***ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นส่วนตัว/ประสบการณ์ส่วนตัวที่เล่นมาสักพัก อาจมีผิดพลาดหรือไม่ตรงประสบการณ์ของคนอื่นบ้างเช่นกัน
เนื่องจากเห็นช่วงนี้เห็นกระทู้เกี่ยวกับ Forex ค่อนข้างบ่อยรวมถึงความเห็นเกี่ยวกับ Forex ค่อนข้างกว้าง
Forex พูดง่ายๆก็ตลาดค่าเงิน เป็นตลาดที่ volume สูง สูงประมาณว่าการซื้อขายตลาดหุ้นทั่วโลกในหนึ่งวันมารวมกันน่าจะไม่ถึงการซื้อขาย Forex ในหนึ่งวันและตลาดค่อนข้างอ่อนไหวต่อการเคลื่อนไหวการเมืองและเศรษฐกิจโลก ถ้าเราตามฟอเร็กอย่างจริงจังเราจะมองตลาดเงินโลกได้ในระดับหนึ่ง (ถ้านั่งศึกษา Macroeconomic น่าจะยิ่งเห็นภาพ)
Volume สูงงั้นฟอเร็กวิ่งแรงในแต่ละวันแรงสิ ถ้าลองมองตลาดดูจริงๆแล้วผมว่าไม่แฮะ กราฟมันดูวิ่งเป็น 100-200จุดก็จริง (ขอแทน pip ว่าจุด) แต่พอเทียบกับภาพใหญ่ค่าเงินกลับเห็นว่ามันไม่ได้วิ่งแรงขนาดนั้น ส่วนมากอย่างมากก็ 3% (โอกาสมาถึง 3 นี่น้อยมากส่วนมากเต็มที่ก็ 2) แต่หุ้นเมื่อดูแล้วบางตัววิ่งที 5% หรือวิ่งกันเป็นเด้งหรือบางทีก็อยู่ๆติด sp พังกันไประนาว ซึ่งฟอเร็กวิ่งเป็นเด้งนี่โอกาสแทบไม่มี ลองคิดถึงค่าเงินบาทค่าเงินขึ้นเป็นเด้งคงต้องย้อนไปสมัยต้มยำกุ้งซึ่งเป็นระดับเศรษฐกิจล่ม ถ้าเทียบกับการติด sp คือประเทศล่มสลายไปเลยมั้ง เพราะฉะนั้นบอกว่าฟอเร็กเด้งแรงผมว่ามันก็ไม่เชิงน่ะนะ
แล้วทำไมส่วนใหญ่วิ่งเต็มที่ 3% ต่อวัน(วันที่เขียนนี่ตัวที่ดูหลักๆตอนนี้สูงสุด .5%)แถมเดี๋ยวก็หดกลับมาบ้างแต่คนพังกันเยอะ พอร์ตกระจุยกันหรือบางคนก็เอามาโชว์ว่าโตเป็นเท่าๆ ปัญหาผมว่าอยู่ตรงนี้นี่แหละ เนื่องจากจริงๆแล้วมันวิ่งโคตรน้อยโบรคเลยมีบริการ leverage หรือการให้ซื้อขายเกินจากเงินต้น ประมาณว่าเราไปกู้โดยเอาเงินต้นวางมัดจำแต่ประเด็นคือมันไม่ให้ให้กู้ 10 เท่าแต่ให้กู้เป็น 100 บางที่สูงสุด 2000 เท่า การที่ใช้ leverage สูงนี่แหละคือส่วนหนึ่งที่ทำให้เราพังในระยะยาว
