเพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางไปกาญจนบุรีแต่เช้า พวกเรานัด07.00 เพราะแม่เพื่อนจะมารับไปที่สถานีรถไฟ หนองปลาดุก
เช้าวันที่ 14 พวกเราออกเดินทางไปสถานีรถไฟ ประมาณ7โมงกว่า ไปถึงสถานีรถไฟ8โมง หลังจากนั้น ไปหาซื้อตั่ว แต่พวกเราโชคดี มีรถไฟฟรีออก09.30แค่ไปรับตั๋วก็ออกเดินทางไปได้เลยพวกเราก็นั่งรอรถไฟ และคุยเล่นกันไปเรื่อยเปื่อย เรื่องกินอยู่ดี พวกเรายังพูดกันว่าทริปนี้ดีจังเลย ค่ากินทุกอย่าง อาหารเช้า เย็น เสบียง ที่จะไปกาญแม่เพื่อนจัดการให้ทุกอย่างไม่เสียสักบาทเลย
พอ9โมงพวกเราก็ขึ้นรถไฟพวกเราเฮฮาปาตี้มากคือมันเป็นเรื่องที่สนุกสนานเพราะได้นั่งไปด้วยกันบางคนเป็นครั้งแรกที่ได้นั่งรถไฟไปไกลๆ ระหว่างได้ครึ่งทาง พวกเราเริ่มหิวข้าว ก็พากันกินข้าว คือหมูปิ้ง 100 ไม้ ที่แม่เพื่อนซื้อมา คือในตอนมันสนุกมาก ข้างทางมีอะไรให้เราดูตลอดเลย ทั้งภูเขา ป่าไม้ พอใกล้ถึงจ.กาญจนบุรี ยิ่งตื่นเต้นเลย ข้ามทางรถไฟที่เป็นไม้หรือเรียกว่าทางรถไฟสายมรณะ มองเห็นน้ำตกไทรโยก มองเห็นคนมากมายที่เดินถ่ายรูปมองเห็นที่พักที่เราจองไว้มันสวยมากกกพอถึงก็ลงไปนั่งเรือที่บ้านพักมารับ มันโคตรสนุกไปอีก แต่เรารู้สึกว่าน้ำมันเชี่ยวน่ะ หลังจากนั้นเราไปเช็คอิน พนักงานก็บอกว่า บ่ายสามโมงครึ่ง มีทริปล่องแพ คนล่ะ200 บาท ใครจะเล่นก็โทรหาพี่ก่อนบ่ายสามน่ะ พนักงานบอกว่ามีสตาฟพาเล่นคอยดูแลให้ไม่ต้องกังวล พวกเราก็ดีใจกันใหญ่มีสตาฟคอยดูแลไม่กังวลอะไร
พอเข้าบ้านพักเราก็ลงเล่นน้ำกัน บางคนก็ลง บางคนไม่กล้าลง แต่สำหรับเราแล้ว กล้าๆกลัวๆ เพราะน้ำเชี่ยวมากตรงที่เราพักอยู่แต่ทุกคนที่ลงคือใส่เสื้อชูชีพกันทั้งหมด พวกเราเล่นกันแค่ขอบๆ มีอยู่ครั้งหนึ่ง เพื่อนๆพากันจับมือ เล่นน้ำกัน แล้วเพื่อนสามคนหลุดไปเกือบกลางแม่น้ำ แต่ดีเพื่อนว่ายไปช่วย รอดไปครั้งนี้ พอใกล้บ่าย3พวกเราก็โทรหาพี่เขา และพวกเราตัดสินล่องกัน9คน เหลือ5 คนที่ไม่ล่อง ที่เหลือก็ต่างมีเหตุผล ของตนเอง คนหนึ่งกำลังง่อนกับแฟน อีกคนก็กลัวน้ำ พนักงานก็มาเก็บเงิน พอบ่ายสี่โมง เพื่อน4คนอยากไปด้วย เพื่อนเราก็เลยบอก ว่าขอไปด้วยค่อยจ่ายเงินทีหลัง 3คนที่อยู่บนเรือหรือเรียกว่าสตาฟก็โอเค สี่โมงสตาฟก็เอาเรือพูกกับแพที่เป็นไม้ไพ่มารับพวกเราในแพมีทั้งหมด20คน