JAPANESE GIRLS NEVER DIE วันนี้ในโรงภาพยนตร์ !
ชื่อเรื่องแบบโรมะจิ: Azumi Haruko wa Yukuefumei
ชื่อเรื่องภาษาญี่ปุ่น: アズミ・ハルコは行方不明
ผู้กำกับ: ไดโกะ มัทสึอิ
ผู้แต่ง: มาริโกะ ยามาอูจิ (นิยาย)
วันเข้าฉาย: 3 ธันวาคม 2016 (ประเทศญี่ปุ่น)
วันเข้าฉาย: 9 มีนาคม 2017
จัดจำหน่ายโดย: Phantom Film
ภาษา: ญี่ปุ่น
ประเทศ: ญี่ปุ่น
เรื่องย่อ
ฮารูโกะ เป็นพนักงานออฟฟิศสาวโสดวัย 27 ปี จู่ๆ วันหนึ่งเธอก็หายตัวไป เมื่อโปสเตอร์ประกาศคนหายรูปเธอปรากฏอยู่ทั่วทุกมุมเมืองเรื่องวุ่นๆก็เกิดขึ้นตามมา
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
1.หนังดัดแปลงมาจากนิยายเรื่อง Azumi Haruko wa Yukuefumei ของ มาริโกะ ยามาอูจิ (ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2013 โดยสำนักพิมพ์ Gentosha)
2.หนังปิดกล้องในวันที่ 2 ตุลาคม 2015
3.เป็นเวลานานถึง 7 ปีแล้ว นับจากที่นักแสดงสาว ยู อาโออิ ได้รับบทนำอย่างเต็มตัวในหนัง ตั้งแต่ตอนรับบทนำในเรื่อง One Million Yen and the Nigamushi Woman
+
Japanese Girls Never Die เป็นผลงานเรื่องใหม่ของ ไดโกะ มัทสึอิ +
ที่ทั้งภาพและเสียงพุ่งพล่านทะลุจออย่างทรงพลัง และมีฉากที่ถูกออกแบบมาอย่างดี หนังบอกเล่าเรื่องราวของคนญี่ปุ่น 3 เจเนอเรชั่น ซึ่งต่างต้องการเรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศให้แก่ผู้หญิง หนังสร้างจากนิยายของนักเขียนสาว มาริโกะ ยามาอูจิ อำนวยการสร้างโดยโปรดิวเซอร์สาว โยโกะ เอดามิ และ
นำแสดงโดย 2 นักแสดงสาวมาแรงประจำเกาะญี่ปุ่น ยู อาโออิ และ มิตซึอิ ทาคาฮาตะ หนังตีประเด็นความแตกต่างทางเพศ การเหยียดอายุ และความไม่สมประกอบของสังคมประการอื่นๆ ขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงความเชื่อว่าในอนาคตทุกเพศจะเท่าเทียมเสมอกัน
หลังพบปะกับแฟนหนังที่มาดูในเทศกาล Tokyo International Film Festival เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ซึ่งเป็นรอบพรีเมียร์ของหนัง ไดโกะ มัทสึอิ และ 2 นักแสดงหนุ่ม ไทกะ และ โชโนะ ฮายามะ ก็ปรากฏตัวในงานแถลงข่าวหนัง พวกเขาใส่เสื้อฮู้ดสีเทา โดยที่ด้านหลังมีรูปภาพประกาศหาคนหายของ ยู อาโออิ ในหนัง และถึงแม้วันนี้นางเอกจะมาไม่ได้แต่ มัทสึอิ ยืนยันว่า “อาโออิซัง อยากมางานวันนี้จริงๆ ครับ”