ส่วนที่ทำให้เราพังอย่างที่ 2 คือ quick rich scheme พูดตรงๆก็หวังรวยเร็วซึ่งผมเองตอนแรกก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นเดียวกัน ส่วนตัวเพราะข้อมูลที่เราเข้าถึงนั้นจะโชว์ว่าได้กำไรเดือนละเยอะๆ เป็นเท่าตัว จากนั้นเราก็คิดเข้าข้างตัวเองว่ามันจะง่ายใส่เงินไปเดี๋ยวมันก็ขึ้นเป็นเท่าตัว บางคนสบายกว่านั้นไปตามคนอื่นเดี๋ยวก็ขึ้นสบายๆ (ใน youtube มี 50k account meltdown อยู่ด้วย) แต่คิดดูว่าถ้าเราได้ 100จุดแล้วเพิ่ม 2 เท่านั่นหมายความว่าไปผิดทาง 100จุดก็หายไปหมดเหมือนกันซึ่งอย่างที่บอกไปข้างต้นว่าวิ่ง 100จุดในหนึ่งวันเป็นเรื่องปรกติ บอกได้ว่าเล่นแบบนักพนันก็จบแบบนักพนันละกันครับ (แม้แต่นักพนันอย่าง poker ที่เก่งๆยังสายสถิติเลยไม่ใช่พนันจริงจัง) ส่วนด้านมืดยิ่งกว่านั้นคือพวกเอาพอร์ตมาโชว์ หาสาวกแล้วชวนเปิดพอร์ตกับโบรคอะไรไม่รู้ รู้สึกตัวอีกทีจะเอาเงินทั้งหมดไป ไม่ว่าจะเอาไปซึ่งๆหน้าหรือทำเป็นให้ เทรดตามแล้วทำพอร์ตพัง
ทำให้ถึงเรื่องที่ 3 นั่นคือ Trading plan ซึ่งไม่ต่างจากเอาสองอันข้างบนมารวมกัน การไม่มี Trading plan ส่วนตัวคิดว่าทำให้พังได้ง่ายๆเลย โดยระบบนั้นมีทั้งวิธีการเล่น จุดเข้า จุดออก จุดคัท MM และอื่นๆ ซึ่งการที่ไม่มีระบบหรือไม่ยอมทำตามแผนก็เป็นส่วนนึงที่ทำให้พังเช่นพอเสียแล้วอยากเอาคืนโดยไม่สนระบบ รวมถึงการเปลี่ยนระบบบ่อยๆหลังจากเทรดไปไม่กี่รอบ ไม่ว่าแผนจะดีแค่ไหนก็มีสิทธิ์ที่จะพลาดหลายรอบ ฝรั่งยังบอกเลยว่า there is no holy grail in trading
พูดถึงเรื่องพังมาเยอะ พูดถึงข้อดีบ้าง
ข้อเสียทั้งหมดที่พูดก็คือข้อดีถ้าเรามองว่าเป็นข้อดี การมี volume ที่สูงทำให้เราสามารถหาจังหวะเข้าได้รวมถึง leverage เองก็ทำให้พอร์ตเราโตได้ง่ายขึ้นเช่นกัน โดยฟอเร็กจะเล่นแบบไหนก็ได้โดยไม่มีใครว่าขอให้ได้ตังมาเป็นพอจะสายพื้นฐาน เทคนิคหรืออะไรก็ตามใช้ได้หมด(**ลองอ่านกฏแต่ละโบรคอีกทีแต่ส่วนใหญ่จะไม่มี บางที่ห้าม hedge มั้ง) อีกอย่างก็คู่หลักๆที่ให้ดูก็ไม่เยอะไม่เหมือนหุ้นเยอะจนตาลาย
ความเห็นส่วนตัว
Forex เริ่มอย่างแรกตั้งแต่การหาโบรคที่ดี ลองหารีวิวต่างประเทศดูครับหาเยอะๆเพราะมันเป็นจุดนึงที่สำคัญ การมีโบรคที่ดีเราก็พอจะอุ่นใจได้ในระดับหนึ่ง การมีระบบเทรดและ money management ก็ทำให้ชีวิตดีขึ้นเยอะ แต่เราต้องศึกษาตัวเองด้วยว่าชอบเทรดระบบแบบไหนเช่น scalps, day, swing, position etc. โดย(คิดเอาเองว่า)ดูจากบุคลิกภาพของเราว่าเป็นคนแบบไหนแล้วเลือกให้เหมาะ จากนั้นก็สร้างระบบต่อจากนั้นแต่ต้องให้เวลากับระบบ ไม่ใช่เทรดแค่ 5 ครั้ง 10 ครั้งแล้วบอกว่าไม่ดี โดยส่วนตัวคิดว่าสัก 300-500 เทรดน่าจะพอบอกได้
