
อดีตนางแบบชื่อดัง "ยู่ยี่ อลิสา" หรือชื่อจริง นางชัชชญา เกวสต้า รามอส วัย 40 ปีเดินทางมายังศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ในวันนี้ ( 15 มี.ค.2560) เพื่อฟังคำพิพากษาฎีกา ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด1 เป็นโจทก์ฟ้องเธอเป็นจำเลย ในความผิดฐานนำเข้ามาในราชอาณาจักรและมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
.
.
โดยคดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่า จำเลยได้นำโคคาอีนไฮโดรคลอไรด์ (โคเคน) ซึ่งเป็นยาเสพติดประเภท 2 เข้ามาในราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 10 พ.ย.2555 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ประจำสนามบินดอนเมือง ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จำเลยจะนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศ เมื่อพบจำเลยเดินทางมายังอาคารผู้โดยสารขาเข้า มีท่าทางพิรุธจึงขอค้นตัวพบโคคาอีน ซึ่งเป็นยาเสพติดประเภท 2 จำนวน 5 มิลลิกรัม ในกระเป๋าเดินทาง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหานำเข้ามาในราชอาณาจักรและมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 ไว้ในครองครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
.
ซึ่งการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522, พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2528 มาตรา 4, พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2545, ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 135 (พ.ศ.2539) เรื่องระบุชื่อและประเภทยาเสพติดให้โทษตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ โดยท้ายคำฟ้องอัยการโจทก์ ขอให้ศาลบวกโทษตามความผิดคดีลักลอบมีสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่ศาลจังหวัดมีนบุรีมีคำพิพากษาในคดีแดงที่ 2366/2555 ลงโทษจำคุก 3 เดือน ปรับ 2,000 บาท เข้ากับโทษในคดีนี้ด้วย โดยจำเลยให้การปฏิเสธสู้คดี
.
.
ซึ่งคดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจำคุก "ยู่ยี่" เป็นเวลา 15 ปี ในคดีนำเข้าและครอบครองโคเคน บวกโทษคดีเก่าลักลอบมีสัตว์ป่าอีก 3 เดือน พร้อมปรับ 1.5 ล้านบาท ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น กระทั่งวันนี้ ( 15 มี.ค.2560) ศาลฎีกามีคำพิพากษา ไม่รับคำร้องฎีกาของจำเลย โดยให้ลงโทษตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และให้คดีถึงที่สุด :-สำนักข่าวไทย
cr..NineEntertain
ศาลฎีกา ยกคำร้องฎีกา "ยู่ยี่" คดีนำเข้า-ครอบครองโคเคน พิพากษายืนศาลอุทธรณ์ จำคุก 15 ปีปรับ 1.5 ล้านบาท
อดีตนางแบบชื่อดัง "ยู่ยี่ อลิสา" หรือชื่อจริง นางชัชชญา เกวสต้า รามอส วัย 40 ปีเดินทางมายังศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ในวันนี้ ( 15 มี.ค.2560) เพื่อฟังคำพิพากษาฎีกา ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด1 เป็นโจทก์ฟ้องเธอเป็นจำเลย ในความผิดฐานนำเข้ามาในราชอาณาจักรและมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
.
.
โดยคดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่า จำเลยได้นำโคคาอีนไฮโดรคลอไรด์ (โคเคน) ซึ่งเป็นยาเสพติดประเภท 2 เข้ามาในราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 10 พ.ย.2555 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ประจำสนามบินดอนเมือง ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จำเลยจะนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศ เมื่อพบจำเลยเดินทางมายังอาคารผู้โดยสารขาเข้า มีท่าทางพิรุธจึงขอค้นตัวพบโคคาอีน ซึ่งเป็นยาเสพติดประเภท 2 จำนวน 5 มิลลิกรัม ในกระเป๋าเดินทาง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหานำเข้ามาในราชอาณาจักรและมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 ไว้ในครองครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
.
ซึ่งการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522, พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2528 มาตรา 4, พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2545, ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 135 (พ.ศ.2539) เรื่องระบุชื่อและประเภทยาเสพติดให้โทษตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ โดยท้ายคำฟ้องอัยการโจทก์ ขอให้ศาลบวกโทษตามความผิดคดีลักลอบมีสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่ศาลจังหวัดมีนบุรีมีคำพิพากษาในคดีแดงที่ 2366/2555 ลงโทษจำคุก 3 เดือน ปรับ 2,000 บาท เข้ากับโทษในคดีนี้ด้วย โดยจำเลยให้การปฏิเสธสู้คดี
.
.
ซึ่งคดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจำคุก "ยู่ยี่" เป็นเวลา 15 ปี ในคดีนำเข้าและครอบครองโคเคน บวกโทษคดีเก่าลักลอบมีสัตว์ป่าอีก 3 เดือน พร้อมปรับ 1.5 ล้านบาท ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น กระทั่งวันนี้ ( 15 มี.ค.2560) ศาลฎีกามีคำพิพากษา ไม่รับคำร้องฎีกาของจำเลย โดยให้ลงโทษตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และให้คดีถึงที่สุด :-สำนักข่าวไทย
cr..NineEntertain