+
ใน Japanese Girls Never Die อาโออิ รับบทเป็น ฮารูโกะ อาซูมิ สาววัย 27 ปี +
อาศัยอยู่ในครอบครัวที่บรรยากาศเต็มไปด้วยความเย็นชา และทำงานอยู่ในออฟฟิศที่มีเจ้านาย 2 คนใช้เวลาส่วนใหญ่ดื่มชาและคอยพูดจาคุกคามทางเพศคนอื่น เมื่อรุ่นพี่ของ ฮารูโกะ ในออฟฟิศแต่งงานกับเจ้าบ่าวชาวฝรั่งเศส และย้ายไปอยู่ประเทศบูร์กินาฟาร์โซ ฮารูโกะ จึงเริ่มคิดถึงหนทางการหลุดพ้นของตัวเองบ้าง แต่ในงานแต่ง เพื่อนสมัยเรียนได้เตือนเธอว่า “การแต่งงานมันโคตรเฮงซวย ผัวเก่าฉันไม่เคยล้างจานเลยแม้แต่ใบเดียว” ในตอนนั้น ฮารูโกะ เองก็กำลังคบหาอยู่กับเพื่อนสมัยเด็ก และหวังว่าเขาจะหลุดพ้นจากความเซ็งชีวิตได้ แต่เมื่อเขาหลุดไม่พ้น ฮารูโกะก็หายตัวไปแบบไร้ร่องรอย
แล้วเหตุการณ์วุ่นวายอะไรต่อมิอะไรก็เกิดขึ้นตามมา
+
อีกฟากหนึ่งของเมือง ไอนะ (ทาคาฮาตะ) สาวใสวัย 20 +
ผู้เปี่ยมชีวิตชีวากำลังจู๋จี๋กับอดีตเพื่อนร่วมชั้น ยูกิโอะ (ไทกะ) แล้วจากนั้นเธอก็มาร่วมกลุ่มกับ ยูกิโอะ และเพื่อนที่ชื่อ มานาบุ (ฮายาม่า) เป็น 3 สหายแก๊งพ่นสีกราฟฟิติ พวกเขาเอารูปประกาศคนหายของ ฮารูกะ มาใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำกลุ่ม พร้อมกับพ่นสีรูปนี้ไปทั่วทั้งเมือง เมื่อนั้นเอง
ดาวเด่นในโลกโซเชี่ยลก็ถือกำเนิดขึ้น คนในทวิตเตอร์ต่างคาดการณ์ไปต่างๆ นานาเกี่ยวกับชะตาอันน่าสยดสยองของ ฮารูโกะ พร้อมกันนั้นก็มีกลุ่มสาวนักเรียนมัธยมตัวแสบ คอยเล่นงานเหล่า ‘ผู้ชายโลเล’ และองค์กรไม่หวังผลกำไรยังตัดสินใจสร้าง ธีมปาร์คเกี่ยวกับ ‘ผู้หญิงที่หายไป’ ขึ้นมาอีกด้วย
+
มัทสึอิ (Afro Tanaka, Wonderful World End, Our Huff and Puff Journey) ถือเป็นนักทำหนังที่คุ้นเคยดีกับหนังวัยรุ่น +
Young Adult แต่นี่คือครั้งแรกที่หนังของเขาจะเล่าเรื่องราวครอบคลุมถึงคน 3 เจเนอเรชั่น ตั้งแต่วัยรุ่น, วัย 20 กว่า และวัย 40 ปีซึ่งเป็นคนในออฟฟิศของ ฮารูโกะ นั่นเอง
โดยตัวละครแต่ละช่วงวัยต่างมีแผลใจที่เกิดขึ้นจากน้ำมือของมนุษย์เพศชายทั้งสิ้น ก่อนที่พวกเธอจะค้นพบความแข็งแกร่ง แล้วตัดสินใจว่า การแก้แค้นพวกผู้ชายที่ดีที่สุด คือการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขที่สุด!
