ตามรอยเท้าพ่อ ตอน.บ้านห้วยน้ำกืน

สวัสดีครับ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมอยากโพสเล่าให้ฟังถึงความประทับใจแต่ผมก็ดองมันไว้ตั้ง3เดือนกว่าจะมีเวลามาเล่าเริ่มเลยนะครับ  ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่ผมได้ร่วมเดินทาง ไปบริจาคเสื้อผ้า อุปกรณ์การเรียนและสิ่งของจำเป็นให้กับโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาลในปีนี้เราวางแผนกันว่าจะไปทำที่ จ.เชียงราย คือ ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านห้วยน้ำกืน อ.แม่สรวย   ซึ่งก่อนหน้านี้เราไปทำที่บ้านกุยเคล๊อะ  อ.อุ้มผาง  จังหวัดตาก
โครงการของเรามีชื่อว่า เติมฝัน ปันยิ้ม   “ ทำดีเพื่อ  พ่อ ”  โดยโครงการนี้ เกิดขึ้น จากกลุ่มคนเล็กๆ พูดคุยกัน ซึ่งผมขออนุญาติให้เครดิต กับพวกเค้า ส่วนผมเป็นส่วนนึงในทีมงานที่จะมาเล่าความประทับใจให้ฟังกัน พี่ๆน้องๆที่ไปกันในครั้งนี้ส่วนใหญ่ทำงานกันอยู่ในนิคมอมตะนคร ชลบุรี  โดยกลุ่มนี้มีชื่อว่า  VT  AMATA   หรือกลุ่มวีโก้ไทยแลนด์  อมตะนคร  โดยมี  โต้ง – พี่ยา เป็นแกนหลัก ในการทำกิจกรรมครั้งนี้   โดยที่โต้งและพี่ยาได้ประสานงานติดต่อกับครูในพื้นที่และได้ไปเซอร์เวย์สถานที่ ก่อนที่จะนำพาพวกเราไปกัน  เมื่อเรารู้ความต้องการของทางโรงเรียนแล้ว ทีนี้ก็เริ่มวางแผนในการเปิดรับบริจาค ข้าวของ เสื้อผ้า อุปกรณ์ การเรียน อุปกรณ์กีฬา เงิน ฯลฯ โดยที่โต้งจะเป็นคนคอยประสานงานและแจ้งไปยังกลุ่มผู้ใช้รถต่างๆ ในอมตะนคร รวมทั้งพี่ๆน้องๆ ในกลุ่มทุกคนช่วยกันประสานงานกับ เพื่อนๆพี่น้องใน บริษัทที่ตัวเองทำงานอยู่เพื่อแจ้งโครงการที่เราจะทำกัน เพื่อให้ช่วยเหลือในการบริจาค  ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีมากทุกคนพร้อมใจกันที่จะบริจาคโดยไม่ลังเล  ซึ่งผมก็ขอขอบคุณทุกคนทุกท่าน ทุกหน่วยงาน ที่ช่วยทำให้กิจกรรมครั้งนี้ประสบความสำเร็จได้เห็นรอยยิ้มของน้องๆ   แล้วที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ น้องๆในกลุ่มที่สละเวลาในการวิ่งรับของบริจาค และช่วยกันคนละไม้ละมือจนของที่ผู้ใจบุญส่งถึงมือน้องๆ  อะเข้าเรื่องต่อนะครับผม