รวมพี่ๆกรุ๊ปอื่นที่อยู่ข้างๆบ้านพักเรา เรือลากไปประมาณสองกิโลเมตรแล้วบอกให้เราลอยน้ำกลับที่พักตอนนั้นก็ไม่กล้าลงเท่าไหร่เพราะว่ายน้ำเป็นไม่กี่คนผุ้ชายที่ไปล่องด้วยคือเพื่อนเรามี4คนว่ายเป็นทั้งหมด3คนส่วนผุ้หญิงที่เป็นเพื่อนเราว่ายเป็น2คนแหละพี่ๆที่มาด้วยเขาว่ายเป็นกันหมดพวกเราที่ว่ายไม่เป็นก็สบายใจแต่แอบกลัวๆแต่พี่ๆผู้หญิงที่มากับพวกเรา ก็จับมือพวกเราลงไปเล่นน้ำด้วย พอลงไปก็สนุกดี น้ำลึก แต่ไม่เชี่ยวเท่าไหร่ พอไปถึงทางโค้ง น้ำก็ตื่นสามารถยืนได้ เพื่อนที่จับมือเราอีก2คนก็บออยากให้สตาฟพาเราเล่นอีกสองรอบได้ไหม สนุกดี ว่ะ เราก็เออออกันเพราะมันสนุกจริงพอใกล้ถึงฝั่งอีก100เมตรเราสามคนที่จับมือกันก็ว่ายเข้าข้างๆฝั่งเตรียมเข้าฝั่งและจะไปจับมือเพื่อนที่ว่ายน้ำเป็นตอนนั้นเราจับมือกัน5คนเเต่ว่ายเป็นเเค่คนเดียวส่วนที่เหลือก็ตามเรามาติดๆ พอเริ่มเข้าใกล้ที่พัก น้ำเชี่ยวมากกกก คนที่อยู่ด้านหน้าคนแรกคือคนที่ว่ายน้ำเป็น กำลังจะเอามือคว้าจับเหล็กที่ติดกับบ้านพัก แต่จับไม่ได้ในตอนนั้นเราลุ้นมาก เพราะเหลือแค่เหล็กสุดท้ายแล้วตอนนั้นที่เราจะคว้าจับไว้ น้ำก็เชี่ยวมากพัดเราอย่างรวดเร็วไปถึงเหล็กสุดท้าย เพื่อนเราก็จับแล้วหลุดมือ จากนั้นไม่ถึงวินาทีลุงที่อยู่หัวกำลังจอดเรือให้นิ่ง ลุงตะโกนมาด้วยเสียง **อย่าเข้ามาในท้องเรือน่ะ ได้ยินซ้ำสองรอบ ตอนนั้นต่างคนก็ปล่อยมือ ตอนไหนไม่รุ้ เราได้ยินเสียงลุงอีกครั้ง **สวยแล้วกู ** และเสียงเพื่อนผุ้ชายพูด ใครเข้าไปท้องเรือว่ะ ในตอนเราไปจับคว้าเรือไว้ทั้งเรือทั้งแพคือหนีบหัวเรา เราเกือบหลลุดไปในท้องเรือ ลุงเห็นเราจับได้ แต่คือ,,ยืนดูเรา แล้วหายไป/ในตอนนั้นเหนื่อยมาก จับไม่ไหวแล้ว แต่มองขึ้นไปบนเรือ เห็นเพื่อนสองคนสำลักน้ำแล้วเรายังไม่ได้ขึ้นเลยแล้วมีเพื่อนมาช่วยดึงเราขึ้นไปในตอนนั้นเหนื่อยมาก พอขึ้นกันทุกคนถึงรู้ว่าเพื่อน เข้าไปในท้องเรือ2คนต่อไปขอให้เพื่อนทีเข้าไปเล่าต่อน่ะ ***เราที่เข้าท้องเรือน่ะ ความรู้สึกตอนนั้นคือเราจำเพื่อนที่จับมือไม่ได้ว่าเราปล่อบมือกันตอนไหนตินเเรกต่อก็ดันตัวเองเพื่จะให้ขึ้นเรือได้เเต่มันก้สู้เเรงน้ำไม่ไหวเพราะน้ำมันเชี่ยวมาก ได้ยินเสียงสุดท้ายของคนที่ขับเรือบอกว่าระวังๆท้องเรือเเต่มันก้ไม่ทันเเล้วได้ยินเสียงนี้เเค่สามครั้งเราก้เข้าไปเเล้วคือตอนนั้นมันเร็วมากจริงๆ ตอนเข้าไปคิดว่าตัวเองไม่รอดล่ะเหมือนจะตายเเต่ก็พยามยามจะช่วยให้ตัวเองออกมาให้ได้เพนาะว่าในท้องเรือมีหางเสือหรือใบพัดเรือสุดท้ายก็ออกมาได้ตอนนั้นตั้งสติได้คือจับเรือไว้เเล้วเรียกให้เจ้าของเรือมาช่วยความรู้สึกมันเหนือยมากกว่าจะขึ้นมาได้พอขึ้นมาได้หน้าซีดไม่ไหวล่ะเหมือนจะเป็นลมส่วนเพื่อนอีกคนที่เข้าไปด้วยตอนที่ขึ้นมาได้เพื่อนคนนั่นเล่าว่าเค้าคงไม่รอดล่ะ เพราะเค้าสั่งเสียเเล้วเพื่อนบอกว่าเค้านึกถึงพ่อเเม่เค้าเพื่อนบอกตอนนั้นเค้าเหมือนจะตายล่ะตอนที่เห็นเพื่อนตอนนั้นคิดว่าเพื่อนตายแล้ว แต่ในความโชคร้ายในความโชคดีนั้นมีเพื่อนวิ่งเข้ามาช่วยทัน
หลังจากนั้นมีเพื่อนคนทีตามมาทีหลัง เพราะว่ามีเพื่อนคนนึงได้ยินเสียงผู้หญิงร้องเรียกว่า"รอด้วยค่ะ" จากนั้นเพื่อนก็หยุดดูว่าใครเรียก ทำให้เพื่อน3คนนี้มาช้ากว่าพวกเราดีที่1ใน3คนนี้มีคนนึงที่ว่ายน้ำเป็นก็ช่วยๆกันพาขึ้นฝั่ง เพื่อนอีกคนเลยไปถามลุงว่า เคยเกิดเหตุการณ์นี้ไหมลุง ลุงแกตอบว่ามีเยอะ แต่ก็ปล่อยให้ไหลตามสายน้ำไปถ้าหากหลุดออกจากท้องเรือแล้ว คือแบบปล่อยให้คนตายง่ายๆอย่างนี้เลยหรอ ทั้งคืนวันนั้นพวกเราอยากกลับบ้านมากๆแต่ก็มืดมาก แม้แต่ทางรถไฟก็ไม่มีไฟเลยในคืนนั้นมันัเงียบวังเวงเหงามากแม้แต่เสียงลมยังไม่มีเลย พอรุ่งเช้าเราก็บ้านโดยรถโดยสารเหมา เพราะพวกเราไม่อยากข้ามเรือไม่อยากนั่งรถไฟแล้ว มันรุ้สึกไม่ปลอดภัยมันระแวงอยู่ตลอดเวลา
ถึงแม้วันนี้ทุกคนจะกลับบ้านแล้วแต่จิตยังผูกไว้ที่นั้น ขวัญเรามันยังไม่กลับมาเลย เจอหน้ากันทีไรก็เล่าเรื่องนี้ ว่าเกือบตายไปแล้ว ที่เล่ามาทั้งหมดอยากเตือนใจทุกคนที่ตัดสินใจไปล่องแพเพราะมันอันตรายอย่างที่เราคาดไม่ถึงเลย คนที่กลัวๆไม่ควรไปสถานที่แห่งนี้เด็ดขาดเลย คนที่ว่ายน้ำไม่เป็นก็อย่าลงน้ำเลย เพราะน้ำเชี่ยวมากถึงมีที่จับก็เอาไม่อยู่ ที่ตรงนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายคนตายหลายร้อยคนทุกคนคงจะรู้น่ะ มันวังเวงมากตอนกลางคืน ที่เขาบอกมีสตาฟไปเล่นด้วยคอยดูแลอย่าเพิ่งเชื่อเขาเด็ดขาดเลย ก่อนไปควรศึกษาสถานที่ให้ดีก่อน ว่าสถานที่นั้นมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง จบอันซีนไทยแลนด์