มัทสึอิ (ผู้กำกับ) อธิบายตอนแถลงข่าวว่าเขาเลือก อาโออิ มาเล่นหนังเรื่องนี้เพราะ “เธออายุเท่ากับผมและโปรดิวเซอร์ครับ ผมเองเคยเจอเธออยู่หลายครั้ง ผมคิดว่าใบหน้าของเธอน่าจะดูดีทีเดียวเวลาอยู่บนโปสเตอร์ประกาศคนหาย นอกจากนั้นเธอยังเป็นนักแสดงที่มีฝีมือเหลือล้นเปรียบได้กับ ก็อดซิลล่า ของวงการครับ ส่วนสาเหตุที่ผมเลือก ทาคาฮาตะ เพราะผมเคยร่วมงานกับเธอมาก่อนด้วย และแม้ว่า ไอนะ จะเป็นตัวละครที่ไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่ แต่ผมอยากได้คนฉลาดมาถ่ายทอดบทนี้ครับ ไอนะ เปรียบได้กับ ฮารูโกะ ในมุมกลับ เราจึงต้องการคนที่มีความสามารถมากๆ ไม่แพ้ อาโออิ มาถ่ายทอดบทดังกล่าว”
+
โชโนะ ฮายาม่า เสริมว่า “ผมเองเป็นแฟนตัวยงของ อาโออิ มาหลายปีแล้วครับ ผมตื่นเต้นมากที่จะได้อยู่ในหนังเรื่องเดียวกันกับเธอ แม้เราจะไม่มีโอกาสได้เข้าฉากเดียวกันก็ตาม แต่อย่างน้อยผมก็ได้พ่นสีเป็นรูปหน้าเขานะ” ><" +
ทั้ง ไทกะ และ ฮายาม่า มีอายุเท่ากับตัวละครที่สวมบทบาท และมีอะไรหลายๆ อย่างที่เหมือนกันในชีวิตจริงด้วย มัทสึอิ อยากให้ ไทกะ มารับบท ยูกิโอะ ที่กำลังดื้นรนเพื่อหลุดพ้นไปจากชีวิตเส็งเคร็งตั้งแต่ตอนเริ่มโปรเจ็คท์ ขณะที่ มานาบุ ก็มีส่วนคล้ายกับ ฮายาม่า เช่นกัน ฮายาม่ายอมรับว่า “ผมชอบเขานะ (มานาบุ) ผมมีพลังงานเหลือล้น และระเบิดพลังออกมาเสมอเวลาเล่นบทนี้ ผมคิดว่าเขาเป็นตัวละครแบบเดียวกับคนในเจนฯ ของเรานั่นแหละ เราล้วนอยากสนุกไปกับชีวิต แล้วก็เป็นพวกที่เสียงดังมากๆ ด้วยครับ”
ไทกะ เองก็พยักหน้าเห็นด้วยพร้อมบอกว่า “พวกเรา 3 คน (แก๊งพ่นสี) แค่ทำในสิ่งที่เราอยากทำเพราะเรายังเป็นเด็ก ตอนที่ผมได้ดูหนังจนจบ ผมเพิ่งตระหนักว่าเราอาจเป็นฝ่ายทำร้าย ฮารูโกะ โดยไม่รู้ตัว ผมรู้สึกว่าเรามันโคตรเลวเลยครับ ผมรู้สึกผิดมากที่ทำทำเรื่องแย่ๆ แบบนั้นลงไป”
เมื่อ มัทสึอิ ถูกถามว่าทำไมถึงตัดสินใจเล่าหนังเรื่องนี้แบบไม่เรียงลำดับเวลา และมีวิธีจัดการกับความซับซ้อนของเส้นเรื่องอย่างไรบ้าง เขาตอบว่า “ผมไม่รู้เหมือนกันว่าสิ่งที่ทำเป็นสิ่งที่ถูกต้องรึเปล่า ผมแค่อยากสร้างความสับสนอลหม่านแก่เส้นเรื่องครับ”
เขายังบอกว่าในนิยายต้นฉบับนั้นดำเนินเรื่องเป็นเส้นตรง “สาเหตุที่ ฮารูโกะ หายไปในนิยายมันเห็นเด่นชัดเกินไป ผมไม่อยากให้หนังของผมออกมาเป็นแบบนั้นครับ ผมไม่อยากเล่าเรื่องออกมาอย่างสมเหตุสมผล ผมต้องการให้มันออกมาแนว Impressionism ผมอยากให้คนดูสัมผัสได้ถึงอารมณ์นั้น ตอนเขียนบทเลยตัดสินใจหั่นเหตุการณ์แต่ละพาร์ทออกเป็น 15 ส่วน แล้วซอยเพิ่มอีก 15 ส่วนตอนอยู่ในห้องตัดครับ”
## มัทสึอิ กล่าวปิดท้ายว่า “ผมอยากสร้างหนังที่ไม่เคยมีใครสร้างมาก่อน ผมอยากบันทึกภาพยุคสมัยของสังคมญี่ปุ่นในปัจจุบัน ผมหวังว่าผมจะทำออกมาได้ดีครับ” นอกจากนั้นเขายังบอกอีกว่ามีแอพพลิเคชั่นในเว็บไซต์ของ
Japanese Girls Never Die ให้เราสามารถเข้าไปสร้างรูปคนหายของตัวเองได้ตามใจชอบอีกด้วยนะ ##
Credit : Mongkol Cinema
อยากอินก่อนเข้าชม "Japanese Girls Never Die โมเอะไม่เคยตาย" เข้าแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ !!!