หลังจากที่เราได้วางแผน กันแล้วในการรับของเราจะเอาของทั้งหมดไปเก็บไว้ที่ Center  **  49 Service  ** `ซึ่งก็คือบ้านโต้งนั่นเองที่จะเป็นศูนย์กลางในการประชุมวางแผน และเป็นที่เก็บของในการรับบริจาค ผมทำงานที่เดียวกับโต้งเลยเห็นได้ว่าเค้าทุ่มเทกับงานนี้มาก ขนาดที่ไม่ทำโอทีเพื่อไปรับของบริจาคจากที่ต่างๆ และน้องๆอีกหลายคนก็เหมือนกันบางคนออกกะมาก็ยังไม่ได้นอน วิ่งรถไปรับของก่อน ทุกคนทุ่มเทกันมาก การทำกิจกรรมครั้งนี้เราไม่มีสปอนเซอร์ ทุนทั้งหมดจึงต้องออกกันเอง รวมถึงค่าน้ำมัน ซึ่งทุกคนเต็มใจและยอมเหนื่อยเพื่อน้องๆในครั้งนี้ นี่เป็นรูปของผู่ใจบุญบางส่วนเท่านั้น
2/12/16  วันเดินทาง
วันนี้ผมยังทำงานอยู่เนื่องจากมีงานเข้าเลยลาไม่ได้ ทำให้การเดินทางครั้งนี้ผิดแผนผมคิดว่าผมขับรถคนเดียวไม่ไหวแน่นอนเนื่องจากผมทำงานอยู่ที่อมตะนคร บ้านผมอยู่ที่กทม ต้องขับกลับไปเก็บของเต็นท์เครื่องนอนเสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัวและอีกปัญหาก็คือ ผมยังไม่ได้โหลดของขึ้นรถเลยไม่ได้นอนเอาแรงแถมต้องขับรถทางไกลแต่ก็ใจชื้นเพราะน้องๆที่ไปด้วยในทีมหลายคนสามารถวนมาช่วยขับรถได้  แต่ไม่เป็นไปอย่างที่คิด เนื่องจากครั้งนี้ผมเอารถ ฟอร์จูนเนอร์ไป และของที่ผมโหลดขึ้นรถมากกว่าที่ผมคิดทำให้เบาะหลังนั้นเต็มเอียดไม่สามารถที่จะนั่งกันได้ เมื่อโหลดของเสร็จผมเลยรีบอาบน้ำนอนเอาแรงซักชั่วโมงก็ยังดี *** ที่ผมต้องขอบพระคุณเป็นอย่างสุงคือ คุณยงสิน ยุวธานนท์   โตโยต้านคร ชลบุรี*** ที่ได้ให้ผมนำรถมาทำกิจกรรมในครั้งนี้
ตามกำหนดเวลาเราจะนัดเจอกันที่ปั๊ม ปตท บางประหันไม่เกิน 4 ทุ่มและจะออกเดินทางเลยแต่เนื่องจากพี่ๆน้องๆมาจากชลเกือบทั้งหมด และบางคันก็ต้องโหลดของขึ้นรถกันในวันนั้นทำให้เวลาที่เราตั้งเป้าไว้ ไม่เป็นไปตามคาดและมีการผิดพลาดในการสื่อสารจึงทำให้รอกันไปรอกันมา สรุปเราไปรวมตัวและติดสติกเกอร์ ที่ ปตท บางประหัน และออกเดินทางเกือบเที่ยงคืน
แนะนำขุนพล ผู้ร่วมเดินทาง  
จากเดิมเรามีผู้ร่วมอุดมการณ์ ที่จะเดินทางเกือบ 30 คัน แต่เนื่องจาก บางท่านติดธุระด่วน ติดงานกระทันหัน และบางท่านก็เดินทางไปด้วยกันเพื่อช่วยกันแชร์ค่าน้ำมันเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย สรุปเรามีรถร่วมเดินทางทั้งหมด 17 คัน  โดยมีขุนพลดังนี้
1.โต้ง  2.พี่ยา 3.มล 4.เมย์ 5.จ่อย 6.เต้  7.คิว 8.ตั้ม 9.พูล 10.พี่ตี๋ 11.ยุทธ 12.แอม 13.แอ๊ด  14.เอส  15.พี่แก้ว (หญิง1เดียว) 16 บอย (ผมเอง) 17.ยอด  
ทั้งหมดนี้คือผู้ขับรถแต่ละคัน ซึ่งรวมผู้เดินทางครั้งนี้แล้วมีเกือบ 40 ชีวิต กับข้าวของเครื่องใช้อุปกรณ์การเรียน แน่นเอียดทุกคัน
