สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 46
มีผลพอสมควรสำหรับเด็กจบใหม่ค่ะ
จากที่เคยทำหน้าที่ HR มาบ้างก็พบว่า...
อุดมคติที่เคยตั้งไว้ว่าจะไม่สนใจสถาบันเท่าความรู้ความตั้งใจนั้นมันทำไม่ได้ง่ายอย่างที่ใจคิด เพราะ
1) เคยลองรับแบบไม่สนใจสถาบันเลย เพราะเคยคิดว่าขึ้นชื่อว่าบัณฑิตจบที่ไหนก็เป็นบัณฑิต แต่พอรับเข้ามาทำงานจริง ๆ ปรากฎว่าเด็กจบใหม่จากสถาบันที่ไม่ใช่ระดับต้น ๆ ในสาขาที่ต้องการรับ (ส่วนหนึ่งมาจากม.ที่มีหลายสาขาทั่วประเทศ) จาก 6 คนที่รับในล็อตเดียวกันไม่มีใครผ่านโปรใน 4 เดือนเลย และที่แปลกมากคือไม่มีใครมีความสามารถใช้ภาษาอังกฤษแบบพื้นฐานได้เลย // แต่พบอีกว่าถ้าเปรียบเทียบกับเด็กอีกกลุ่มที่รับมา ซึ่งจบจากมหาวิทยาลัยเปิดที่ขึ้นชื่อเรื่องความพยายามและขยันของนักศึกษา กลับพบว่าเด็กกลุ่มหลังนี้มีอัตราการผ่านโปรที่มากกว่า มีความพร้อมในการเรียนรู้และทักษะด้านภาษาและการสื่อสารมากกว่า (บางคนไม่เก่ง Eng มาก แต่มีความพยายามในการฝึกฝนอย่างเห็นได้ชัดต่างจากเด็กกลุ่มแรก) // สุดท้ายคือเด็กกลุ่มที่จบจากสถาบันที่มีชื่อระดับหนึ่งก็มีอัตราการผ่านโปรเกือบ 100% และทักษะภาษาค่อนข้างดี
2) จากเหตุผลในข้อแรกก็ให้ข้อคิดในการรับคนได้ว่า ในเมื่อคนสมัครมีหลายคน และบริษัทก็ไม่มีเวลาและกำลังเงินมากพอที่จะจ้างให้มาทดลองงานได้ทุกคน จึงต้องเลือกคนที่เกรดดี และมหาวิทยาลัยมีเครดิตในระดับหนึ่งมาก่อน เพราะเชื่อว่าการที่เด็กคนนึงจะเข้าเรียนในม.ดี ๆ ได้ก็ต้องมีความพยายาม ความขยัน ความตั้งใจ และไหวพริบดีในระดับหนึ่งเช่นกัน
สรุปคือ ชื่อของมหาวิทยาลัยก็มีผลในระดับหนึ่ง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นความสามารถก็ช่วยได้ด้วยถึงแม้จะจบจากสถาบันที่ไม่ดัง แต่น้องสามารถเรียนให้ได้เกรดที่ดีและมีการทำกิจกรรมที่โดดเด่นจนกระแทกตา HR ที่ได้อ่าน Resume ของน้อง
จากที่เคยทำหน้าที่ HR มาบ้างก็พบว่า...
อุดมคติที่เคยตั้งไว้ว่าจะไม่สนใจสถาบันเท่าความรู้ความตั้งใจนั้นมันทำไม่ได้ง่ายอย่างที่ใจคิด เพราะ
1) เคยลองรับแบบไม่สนใจสถาบันเลย เพราะเคยคิดว่าขึ้นชื่อว่าบัณฑิตจบที่ไหนก็เป็นบัณฑิต แต่พอรับเข้ามาทำงานจริง ๆ ปรากฎว่าเด็กจบใหม่จากสถาบันที่ไม่ใช่ระดับต้น ๆ ในสาขาที่ต้องการรับ (ส่วนหนึ่งมาจากม.ที่มีหลายสาขาทั่วประเทศ) จาก 6 คนที่รับในล็อตเดียวกันไม่มีใครผ่านโปรใน 4 เดือนเลย และที่แปลกมากคือไม่มีใครมีความสามารถใช้ภาษาอังกฤษแบบพื้นฐานได้เลย // แต่พบอีกว่าถ้าเปรียบเทียบกับเด็กอีกกลุ่มที่รับมา ซึ่งจบจากมหาวิทยาลัยเปิดที่ขึ้นชื่อเรื่องความพยายามและขยันของนักศึกษา กลับพบว่าเด็กกลุ่มหลังนี้มีอัตราการผ่านโปรที่มากกว่า มีความพร้อมในการเรียนรู้และทักษะด้านภาษาและการสื่อสารมากกว่า (บางคนไม่เก่ง Eng มาก แต่มีความพยายามในการฝึกฝนอย่างเห็นได้ชัดต่างจากเด็กกลุ่มแรก) // สุดท้ายคือเด็กกลุ่มที่จบจากสถาบันที่มีชื่อระดับหนึ่งก็มีอัตราการผ่านโปรเกือบ 100% และทักษะภาษาค่อนข้างดี
2) จากเหตุผลในข้อแรกก็ให้ข้อคิดในการรับคนได้ว่า ในเมื่อคนสมัครมีหลายคน และบริษัทก็ไม่มีเวลาและกำลังเงินมากพอที่จะจ้างให้มาทดลองงานได้ทุกคน จึงต้องเลือกคนที่เกรดดี และมหาวิทยาลัยมีเครดิตในระดับหนึ่งมาก่อน เพราะเชื่อว่าการที่เด็กคนนึงจะเข้าเรียนในม.ดี ๆ ได้ก็ต้องมีความพยายาม ความขยัน ความตั้งใจ และไหวพริบดีในระดับหนึ่งเช่นกัน
สรุปคือ ชื่อของมหาวิทยาลัยก็มีผลในระดับหนึ่ง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นความสามารถก็ช่วยได้ด้วยถึงแม้จะจบจากสถาบันที่ไม่ดัง แต่น้องสามารถเรียนให้ได้เกรดที่ดีและมีการทำกิจกรรมที่โดดเด่นจนกระแทกตา HR ที่ได้อ่าน Resume ของน้อง
แสดงความคิดเห็น
ชื่อมหาวิทยาลัยมีผลต่อการสมัครงานไหมคะ
ปัจจุบันนี้ยังมีผลอยู่หรือเปล่าคะ ถ้ามี ขอทางเลือกให้สำหรับคนงบน้อยหน่อยค่ะ ช่วยแนะนำวิทยาลัยที่ค่าใช้จ่ายไม่สูงมากให้หน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