ชื่อเรื่องแบบโรมะจิ: Azumi Haruko wa Yukuefumei
ชื่อเรื่องภาษาญี่ปุ่น: アズミ・ハルコは行方不明
ผู้กำกับ: ไดโกะ มัทสึอิ
ผู้แต่ง: มาริโกะ ยามาอูจิ (นิยาย)
วันเข้าฉาย: 3 ธันวาคม 2016 (ประเทศญี่ปุ่น)
วันเข้าฉาย: 9 มีนาคม 2017
จัดจำหน่ายโดย: Phantom Film
ภาษา: ญี่ปุ่น
ประเทศ: ญี่ปุ่น
เรื่องย่อ
ฮารูโกะ เป็นพนักงานออฟฟิศสาวโสดวัย 27 ปี จู่ๆ วันหนึ่งเธอก็หายตัวไป เมื่อโปสเตอร์ประกาศคนหายรูปเธอปรากฏอยู่ทั่วทุกมุมเมืองเรื่องวุ่นๆก็เกิดขึ้นตามมา
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
1.หนังดัดแปลงมาจากนิยายเรื่อง Azumi Haruko wa Yukuefumei ของ มาริโกะ ยามาอูจิ (ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2013 โดยสำนักพิมพ์ Gentosha)
2.หนังปิดกล้องในวันที่ 2 ตุลาคม 2015
3.เป็นเวลานานถึง 7 ปีแล้ว นับจากที่นักแสดงสาว ยู อาโออิ ได้รับบทนำอย่างเต็มตัวในหนัง ตั้งแต่ตอนรับบทนำในเรื่อง One Million Yen and the Nigamushi Woman
+ Japanese Girls Never Die เป็นผลงานเรื่องใหม่ของ ไดโกะ มัทสึอิ +
ที่ทั้งภาพและเสียงพุ่งพล่านทะลุจออย่างทรงพลัง และมีฉากที่ถูกออกแบบมาอย่างดี หนังบอกเล่าเรื่องราวของคนญี่ปุ่น 3 เจเนอเรชั่น ซึ่งต่างต้องการเรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศให้แก่ผู้หญิง หนังสร้างจากนิยายของนักเขียนสาว มาริโกะ ยามาอูจิ อำนวยการสร้างโดยโปรดิวเซอร์สาว โยโกะ เอดามิ และ
นำแสดงโดย 2 นักแสดงสาวมาแรงประจำเกาะญี่ปุ่น ยู อาโออิ และ มิตซึอิ ทาคาฮาตะ หนังตีประเด็นความแตกต่างทางเพศ การเหยียดอายุ และความไม่สมประกอบของสังคมประการอื่นๆ ขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงความเชื่อว่าในอนาคตทุกเพศจะเท่าเทียมเสมอกัน
หลังพบปะกับแฟนหนังที่มาดูในเทศกาล Tokyo International Film Festival เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ซึ่งเป็นรอบพรีเมียร์ของหนัง ไดโกะ มัทสึอิ และ 2 นักแสดงหนุ่ม ไทกะ และ โชโนะ ฮายามะ ก็ปรากฏตัวในงานแถลงข่าวหนัง พวกเขาใส่เสื้อฮู้ดสีเทา โดยที่ด้านหลังมีรูปภาพประกาศหาคนหายของ ยู อาโออิ ในหนัง และถึงแม้วันนี้นางเอกจะมาไม่ได้แต่ มัทสึอิ ยืนยันว่า “อาโออิซัง อยากมางานวันนี้จริงๆ ครับ”
