ได้อ่านพระไตรปิฎก แล้วติดใจอยู่นิดหน่อย

ได้อ่านพระไตรปิฎก ฉบับมหามกุฎราชวิทยาลัย เมื่อสัก 2 ปีมาแล้วเล่มแรกจนถึงเรื่องสังคายนาครั้งที่ 1 แล้วเพิ่งกลับมาอ่านใหม่ ติดใจอยู่ช่วงพระพุทธประเพณี เนื้อความประมาณว่าพระพุทธเจ้า ไม่ตรัสถามสิ่งใดถ้าไม่จำเป็นเพื่อการแสดงธรรม หรือบัญญัติสิขาบท
         โดยยกตัวอย่างเรื่องข้าวยากหมากแพงจนหมู่พระได้รับบิณฑบาตเพียงข้าวแดงนำมาโขลกฉัน เนื้อความที่สะดุดใจมีว่า

         "ครั้นนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามท่านอานนท์ว่า อานนท์นั่นเสียงครกหรือหนอ จึงท่านพระอานนท์กราบทูลเนื้อความนั้นให้ทรงทราบ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสสรรเสริญว่า ดีละ ดีละ อานนท์ พวกเธอเป็นสัตบุรุษชนะวิเศษแล้ว พวกเพื่อนพรหมจารีชั้นหลังจักดูหมิ่นข้าวสาลีและข้าวสุกอันระคนด้วยเนื้อ"

          คืออยากรู้ว่าข้อความนี้เป็นสิขาบทมั้ย แต่โดยส่วนตัวเข้าใจเอาเองเมื่อสักครู่นี้เองว่า การกระทำของหมู่พระในครั้งนั้น เป็นแค่การพิสูจน์ว่า ร่างกายคนอยู่ได้โดยไม่จำเป็นต้องกินเนื้อหรือเปล่า เนื้อความออกไปทำนองว่าดีแล้วที่พวกท่านทำคือโขลกฉันกันเพียงข้าวแดงกันนี่แหละจะเป็นตัวอย่างให้ผู้ปฏิบัติรุ่นต่อๆ มาได้เข้าใจว่า คนเรากินมังสวิรัติก็ได้นะ เป็นเรื่องดีที่ไม่ต้องเบียดเบียนสัตว์ เพราะตัวอย่างเกิดในพุทธกาลแล้ว อะไรประมาณนี้

         ออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่มังสวิรัตหรือถือศีลกินเจนะ ไม่ได้มีเจตนาชักชวนเป็นวีแกนหรือกินเจอะไรกัน แต่ถ้าทำได้เพื่อลดการฆ่าสัตว์ในศีล5ข้อ 1 ก็เป็นเรื่องดีครับ

         ขอผู้รู้ชี้แนะด้วยครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
             ประกอบด้วยความคิดเห็นส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาณ
             นัยของเนื้อความที่คุณเจ้าของกระทู้ยกมานั้น ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องมังสวิรัติ
แต่จะเป็นเรื่องของการดำรงอยู่ได้ง่าย แม้ปัจจัยคืออาหารมีน้อย ก็บริโภคน้อยตามลาภ
ที่เกิดขึ้นแก่สงฆ์ ทั้งไม่แสวงหาโดยผิดธรรมผิดวินัยด้วยการกล่าวอวดอุตริมนุสธรรม
เป็นต้น.
             นัยว่า
             แม้ในยามทุพภิกขภัย ข้าวปลาอาหารหายาก ก็ดำรงอยู่ได้ด้วยดี ดำรงอยู่
และผ่านพ้นหรือชนะอุปสรรคด้วยดี ไม่ทำการแสวงหาที่ผิด
             กาลต่อไป เพื่อนพรหมจารีชั้นหลัง ลำบากเพียงเล็กน้อย แม้ได้ข้าวสาลีและ
ข้าวสุกที่ระคนด้วยเนื้อ ซึ่งประณีตกว่าข้าวแดงในเหตุการณ์นี้ เพื่อนพรหมจารีชั้นหลัง
เหล่านั้นก็จะดูหมิ่นข้าวสาลีและข้าวสุกที่ระคนด้วยเนื้อ (ที่ประณีตกว่าข้าวแดง)
             กล่าวคือ เพื่อนพรหมจารีชั้นหลัง เป็นผู้เลี้ยงยาก หมิ่นลาภของตนเอง
อันทายกเขาถวายเพราะความเลื่อมใส
             ควรศึกษาลิงค์ด้านล่างประกอบด้วย

             พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑  พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๑
             มหาวิภังค์ ภาค ๑
             เมืองเวรัญชาเกิดทุพภิกขภัย
http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=01&A=0&Z=315#5top
             อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :-
http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=1&siri=1#p8
             ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=1&i=1

             หมวดหนังสือธรรมะ
             เรื่อง ศีลเป็นอาภรณ์อันประเสริฐ
http://84000.org/tipitaka/book/bookpn02.html
http://84000.org/tipitaka/book/

แนะนำ :-
             อ่านและค้นพระไตรปิฎก ๔๕ เล่ม
             อรรถกถาชาดกทั้งหมด ๕๔๗ เรื่อง
             พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์
             พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/

             พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม
             สารบัญประเภทธรรม
http://84000.org/tipitaka/dic/d_type_index.php

             หมวดหนังสือธรรมะ
http://84000.org/tipitaka/book/
             เรื่อง ศีลเป็นอาภรณ์อันประเสริฐ
http://84000.org/tipitaka/book/bookpn02.html
             เรื่อง สิ่งที่เป็นมงคล (มงคล ๓๘)
http://84000.org/tipitaka/book/bookpn06.html
             เรื่อง ทานที่มีผลมาก มีอานิสงส์มาก
http://84000.org/tipitaka/book/bookpn01.html
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่