Say NO
- โบรคอะไรก็ไม่รู้ เพิ่งเปิด ไม่มีรีวิว etc. โบรคที่โอเคอย่างน้อยต้องขอหลักฐานจากเรารวมถึงการโอนเข้าออกต้องมาจากบัญชีชื่อเรา
- หวังรวยเร็ว ขอเหอะค่อยๆปั้นพอร์ตไปเรื่อยๆ ลองคิดดูว่าธนาคาร 1-3% หุ้นเฉลี่ย ~10% แล้วใจคอจะเอาจากฟอเร็กเดือนละ 100%+ เลยเหรอ บางทีก็ต้องอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงบ้าง
- Follow trade เอาจริงๆนะ กดเองเหอะถึงเสียก็ให้เรียนรู้ว่าเสียเพราะอะไร การเสียไม่ใช่เรื่องผิดประเด็นสำคัญคือสิ่งที่ได้จากการเสียและเอามาพัฒนาปรับปรุงระบบเราต่อไป
ปล. ผมบอกว่าโบรคไหนดีอะไรยังไงไม่ได้เพราะเคยใช้ไม่กี่ที่จะบอกว่าที่ไหนดีโดยไม่เคยใช้ก็ไม่ใช่ละ แถมหนึ่งในอันที่เคยคิดว่าน่าเชื่อถือสุดๆอย่าง fxcm เพิ่งโดนเรื่องจนไม่สามารถประกอบธุรกิจในอเมริกาได้เมื่อเดือนที่แล้วโดยปิดบัญชีกับที่นี่ไปละ orz (fxcm เลยนะเฟ้ย retail broker ใหญ่ระดับต้นๆของโลกเลยนะ เจอข่าวครั้งแรกยังตกใจอยู่เลย)
จบเท่านี้ละกันครับ ใครมีความเห็นเพิ่มเติมพิมพ์กันได้เลยเน่อ
Forex....ง่าย? ยาก? รวยเร็ว?
เนื่องจากเห็นช่วงนี้เห็นกระทู้เกี่ยวกับ Forex ค่อนข้างบ่อยรวมถึงความเห็นเกี่ยวกับ Forex ค่อนข้างกว้าง
Forex พูดง่ายๆก็ตลาดค่าเงิน เป็นตลาดที่ volume สูง สูงประมาณว่าการซื้อขายตลาดหุ้นทั่วโลกในหนึ่งวันมารวมกันน่าจะไม่ถึงการซื้อขาย Forex ในหนึ่งวันและตลาดค่อนข้างอ่อนไหวต่อการเคลื่อนไหวการเมืองและเศรษฐกิจโลก ถ้าเราตามฟอเร็กอย่างจริงจังเราจะมองตลาดเงินโลกได้ในระดับหนึ่ง (ถ้านั่งศึกษา Macroeconomic น่าจะยิ่งเห็นภาพ)
Volume สูงงั้นฟอเร็กวิ่งแรงในแต่ละวันแรงสิ ถ้าลองมองตลาดดูจริงๆแล้วผมว่าไม่แฮะ กราฟมันดูวิ่งเป็น 100-200จุดก็จริง (ขอแทน pip ว่าจุด) แต่พอเทียบกับภาพใหญ่ค่าเงินกลับเห็นว่ามันไม่ได้วิ่งแรงขนาดนั้น ส่วนมากอย่างมากก็ 3% (โอกาสมาถึง 3 นี่น้อยมากส่วนมากเต็มที่ก็ 2) แต่หุ้นเมื่อดูแล้วบางตัววิ่งที 5% หรือวิ่งกันเป็นเด้งหรือบางทีก็อยู่ๆติด sp พังกันไประนาว ซึ่งฟอเร็กวิ่งเป็นเด้งนี่โอกาสแทบไม่มี ลองคิดถึงค่าเงินบาทค่าเงินขึ้นเป็นเด้งคงต้องย้อนไปสมัยต้มยำกุ้งซึ่งเป็นระดับเศรษฐกิจล่ม ถ้าเทียบกับการติด sp คือประเทศล่มสลายไปเลยมั้ง เพราะฉะนั้นบอกว่าฟอเร็กเด้งแรงผมว่ามันก็ไม่เชิงน่ะนะ
แล้วทำไมส่วนใหญ่วิ่งเต็มที่ 3% ต่อวัน(วันที่เขียนนี่ตัวที่ดูหลักๆตอนนี้สูงสุด .5%)แถมเดี๋ยวก็หดกลับมาบ้างแต่คนพังกันเยอะ พอร์ตกระจุยกันหรือบางคนก็เอามาโชว์ว่าโตเป็นเท่าๆ ปัญหาผมว่าอยู่ตรงนี้นี่แหละ เนื่องจากจริงๆแล้วมันวิ่งโคตรน้อยโบรคเลยมีบริการ leverage หรือการให้ซื้อขายเกินจากเงินต้น ประมาณว่าเราไปกู้โดยเอาเงินต้นวางมัดจำแต่ประเด็นคือมันไม่ให้ให้กู้ 10 เท่าแต่ให้กู้เป็น 100 บางที่สูงสุด 2000 เท่า การที่ใช้ leverage สูงนี่แหละคือส่วนหนึ่งที่ทำให้เราพังในระยะยาว
ส่วนที่ทำให้เราพังอย่างที่ 2 คือ quick rich scheme พูดตรงๆก็หวังรวยเร็วซึ่งผมเองตอนแรกก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นเดียวกัน ส่วนตัวเพราะข้อมูลที่เราเข้าถึงนั้นจะโชว์ว่าได้กำไรเดือนละเยอะๆ เป็นเท่าตัว จากนั้นเราก็คิดเข้าข้างตัวเองว่ามันจะง่ายใส่เงินไปเดี๋ยวมันก็ขึ้นเป็นเท่าตัว บางคนสบายกว่านั้นไปตามคนอื่นเดี๋ยวก็ขึ้นสบายๆ (ใน youtube มี 50k account meltdown อยู่ด้วย) แต่คิดดูว่าถ้าเราได้ 100จุดแล้วเพิ่ม 2 เท่านั่นหมายความว่าไปผิดทาง 100จุดก็หายไปหมดเหมือนกันซึ่งอย่างที่บอกไปข้างต้นว่าวิ่ง 100จุดในหนึ่งวันเป็นเรื่องปรกติ บอกได้ว่าเล่นแบบนักพนันก็จบแบบนักพนันละกันครับ (แม้แต่นักพนันอย่าง poker ที่เก่งๆยังสายสถิติเลยไม่ใช่พนันจริงจัง) ส่วนด้านมืดยิ่งกว่านั้นคือพวกเอาพอร์ตมาโชว์ หาสาวกแล้วชวนเปิดพอร์ตกับโบรคอะไรไม่รู้ รู้สึกตัวอีกทีจะเอาเงินทั้งหมดไป ไม่ว่าจะเอาไปซึ่งๆหน้าหรือทำเป็นให้ เทรดตามแล้วทำพอร์ตพัง
ทำให้ถึงเรื่องที่ 3 นั่นคือ Trading plan ซึ่งไม่ต่างจากเอาสองอันข้างบนมารวมกัน การไม่มี Trading plan ส่วนตัวคิดว่าทำให้พังได้ง่ายๆเลย โดยระบบนั้นมีทั้งวิธีการเล่น จุดเข้า จุดออก จุดคัท MM และอื่นๆ ซึ่งการที่ไม่มีระบบหรือไม่ยอมทำตามแผนก็เป็นส่วนนึงที่ทำให้พังเช่นพอเสียแล้วอยากเอาคืนโดยไม่สนระบบ รวมถึงการเปลี่ยนระบบบ่อยๆหลังจากเทรดไปไม่กี่รอบ ไม่ว่าแผนจะดีแค่ไหนก็มีสิทธิ์ที่จะพลาดหลายรอบ ฝรั่งยังบอกเลยว่า there is no holy grail in trading