เดินทาง
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วเช็ครถเช็คคนพร้อมแล้วเราก็ออกเดินทาง เนื่องด้วยเวลาก็เที่ยงคืนแล้วเราแพลนไว้ว่าจะถึงโรงเรียนก่อน 10 โมงจึงต้องเร่งทำเวลากันหน่อย และเนื่องจากการไปสำรวจเส้นทางของโต้งกับพี่ยามาแล้วทำให้เราไม่เลือกเส้นทางกำแพงเพชร ตาก ลำปาง เพราะทำทางตลอดเส้นทาง เราจึงใช้เส้นทาง นครสวรรค์ พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เด่นชัย แพร่  ร้องกวาง  งาว  พะเยา  เชียงราย โดยการเดินทางครั้งนี้ เราใช้วิทยุสื่อสาร(ว.แดง) ในการติดต่อสือสาร (สำคัญมาก) ในกรณีที่เข้าไปในป่าแล้วสัญญาณโทรศัพท์ นี่แทบจะไม่มีเลย และในการแจ้งเตือนผู้ร่วมทริป ในกรณีมีรถสวนหรือในกรณีมีเหตุจำเป็นสะดวกกว่าการใช้โทรศัพท์ ถ้าออกทริปกันผมแนะนำว่าควรมีทุกคันครับ
3/12/16
02.30 น. เรามาจอดพักรถในจุดพักรถที่ 2 ปั๊ม ปตท นครสวรรค์ ผมเริ่มมึนๆง่วงๆอยู่พอดีเนื่องจากรถคันผมนั่งกันมาได้แค่2คนเนื่องจากของเต็มรถยันเบาะหลังผมจึงไม่สามารถขอแรงใครให้มาช่วยขับแทนให้ได้จึงเข้าไปล้างหน้าล้างตา เพื่อให้สดชื่นขึ้น และเนื่องจาก ตีสองครึ่งแล้วเราเพิ่งจะถึงนครสวรรค์เอง จึงจอดพักกันแป๊บเดียวเพื่อเดินทางต่อ ง่วงก็ง่วงเพลงที่จะเอามาเปิดฟังในรถก็ดันลืมเอามาลงมาจากรถผมซะงั้น เปิดวิทยุจะฟังเพลงก็มีแต่ขายยาทั้งคืน ผมนี่งงมากเค้าขายยากันยันสว่างเลย 555  ยาอะไรไม่รู้แต่แก้ได้ทุกโรค555  แต่ก็ยัง ดีที่ยังมี ว.พูดคุยกันตลอดเส้นทาง ฟังโต้งพูดได้ทั้งคืนอะไรนักก็ไม่รู้ แต่ก็ทำให้ไม่ง่วงครับ  
06.30 น. เรามาถึงปั๊มเชล (จ.แพร่) ซึ่งจากเดิมเราจะแว๊ะปั๊มที่ 3 กันที่อุตรดิตถ์ แต่เมือซาวน์เสียงทุกคนยังไหวเลยพร้อมใจกันยิงยาวไปเพื่อที่จะให้ทันเวลาที่เรากำหนด ได้ลงรถมาเจออากาศเย็นๆ ล้างหน้าล้างตาถ่ายรูปกันซักรูปแล้วเราก็เดินทางกันต่อ
07.00 น. เราแว๊ะทานข้าวแกง ข้างทางแถวๆ ร้องกวาง กันเพื่อเติมพลังและจอดพักรถวางแผนเรื่องการเดินทางต่อเพราะมีคณะส่วนนึงเดินทางล่วงหน้ากันไปก่อนเราแล้วเลยต้องบอกให้หยุดรอเพื่อที่จะได้เดินทางไปพร้อมๆกัน
