สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ มีใครปลูกโกจิเบอร์รี่ แล้วได้ทานผลกันแล้วบ้างค่ะ มาแชร์ประสบการณ์กันค่ะ โกจิเบอร์รี่มีหลายสายพันธุ์ด้วยกัน สายพันธุ์ที่เจ้าของกระทู้ปลูกเป็นสายพันธุ์ตุรกีค่ะ สามารถปลูกในเมืองร้อนได้
11 สรรพคุณของโกจิเบอร์รี (เก๋ากี้) ประโยชน์ดูแลสุขภาพ
1. ประโยชน์ของโกจิเบอร์รี (เก๋ากี้) มากสารอาหารสรรพคุณ อาทิ ประกอบด้วยกรดอะมิโน 19 ชนิด มีวิตามิน บี 1 บี 2 บี 6 มีวิตามินซีสูงกว่าส้ม 500 เท่า โดยเป็นพืชที่มีวิตามินซีสูงเป็นอันดับสอง รองจากคามูเบอร์รี่ มีวิตามินอี มีแร่ธาตุสำคัญที่ร่างกายต้องการ ได้แก่ เหล็ก สังกะสี ทองแดง แคลเซียม ซิลีเนียม ฟอสฟอรัส และเจอร์มาเนียม ฯลฯ
2. โกจิเบอร์รี (เก๋ากี้) มีสารโพลีแซคคาไรด์ 4 ชนิด คือ LBP-1, LBP-2, LBP-3, LBP-4 ที่ช่วยฟื้นฟูสภาพเซลล์ที่ถูกทำลายจากสารเคมีหรือรังสีให้กลับสู่ปกติได้เร็วขึ้น ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายอยู่ในภาวะสมดุล ช่วยปรับความดันโลหิตให้เป็นปกติ ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลินอยู่ในภาวะสมดุล
3. โกจิเบอร์รี (เก๋ากี้) มีสารซิแซนทิน (Zeaxanthin) สูงถึง 162 มิลลิกรัม/100 กรัม ซึ่งถือว่าสูงกว่าสาหร่ายเกลียวทองถึง 5 เท่า จึงช่วยบำรุงสายตา และป้องกันแสงสีน้ำเงินที่ทำลายดวงตา ทำให้ผู้ที่มีอาการตาพร่ามัว เป็นต้อลม คืนสู่สภาพปกติ
4. โกจิเบอร์รี (เก๋ากี้) มีสารเจอร์มาเนียม (Germanium) ที่อยู่ในสภาพอินทรีย์ หรือออร์แกนิคที่ช่วยฆ่าเซลล์มะเร็งได้ นอกจากนี้โกจิเบอร์รี่ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่เกิดการอักเสบ ปกป้องเซลล์จากความเสื่อม และป้องกันการเกิดเนื้องอกได้
5. โกจิเบอร์รี (เก๋ากี้) มีสารเบต้า-ไซโตสเตอรอล (Beta-sitosterol) ช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ ทั้งยังช่วยให้อสุจิแข็งแรง ลดอาการต่อมลูกหมากโต
6. โกจิเบอร์รี (เก๋ากี้) มีสารบีเทน (Betaine) เป็นสารประกอบที่ตับใช้ผลิตโคลีน ช่วยป้องกันโรคตับ กระตุ้นให้กล้ามเนื้อเจริญเติบโต
7. โกจิเบอร์รี (เก๋ากี้) มีสารไซเพอโรน (Cyperone) ทำให้หัวใจและความดันทำงานปกติ
8. โกจิเบอร์รี (เก๋ากี้) มีสารไฟซาลิน (Physalin) มีฤทธิ์ช่วยกำจัดโรคลิวคีเมีย (Leukemia)
9. โกจิเบอร์รี (เก๋ากี้) มีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) สูง และมีประสิทธิภาพมากกว่าผักและผลไม้อื่นๆ ช่วยปกป้องและรักษาผิวจากรังสียูวีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
10. ประโยชน์ของโกจิเบอร์รี (เก๋ากี้) ช่วยลดน้ำหนักได้ เพราะโกจิเบอร์รีช่วยเปลี่ยนอาหารที่กินเข้าไปให้เป็นพลังงานแทนไขมัน
11. สรรพคุณของโกจิเบอร์รี (เก๋ากี้) นับเป็นซูเปอร์ฟู้ดชนิดหนึ่ง เพราะให้พลังงานกับร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม โกจิเบอร์รีมีรสหวานจากกลูโคส และมีไฟเบอร์สูง จึงช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ เราจึงไม่รู้สึกอยากกินจุบจิบ ส่วนไฟเบอร์ทำให้รู้สึกอิ่มได้นานขึ้น ลดความอยากอาหารที่จะกินในมื้อต่อไป
โดยสรรพคุณและประโยชน์ของโกจิเบอร์รี (เก๋ากี้) ปกติแล้วคนจีนจะนิยมใส่โกจิเบอร์รีลงไปใส่ในชาหรือซุป แต่ทุกวันนี้เราจะเห็นโกจิเบอร์รีในแบบอบแห้งมากกว่าผลสด การกินจึงต้องนำไปแช่หรือผสมในอาหารที่เป็นน้ำ อย่างชา น้ำผลไม้ปั่น หรือจะกินเล่นๆ เป็นของว่าง ผสมกับสลัด โยเกิร์ต ขนมปัง ซีเรียล ก็ได้ตามความชอบ หรือจะดื่มน้ำโกจิเบอร์รีสำเร็จรูปก็ได้เช่นกัน
ที่มา :
http://sukkaphap-d.com/