พูดถึงเรื่องพังมาเยอะ พูดถึงข้อดีบ้าง
ข้อเสียทั้งหมดที่พูดก็คือข้อดีถ้าเรามองว่าเป็นข้อดี การมี volume ที่สูงทำให้เราสามารถหาจังหวะเข้าได้รวมถึง leverage เองก็ทำให้พอร์ตเราโตได้ง่ายขึ้นเช่นกัน โดยฟอเร็กจะเล่นแบบไหนก็ได้โดยไม่มีใครว่าขอให้ได้ตังมาเป็นพอจะสายพื้นฐาน เทคนิคหรืออะไรก็ตามใช้ได้หมด(**ลองอ่านกฏแต่ละโบรคอีกทีแต่ส่วนใหญ่จะไม่มี บางที่ห้าม hedge มั้ง) อีกอย่างก็คู่หลักๆที่ให้ดูก็ไม่เยอะไม่เหมือนหุ้นเยอะจนตาลาย
ความเห็นส่วนตัว
Forex เริ่มอย่างแรกตั้งแต่การหาโบรคที่ดี ลองหารีวิวต่างประเทศดูครับหาเยอะๆเพราะมันเป็นจุดนึงที่สำคัญ การมีโบรคที่ดีเราก็พอจะอุ่นใจได้ในระดับหนึ่ง การมีระบบเทรดและ money management ก็ทำให้ชีวิตดีขึ้นเยอะ แต่เราต้องศึกษาตัวเองด้วยว่าชอบเทรดระบบแบบไหนเช่น scalps, day, swing, position etc. โดย(คิดเอาเองว่า)ดูจากบุคลิกภาพของเราว่าเป็นคนแบบไหนแล้วเลือกให้เหมาะ จากนั้นก็สร้างระบบต่อจากนั้นแต่ต้องให้เวลากับระบบ ไม่ใช่เทรดแค่ 5 ครั้ง 10 ครั้งแล้วบอกว่าไม่ดี โดยส่วนตัวคิดว่าสัก 300-500 เทรดน่าจะพอบอกได้
Say NO
- โบรคอะไรก็ไม่รู้ เพิ่งเปิด ไม่มีรีวิว etc. โบรคที่โอเคอย่างน้อยต้องขอหลักฐานจากเรารวมถึงการโอนเข้าออกต้องมาจากบัญชีชื่อเรา
- หวังรวยเร็ว ขอเหอะค่อยๆปั้นพอร์ตไปเรื่อยๆ ลองคิดดูว่าธนาคาร 1-3% หุ้นเฉลี่ย ~10% แล้วใจคอจะเอาจากฟอเร็กเดือนละ 100%+ เลยเหรอ บางทีก็ต้องอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงบ้าง
- Follow trade เอาจริงๆนะ กดเองเหอะถึงเสียก็ให้เรียนรู้ว่าเสียเพราะอะไร การเสียไม่ใช่เรื่องผิดประเด็นสำคัญคือสิ่งที่ได้จากการเสียและเอามาพัฒนาปรับปรุงระบบเราต่อไป
ปล. ผมบอกว่าโบรคไหนดีอะไรยังไงไม่ได้เพราะเคยใช้ไม่กี่ที่จะบอกว่าที่ไหนดีโดยไม่เคยใช้ก็ไม่ใช่ละ แถมหนึ่งในอันที่เคยคิดว่าน่าเชื่อถือสุดๆอย่าง fxcm เพิ่งโดนเรื่องจนไม่สามารถประกอบธุรกิจในอเมริกาได้เมื่อเดือนที่แล้วโดยปิดบัญชีกับที่นี่ไปละ orz (fxcm เลยนะเฟ้ย retail broker ใหญ่ระดับต้นๆของโลกเลยนะ เจอข่าวครั้งแรกยังตกใจอยู่เลย)
จบเท่านี้ละกันครับ ใครมีความเห็นเพิ่มเติมพิมพ์กันได้เลยเน่อ