+ ใน Japanese Girls Never Die อาโออิ รับบทเป็น ฮารูโกะ อาซูมิ สาววัย 27 ปี +
อาศัยอยู่ในครอบครัวที่บรรยากาศเต็มไปด้วยความเย็นชา และทำงานอยู่ในออฟฟิศที่มีเจ้านาย 2 คนใช้เวลาส่วนใหญ่ดื่มชาและคอยพูดจาคุกคามทางเพศคนอื่น เมื่อรุ่นพี่ของ ฮารูโกะ ในออฟฟิศแต่งงานกับเจ้าบ่าวชาวฝรั่งเศส และย้ายไปอยู่ประเทศบูร์กินาฟาร์โซ ฮารูโกะ จึงเริ่มคิดถึงหนทางการหลุดพ้นของตัวเองบ้าง แต่ในงานแต่ง เพื่อนสมัยเรียนได้เตือนเธอว่า “การแต่งงานมันโคตรเฮงซวย ผัวเก่าฉันไม่เคยล้างจานเลยแม้แต่ใบเดียว” ในตอนนั้น ฮารูโกะ เองก็กำลังคบหาอยู่กับเพื่อนสมัยเด็ก และหวังว่าเขาจะหลุดพ้นจากความเซ็งชีวิตได้ แต่เมื่อเขาหลุดไม่พ้น ฮารูโกะก็หายตัวไปแบบไร้ร่องรอย
แล้วเหตุการณ์วุ่นวายอะไรต่อมิอะไรก็เกิดขึ้นตามมา
+ อีกฟากหนึ่งของเมือง ไอนะ (ทาคาฮาตะ) สาวใสวัย 20 +
ผู้เปี่ยมชีวิตชีวากำลังจู๋จี๋กับอดีตเพื่อนร่วมชั้น ยูกิโอะ (ไทกะ) แล้วจากนั้นเธอก็มาร่วมกลุ่มกับ ยูกิโอะ และเพื่อนที่ชื่อ มานาบุ (ฮายาม่า) เป็น 3 สหายแก๊งพ่นสีกราฟฟิติ พวกเขาเอารูปประกาศคนหายของ ฮารูกะ มาใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำกลุ่ม พร้อมกับพ่นสีรูปนี้ไปทั่วทั้งเมือง เมื่อนั้นเอง
ดาวเด่นในโลกโซเชี่ยลก็ถือกำเนิดขึ้น คนในทวิตเตอร์ต่างคาดการณ์ไปต่างๆ นานาเกี่ยวกับชะตาอันน่าสยดสยองของ ฮารูโกะ พร้อมกันนั้นก็มีกลุ่มสาวนักเรียนมัธยมตัวแสบ คอยเล่นงานเหล่า ‘ผู้ชายโลเล’ และองค์กรไม่หวังผลกำไรยังตัดสินใจสร้าง ธีมปาร์คเกี่ยวกับ ‘ผู้หญิงที่หายไป’ ขึ้นมาอีกด้วย
+ มัทสึอิ (Afro Tanaka, Wonderful World End, Our Huff and Puff Journey) ถือเป็นนักทำหนังที่คุ้นเคยดีกับหนังวัยรุ่น +
Young Adult แต่นี่คือครั้งแรกที่หนังของเขาจะเล่าเรื่องราวครอบคลุมถึงคน 3 เจเนอเรชั่น ตั้งแต่วัยรุ่น, วัย 20 กว่า และวัย 40 ปีซึ่งเป็นคนในออฟฟิศของ ฮารูโกะ นั่นเอง
โดยตัวละครแต่ละช่วงวัยต่างมีแผลใจที่เกิดขึ้นจากน้ำมือของมนุษย์เพศชายทั้งสิ้น ก่อนที่พวกเธอจะค้นพบความแข็งแกร่ง แล้วตัดสินใจว่า การแก้แค้นพวกผู้ชายที่ดีที่สุด คือการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขที่สุด!