การปลูกในกระถางจะออกลูกน้อยมาก หรืออาจมีแต่ดอกแล้วก็ร่วงค่ะ เป็นเพราะต้นต้องสะสมอาหารในกิ่งให้มากพอ การปลูกให้เห็นผลแนะนำให้ลงดินนะคะ
[CR] มาปลูกโกจิเบอร์รี่ (เก๋ากี้) กัน
11 สรรพคุณของโกจิเบอร์รี (เก๋ากี้) ประโยชน์ดูแลสุขภาพ
1. ประโยชน์ของโกจิเบอร์รี (เก๋ากี้) มากสารอาหารสรรพคุณ อาทิ ประกอบด้วยกรดอะมิโน 19 ชนิด มีวิตามิน บี 1 บี 2 บี 6 มีวิตามินซีสูงกว่าส้ม 500 เท่า โดยเป็นพืชที่มีวิตามินซีสูงเป็นอันดับสอง รองจากคามูเบอร์รี่ มีวิตามินอี มีแร่ธาตุสำคัญที่ร่างกายต้องการ ได้แก่ เหล็ก สังกะสี ทองแดง แคลเซียม ซิลีเนียม ฟอสฟอรัส และเจอร์มาเนียม ฯลฯ
2. โกจิเบอร์รี (เก๋ากี้) มีสารโพลีแซคคาไรด์ 4 ชนิด คือ LBP-1, LBP-2, LBP-3, LBP-4 ที่ช่วยฟื้นฟูสภาพเซลล์ที่ถูกทำลายจากสารเคมีหรือรังสีให้กลับสู่ปกติได้เร็วขึ้น ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายอยู่ในภาวะสมดุล ช่วยปรับความดันโลหิตให้เป็นปกติ ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลินอยู่ในภาวะสมดุล
3. โกจิเบอร์รี (เก๋ากี้) มีสารซิแซนทิน (Zeaxanthin) สูงถึง 162 มิลลิกรัม/100 กรัม ซึ่งถือว่าสูงกว่าสาหร่ายเกลียวทองถึง 5 เท่า จึงช่วยบำรุงสายตา และป้องกันแสงสีน้ำเงินที่ทำลายดวงตา ทำให้ผู้ที่มีอาการตาพร่ามัว เป็นต้อลม คืนสู่สภาพปกติ
4. โกจิเบอร์รี (เก๋ากี้) มีสารเจอร์มาเนียม (Germanium) ที่อยู่ในสภาพอินทรีย์ หรือออร์แกนิคที่ช่วยฆ่าเซลล์มะเร็งได้ นอกจากนี้โกจิเบอร์รี่ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่เกิดการอักเสบ ปกป้องเซลล์จากความเสื่อม และป้องกันการเกิดเนื้องอกได้
5. โกจิเบอร์รี (เก๋ากี้) มีสารเบต้า-ไซโตสเตอรอล (Beta-sitosterol) ช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ ทั้งยังช่วยให้อสุจิแข็งแรง ลดอาการต่อมลูกหมากโต
6. โกจิเบอร์รี (เก๋ากี้) มีสารบีเทน (Betaine) เป็นสารประกอบที่ตับใช้ผลิตโคลีน ช่วยป้องกันโรคตับ กระตุ้นให้กล้ามเนื้อเจริญเติบโต
7. โกจิเบอร์รี (เก๋ากี้) มีสารไซเพอโรน (Cyperone) ทำให้หัวใจและความดันทำงานปกติ
8. โกจิเบอร์รี (เก๋ากี้) มีสารไฟซาลิน (Physalin) มีฤทธิ์ช่วยกำจัดโรคลิวคีเมีย (Leukemia)
9. โกจิเบอร์รี (เก๋ากี้) มีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) สูง และมีประสิทธิภาพมากกว่าผักและผลไม้อื่นๆ ช่วยปกป้องและรักษาผิวจากรังสียูวีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
10. ประโยชน์ของโกจิเบอร์รี (เก๋ากี้) ช่วยลดน้ำหนักได้ เพราะโกจิเบอร์รีช่วยเปลี่ยนอาหารที่กินเข้าไปให้เป็นพลังงานแทนไขมัน
11. สรรพคุณของโกจิเบอร์รี (เก๋ากี้) นับเป็นซูเปอร์ฟู้ดชนิดหนึ่ง เพราะให้พลังงานกับร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม โกจิเบอร์รีมีรสหวานจากกลูโคส และมีไฟเบอร์สูง จึงช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ เราจึงไม่รู้สึกอยากกินจุบจิบ ส่วนไฟเบอร์ทำให้รู้สึกอิ่มได้นานขึ้น ลดความอยากอาหารที่จะกินในมื้อต่อไป
โดยสรรพคุณและประโยชน์ของโกจิเบอร์รี (เก๋ากี้) ปกติแล้วคนจีนจะนิยมใส่โกจิเบอร์รีลงไปใส่ในชาหรือซุป แต่ทุกวันนี้เราจะเห็นโกจิเบอร์รีในแบบอบแห้งมากกว่าผลสด การกินจึงต้องนำไปแช่หรือผสมในอาหารที่เป็นน้ำ อย่างชา น้ำผลไม้ปั่น หรือจะกินเล่นๆ เป็นของว่าง ผสมกับสลัด โยเกิร์ต ขนมปัง ซีเรียล ก็ได้ตามความชอบ หรือจะดื่มน้ำโกจิเบอร์รีสำเร็จรูปก็ได้เช่นกัน
ที่มา : http://sukkaphap-d.com/
การปลูกในกระถางจะออกลูกน้อยมาก หรืออาจมีแต่ดอกแล้วก็ร่วงค่ะ เป็นเพราะต้นต้องสะสมอาหารในกิ่งให้มากพอ การปลูกให้เห็นผลแนะนำให้ลงดินนะคะ