10.30 น.  เรามาจอดแว๊ะกันที่ปั๊ม PT แม่สรวย เพื่อวางแผนและลงขันกันจัดซื้อเสบียงน้ำดื่มและของจำเป็นอีกบางอย่าง ก่อนที่เราจะขึ้นไปโรงเรียนเพราะขึ้นไปแล้ว ก็จะไม่มีอะไรขายแล้ว ที่สำคัญการเดินทางครั้งนี้ เรามีการถวายพระประธาน ไว้ให้กับโรงเรียนด้วย จึงมีคณะเดินทางมามอบพระให้โรงเรียนอีก 1 คณะคือคุณแม่ของโต้งซึ่งขึ้นมาจากนครนายก โดยรถตู้อีก 3 คัน หลังจากตกลงกันเรียบร้อยแล้วฝ่ายซื้อเสบียงก็ไปซื้อส่วนที่เหลือก็เดินทางไปรออีกจุดที่เขื่อนแม่สรวย และสิ่งที่คิดไว้ก็เกิด  มีการหลงทางกันเกิดขึ้น จึงต้องติดตามกันอยู่นานพอสมควรกว่าจะได้ขึ้นไปโรงเรียน
11.50 น. เรามาถึงทางที่จะเข้าไปโรงเรียนจะเรียกว่าถนนซะทีเดียวก็ไม่ถูก เพราะไม่มีถนน มีแต่รอยรถวิ่ง ดินภูเขา แล้วก็หิน  เราจะต้องข้ามธารน้ำกันแต่สภาพที่เห็นคือสะพานปูนข้ามธารน้ำที่โดนน้ำป่าพัดจะพังแหล่ไม่พังแหล่ โชคดีที่เราเป็นรถสูงกันจึงผ่านกันค่อนข้างสบาย แต่.......รถตู้นี่อะดิ สภาพค่อนข้างเก่า แล้วเตี้ยอีกต่างหาก มันจะไหวป่าวก็รอลุ้นกันอยู่สรุป ข้ามได้โล่งอกระหว่างลุ้นอยู่ลงไปแช่น้ำเย็นชื่นใจดีจริงๆ
แต่........... ความโหดมันเพิ่งเริ่ม  ตอนเข้าไปก็ธรรมดามีปูนบ้าง ดินแดงบ้าง แต่เริ่มลึก เริ่มเป็นหิน เริ่มเป็นร่อง หลุมลึก ทางชัน ถ้าเป็นหน้าฝนนี่หมดสิทธ์เลยก็ค่อยๆไต่กันขึ้นไป บางช่วงก็มีเทปูนบ้างแบบบางๆ ขับเข้าไปก็จะเหลือเป็นแค่ทางเฉพาะพอสำหรับล้อรถ ขับเอียงนิดนึงก็ลงล่อง ก็ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าขึ้นไปไกลขนาดนั้นยังจะมีโรงเรียนอยู่
12.30 น. พวกเราก็มาถึงจุดหมายคือศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านห้วยน้ำกืน บรรยากาศตอนถึงนี่บรรยายไม่ถูกมีเด็กๆ ยืนอยู่ 2 ข้างทางถนนคอยต้อนรับยืนยกมือไหว้ บ้างก็วิ่งตาม บ้างก็เล่นกันอยู่ตามประสาเด็ก  สภาพที่เห็นคือหมู่บ้านที่อยู่ในหุบเขา มีธารน้ำเล็กๆไหลผ่าน มีบ้านซึ่งใช้ฟางหรืออะไรเป็นหลังคาผมก็บอกไม่ถูก แต่ดีกว่าบ้านกุยเคล๊อะ ที่อุ้มผางที่ผมเคยไปหน่อยนึงคือมีไฟฟ้าใช้แล้ว ตอนนี้โรงเรียนได้พัฒนาไปเยอะพอสมควร พื้นที่บริเวณโรงเรียนตอนนี้ได้รับการสนับสนุนของช่อง 7 ในการสร้างอาคารเรียนใหม่ซึ่งตอนนี้กำลังก่อสร้างแต่ยังไม่เสร็จ แต่ก็เกือบแล้ว และอีกหลายๆหน่วยงานก็ได้เข้ามาช่วยเหลือในหลายๆอย่างแล้ว บริเวณโรงเรียนจะอยู่บนเนินเขาหันหน้าออกไปทางหมู่บ้าน ซึ่งพื้นที่ในการจอดรถค่อนข้างจำกัด เราจึงจำเป็นต้องกระจายกันจอด เพื่อถ่ายของลง เพื่อจะได้มีเวลาทำกิจกรรมอื่นต่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่