มัทสึอิ (ผู้กำกับ) อธิบายตอนแถลงข่าวว่าเขาเลือก อาโออิ มาเล่นหนังเรื่องนี้เพราะ “เธออายุเท่ากับผมและโปรดิวเซอร์ครับ ผมเองเคยเจอเธออยู่หลายครั้ง ผมคิดว่าใบหน้าของเธอน่าจะดูดีทีเดียวเวลาอยู่บนโปสเตอร์ประกาศคนหาย นอกจากนั้นเธอยังเป็นนักแสดงที่มีฝีมือเหลือล้นเปรียบได้กับ ก็อดซิลล่า ของวงการครับ ส่วนสาเหตุที่ผมเลือก ทาคาฮาตะ เพราะผมเคยร่วมงานกับเธอมาก่อนด้วย และแม้ว่า ไอนะ จะเป็นตัวละครที่ไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่ แต่ผมอยากได้คนฉลาดมาถ่ายทอดบทนี้ครับ ไอนะ เปรียบได้กับ ฮารูโกะ ในมุมกลับ เราจึงต้องการคนที่มีความสามารถมากๆ ไม่แพ้ อาโออิ มาถ่ายทอดบทดังกล่าว”
+ โชโนะ ฮายาม่า เสริมว่า “ผมเองเป็นแฟนตัวยงของ อาโออิ มาหลายปีแล้วครับ ผมตื่นเต้นมากที่จะได้อยู่ในหนังเรื่องเดียวกันกับเธอ แม้เราจะไม่มีโอกาสได้เข้าฉากเดียวกันก็ตาม แต่อย่างน้อยผมก็ได้พ่นสีเป็นรูปหน้าเขานะ” ><" +
ทั้ง ไทกะ และ ฮายาม่า มีอายุเท่ากับตัวละครที่สวมบทบาท และมีอะไรหลายๆ อย่างที่เหมือนกันในชีวิตจริงด้วย มัทสึอิ อยากให้ ไทกะ มารับบท ยูกิโอะ ที่กำลังดื้นรนเพื่อหลุดพ้นไปจากชีวิตเส็งเคร็งตั้งแต่ตอนเริ่มโปรเจ็คท์ ขณะที่ มานาบุ ก็มีส่วนคล้ายกับ ฮายาม่า เช่นกัน ฮายาม่ายอมรับว่า “ผมชอบเขานะ (มานาบุ) ผมมีพลังงานเหลือล้น และระเบิดพลังออกมาเสมอเวลาเล่นบทนี้ ผมคิดว่าเขาเป็นตัวละครแบบเดียวกับคนในเจนฯ ของเรานั่นแหละ เราล้วนอยากสนุกไปกับชีวิต แล้วก็เป็นพวกที่เสียงดังมากๆ ด้วยครับ”
ไทกะ เองก็พยักหน้าเห็นด้วยพร้อมบอกว่า “พวกเรา 3 คน (แก๊งพ่นสี) แค่ทำในสิ่งที่เราอยากทำเพราะเรายังเป็นเด็ก ตอนที่ผมได้ดูหนังจนจบ ผมเพิ่งตระหนักว่าเราอาจเป็นฝ่ายทำร้าย ฮารูโกะ โดยไม่รู้ตัว ผมรู้สึกว่าเรามันโคตรเลวเลยครับ ผมรู้สึกผิดมากที่ทำทำเรื่องแย่ๆ แบบนั้นลงไป”
เมื่อ มัทสึอิ ถูกถามว่าทำไมถึงตัดสินใจเล่าหนังเรื่องนี้แบบไม่เรียงลำดับเวลา และมีวิธีจัดการกับความซับซ้อนของเส้นเรื่องอย่างไรบ้าง เขาตอบว่า “ผมไม่รู้เหมือนกันว่าสิ่งที่ทำเป็นสิ่งที่ถูกต้องรึเปล่า ผมแค่อยากสร้างความสับสนอลหม่านแก่เส้นเรื่องครับ”
เขายังบอกว่าในนิยายต้นฉบับนั้นดำเนินเรื่องเป็นเส้นตรง “สาเหตุที่ ฮารูโกะ หายไปในนิยายมันเห็นเด่นชัดเกินไป ผมไม่อยากให้หนังของผมออกมาเป็นแบบนั้นครับ ผมไม่อยากเล่าเรื่องออกมาอย่างสมเหตุสมผล ผมต้องการให้มันออกมาแนว Impressionism ผมอยากให้คนดูสัมผัสได้ถึงอารมณ์นั้น ตอนเขียนบทเลยตัดสินใจหั่นเหตุการณ์แต่ละพาร์ทออกเป็น 15 ส่วน แล้วซอยเพิ่มอีก 15 ส่วนตอนอยู่ในห้องตัดครับ”
Japanese Girls Never Die ให้เราสามารถเข้าไปสร้างรูปคนหายของตัวเองได้ตามใจชอบอีกด้วยนะ ##
Credit : Mongkol Cinema